อาหารในชีวิตประจำวันมีสารอาหารหลากหลายชนิด วิธีการทดสอบอาหารเพื่อระบุสารอาหารที่ได้ รับจากการรับประทาน มีวิธีการทดสอบดังนี้
วิธีทดสอบคาร์โบไฮเดรต
1
. คาร์โบไฮเดรตพวกที่มีรสหวาน ทดสอบโดยใช้สารละลายเบเนดิกส์ ซึ่งมีสีฟ้า ผลการทดสอบ เป็นดังนี้ เมื่อนำน้ำตาลกลูโคส + สารละลายเบเนดิกส์ แล้วนำไปต้ม จะเปลี่ยนสีสารละลายเบเนดิกส์จากสีฟ้าเป็นตะกอนสีส้มแดงที่มารูป: //goo.gl/wF3DaV
2. คาร์โบไฮเดรตพวกที่มีรสไม่หวาน หรือ แป้ง ทดสอบโดยใช้สารละลายไอโอดีน ซึ่งมีสีน้ำตาลเหลือง ผลการทดสอบเป็นดังนี้ แป้ง + สารละลายไอโอดีน จะเปลี่ยนสีสารละลายไอโอดีนจากสีน้ำตาลเป็นสีน้ำเงิน หรือ ม่วงดำ
ที่มารูป: //goo.gl/wF3DaV
วิธีทดสอบโปรตีน
ที่มารูป: //goo.gl/tmujy9
ทดสอบด้วยการนำอาหารมาทดสอบกับสารละลายคอปเปอร์ (II) ซัลเฟตซึ่งมีสีฟ้า และสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ หรือเรียกว่า การทดสอบไบยูเร็ต
ผลการทดสอบเป็นดังนี้
โปรตีน + (สารละลายคอปเปอร์(II) ซัลเฟต + สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ จะเปลี่ยนสีสารละลายดังกล่าวจากสีฟ้าเป็นสีม่วงแกมแดง
วิธีทดสอบไขมัน
ทดสอบด้วยการนำน้ำมันพืชหรืออาหารไปถูกับกระดาษประมาณ 3-4 ครั้ง ถ้ามีลักษณะ โปร่งแสง แสดงว่า เป็นไขมัน
ที่มารูป: //goo.gl/wF3DaV
บรรณานุกรม
มูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษา(สอวน.). (2556). ชีววิทยา1(มัธยมศึกษาตอนต้น). กรุงเทพฯ: ด่านสุทธาการพิมพ์.
ณัฐพงศ์ ก้องคุณวัฒน์. (2559). สรุปวิทยาศาสตร์ มัธยมศึกษาปีที่ 1-3 สำหรับเตรียมสอบเข้า. กรุงเทพฯ: กรีนไลฟ์ พริ้นติ้งเฮาส์.
สำนักงานส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ สกสค.
ตอนที่ 1 เรื่อง การทดสอบอาหาร
อาหาร คือ สิ่งที่เรารับประทานเข้าไปแล้ว ทำให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้
1. ทำให้เกิดพลังงาน
2. ทำให้ร่างกายเจริญเติบโต และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
3. ทำให้อวัยวะภายในร่างกายทำงานได้ตามปกติ
สารอาหาร หมายถึง สารเคมี ที่ประกอบอยู่ในอาหาร
การทดสอบสารอาหาร ทดสอบ 1. แป้ง 2.น้ำตาลกลูโคส 3. โปรตีน (ไข่ขาว, น้ำนม) 4.ไขมัน
การทดสอบคาร์โบไฮเดรต แบ่งเป็น 2 อย่าง คือ 1. ทดสอบแป้ง 2. ทดสอบน้ำตาล
1.
การทดสอบแป้ง ใช้ สารละลายไอโอดีน (สีน้ำตาล เหลือง) หยดลงไปในหลอดทดลองที่มีน้ำแป้ง ผสมอยู่ 2 - 3 หยด
ถ้าเกิด สีน้ำเงิน หรือน้ำเงินปนม่วง แสดงว่า อาหารนั้นเป็น แป้ง
2.
การทดสอบน้ำตาล (เฉพาะน้ำตาล โมเลกุลเดี่ยว) เช่น น้ำตาล กลูโคส, ฟรักโทส, กาแลกโทส
- ใช้ สารละลาย เบเนดิกต์ (สีฟ้า) (หยดลงไป 5 หยด แล้วนำไป ต้มในน้ำเดือด
- ถ้ามีน้ำตาลกลูโคส จะเปลี่ยนเป็น ตะกอนสีแดงอิฐ (หรือ สีส้มแดง) ของธาตุทองแดง Cu2O
(คิวปรัส ออกไซด์ – Cuprous oxide)
- สีของตะกอน จะบอกถึงระดับน้ำตาล เรียงจากน้อยที่สุด ไปมากที่สุด ดังนี้
(น้อย) .... สีฟ้าอมเขียว < สีเหลือง < สีส้ม < สีแดง < สีแดงอิฐ .... (มาก)
- ถ้านำ น้ำตาลทราย (ซูโครส) (โมเลกุลคู่) มาทดสอบ จะไม่เปลี่ยนแปลง เว้นแต่มีการต้มนานเกินไป
หรือต้มกับ กรดไฮโดรคลอริก (กรดเกลือเจือจาง) ก่อน น้ำตาลทรายบางส่วน อาจเปลี่ยนเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว
เกิดปฏิกิริยา เปลี่ยนสีเป็น ส้มแดง ได้เล็กน้อย หรือเป็น สีเขียวอมเหลือง ก็ได้ (สาร ม.4-6 วพ. น.138)
การทดสอบโปรตีน มี 2 วิธี สารที่ใช้ทดสอบ ได้แก่ 1.ไบยูเร็ต 2. กรดไนตริกเข้มข้น (HNO3)
ไบยูเร็ต เป็นสารผสมกัน 2 อย่าง คือ 1. สารละลายคอปเปอร์ซัลเฟต(จุนสี) 2. สารละลาย โซเดียมไฮดรอกไซด์ (โซดาแผดเผา - NaOH) เรียกการทดสอบ เช่นนี้ว่า การทดสอบไบยูเร็ต
- เมื่อหยดสารละลายคอปเปอร์ซัลเฟต 5 หยด แล้วค่อยๆ หยดสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ ประมาณ 10 หยด ลงไปในอาหาร (น้ำนม หรือ ไข่ขาว)
ถ้ามีโปรตีน จะเปลี่ยนจาก สารสีฟ้า เป็น สี ม่วง
ถ้าใช้ กรดไนตริกเข้มข้น (กรดดินประสิว) ทดสอบ จะเปลี่ยนเป็น สีเหลือง
การทดสอบไขมัน ทำได้โดย
1. นำไขมัน มาถูกับกระดาษ ปล่อยให้แห้งแล้วนำไปส่องกับแสงแดด
- ถ้ามีไขมัน กระดาษ จะเปลี่ยนจาก ทึบแสง เป็น โปร่งแสง
2. ทดสอบโดย นำไขมัน ไป ต้มกับเบส โซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) จะได้ สบู่
พลังงานที่ได้จากอาหาร
หน่วยวัดพลังงานที่ได้จากอาหาร คือ แคลอรี ( 1 แคลอรี่ เท่า 4.2 จูล)
พลังงาน 1 แคลอรี หมายถึง ปริมาณความร้อน ที่ทำให้น้ำ 1 กรัม มีอุณหภูมิสูงขึ้น 1 องศาเซลเซียส หรือประมาณ 4.2 จูล
สูตร คำนวณ หาค่าพลังงานความร้อน = มวลของน้ำ x อุณหภูมิที่เปลี่ยนไป
เมื่อเราหายใจเอาออกซิเจนเข้าไป จะทำปฏิกิริยาเผาผลาญอาหาร(สันดาป) ทำให้ได้พลังงานออกมา ดังสมการ
สารอาหาร +
ออกซิเจน …จะได้………. พลังงาน + น้ำ + คาร์บอนไดออกไซด์
พลังงานที่ร่างกายต้องการ
คนเราต้องการพลังงานไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับ เพศ
วัย สภาพร่างกาย และกิจกรรมที่ทำ
- เด็กชายอายุ 16 –19 ปี ต้องการพลังงานจากอาหารมากที่สุด ประมาณ 3,300 กิโลแคลอรีต่อวัน
-
ผู้ชายอายุ 60-69 ปี ต้องการพลังงาน 2,000 กิโลแคลอรี่
- เราต้องกินอาหารให้ครบหมู่ และได้ปริมาณที่พอเพียง แต่ถ้ากินอาหารมากเกินไป
อาจทำให้เกิดโรคอ้วน ความดันสูง
โรคหัวใจ เบาหวาน ไขมันอุดตันในเส้นเลือด เป็นต้น