การ รับประกัน ความ ชํา รุด บกพร่อง งาน ก่อสร้าง

....ปรึกษา..มา เรื่อง การประกันความชำรุดบกพร่อง ของานก่อสร้าง.........2 ปี...
....ข้อเท็จจริง ความว่า... ก่อสร้างถนนแอสฟัลท์ติกคอนกรีต(ถนนลาดยาง) เลียบคลอง ..(โซนภาคกลาง) งบประมาณ 7.5 ล้าน สิ้นสุดการค้ำประกัน ความชำรุดบกพร่อง 10 มีนาคม 2559 ( เพราะกรรมการลงนามในใบตรวจรับงานวันัที่ 10 มีนาคม 2557 ).......แต่ว่า ผู้รับจ้าง ส่งมอบงานในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 แต่ประธานกรรมการ ไม่อยู่ อบต. เลยตรวจรับงานช้า......
....ข้อมูลเชิงลึก (น้องเค้าว่า ถนนมันแตกร้าว มานานแล้ว ตั้งแต่ กลางเดือน กุมภาพันธ์ แล้ว แต่กองช่าง นึกว่ามันคงไม่เป็นไรมาก จึงไม่บอกพัสดุ) .แต่เมื่อ ช่วงวันท่ี 4-5 มีนาคม 2559 ถนนแอสฟัลท์ติก ชำรุดแตกร้าวมาก และ มาทรุดตัว (ยุบแตก) หน่วยงานอบต. จึงได้แจ้งให้ผู้รับจ้างมาซ่อมแซมแก้ไข ซึ่งกองช่างประมาณการแล้ว ค่าใช้จ่ายประมาณ 6-7 แสน ผู้รับจ้างปฏิเสธ เพราะบอกว่า หมดระยะค้ำประกันแล้ว. (ผู้รับจ้างว่า2ปี คือนับ จากวันท่ี 28 กพ. 2557).
พร้อมเรียกร้องให้ อบต.คืนเงินค้ำประกันสัญญา 375,000 บาท. อบต.โดยนายก ปลัด และ ผอ.คลัง ว่า ต้องนับจาก วันที่ คณะกรรมการตรวจรับงาน...และบอกต่อรองกับผู้รับจ้างว่าให้มาแก้ไขงานก่อน จากนั้น ผู้รับจ้างได้ทำหนังสือร้องเรียนไปท่ี ปปช. ว่า อบต.กลั่นแกล้งไม่ยอมคืนหลักประกันสัญญา และกล่าวอ้างว่า เจ้าหน้าท่ี อบต.และผู้บริหารปฏิบัติหน้าท่ีโดยมิชอบ..
ปปช.ได้มีหนังสือแจ้งให้ เจ้าหน้าท่ีพัสดุไป พบ ปปช.เพื่อชี้แจงข้อมูล.... แล้วขอคำแนะนำว่า..จะต้องชี้แจงอย่างไร............และถาม ผมว่า จริงแล้ว การค้ำประกัน นับแต่วันใด........ก็ได้บอกไปแล้ว (ตามข้อ 65 (4)....)
........................สิ่งท่ีผมเล่า กล่่าวมา ให้ เพื่อนๆ พี่-น้องชาวพัสดุ..ต้องเรียนรู้ รับรู้ และถือปฏิบัติถึงแนวทางการควบคุม ตรวจสอบการค้ำประกันความชำรุกบกพร่องของงานจ้างก่อสร้าง หรือครุภัณฑ์ โดยเคร่งครัด...หากปล่อยปะละเลยหรือเพิกเฉย สุดท้ายอาจ ต้องไปพบ ปปช.เหมือนน้องพัสดุ รายนี้.......
..............แนวทางปฎิบัติ ตามหนังสือ ที่ มท 0407/ ว 760 ลงันท่ี 7 พฤษภาคม 2533 เรื่อง แนวทางปฎิบัติในการตรวจสอบสภาพ.....ก่อนคืนหลักประกันสัญญา.... ดังนี้
(1) เมื่องานก่อสรา้งโครงการใดๆ ส่งมอบงาน..และตรวจรับเมื่อใด ให้งานพัสดุ..ลงหมายเหตุสัญญา ว่า......การประกันความชำรุดบกพร่อง เริ่มตั้งแต่เมื่อใด.........สิ้นสุดเมื่อใด (2 ปี)
(2) ให้ทำการตรวจสอบ ทะเบียนคุมสัญญาต่างๆ ตามข้อ 1 ข้างต้น ทุกสัปดาห์.....
(3) เมื่อเห็นว่า งานหรือโครงการใดๆ จะครบกำหนดประกันความชำรุดบกพร่องแล้ว....
3.1 ก่อนสิ้นสุดการค้ำประกัน 15 วัน สำหรับงานค้ำประกันไม่เกิน 6 เดือน
3.2 ก่อนสิ้นสุด การค้ำประกัน 30 วัน สำหรับงานค้ำประกันเกิน 6 เดือนขึ้นไป (ฉะนั้น ค้ำประกัน 2 ปี ต้องปฏิบัติตามข้อ นี้)
(4) เมื่อตรวจสอบจากรายละเอียดข้อ 3 ให้งานพัสดุ รายงาน แจ้ง นายก...ทราบ พร้อมเสนอให้ นายก..พิจารณา ใน 3 กรณี คือ
.1 นายก มอบหมายให้ หน่วยงาน ผู้ครอบครองพัสดุ หรือดูแล พัสดุ นั้นๆ ตรวจสอบสภาพ หรือ
2 นายก..มอบหมายให้บุคคลใด หรือบุคคลหนึ่ง ที่มีความรู้ ในเรื่องงานก่อสร้าง หรืองานจัดซื้อนั้นๆ ตรวจสอบสภาพ หรือ
3. แต่งตั้งคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบสภาพ ก่อนคืน หลักปรัะกันสัญญา
(5) หากตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่า พัสดุนั้นชำรุดเสียหาย ต้องให้ผู้รับจ้างมาทำการแก้ไขโดยด่วนก่อนคืนหลักประกันสัญญา
(6) หากตรวจสอบแล้ว ตามข้อ 3 ข้า่งต้น ปรากฏวา่ความชำรุดบกพร่องนั้น เกิดขึ้นหลัง พ้นระยะค้ำประกันสัญญาแล้ว ท่านพัสดุ ฯไม่ต้องดำเนินการตามข้อ 4 แล้วครับ ท่านคืนหลักประกันสัญญาให้กับผู้รับจ้างได้เลย ตามระเบียบข้อ 173 (3)
...ถึงจะแจ้งให้ผู้รับจ้างมาแก้ไข เค้าไม่มาแก้ไข หรือปฏิเสธก็ไม่สามารถเอาผิดเค้าไม่ได้.......
ฉะนั้น จึงได้แต่ขอ เน้นย้ำเตือน..เพื่อนๆ พี่-น้อง ผู้ทำงานด้านการพัสดุ ให้ถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด ในแนวทาง * * * ่ กระผม กล่าวมานั้น ก่อนท่ีท่านจะตกเป็นผู้รับผิดทางละเมิด ปล่อยปะละเลย เพิกเฉยไม่ตรวจสอบ จนพ้นระยะการค้ำประกัน ก่อความเสียหายให้เกิด... เพราะประมาทเลิ่นเลอ.....
จึงแนะนำย้ำตือนกัน.....ครับ..
เพชร.../14/ กย/2559

เขียนโดย   คุณ อบต.โพกรวม