ลักษณะของกฎหมายว่ามีอะไรบ้าง

        1. กฎหมายอาญาต้องแน่นอนชัดเจนคือ “ถ้อยคำ” ในบทบัญญัติกม.อาญาต้องมีความชัดเจนหลีกเลี่ยงถ้อยคำที่จะทำให้การตัดสินคดี ขึ้นอยู่กับความรู้สึกที่เป็นอัตวิสัย และอำเภอใจผู้พิจารณาคดี
        2. ห้ามใช้กฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง (การให้เหตุผลโดยอ้างความคล้ายคลึงกัน) ลงโทษทางอาญาแก่บุคคล
        3. กฎหมายอาญาไม่มีผลย้อนหลังไปลงโทษการกระทำที่ผ่านมาแล้วเป็นกม.ที่ใช้ใน ขณะกระทำการนั้นกม.อาญาในที่นี้ คือ บทบัญญัติที่กำหนดเกี่ยวกับการกระทำผิดและโทษ (Nullum crimen, nulla peona sina lega หรือ No crime, no punishment without law)
        4. กฎหมายอาญาต้องแปลหรือตีความโดยเคร่งครัด ความเข้าใจที่ว่าหากตีความตามตัวอักษรแล้วหากข้อความนั้นไม่ชัดเจนจึงค่อย พิจารณาถึงเจตนารมณ์ของกฎหมายเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ที่ถูกต้องคือ การตีความกฎหมายอาญาจะต้องตีความทั้งตามตัวอักษรและเจตนารมณ์ของกฎหมายไป พร้อมๆกัน โดยไม่สามารถเลือกตีความอย่างใดอย่างเพียงอย่างเดียวก่อนหรือหลังได้ การตีความกฎหมายดังที่กล่าวมาจึงอาจมีการตีความอย่างแคบหรืออย่างกว้างก็ได้ ทั้งนี้ เกิดจากการพิจารณาตามตัวอักษรและเจตนารมณ์ของกฎหมายไปพร้อมๆกัน โดยอาจกล่าวได้ว่ามีแต่การตีความกฎหมายนั้นมีแต่การตีความโดยถูกต้องเท่า นั้น และการที่กฎหมายอาญาจะต้องตีความโดยเคร่งครัดนั้น หมายความว่า ห้ามตีความกฎหมายเกินตัวบท โดยในกรณีที่เกิดช่องว่างของกฎหมายขึ้นจากการตีความที่ถูกต้องแล้ว จะไม่สามารถนำกฎหมายใกล้เคียงอย่างยิ่ง (Analogy) มาปรับใช้เพื่อลงโทษผู้กระทำได้
        5. ห้ามใช้จารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นลงโทษทางอาญาแก่บุคคล เพราะตัวบทมาตรา 2 ใช้คำว่า “บัญญัติ” และสอดคล้องกับข้อ 1 เพราะจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นเป็นเรื่องของแต่ละท้องถิ่น ไม่ชัดเจนแน่นอน แตกต่างจากประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

ตัวอย่าง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา334บัญญัติว่า ผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของร่วมอยู่ด้วยไปโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับเกินสามพันบาท

จากมาตรานี้ใครก็ตามไม่เฉพาะเจาะจงว่าเป็นชายหรือหญิง เด็กหรือผู้ใหญ่หรือคนชราเมื่อลักทรัพย์ของผู้อื่นแล้วย่อมมีความผิดทางอาญา เช่น เด็กชายแดงชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 ขโมยนาฬิกาของเด็กชายดำเพื่อนร่วมชั้น เด็กชายแดงย่อมมีความผิดฐานลักทรัพย์แต่ต้องรับโทษเพียงใดนั้นเป็นเรื่องที่กฎหมายกำหนดอัตราโทษโดยทั่วไปจะน้อยกว่ากรณีผู้ใหญ่ลักทรัพย์
การบังคับทั่วไปของกฎหมายนี้ รวมถึงการบังคับได้ทุกสถานที่และเวลาด้วย หมายความว่าผู้ที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ว่าเขาได้กระทำในเมือง ในตำบล ในหมู่บ้าน ในป่าเขา ลำเนาไพร กระทำในเวลากลางคืนหรือในเวลากลางวัน กฎหมายย่อมบังคับแก่การกระทำของเขานั้นได้

4.กฎหมายต้องมีสภาพบังคับแกผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามได้
กำหมายนั้นเมื่อประกาศใช้แล้วจะต้องมีสภาพบังคับแก่ผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม หากไม่มีสภาพบังคับแล้วก็ไม่เรียกว่าเป็นกฎหมาย
สภาพบังคับของกฎหมายได้แก่ การลงโทษหรือการเสียสิทธิและหน้าที่หรือการถูกบังคับให้ต้องชดใช้ค่าเสียหายที่เรียกว่า สินไหมทดแทน สภาพบังคับของกฎหมายนั้นอาจจำแนกได้เป็น 2ลักษณะ คือ สภาพบังคับในทางอาญา กับ สภาพบังคับในทางแพ่ง

สภาพบังคับในทางอาญา คือ การลงโทษ โทษทางอาญาที่จะใช้บังคับแก่ผู้ฝ่าฝืน มีอยู่5 ประเภทคือ ประหารชีวิต จำคุก กักขัง ปรับ และริบทรัพย์สิน ซึ่งจะลงโทษประการใดแก่ผู้ใดนั้นก็จะต้องพิจารณาจากการกระทำของเขา

ตัวอย่างเช่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 บัญญัติว่า ผู้ใดกระทำโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
ส่วนสภาพบังคับในทางแพ่งนั้น กรณีทั่วไปก็คือการบังคับให้กระทำ หรืองดการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง

ตัวอย่างเช่น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 213 บัญญัติไว้ว่า ถ้าลูกหนี้ละเลยเสียไม่ชำระหนี้ของตน เจ้าหน้าที่จะต้องร้องขอต่อศาลให้สั่งบังคับชำระหนี้ก็ได้ เว้นแต่สภาพแห่งนี้จะไม่เปิดช่องให้ทำเช่นนี้ได้
สภาพบังคับอีกประการหนึ่งก็คือการลดใช้ค่าเสียหายนี้อาจเกิดจากการที่ลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ดังกล่าวข้างต้นนั้นนอกจากจะต้องชำระหนี้โดยตรงแล้วยังต้องชดใช้ค่าเสียหายหรือเบี้ยปรับให้แก่เจ้าหนี้ด้วย นอกจากนี้ในกรณีที่ผู้ใดทำการละเมิดต่อบุคคลอื่นที่เคยกล่าวมาแล้ว ผู้นั้นก็จะชดใช้ค่าเสียหายแก่เขา ซึ่งเรียกว่า ค่าสินไหมทดแทน ตัวอย่างในการรับผิดชอบให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในทางละเมิดที่ปรากฏมากที่สุดก็คือกรรีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้บุคคลอื่นได้รับความเสียหาย
สภาพบังคับในทางแพ่งในลักษณะอื่นๆ ก็มี เช่น การริบมัดจำ การเสียเบี้ยปรับ การถูกยึดทรัพย์สินเป็นต้น ซึ่งกรณีเหล่านี้กฎหมายจะกำหนดเกณฑ์ไว้ให้กระทำได้

5.กฎหมายต้องมีลักษณะใช้บังคับตลอดไป
โดยทั่วไปกฎหมายเมื่อประกาศใช้บังคบแล้ว ย่อมจะมีผลบังคับใช้ตลอดไป จะสิ้นสุดผลในการใช้บังคับต่อเมื่อมีกฎหมายฉบับใหม่มาประกาศยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงกำหมายฉบับเก่า กฎหมายบางฉบับเมื่อประกาศใช้บังคับแล้ว แม้ว่าในการปฏิบัติจริงๆ มีกรณีใช้บังคับน้อย หรืไม่เคยมีการใช้บังคับเลย เพราะไม่เตยมีเรื่องเกิดขึ้นที่จะต้องใช้กฎหมายฉบับนั้นใช้บังคับเลยก็ตาม แต่กฎหมายฉบับดังกล่าวก็ต้องมีผลใช้บังคับอยู่ จนกว่าจะมีการแก้ไขเปลื่ยนแปลงหรือประกาศยกเลิก

อย่างไรก็ตาม มีกฎหมายฉบับพิเศษที่มีระยะเวลาเริ่มต้นใช้บังคับ และระยะเวลาสิ้นสุดหรือเลิกการใช้บังคับได้กำหนดไว้ทราบแน่นอนในตัวกฎหมายฉบับนั้น เช่น พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีมีระยะเวลาเริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคมของปีหนึ่งถึงวันที่ 30 กันยายนของปีถัดไป ฉะนั้นเมื่อถึงวันที่3. กันยายน กฎหมายงบประมาณรายจ่ายประจำปีเก่าจะถูกยกเลิกไปโดยทันที เพราะจะมีพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีใหม่ขึ้นมาใช้บังคับแทน

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

flow chart แสดงขั้นตอนการปฏิบัติงาน lmyour แปลภาษา กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่เรือ การเขียน flowchart โปรแกรม ตัวรับสัญญาณ wifi โน๊ตบุ๊คหาย ตัวอย่าง flowchart ขั้นตอนการทํางาน ผู้แต่งกาพย์เห่ชมไม้ ภูมิปัญญาหมายถึง มีสัญญาณ wifi แต่เชื่อมต่อไม่ได้ เชื่อมต่อแล้ว ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ /roblox promo code redeem 3 พระจอม มีที่ไหนบ้าง AKI PLUS รีวิว APC UPS APC UPS คือ Adobe Audition Adobe Bridge Anapril 5 mg Aqua City Odaiba Arcade Stick BMW F10 jerk Bahasa Thailand Benz C63 ราคา Bootstrap 4 Bootstrap 4 คือ Bootstrap 5 Brackets Brother Scanner Brother iPrint&Scan Brother utilities Burnt HD C63s AMG CSS เว้น ช่องว่าง CUPPA COFFEE สุราษฎร์ธานี Cathy Doll หาซื้อได้ที่ไหน Clock Humidity HTC-1 ColdFusion Constitutional isomer Cuppa Cottage เจ้าของ Cuppa Cottage เมนู Cuppa Cottage เวียงสระ DMC DRx จ่ายปันผลยังไง Detroit Metal City Div class คือ Drastic Vita