อยุธยามีพื้นฐานทางเศรษฐกิจดีมาตั้งแต่แรกตั้งอาณาจักร เนื่องจากตั้งอยู่บริเวณที่ราบลุ่มดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ ซึ่งเอื้ออำนวยต่อการทำการเกษตร ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ป่าสัก และลพบุรี สะดวกต่อการขนส่งค้าขายในรัฐและต่างประเทศ
อาชีพต่าง ๆ
1. เกษตรกรรม ปศุสัตว์
– พื้นดินมีความอุดมสมบูรณ์สูงและเหมาะต่อการเพาะปลูกโดยเฉพาะการปลูกข้าว
– ข้าวเป็นผลิตผลที่สำคัญ ใช้แรงงานคนและสัตว์เป็นหลัก ใช้บริโภคภายในเป็นสำคัญ
– รัฐมีนโยบายสนับสนุนให้ราษฎรเข้าไปทำกินในที่ดินว่างเปล่า
– ตรากฎหมายคุ้มครองผลผลิตของราษฎรโดยเฉพาะข้าว
– ตรากฎหมายคุ้มครองสัตว์มีคุณ เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย เป็นต้น
– การเกษตรเป็นเศรษฐกิจหลักที่ทำให้อยุธยามีความรุ่งเรือง บ้านเมืองมีความเจริญก้าวหน้า ทำให้อยุธยาขยายอาณาเขตประเทศออกไปอย่างกว้างขวาง
– ให้กำลังใจชาวนาโดยประกอบพระราชพิธีเช่น พืชมงคล จรดพระนังคัล แรกนาขวัญ พิรุณศาสตร์
– ประชาชนประกอบอาชีพประมงทุกครัวเรือน ในสมัยพระเจ้าบรมโกศ มีประกาศห้ามจับสัตว์น้ำในวันพระขึ้น 8 ค่ำ และ 15 ค่ำ
– เครื่องเทศโดยเฉพาะพริกไทย เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ ส่งขายต่างชาติมาก ในสมัยพระนารายณ์ฯ มีการทำสัญญาให้สิทธิแก่ฝรั่งเศสในการผูกขาดการซื้อพริกไทย
– หมาก พลู ส่งไปขายยังมะละกาและจีน
– ทุเรียนเป็นพืชเศรษฐกิจ การตัดมีโทษปรับสูง
2. อุตสาหกรรม
– อุตสาหกรรมในครัวเรือน ผลิตเครื่องใช้ไม้สอยอย่างง่ายๆ เช่น เสื้อผ้า เครื่องจักรสาน เครื่องเหล็ก เครื่องแกะสลัก เครื่องประดับ การผลิตเครื่องทองรูปพรรณ
3. เก็บของของป่า
– ไม้จันทร์ ฝาง กฤษณา กระลำพัก น้ำผึ้ง ดีบุก งาช้าง เป็นสินค้าต้องห้าม ซื้อขายผ่านรัฐเท่านั้น
– หนังเก้ง กวาง นอแรด ฮอลันดากว้านซื้อเพื่อไปขายยังญี่ปุ่น
การค้าภายในประเทศ
– อยุธยาราชธานีเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญ มีตลาดนานาชนิด เป็นที่ซื้อของตามกฎหมาย เช่นสินค้าต้องห้ามจะต้องซื้อผ่าน “ล่ามพนักงาน” เท่านั้น เป็นสถานที่คุ้มครองผู้รับซื้อของโจรที่ไม่ทราบว่าเป็นของโจร ห้ามบุคคลเข้ามารีดไถ เป็นที่ลงทาผู้กระทำผิดค้าขาย
– ทองรูปพรรณ นาค เงิน อาวุธ ช้าง ม้า วัว ควาย จะให้ขายเฉพาะเวลากลางวัน เครื่องยา ข้าว ปลา ขายตอนกลางคืนได้
– “กำนันตลาด” มีหน้าที่ควบคุมดูแลการค้าของพ่อค้าในตลาด หรือ “ถนนตลาด” ห้ามพ่อค้าขายโกงราคา ไม่ให้มีการขายสินค้าต้องห้ามในต่างเมือง เก็บเบี้ยตลาด เมื่อเกิดคดีความของลูกตลาด จะต้องสืบพยานจากกำนันตลาด
– อยุธยาเป็นอาณาจักรการค้า ซึ่งได้สร้างความมั่งคั่งให้กับอาณาจักรอย่างต่อเนื่องทั้งนี้เพราะสภาพที่ตั้งของอยุธยา เหมาะสมกับการค้าขายทั้งภายในและระหว่างประเทศ
– ด้วยสภาพที่ตั้งของอยุธยาอยู่บริเวณใกล้ปากแม่น้ำเจ้าพระยา มีแม่น้ำสำคัญหลายสายไหลผ่าน จึงเป็นชุมชนทางการค้าที่พ่อค้าจากต่างรัฐ การค้าจะผ่านหน่วยงานของรัฐโดยเป็นพ่อค้าคนกลาง ผู้ที่ได้ประโยชน์จากการค้าจึงจำกัดอยู่เฉพาะขุนนาง เจ้านาย ตลอดจนชาวต่างชาติ
การค้าต่างชาติ
– การค้าต่างชาติในระยะแรกเป็นแบบเสรี
– เนื่องจากเป็นเมืองท่าที่กลางเส้นทางการเดินเรือค้าขายระหว่างประเทศจีนกับประเทศอินเดีย ประกอบกับความเข้มแข็งของอำนาจทางการเมืองทำให้อยุธยาไม่มีคู่แข่งการค้าและยังเป็นศูนย์รวมของสินค้าจากเมืองท่าต่างๆ การค้าขายซึ่งรุ่งเรืองมากในสมัยราชวงศ์ปราสาททอง
– เมื่อค้าขายกับต่างชาติมากขึ้น รัฐจะเป็นผู้จัดการโดยหน่วยงาน “พระคลังสินค้า”
– การค้ากับจีนเป็นแบบบรรณาการ “จิ้มก้อง” 3 ปี ต่อ 1 ครั้ง กรมท่าขวาดูแลค้าขายกับจีน
– กรมท่าซ้าย ดูแลการค้ากับอินเดีย อาหรับ เปอร์เซีย
– กรมท่ากลาง ดูแลการค้าขายกับชาติตะวันตก
– อาวุธปืน ดินปืน ที่ต่างชาตินำมาขาย รัฐจะซื้อก่อน เมื่อเพียงพอแล้วประชาชนจึงจะมีสิทธิ์ซื้อ เพื่อความมั่นคง
– ข้าว เครื่องเทศ สินค้าต้องห้าม ต่างชาติต้องซื้อผ่านรัฐเท่านั้น
– เก็บภาษีตามความกว้างปากเรือ ทั้งสินค้าขาเข้าและขาออก
– อนุญาตให้ต่างชาติเปิดสถานีการค้า เช่นบริษัทอินเดียตะวันออกของฮอลันดา (V.O.C) ,อังกฤษ, ฝรั่งเศส, โปรตุเกส อยุธยากลายเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าที่สำคัญของภูมิภาค
– กษัตริย์ เจ้านาย ขุนนาง แต่งสำเภาไปขายยังต่างชาติ โดยให้ชาวเปอร์เซียหรือชาวจีนเป็นผู้ดูแล
– รัฐอนุญาตให้ต่างชาติเปิดสถานีการค้า เช่นอังกฤษ ฝรั่งเศส โปรตุเกส อยุธยากลายเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าที่สำคัญของภูมิภาค เช่นบริษัทอินเดียตะวันออกของฮอลันดา (V.O.C.)
ประโยชน์จาการค้ากับต่างชาติ
– รัฐควบคุมดูแลทั้งหมดในระบบพระคลังสินค้า
– รัฐผูกขาดการซื้อขาย ตั้งราคาได้ตามใจชอบ
– การชำระสินค้าของอยุธยาไม่เคยจ่ายเป็นเงินตราเลย
– สินค้าที่นำไปขายล้วนแต่เป็นของไพร่, ของบรรณาการจากเมืองประเทศราช รัฐไม่ต้องลงทุน
– รัฐเป็นพ่อค้าคนกลาง เช่นนำสินค้าจากจีนและญี่ปุ่นไปขายให้หับชาติตะวันตก ได้กำไรมาก
การความคุมการค้าแบบผูกขาดสร้างความไม่พอใจให้กับพ่อค้าต่างชาติ อยุธยาจึงส่งเสริมการค้าด้วยการให้สิทธิพิเศษกับพ่อค้าต่างชาติเพื่อจูงใจที่จะเข้ามาค้าขาย การค้าระบบผูกขาดและการค้าสำเภาสร้างรายได้อย่างมหาศาล อาณาจักรอยุธยาจึงขยายตัวอย่างรวดเร็วและเป็นมหาอำนาจในภูมิภาคนี้