ในช่วงน้ำมันแพงแต่ยังอยากเที่ยว เชื่อว่าหลายคนคงอยู่ในโมเมนต์ที่ลังเลว่าจะเที่ยวหรือไม่เที่ยวดี วันนี้ทริปเก็ทเตอร์มีตัวเลือกการเดินทางราคาหลักสิบ ที่เรียกได้ว่าเก็บเงินจากเติมน้ำมันมาเที่ยว ช้อป กินกันแบบจัดเต็มแทน หาเวลาว่างเสาร์ – อาทิตย์สักวัน เปลี่ยนบรรยากาศมานั่งรถไฟเที่ยว เดินทางแบบสโลว์ไลฟ์ สัมผัสธรรมชาติและวิถีชีวิตผู้คน โดยเส้นทางรถไฟที่ทางทริปเก็ทเตอร์จะพาไปเที่ยวไม่ไกลจากกรุงเทพฯ สามารถไป – กลับได้ในวันเดียว มาดูกันดีกว่าว่า 5 เส้นทางนั่งรถไฟใกล้กรุงเทพฯ วันเดียวก็เที่ยวได้ พาเช็คอินชิลล์ๆ มีเส้นทางไหนที่น่าตามไปบ้าง~
5 เส้นทางนั่งรถไฟใกล้กรุงเทพฯ วันเดียวก็เที่ยวได้ พาเช็คอินชิลล์ๆ
1.กรุงเทพฯ (สถานีธนบุรี) – สถานีน้ำตก, กาญจนบุรี
เส้นทางรถไฟสายมรณะ เป็นเส้นทางนั่งรถไฟใกล้กรุงเทพฯ เชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญของ จังหวัดกาญจนบุรี ที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยจุดไฮไลท์ของเส้นทางเดินรถไฟนี้มีหลายที่ให้เช็คอินเลย เริ่มตั้งแต่สะพานข้ามแม่น้ำแคว หนึ่งในสัญญลักษณ์ของจังหวัดที่ใครมาก็ต้องแวะมาถ่ายรูปกัน ต่อมาเป็นโค้งตามแนวภูเขาหรือที่รู้จักกันว่าช่วงโค้งมรณะ เป็นจุดถ่ายรูปรถไฟตอนเข้าโค้งสวยมาก สำหรับการเดินทางโดยรถไฟมากาญจนบุรีนั้นก็ง่ายมาก เพราะทุกสถานนีสามารถไปลงไปเที่ยวตามที่เที่ยวสำคัญต่างๆ ได้มากมาย
สะพานข้ามแม่น้ำแคว, กาญจนบุรี
เริ่มต้นด้วยจุดเช็คอินที่ต้องมาให้ได้อย่าง สะพานข้ามแม่น้ำแคว ที่มีความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นรางรถไฟที่ยาว 300 เมตร ตัวสะพานเป็นโครงเหล็กครึ่งวงกลมสลับกับโครงถัก คือสวยงามแบบดิบๆ กลางแม่น้ำแคว ที่ใครมาก็ต้องแวะมาเช็คอิน ปกติแล้วรางรถไฟนี้สามารถเดินไปถ่ายรูปได้ แต่อย่าถ่ายรูปเพลินเกินไปนะ ต้องระวังรถไฟด้วย ถ้าได้ยินเสียงเตือนรถไฟมาก็รีบเดินมาหลบด้านข้างของสะพานก่อน
- Location: ต.ท่ามะขาม อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี
ถ้ำกระแซ, กาญจนบุรี
(Thamkra Sae)
ถ้ำกระแซ ที่เที่ยวที่มีประวัติศาตร์มาอย่างยาวนาน โดยถ้ำนี้เคยเป็นที่พักของเชลยศึกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และบริเวณปากทางเข้าถ้ำก็เป็นจุดจอดของรถไฟชื่อสถานี “ถ้ำกระแซ” บอกเลยว่าเดินทางง่ายมาก ลงจากรถไฟก็ตรงเข้าไปในถ้ำ แวะสักการะพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เสริมความเป็นสิริมงคลสักหน่อย นอกจากนี้ธรรมชาติรอบถ้ำก็สวยงามมากๆ ภาพทางรถไฟที่ถูกขนาบด้วยถ้ำหินขนาดใหญ่และแม่น้ำแควแบบกว้างๆ ต้องมาเดินเก๋ๆ บนทางรถไฟ ถ่ายรูปเช็คอินอัปลงโซเชียล
- Location: ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
- Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 07.00 – 18.00 น.
นำ้ตกไทรโยคน้อย, กาญจนบุรี
(Saiyoknoi Waterfall)
สถานีสุดท้ายของเส้นทางรถไฟสายน้ำตก กาญจนบุรี จากสถานีสามารถเดินเท้าหรือนั่งรถสองแถวไปยัง น้ำตกไทยโยคน้อย บริเวณรอบๆ น้ำตกแวดล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ บรรยากาศชิลล์ๆ สูดอากาศบริสุทธ์ โดยน้ำตกไทยโยคน้อยเป็นนำ้ตกที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก มีเพียงแค่ชั้นเดียวเท่านั้น แต่ก็มีจุดให้เล่นน้ำเฉพาะที่สามารถลงไปเล่นน้ำแบบไม่ต้องกังวล เล่นน้ำเย็นๆ จุมเท้าแช่น้ำก็ชุ่มฉ่ำใจมาก อีกทั้งบริเวณรอบน้ำตกมีร้านอาหารบริการ ร้านค้า บริการให้เช่าเสื่อเยอะมาก นอกจากนี้ตรงข้ามยังมีร้านขายของฝากและของที่ระลึก พูดเลยว่าใครนั่งรถไฟมาลงที่น้ำตก สามารถเที่ยวที่เดียวครบจบแถทได้ของฝากกลับบ้านด้วย
- Location: ริมถนนเส้น ทองผาภูมิ – สังขละ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
2.กรุงเทพฯ (หัวลำโพง) – สถานีรถไฟอยุธยา, พระนครศรีอยุธยา
มาต่อกันที่เมืองเก่าของเราแต่ก่อน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เส้นทางนั่งรถไฟใกล้กรุงเทพฯ ยอดฮิต เพียงนั่งรถไฟชิลล์ๆ ชั่วโมงกว่าก็เดินทางมาถึงสถานีรถไฟอยุธยาแล้ว จากที่นี่มีวิธีเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเหมารถสามล้อนำเที่ยว เช่าจักรยานหรือเช่ามอเตอร์ไซค์ก็ได้ แน่นอนว่ามาอยุธยาก็ต้องแวะไปไหว้พระ เสริมสิริมงคลสักนิด เดินเยี่ยมชมความงามของสถาปัตยกรรมและโบราณสถานต่างๆ นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่ชิคๆ เยอะแยะที่รอให้ไปเช็คอิน ถ่ายรูปสวยๆ อัปลงโซเชียลกัน
วัดมหาธาตุ, พระนครศรีอยุธยา
วัดมหาธาตุ หนึ่งในวัดดังที่ต้องแวะมา ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติพระนครศรีอยุธยา จุดไฮไลท์คือ เศียรพระพุทธที่มีอายุมากกว่า 100 ปีอยู่ในรากโพธิ์ด้านข้างวิหาร โดยมีเรื่องเล่าว่าเป็นเศียรพระพุทธรูปที่หล่นมาตั้งแต่สมัยเสียกรุงศรีอยุธยา เวลาผ่านไปรากต้นโพธิ์ค่อยๆ ปกคลุมเศียรพระ จนกลายเป็นภาพที่เราได้เห็นในทุกวันนี้ รอบๆ วัดมีความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่ บรรยากาศเงียบสงบ บวกเดินชมความงดงามที่ตกทอดมาตั้งแต่อดีต วัดมหาธาตุเป็นอีกวัดที่ต้องแวะมาให้ได้
- Location: ถ.นเรศวร ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
- Open-Close: เปิดทำการเวลา 08.30 – 16.30 น.
- Fee: ค่าเข้าชม 10 บาท/คน
วัดราชบูรณะ, พระนครศรีอยุธยา
วัดราชบูรณะ เป็นหนึ่งในวัดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย นอกจากมีประวัติมาอย่างยาวนาน ยังเป็นวัดที่มีความสวยงามที่ใครไปอยุธยาต่างต้องไปเยี่ยมชม ไฮไลท์ที่โดดเด่นของวัดก็คือ ปรางค์ประธานที่ถูกก่อด้วยศิลาแลงบนฐานสี่เหลี่ยม ภายในมีกรุขนาดใหญ่ 2 กรุโดยแต่ละกรุมีความงามของภาพจิตรกรรมฝาผนังจากสมัยอยุธยาตอนต้น ส่วนภายในกรุแต่เดิมเป็นที่เก็บขุมทรัพย์ สมบัติ และเครื่องเงินทองมากมาย แต่หลังจากเหตุการณ์ลักลอบขุดสมบัติทำให้ปัจจุบันได้ย้ายไปเก็บรักษาที่ห้องราชบูรณะในพิพธภัณฑ์สถานแห่งชาติ อีกจุดที่น่าสนใจของวัด คือ วิหารหลวง โบราณสถานที่เป็นความงามทางประวัติศาสตร์ที่ยังคงหลงเหลือไว้รอให้นักท่องเที่ยวได้ไปเที่ยวกัน
- Location: ถ.ชีกุน ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
- Open-Close: เปิดทำการเวลา 08.30 – 16.30 น.
- Fee: ค่าเข้าชม 10 บาท/คน
หอมกลิ่น ไทย เดสเสิร์ท คาเฟ่, พระนครศรีอยุธยา
(HOMGLIN Thai Dessert Cafe)
เดินออกจากวัดมาหน่อยก็จะเจอกับร้าน หอมกลิ่น ไทย เดสเสิร์ท คาเฟ่ เป็นร้านตักแถว 5 ชั้นที่โดดเด่นด้วยการทาสีน้ำเงินเข้มทั้งอาคาร การตกแต่งร้านสไตล์โมเดิร์นสีน้ำเงินตัดกับสีทอง ดูหรูหราเรียบง่ายและเข้ากับบรรยากาศของเมืองเก่าที่มีความคลาสสิก ที่นั่งมีให้เลือกมากมาย สามารถเลือกนั่งได้ทั้ง 5 ชั้น มีทั้งที่นั่งอินดอร์ห้องแอร์เย็นๆ และโซนเอาท์ดอร์ แถมวิวทางร้านยังดีสุดๆ เพราะสามารถมองเห็นพระปรางค์วัดราชบูรณะได้แบบเต็มๆ ตา โดยเฉพาะชั้นดาดฟ้าที่เปิดโล่ง มุมนี้ถ่ายรูปปังมาก มีภาพวัดราชบูรณะเป็นฉากหลังคือดีงามมาก เมนูขนมไทยเป็นแบบร่วมสมัยและได้รวบรวมขนมไทยหายากมากมาย
- Location: 293 ซ.จักพรรดิ์ 9/23 ถ.มหาราช ต.ประตูชัย จ.พระนครศรีอยุธยา
- Phone: 081 946 2294 , 081 851 6702
- Open-Close: วันอังคาร – อาทิตย์ เวลา 09.00 – 18.00 น. (ร้านหยุดทุกวันจันทร์)
- Facebook: หอมกลิ่น Thai dessert
ปรางค์วิว คาเฟ่, พระนครศรีอยุธยา
(Prang View Cafe)
ปรางค์วิว คาเฟ่ เป็นอีกร้านที่อยู่ใกล้กับวัดราชบูรณะ เพียงเดินข้ามถนนจากวัดก็จะเจอกับร้านเล็กๆ สีขาวมินิมอล ดูเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น การตกแต่งภายในเน้นโทนสีอ่อนๆ อย่างสีขาว สีครีม และตัดด้วยสีน้ำตาลจากเฟอร์นิเจอร์ไม้ บรรยากาศโล่งโปร่ง มีกระจกใสทำให้แสงเข้ามาในร้านได้แบบเต็มๆ นอกจากนี้กลางร้านยังเปิดโล่งให้แสงอาทิตย์ส่องเข้ามา ช่วยให้ร้านดูสว่างและถ่ายรูปสวยมากๆ และที่เด็ดสุดจนทำให้ร้านนี้ชื่อว่าปรางค์วิว คาเฟ่ก็คือวิวพระปรางค์ที่อยู่ใกล้ๆ แค่นี้ ส่วนเมนูของทางร้านมีทั้งของคาว ของหวาน และเครื่องดื่ม แถมแต่ละจานเสิร์ฟมาอย่างน่ารักและเก๋สุดๆ แนะนำเลยสำหรับใครหาคาเฟ่ชิลล์ๆ บรรยากาศดี วิวสวย ต้องห้ามพลาด
- Location: 22/13 ถ.นเรศวร ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
- Phone: 089 801 0138
- Open-Close: เปิดบริการทุกวัน เวลา 9.00 – 20.00 น.
- Facebook: PRANG VIEW
3.กรุงเทพฯ (สถานีธนบุรี) – สถานีนครปฐม, นครปฐม
จังหวัดนครปฐม เป็นอีกจุดหมายปลายทางยอดฮิตของที่เที่ยวใกล้จากกรุงเทพฯ นั่งรถไฟเพลินๆ แป๊บเดียวก็มาถึงสถานีนครปฐมแล้ว จากสถานีเดินไปเพียงแค่ 5 นาทีก็จะเจอกับตลาดบนล่างซึ่งเป็นตลาดเก่าแก่ที่อยู่หน้าพระปฐมเจดีย์ ภายในตลาดมีของกินมากมาย แวะซื้อของกินเสร็จก็เดินไปไหว้พระขอพรกันต่อหรือจะเช่ามอเตอร์ไซค์ไปยังที่ต่างๆ ก็เที่ยวกันได้ยาวๆ นครปฐมมีทั้งเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่อีกเพียบที่เหมาะกับการมาเที่ยวชิลล์ๆ สักวันจริงๆ
วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร, นครปฐม
วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร หรือองค์พระปฐมเจดีย์ วัดสำคัญที่เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดนครปฐม มีองค์พระปฐมเจดีย์ขนาดใหญ่สีเหลืองทองตั้งโดดเด่นกลางนครปฐม อีกทั้งยังเป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวารวดี จึงเป็นเหมือนศูนย์รวมจิตใจและที่เคารพบูชาของคนนครปฐม นอกจากนี้ยังเชื่อว่าเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าและภายในวัดยังเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นพระร่วงโรจนฤทธิ์ พระพุทธรูปหินศิลาขาวศิลปะทวารวดี เรียกได้ว่าเป็นวัดที่ใครไปนครปฐมต้องแวะไปเยี่ยมชมความงามและสักการะเสริมมงคลกันสักหน่อย
- Location: 27 ถ.เทศา ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง นครปฐม
- Facebook: วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร
พระราชวังสนามจันทร์, นครปฐม
พระราชวังสนามจันทร์ ตั้งอยู่ห่างจากองค์พระปฐมเจดีย์เพียงแค่ 2 กิโลเมตร สำหรับใครที่มาเที่ยวนครปฐมแนะนำให้ลิสต์องค์พระปฐมเจดีย์กับพระราชวังสนามจันทร์ไว้ด้วยกันเลยเพราะเดินทางใกล้กันมาก แถมล้วนแต่เป็นไฮไลท์สำคัญที่ต้องมาเช็คอินให้ได้ สำหรับพระราชวังสนามจันทร์ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 เพื่อใช้เป็นสถานที่ประทับเวลาเสด็จมานมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ จนปัจจุบันพระราชวังนี้มีอายุกว่า 100 ปี กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ภายในมีอาคารที่สวยงามและโดดเด่นมากมาย อย่างพระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ ตึกสีครีมหลังคาแดงที่มีสถาปัตยกรรมแบบเรเนซองส์ผสมฮาฟทิมเบอร์แล้วนำมาปรับให้เข้ากับสภาพอากาศไทย จนเป็นความสวยงามที่ใครมาต่างต้องแวะถ่ายรูป และยังมีพระตำหนักทับขวัญที่เป็นเรือนไทยเดิม บอกเลยว่าเหมาะกับการมาเดินเล่นและชื่นชมความงามศิลปะในยุคอดีตมาก
- Location: ถ.ทรงพล ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม
- Open-Close: เปิดให้เข้าชมวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 5.00 – 9.00 น. และ 16.00 – 20.00 น. / วันอาทิตย์ 24 ชั่วโมง
- Phone: 034 310 431
4.กรุงเทพฯ (หัวลำโพง) – สถานีรถไฟหัวหิน, ประจวบคีรีขันธ์
พูดถึงเมืองตากอากาศของคนกรุงเทพฯ ก็คงหนีไม่พ้น หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นที่ที่มีธรรมชาติครบ อุดมสมบูรณ์ แถมเดินทางง่ายมากๆ นอกจากขับรถก็ยังมีรถไฟที่สามารถเดินทางชิลล์ๆ ได้เช่นกัน นั่งตรงจากกรุงเทพฯ มายังหัวหิน ราคาเพียงแค่หลัก 10 เท่านั้น นอกจากนี้หัวหินยังเหมาะมากๆ กับคนที่ไม่อยากขับรถมาเพราะที่เที่ยวต่างๆ สามารถเดินทางถึงกันได้หมดหรือรถประจำทางก็มีคอยบริการมากมาย เดินเล่นทะเล แวะถ่ายรูปคาเฟ่ หรือจะชอปปิ้งตลาดกลางคืน ครบจบได้ในวันเดียวเลย
สถานีรถไฟหัวหิน, ประจวบคีรีขันธ์
สถานีรถไฟหัวหิน จุดเช็คอินแรกหลังจากที่ลงจากรถไฟ จะเห็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ที่มีโครงเสา โครงหลังคาสีแดง มีพื้นสีครีม โดนตัวอาคารนี้ถูกอนุรักษ์ให้คงความสวยงามดั้งเดิมไว้ อีกหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ก็คือ พลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ เป็นพลับพลาจัตุรมุขที่ถูกสร้างขึ้นมาในสมัยรัชกาลที่ 6 และยังเป็นที่เก็บหัวเครื่องจักรไอน้ำเก่าด้วย เรียกได้ว่าเป็นสถานีรถไฟที่สวยที่สุดในประเทศไทยและเป็นเอกลักษณ์เคียงคู่หัวหินที่ควรค่าแก่การมาเช็คอิน
- Location: ถ.พระปกเกล้า ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม
ตลาดโต้รุ่งหัวหิน, ประจวบคีรีขันธ์
(Hua Hin Night Market)
ตลาดโต้รุ่งหัวหิน ตลาดยามเย็นโด่งดังของหัวหินที่ห่างจากสถานีรถไฟหัวหินเพียงแค่ 7 นาทีเท่านั้น โดยตลาดนี้จะเริ่มตั้งร้านขายของกันตั้งแต่ 4 โมงเย็นจนถึงเกือบ 5 ทุ่ม ภายในตลาดมีของขายหลายอย่างทั้งอาหารคาว ขนมหวาน แถมร้านเด็ดร้านดังก็มีอยู่มากมาย นอกจากของกินยังมีของใช้ เสื้อผ้า งานแฮนด์เมด งานศิลปะ เรียกได้ว่าเป็นสีสันยามค่ำคืนของหัวหินที่ต้องแวะไปหาของกินชิลล์ๆ และซื้อของกลับไปฝากเพื่อนๆ ที่บ้านให้ได้
- Location: ตลาดโต้รุ่งหัวหิน ซ.หัวหิน 72 ต.หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
- Open-Close: เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 17.00 – 22.00 น.
- Facebook: ตลาดโต้รุ่ง หัวหิน – Hua Hin Night Market
5.กรุงเทพฯ (หัวลำโพง) – สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา, ฉะเชิงเทรา
จังหวัดฉะเชิงเทรา เมืองสุดสโลว์ไลฟ์และเป็นอีกเส้นทางนั่งรถไฟใกล้กรุงเทพฯ ที่น่าไป ที่สำคัญใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ใครที่อยากได้วันเดย์ทริปแบบเที่ยวครบทั้งอิ่มบุญและอิ่มท้อง การมาฉะเชิงเทราถือว่าตอบโจทย์เลย เพราะที่นี่มีวัดชื่อดังที่สายมูห้ามพลาด ยังมีที่เที่ยวชิลล์ๆ คาเฟ่สวยๆ บรรยากาศดีริมแม่น้ำที่รอให้ได้ไปเช็คอินกัน
วัดโสธรวรารามวรวิหาร, ฉะเชิงเทรา
วัดโสธรวรารามวรวิหาร วัดสำคัญของจังหวัดฉะเชิงเทราตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางประกง เป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโสธร สำหรับใครอยากไหว้หลวงพ่อโสธร สามารถไปกราบสักการะได้ 2 ที่ก็คือ พระอุโบสถหลังใหม่ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อองค์จริง และอีกที่เป็นพระอุโบสถข้างๆ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อองค์จำลอง นอกจากนี้ยังมีความเชื่อที่ว่าใครได้มาไหว้ขอพรหลวงพ่อโสธรจะสมหวังดังใจปรารถนา หลายคนที่คำขอเป็นจริงก็จะนำไข่ต้ม พวงมาลัย หรือละครรำมาแก้บนกับหลวงพ่อ ใครที่สายมูต้องมากราบไหว้สักครั้งให้ได้ ส่วนการเดินทางก็สามารถนั่งรถสองแถวจากสถานีรถไฟได้เลย
- Location: ถ.เทพคุณากร ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา
- Open-Close: วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00 – 16.30 น., วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 07.00 – 17.00 น.
- Phone: 038 511 048
ตลาดบ้านใหม่, ฉะเชิงเทรา
ตลาดบ้านใหม่ ตลาดน้ำเก่าแก่ที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสาตร์มายาวนานกว่า 100 ปี ถูกตั้งมาตั้งแต่รัชกาลที่ 5 เพื่อทำมาค้าขายของคนในชุมชนโดยการขายของส่วนใหญ่จะเป็นการพายเรือ และสิ่งเหล่านี้ก็ยังคงมาจนถึงปัจจุบัน ภายในชุมชนยังคงอนุรักษ์วิถีชีวิตและบ้านเรือนให้คงสภาพดั้งเดิมให้ได้มากที่สุด โดยสภาพบ้านส่วนใหญ่จะเป็นบ้านไม้ที่ถูกรักษาอย่างดี เป็นเสน่ห์ของชุมชนเก่าที่ใครไปฉะเชิงเทราต้องไปสัมผัสให้ได้ นอกจากนี้ในตลาดยังร้านค้า คาเฟ่ อาหารพื้นบ้าน และขายของที่ระลึกมากมาย บรรยากาศชิลล์ๆ ชอปปิ้งเพลินๆ ดื่มด่ำกับความคลาสสิกแบบนี้ต้องที่ตลาดบ้านใหม่เลย
- Location: ถ.ศุภกิจ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
- Open-Close: วันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00 – 17.00 น.
เรดแคท คาเฟ่, ฉะเชิงเทรา
(Red Cat Cafe)
ภายในตลาดบ้านใหม่มีคาเฟ่และร้านค้ามากมาย แต่ร้านที่แนะนำก็คือ Red Cat Cafe คาเฟ่สุดชิลล์ริมแม่น้ำบางปะกงกับของตกแต่งที่เป็นรูปน้องแมวเต็มไปหมด การตกแต่งในร้านก็ยังคงสภาพดั้งเดิมของบ้านไม้ที่ดูกลมกลืนกับความเป็นชุมชนสมัยเก่า บรรยากาศในร้านดูสบายๆ เป็นกันเอง ในร้านมีด้วยกันทั้งหมด 2 ชั้น แบ่งออกเป็นโซนอินดอร์ในห้องแอร์และโซนเอาท์ดอร์แบบโอเพ่นแอร์ ถ้าใครอยากนั่งชิลล์ๆ สัมผัสลมธรรมชาติกับดูวิวแม่น้ำแบบเต็มๆ ตา เลือกโซนเอาท์ดอร์รับรองไม่ผิดหวัง ถ่ายรูปออกมาก็สวยด้วย ส่วนเมนูของทางร้านส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องดื่ม อย่างชา กาแฟ โซดา และเมนูเบเกอรี่ต่างๆ ให้ได้เลือกมากมาย แต่ละเมนูก็สร้างสรรค์และน่ารักมากๆ เหมาะกับการมานั่งพักผ่อนระหว่างเดินเที่ยวในตลาดมาก
- Location: 198-200 ตลาดบ้านใหม่ 100 ปี ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
- Phone: 064 624 5564
- Open-Close: วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 08.30 – 18.00 น.
- Facebook: Red Cat Cafe ตลาดบ้านใหม่
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 เส้นทางนั่งรถไฟใกล้กรุงเทพฯ วันเดียวก็เที่ยวได้ พาเช็คอินชิลล์ๆ บอกเลยว่าเหมาะกับช่วงนี้ที่น้ำมันแพงแต่ก็ยังอยากเที่ยว การนั่งรถไฟเป็นตัวเลือกที่ดีเลย แถมยังได้เปลี่ยนบรรยากาศมาสัมผัสความชิลล์บนรถไฟ หรือจะเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ แบบไม่ต้องใช้รถยนต์ก็ลองมาดูที่ 5 ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ไม่มีรถส่วนตัวก็เที่ยวได้ บอกเลยว่าดีมาก!! แต่ถ้าใครคิดแพลนเที่ยวไม่ออก ทางเราก็ได้จัดทริปที่สามารถเที่ยวตามได้เลยกับ 6 ทริปเที่ยว 2 วัน 1 คืน ใกล้กรุงเทพฯ ไปเสาร์ – อาทิตย์ได้สบายๆ และ One Day Trip | เที่ยวนครนายก อิ่มท้อง อิ่มบุญ ความสุขครบจบในวันเดียว