เลือกแปรงสีฟันดีชีวิตดี…ประโยคนี้ไม่ใช่คำพูดเกินจริงเลยสักนิด เพราะปกติแล้วการแปรงฟันเป็นกิจวัตรจำเป็นที่ทุกคนต้องทำ แต่จะมีสักกี่คนที่เลือกแปรงสีฟันให้ดีต่อทั้งเหงือกและฟันได้ในด้ามเดียว?
ถ้าไม่แน่ใจว่า คุณเองเลือกแปรงสีฟันได้ถูกต้องแล้วหรือยัง? วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกแปรงสีฟันดีๆ นั่นคือ ‘การเลือกซื้อแปรงสีฟันขนนุ่ม’ อ้าว! แล้วทำไมต้องเป็นแปรงสีฟันขนนุ่มล่ะ แปรงขนแข็งใช้แล้วไม่ดียังไง แล้วจะเลือกแปรงสีฟันขนนุ่มแบบไหนให้ดีต่อสุขภาพช่องปากได้จริง? เราจึงจะมาอัปเดตวิธีเลือกแปรงดีที่จะช่วยเปลี่ยนสุขภาพเหงือกและฟันของคุณให้ดีขึ้นได้ภายในปี 2021 นี้ให้ได้รู้ไปพร้อมๆ กัน
แปรงสีฟันขนนุ่ม VS แปรงสีฟันขนแข็ง
รู้หรือไม่ว่า แปรงสีฟันขนแข็งที่ใช้กันอยู่ไม่ได้ช่วยทำความสะอาดฟันได้ดีแบบที่หลายคนคิด บางคนถึงขั้นเข้าใจไปเองว่า การใช้แปรงที่มีขนแข็งจะช่วยกำจัดคราบจุลินทรีย์และแบคทีเรียได้มากกว่าแปรงสีฟันขนนุ่ม ทั้งที่จริงๆ แล้วการใช้งานแปรงสีฟันที่มีขนแข็ง บวกกับวิธีการแปรงฟันที่ผิดวิธี มักทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของเหงือกและฟัน เช่น ทำให้เกิดอาการเหงือกร่น, มีโอกาสทำให้วัสดุอุดฟันเสียหาย, ทำให้คอฟันสึก ฯลฯ แถมยังเสี่ยงต่อการเจอกับแปรงสีฟันขนแข็งที่ผลิตขึ้นมาแบบไม่ได้มาตรฐานอีกต่างหาก!
รู้แบบนี้แล้ว น่าจะถึงเวลาหันมาให้ความสำคัญกับการเลือกแปรงสีฟันที่ถูกต้องกันสักที ด้วยการเปลี่ยนมาใช้แปรงสีฟันขนนุ่มที่มีความปลอดภัยและสามารถทำความสะอาดซอกซอนบริเวณต่างๆ ในช่องปากทั้งบนฟัน และขอบเหงือกได้ดีกว่า เพื่อสุขภาพปากและฟันที่แข็งแรงของเราทุกคน
วิธีเลือกแปรงสีฟันขนนุ่มสำหรับมือใหม่
สำหรับใครที่ไม่รู้ว่า จะเริ่มต้นเลือกซื้อแปรงสีฟันขนนุ่มยังไง เรามีเคล็ดลับการพิจารณาเลือกแปรงมาให้ทั้งหมด 5 วิธีด้วยกัน ดังนี้
1.ดูลักษณะขนแปรงสีฟัน
แปรงสีฟันขนนุ่มที่ดี คือแปรงสีฟันที่มีปลายขนในลักษณะปลายมน หน้าตัดตรง ตัวขนแปรงจะต้องคงรูปแม้แต่ตอนที่เปียกน้ำ และไม่ย้วยในขณะที่เปียก
นอกจากนี้ควรมีจำนวนขนแปรงสีฟันที่แน่น อย่าง แปรงสีฟันขนนุ่มของ CURAPROX เองก็ออกแบบมาให้มีขนแปรงมาให้มากถึง 5,460 เส้น ทำให้สามารถแปรงบริเวณขอบเหงือกได้อย่างอ่อนโยน ซึ่งบริเวณขอบเหงือกถือเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียชั้นดี สังเกตได้จากคราบหินปูนมักเกิดขึ้นบริเวณนั้น และเราจะต้องทำการแปรงส่วนนี้ให้สะอาดเป็นประจำ ดังนั้น ขนแปรงสีฟันจึงควรนุ่มและคงรูปได้ดีพอที่จะทำความสะอาดบริเวณขอบเหงือกได้เป็นอย่างดีด้วย
นอกจากนี้แปรงสีฟันขนนุ่มยังช่วยทำให้สามารถแปรงฟันได้ถูกตำแหน่งอย่างไม่รู้สึกเจ็บ แถมยังช่วยขจัดแบคทีเรียออกจากผิวเคลือบฟันได้ดีกว่าแปรงสีฟันทั่วๆ ไปอีกด้วย* (*เมื่อเทียบกับแปรงสีฟันมาตรฐานที่มีจำนวนขนแปรงประมาณ 2,000-2,500 เส้นเท่านั้น)
2.วัสดุที่ใช้ทำขนแปรงสีฟันขนนุ่ม
การที่ขนแปรงจะนุ่มพอดีและกำจัดคราบแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ แน่นอนว่า ต้องผลิตมาจากวัสดุที่มีคุณภาพด้วย แต่แปรงสีฟันส่วนใหญ่ในท้องตลาดมักจะทำมาจากไนลอน ซึ่งบางทีก็อาจจะแข็งมากเกินไปสำหรับทั้งคนจัดฟัน คนทำทันตกรรมมา หรือแม้แต่คนทั่วไปเองก็มีโอกาสที่จะเกิดปัญหาสุขภาพในช่องปากตามมาได้จากการใช้แปรงสีฟันขนแข็งที่ทำมาจากไนลอนได้
จะดีกว่าไหม? ถ้าเราสามารถเลือกแปรงสีฟันที่ใช้วัสดุพิเศษที่มีความอ่อนนุ่มกว่า เพื่อรักษาสุขภาพเหงือกและฟันให้คงอยู่กับเราตราบนานเท่านาน อย่างเช่น แปรงสีฟันทุกรุ่น ของ CURAPROX ที่ใช้เส้นใย CUREN® วัสดุจดสิทธิบัตรเฉพาะของ CURAPROX ที่มีจุดเด่นในเรื่องของความนุ่มเป็นพิเศษแต่ยังคงรูปทรงได้ดี จากคุณสมบัติที่อมน้ำน้อยกว่าขนแปรงที่ทำจากวัสดุไนลอนถึง 5 เท่า ทำให้ขนแปรงคงรูป ไม่ย้วย บวกกับลักษณะของขนแปรงแบบปลายมน เวลาใช้งานจึงปลอดภัยต่อเหงือกที่อ่อนไหวง่าย และสามารถเพิ่มพลังในการกวาดทำความสะอาดได้ดี
3.เลือกแปรงสีฟันขนนุ่มให้เข้ากับช่วงอายุ
เพราะสุขภาพปากและฟันในแต่ละช่วงวัยของคนเราไม่เหมือนกัน ดังนั้น แปรงสีฟันขนนุ่มที่เลือกใช้จึงควรเลือกมาให้เหมาะสมกับช่วงอายุของผู้ใช้งาน
อย่างเช่น ในวัยเด็ก คุณพ่อและคุณแม่ก็ควรให้ความสำคัญกับการเลือกแปรงสีฟันสำหรับเด็กให้กับลูกน้อย เพื่อให้เหมาะสมกับลักษณะของเหงือกและฟันในวัยที่กำลังเติบโต รวมถึงเหมาะกับการเปลี่ยนผ่านจากฟันน้ำนมมาเป็นฟันแท้ของลูกๆ ด้วย ไม่เช่นนั้นสุขภาพในช่องปากและฟันของลูกน้อยอาจมีโอกาสได้รับบาดเจ็บจากการเลือกขนาดของแปรงและวัสดุที่ไม่เหมาะสม หรือปลอดภัยมากพอ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เด็กไม่ยอมแปรงฟันได้
แล้วแปรงขนนุ่มแบบไหนล่ะที่คุณพ่อและคุณแม่ควรหยิบมาใช้ดูแลช่องปากของลูกน้อย?
คำตอบคือ ควรจะมีขนแปรงที่นุ่มและสั้น เหมาะกับรูปฟันของเด็ก ทำจากวัสดุที่ปลอดภัยเมื่อเกิดการกระแทกในปาก และควรเลือกแปรงที่มีปลายขนแปรงกลมมน มีซิลิโคนหุ้มบริเวณหัวแปรง และหน้าตัดตรงด้วยเช่นเดียวกันกับแปรงสีฟันขนนุ่มในผู้ใหญ่
4.ลักษณะของด้ามแปรงสีฟัน
ใครจะคิดล่ะว่า ด้ามจับของแปรงสีฟันจะเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงด้วย แต่เชื่อเถอะว่า ด้ามจับนี้แหละที่จะช่วยให้การทำความสะอาดฟันเป็นไปสะดวกและถูกหลักมากขึ้น โดยแปรงสีฟันขนนุ่มที่ดี ควรจะมีด้ามแปรงที่ยาวพอเหมาะ จับได้ถนัดมือ และออกแบบมาให้เหมาะสมกับการใช้งาน
เช่น แปรงสีฟันขนนุ่มสำหรับเด็กที่อาจจะออกแบบมาให้มีด้ามจับเหมาะกับขนาดมือเล็กๆ ของพวกเขา เพื่อให้เด็กๆ สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก โดยแปรงสีฟันของ CURAPROX สำหรับเด็กโตที่เริ่มแปรงฟันเองได้ จะมีด้ามแปรงเป็นทรงแปดเหลี่ยม เพื่อสนับสนุนให้วางตำแหน่งในการแปรงฟันอย่างถูกวิธี โดยจะต้องวางแปรงในตำแหน่ง 45 องศาตามคำแนะนำของทันตแพทย์ และยังช่วยเสริมสร้างพฤติกรรมการใช้งานแปรงสีฟันอย่างถูกวิธีได้ตั้งแต่วัยเด็กอีกด้วย
5.ลักษณะการนำมาใช้งาน
การเลือกแปรงสีฟันขนนุ่มให้เหมาะกับลักษณะการนำมาใช้งานถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ โดยเฉพาะกับคนจัดฟัน ควรจะพิถีพิถันในการเลือกแปรงสีฟันมาให้เหมาะสมกับการใช้งานมากเป็นพิเศษ ซึ่งคำว่า ‘พิเศษ’ ในที่นี้ นอกจากการเลือกขนแปรงที่นุ่ม จำนวนขนแปรงที่แน่น และเลือกขนแปรงแบบปลายมนแล้ว ลักษณะของขนแปรงก็ควรที่จะช่วยสนับสนุนให้การแปรงฟันของคนจัดฟันสะดวก ง่าย และสะอาดมากขึ้น
อย่างเช่น การเลือกแปรงสีฟัน CURAPROX รุ่น CS 5460 Ortho ที่ออกแบบขนแปรงมาเฉพาะให้ร่องขนแปรงแถวกลางที่สั้นกว่าแถวอื่น เพื่อให้ช่วยทำความสะอาดบริเวณ Bracket ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังอ่อนโยนต่อเหงือกและฟันอีกด้วย
ข้อดีของแปรงสีฟันขนนุ่ม
อ่านมาถึงตรงนี้ เราอยากให้ทุกคนเปิดใจลองเปลี่ยนมาใช้แปรงสีฟันขนนุ่ม แล้วจะพบข้อดีอีกมากมายที่แปรงขนนุ่มสามารถทำให้สุขภาพในช่องปากดีขึ้นได้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็น…
- แปรงสีฟันขนนุ่มจะช่วยทำความสะอาดฟันได้ดีกว่าแปรงสีฟันขนแข็ง และทำให้ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการทำให้คอฟันสึก ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการเสียวฟัน รวมถึงช่วยลดสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเหงือกร่นได้อีกด้วย
- ช่วยทำความสะอาดส่วนโค้งนูนเว้าของฟันได้ดีกว่าขนแปรงแข็งๆ ที่สามารถเข้าถึงได้ยาก
- ช่วยส่งเสริมให้ใช้แปรงสีฟันได้อย่างถูกตำแหน่ง และช่วยทำให้แปรงลงบนบริเวณขอบเหงือกที่เป็นเนื้อเยื่ออ่อนได้ ทำให้ช่วยลดอาการบาดเจ็บในขณะแปรงฟัน
เพื่อสุขภาพที่ดีที่สุดของช่องปาก คุณจึงควรเลือกซื้อแปรงสีฟันขนนุ่มที่ช่วยดูแลเหงือกและฟันอย่างอ่อนโยนตามหลักการของทันตแพทย์ (Medical-Based) เหมือนกับแปรงสีฟัน CURAPROX ที่ถ้าหากคุณเลือกใช้ได้อย่างสม่ำเสมอและถูกวิธีแล้ว รับรองเลยว่า คุณจะไม่ต้องพบกับปัญหากวนใจให้ต้องไปหาหมอฟันอีกเลย 🙂