ความขัดแย้งในครอบครัวเกิดจากสาเหตุใดบ้าง

ปัญหาครอบครัวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเกิดจากความคิดเห็นที่แตกต่างกัน การเลี้ยงลูก ปัญหาทางการเงิน หรือแม้แต่เรื่องสุขภาพ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ก็ล้วนเป็นปัจจัยที่อาจทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างสมาชิกภายในบ้านและอาจจะบานปลายจนกระทบต่อความสัมพันธ์ในครอบครัวได้นะคะ วันนี้เรามีวิธีรับมือที่จะให้สมาชิกภายในบ้านร่วมมือกันจัดการปัญหาต่างๆ เพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขมาฝากค่ะ

  • หาเวลาพูดคุยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา โดยเลือกเวลาที่ทุกคนสะดวกเพื่อพบปะพูดคุยกัน ให้สมาชิกทุกคนพูดคุย มีส่วนร่วมในการเสนอคำแนะนำ และวิธีแก้ปัญหาภายในครอบครัว ควรเปิดโอกาสให้ทุกคนพูดถึงสิ่งที่คิดออกมาตรง ๆ เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด การเผชิญและก้าวผ่านปัญหาครอบครัวคงเป็นเรื่องยากหากสมาชิกคนใดคนหนึ่งทำเพียงลำพัง แต่เมื่อสมาชิกทุกคนช่วยกันก็จะแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น
  • รู้จักควบคุมอารมณ์ เป็นเรื่องปกติที่แต่ละคนมีความคิดเป็นของตัวเอง หรือมีความคิดเห็นคนละมุมมอง ต้องรู้จักใช้เหตุผล หลีกเลี่ยงการโต้เถียงและไม่ใช้อารมณ์เป็นใหญ่
  • สร้างสภาพแวดล้อมที่ดี สภาพแวดล้อมอาจส่งผลต่อพฤติกรรมได้ การปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมภายในบ้านหรือรอบ ๆ บ้านให้ดีขึ้นอาจช่วยลดอาการเครียดที่เกิดขึ้นได้
  • กำหนดกฎ แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความเข้าใจที่ตรงกันของทุกคนในครอบครัว เช่น กำหนดเวลาการกินอาหารเย็นร่วมกันของสมาชิกในครอบครัว การแบ่งงานบ้านต่างๆ เช่น การกวาดบ้าน การถูบ้าน การทิ้งขยะ และการดูดฝุ่น เป็นต้น จะทำให้สมาชิกทุกคนในบ้านมีส่วนร่วมในการทำงานร่วมกัน
  • ร่วมมือกันดูแลครอบครัว คุณพ่อคุณแม่ควรร่วมมือและช่วยเหลือกันในการดูแลครอบครัว แก้ไขปัญหาต่าง ๆ และดูแลพฤติกรรมของลูก ๆ โดยไม่ปล่อยให้เป็นภาระหน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่งเท่านั้น

ให้คะแนนบทความนี้

[คะแนนบทความนี้: 2.6]

Facebook

Line

//www.sexvibe.video/

โรงพยาบาลวิชัยยุทธ

เรายึดมั่นในหลักการรักษาที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพมาอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ป่วยทุกรายจะได้รับการดูแลและติดตามผลการรักษาจากคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด

เนื่องด้วยคนเรามีความแตกต่างกัน เช่น มีบุคลิกภาพต่างกัน มีความคิดเห็นต่างกัน มีค่านิยมต่างกัน และมีความต้องการต่างกัน เราจึงมีความขัดแย้งกัน ดังนั้นตราบเท่าที่เรายังมีชีวิตอยู่ เราก็สามารถมีความขัดแย้งกับผู้อื่นได้ การมีความขัดแย้งไม่ได้ก่อให้เกิดความแตกหักในความสัมพันธ์ แต่วิธีจัดการกับความขัดแย้งต่างหากที่มีผลต่อความสัมพันธ์

ความขัดแย้งมีค่าเป็นกลาง

คนส่วนมากกลัวความขัดแย้ง เพราะคิดว่าความขัดแย้งเป็นสิ่งที่ไม่ดี เรามักจะเชื่อมโยงความขัดแย้งกับคำที่มีความหมายในทางลบ เช่น ความโกรธ ความก้าวร้าว การต่อสู้ การโต้เถียง ความคับข้องใจ ความขมขื่น และความเกลียดชัง อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งก็มีข้อดีได้ เพราะทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น เกิดความคิดใหม่ ๆ ในการแก้ปัญหา มีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น เกิดการยอมรับนับถือซึ่งกันและกัน และมีมุมมองชีวิตที่แตกต่างไปจากเดิม

ครอบครัวที่ไม่มีความขัดแย้งไม่จำเป็นต้องเป็นครอบครัวที่มีความสุขเสมอไป

พ่อแม่ที่คิดว่าครอบครัวของตนไม่มีความขัดแย้งอาจจะไม่รู้ตัวว่าได้สร้างบรรยากาศของความหวาดกลัวแก่ลูก ๆ จนไม่มีใครกล้าพูดถึงความต้องการที่แท้จริงของตนออกมา พ่อแม่ที่เข้มงวดเกินไป ไม่เปิดโอกาสให้ลูกได้แสดงความคิดเห็นเท่ากับได้กวาดความขัดแย้งไปซ่อนไว้ใต้พรมซึ่งรอเวลาที่จะระเบิดออกมา แต่ครอบครัวที่มีความเป็นประชาธิปไตย แม้มีความขัดแย้งก็สามารถจัดการกับมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความขัดแย้งระหว่างพ่อแม่กับวัยรุ่นเป็นเรื่องที่ไม่มีวันจบ

ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมักจะเป็นเรื่องเดิม ๆ ที่มีการโต้เถียงกันซ้ำแล้วซ้ำอีก เช่น เรื่องผลการเรียน ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของห้องนอน การเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ การนอนตื่นสาย การพูดโทรศัพท์นานเกินไป และการออกไปเที่ยวเตร่นอกบ้านกับเพื่อน เป็นต้น ทั้งนี้ พ่อแม่ต้องยอมรับว่าจะต้องมีความขัดแย้งในเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ครั้งแล้วครั้งเล่าจนกว่าลูกจะเติบโตผ่านช่วงวัยรุ่นนี้ไป ดังนั้นแทนที่จะหลีกหนีหรือเก็บซ่อนความขัดแย้งไว้ สิ่งที่ควรทำก็คือ การหาวิธีจัดการกับความขัดแย้งเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ดร.จอนห์น อึ้ง ได้กล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างพ่อแม่กับลูกวัยรุ่นไว้ดังนี้

  1. การมีค่านิยมที่แตกต่างและขัดแย้งกัน ค่านิยมของวัยรุ่นมักแตกต่างจากพ่อแม่ ในขณะที่วัยรุ่นให้คุณค่าแก่เสรีภาพ การมีเพื่อน และความสนุกสนาน พ่อแม่จะให้คุณค่าแก่ความขยันหมั่นเพียร ความซื่อสัตย์สุจริต และการมีเกียรติยศชื่อเสียง เมื่อ 2ฝ่ายมีค่านิยมที่แตกต่างกัน ความขัดแย้งจึงเกิดขึ้น
  2. การมีอุปนิสัยที่ไม่ถูกใจพ่อแม่ สิ่งที่พ่อแม่มักจะบ่นเกี่ยวกับอุปนิสัยของวัยรุ่นก็คือ ความไม่เป็นระเบียบ การขาดความรับผิดชอบ และการไม่เอาใจใส่ต่อการเรียนและการสอบ ในขณะที่วัยรุ่นจะมองพ่อแม่ว่าควบคุมชีวิตของเขามากเกินไป เจ้าระเบียบเกินไป และจ้องจับผิดมากเกินไป
  3. การมีความคาดหวังที่ซ่อนเร้นและไม่เป็นจริง พ่อแม่อาจมีความคาดหวังที่สูงเกินไป เช่น คิดว่าลูกยังเรียนได้ไม่ดีเท่าที่ควร ห้องนอนยังไม่สะอาดเรียบร้อยเท่าที่ควร และใช้เวลากับเพื่อนมากเกินไป พ่อแม่บางคนคาดหวังให้ลูกทำบางสิ่งบางอย่างให้แต่ไม่เคยบอกลูกตรงๆ ในขณะที่ลูกก็มีความคาดหวังต่อพ่อแม่ที่ซ่อนเร้นอยู่ เช่น อยากให้พ่ออยู่กับครอบครัวมากขึ้น เพราะพ่อเดินทางบ่อยเกินไป แต่ลูกไม่เคยบอกให้พ่อรู้
  4. การมีรูปแบบการสื่อสารในด้านลบและไม่มีประสิทธิภาพ การใช้ถ้อยคำที่รุนแรงหรือการกระทำที่ก้าวร้าวทำให้เกิดความโกรธ ทั้งในพ่อแม่และวัยรุ่น พ่อแม่ที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้อาจดุด่าว่ากล่าวลูกต่อหน้าคนอื่น ทำให้เด็กรู้สึกอับอาย และเมื่อวัยรุ่นตอบโต้ด้วยถ้อยคำที่รุนแรงบ้าง การสื่อสารของทั้ง 2 ฝ่ายจะกลายเป็นการตะโกนใส่กัน แต่จะไม่สามารถจัดการกับความขัดแย้งได้
  5. การเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน มนุษย์ทุกคนมีความเห็นแก่ตัวในระดับหนึ่ง บางครั้งพ่อแม่ก็เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าจะคิดถึงวัยรุ่น เช่น พ่อแม่อยากจะดูดีในสายตาของคนอื่น และรู้สึกอับอายเมื่อลูกเรียนไม่ดี หรือสอบเข้าเรียนในสาขาวิชาที่ต้องการไม่ได้  จึงพยายามกดดันให้ลูกเรียนดีเพื่อพ่อแม่จะได้มีหน้ามีตา วัยรุ่นเองก็เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเช่นกัน เขามักจะไม่สนใจเป้าหมายระยะยาว  หรือผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำในปัจจุบันที่มีต่ออนาคต วัยรุ่นมักทำอะไรตามใจตนเอง และบางครั้งก็เข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ส่งผลเสียต่อชีวิตของตน เช่น การมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน การใช้ยาเสพติด เป็นต้น
  6. การมีความสนใจที่ต่างกันและขัดแย้งกัน วัยรุ่นกับพ่อแม่มักมีความสนใจต่างกัน เช่น วัยรุ่นชอบฟังดนตรีประเภทร็อก หรือเร็คเก ในขณะที่พ่อแม่รู้สึกว่าเสียงดังเกินไปและดนตรีแนวนี้มีอิทธิพลในด้านลบต่อเด็ก นอกจากนี้วัยรุ่นยังชอบไปงานปาร์ตี้และเที่ยวกลางคืน ในขณะที่พ่อแม่คิดว่าสถานที่เหล่านี้จะทำให้ลูกถูกชักจูงไปในทางที่เสื่อมเสียได้ง่ายวัยรุ่นบางคนคิดว่า เกมส์คอมพิวเตอร์สนุกสนานและตื่นเต้น แต่พ่อแม่รู้สึกว่าลูกติดเกมส์มากเกินไป
  7. การมีอคติในทางลบที่นำไปสู่การติเตียน มนุษย์มีความลำเอียง และเราควรจะตระหนักว่าเราลำเอียงในด้านใดบ้าง เราสามารถแบ่งความลำเอียงออกเป็น 3 แบบ คือ
    • เรามีแนวโน้มที่จะอนุมานสาเหตุของพฤติกรรมแบบเข้าข้างตนเอง กล่าวคือ ถ้าเราทำผิด เรามักจะโทษสถานการณ์แต่ถ้าคนอื่นทำผิด เราจะโทษว่ามาจากลักษณะนิสัยหรือความตั้งใจที่ไม่ดีของเขา เช่น ถ้าเรามาสายเราจะโทษว่ารถติด แต่ถ้าลูกของเรามาสาย เราจะกล่าวหาว่าเขาเป็นคนเกียจคร้านหรือไม่รับผิดชอบ
    • เรามีแนวโน้มที่จะยึดตนเองเป็นมาตรฐาน กล่าวคือ เราเชื่อว่าวิถีชีวิต เจตคติ และพฤติกรรมของเราเป็นเรื่องปกติ และคนอื่นก็จะเป็นเหมือนเรา ถ้าเราเป็นคนที่มีระเบียบ เราก็คิดว่าลูกของเราก็จะเป็นเหมือนเราด้วย และถ้าลูกของเราแตกต่างจากเรา เราจะยอมรับไม่ได้ ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ เรายังคิดว่าเราเป็นพวกที่ปกติ และถ้าคนไหนไม่เหมือนเรา เขาก็เป็นคนที่ผิดปกติ
    • เรามีแนวโน้มที่จะเน้นลักษณะทางลบของคนอื่นมากกว่าลักษณะทางบวกของเขา และจะใช้ลักษณะทางลบนั้นตัดสินพฤติกรรมที่ตามมา เช่น ถ้ามีใครมาถามถึงลูกวัยรุ่นของเรา เราก็มีแนวโน้มที่จะพูดถึงอุปนิสัยที่ไม่ดีของลูกมากกว่า ทั้งที่ลูกก็มีส่วนที่ดีหลายอย่าง เช่น เราอาจจะพูดว่า “ลูกสาวฉันพูดโทรศัพท์ตลอดเวลา” แต่กลับไม่พูดถึงความขยันและความตั้งใจเรียนของลูก วัยรุ่นก็เช่นกัน เขามักจะบ่นว่า “พ่อแม่ผมเป็นคนขี้บ่น และไม่เข้าใจผม” แต่จะมีวัยรุ่นน้อยคนที่จะบอกว่า “พ่อแม่ผมทำงานหนักเพื่อส่งผมเรียน” นักจิตวิทยาเชื่อกันว่าหากเราเน้นที่คุณลักษณะด้านลบของคนมากเกินไป คนนั้นก็มีแนวโน้มที่จะเป็นไปตามคำทำนายของเราโดยกลายเป็นคนที่มีลักษณะที่ไม่พึงปรารถนานั้นในที่สุด
  8. การมีอารมณ์ที่อ่อนไหว ควบคุมไม่ได้ วัยรุ่นหลายคนมีอารมณ์ที่อ่อนไหวในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างวัยเด็กกับวัยรุ่น บางคนโกรธง่าย และไม่สบายใจกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ  บางครั้งก็ระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างรุนแรงเมื่อได้รับการกระตุ้นเพียงเล็กน้อย บางคนก็หงุดหงิด เจ้าคิดเจ้าแค้นเมื่อมีใครมาทำให้ไม่พอใจ เด็กเหล่านี้ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตน และมักต้องได้รับการปลอบให้ใจเย็นลง ตลอดเวลา พ่อแม่ก็สามารถระเบิดอารมณ์ใส่ลูกๆ ได้เช่นกัน เมื่อรู้สึกว่าอำนาจของตนกำลังถูกท้าทาย
  9. การมีชีวิตภายใต้ความกดดันและข้อเรียกร้องที่มากเกินไป ทั้งพ่อแม่และวัยรุ่นอยู่ภายใต้ความกดดันที่จะต้องประสบความสำเร็จ พ่อแม่มีแรงกดดันจากที่ทำงาน และเมื่ออยู่ที่บ้านก็ถูกคาดหวังว่าจะต้องเป็นพ่อแม่ที่ดีและเข้าใจลูก ส่วนวัยรุ่นเองก็มีแรงกดดันจากข้อเรียกร้องของพ่อแม่ในเรื่องการเรียน ครูก็เรียกร้องให้เขาเป็นนักเรียนที่ดี และเพื่อนๆ ก็เรียกร้องให้เขาเป็นคนที่ให้ความร่วมมือ แรงกดดันเหล่านี้ทำให้พ่อแม่และวัยรุ่นหงุดหงิดง่ายและมักจะขาดการควบคุมอารมณ์เมื่ออยู่ที่บ้าน
  10. ประสิทธิภาพของการเป็นพ่อแม่ที่ดี พ่อแม่หลายคนเป็นพ่อแม่ด้วยวิธีลองผิดลองถูก บางคนก็ยังมีปัญหากับคู่สมรสและมีปัญหาในที่ทำงานด้วย วัยรุ่นเองก็ไม่รู้ว่าจะเป็นวัยรุ่นที่ดีได้อย่างไร เขาอาจจะเรียนหนังสือไม่เก่ง และไม่รู้วิธีที่จะสื่อสารกับพ่อแม่และเพื่อน งานวิจัยด้านสมองแสดงให้เห็นว่า วัยรุ่นบางคนวางแผนไม่เป็น  ไม่รู้จักจัดลำดับความสำคัญ ไม่สามารถควบคุมความต้องการและไม่สามารถคิดถึงผลที่ตามมาจากการกระทำของตน

จากปัจจัยทั้งหมดที่ได้กล่าวมาทั้ง 10 ข้อนี้ทำให้เราเห็นว่าทั้งพ่อแม่และวัยรุ่นอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาล ดังนั้นการมีความขัดแย้งจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจ  

สาเหตุของความขัดแย้งในครอบครัวมีอะไรบ้าง

สาเหตุส่วนใหญ่ของปัญหาครอบครัว.
ภาวะเจ็บป่วย ... .
ปัญหาด้านการเงิน ... .
นิสัยและความเคยชินส่วนตัว ... .
ความบกพร่องในการรับผิดชอบหน้าที่ ... .
การนอกใจ ... .
การใช้ความรุนแรง.

ความขัดแย้งภายในครอบครัวมักเกิดในรูปแบบใด

ปัญหาครอบครัว คือ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับสมาชิกภายในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างสามีภรรยาผู้เป็นหัวหน้าหรือผู้นำครอบครัว ที่เกิดมีปฏิสัมพันธ์ที่ขัดกัน อาทิ มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ไม่รับรู้หรือไม่เข้าใจความรู้สึกของคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง การสื่อสารที่ไม่เข้าใจกันหรือมีบทบาทที่ไม่สอดคล้องกัน เป็นต้น ซึ่งความ ...

สาเหตุของความขัดแย้งระหว่างวัยรุ่นกับครอบครัวมีอะไรบ้าง

สาเหตุความขัดแย้งระหว่างวัยรุ่นและครอบครัว 1.ผู้สูงอายุปรับตัวไม่ทันโลก 2.ภาพรวมของพ่อแม่ในสมัยวัยรุ่นย่อมแตกต่างจากวัยรุ่นปัจจุบัน.
ความเห็นแตกต่าง.
วิธีการคิดขัดกัน.
ความขัดแย้งอันเนื่องมาจากการรับรู้ต่างกัน.
ค่านิยมต่างกัน.
การขัดผลประโยชน์กัน.

ข้อใดคือสาเหตุหลักของปัญหาความรุนแรงในครอบครัว

สาเหตุความรุนแรงในครอบครัว ได้แก่ สุรา/ยาเสพติด, นอกใจ/หึงหวง, สุขภาพกาย/จิต, เศรษฐกิจ และสื่อลามกอื่น ๆ นอกจากนี้ ผลสำรวจสถิติความรุนแรงทางร่างกายซึ่งจัดทำโดย UN Women ในปี 2557 พบว่าไทยอยู่ในอันดับที่ 36 จาก 75 ประเทศ ส่วนประเด็นความรุนแรงทางเพศ ไทยอยู่ในอันดับที่ 7 จาก 71 ประเทศ

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

flow chart แสดงขั้นตอนการปฏิบัติงาน lmyour แปลภาษา กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่เรือ การเขียน flowchart โปรแกรม ตัวรับสัญญาณ wifi โน๊ตบุ๊คหาย ตัวอย่าง flowchart ขั้นตอนการทํางาน ผู้แต่งกาพย์เห่ชมไม้ ภูมิปัญญาหมายถึง มีสัญญาณ wifi แต่เชื่อมต่อไม่ได้ เชื่อมต่อแล้ว ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ /roblox promo code redeem 3 พระจอม มีที่ไหนบ้าง AKI PLUS รีวิว APC UPS APC UPS คือ Adobe Audition Adobe Bridge Anapril 5 mg Aqua City Odaiba Arcade Stick BMW F10 jerk Bahasa Thailand Benz C63 ราคา Bootstrap 4 Bootstrap 4 คือ Bootstrap 5 Brackets Brother Scanner Brother iPrint&Scan Brother utilities Burnt HD C63s AMG CSS เว้น ช่องว่าง CUPPA COFFEE สุราษฎร์ธานี Cathy Doll หาซื้อได้ที่ไหน Clock Humidity HTC-1 ColdFusion Constitutional isomer Cuppa Cottage เจ้าของ Cuppa Cottage เมนู Cuppa Cottage เวียงสระ DMC DRx จ่ายปันผลยังไง Detroit Metal City Div class คือ Drastic Vita