ความเป็นมา
หัวใจชายหนุ่มเป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยใช้พระนามแฝงว่า ..รามจิต.. ลักษณะการพระราชนิพนธ์เป็นรูปแบบของจดหมาย มีจำนวน ๑๘ ฉบับระยะเวลาในจดหมาย ๑ ปี๗เดือน เป็นผุ้ที่ถ่ายทอดสังคมแบบไทยกับตะวันตกที่ผสมผสานกัน และทำให้ผู้ที่อ่านได้ข่อคิดและความบันเทิงมากมาย
ลักษณะคำประพันธ์
หัวใจชายหนุ่ม เป็นนวนิยายร้อยแก้วในรูปแบบของจดหมาย
๑)หัวจดหมาย ตั้งแต่ฉบับที่ ๑ วันที่ ๒๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๖- จนถึงฉบับสุดท้าย วันที่ ๓๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖- จะเห็นว่ามีการเว้นเลขท้ายปี พ.ศ. ไว้
๒)คำขึ้นต้นจดหมาย ทั้ง ๑๘ ฉบับ ใช้คำขึ้นต้นเหมือนกันหมด คือ “ถึงพ่อประเสริฐเพื่อนรัก”
๓)คำลงท้าย จะใช้คำว่า “จากเพื่อน.........” “แต่เพื่อน.......” แล้วตามด้วยความรู้สึกของนายประพันธ์ เช่น “แต่เพื่อนผู้ใจคอออกจะยุ่งเหยิง” (ฉบับที่ ๑๐) มีเพียง ๙ ฉบับเท่านั้น ที่ไม่มีคำลงท้าย
๔)การลงชื่อ ตั้งแต่ฉบับที่ ๑๔ เป็นต้นไป ใช้บรรดาศักดิ์ที่ได้รับพระราชทาน คือ “บริบาลบรมศักดิ์” โดยตลอด แต่ฉบับที่ ๑ –๑๓ ใช้ชื่อ “ประพันธ์”
๕)ความสั้นยาวของจดหมาย มีเพียงฉบับที่ ๑๔ เท่านั้นที่มีขนาดสั้นที่สุด เพราะเป็นเพียงจดหมายที่แจ้งไปยังเพื่อนว่าตนได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์
จุดประสงค์ในการแต่ง
1บอกความเป็นมาและประวัติของผู้แต่งเรื่องหัวใจชายหนุ่มได้
2อธิบายลักษณะรูปแบบของการเขียนจดหมายได้อย่างเข้าใจ
3ได้รู้ความหมายของแต่จะจดหมายมีข้อคิดที่มีคุณค่าอย่างไรบ้าง
4ได้เรียนรู้ความหมายของศัพท์โบราณ
เนื้อเรื่อง
จดหมายฉบับที่ ๑ เรือโอยามะมะรูในทะเลแดง- การรักเมืองไทยเปรียบเหมือนรักพ่อแม่แต่การรักเมืองอังกฤษเหมือนรักเมีย- การเต้นรำเหมือนชีวิตของฉัน เพื่อนๆเคยล้อว่าถ้าฉันไม่เต้นรำนานๆถึงปวดท้อง- การเต้นรำมาสู้สำคัญเท่าเรื่องที่ไม่ได้กอดผูหญิงนั่นแหละ ถ้าไม่มีการเต้นรำ เราจะวิ่งไปกอดเขาดื้อๆใครเขาจะยอม- ในเมืองไทยยังมีคนครึอยู่มาก ที่ชอบเก็บลูกสาวไม่ให้พบเห็นผู้ชาย- ฉันแทบอยากจะพาเอาลีลี่เข้าไปเสียด้วยแล้ว แต่นึกสงสารหล่อนที่จะต้องไปตกในหมู่คน “อันศิวิไลช์” จะทนทานไม่ไหว จดหมายฉบับที่ ๔ บ้านที่หัวลำโพง- ฉันต้องไหว้คนมาเสียมากต่อมากจนนับไม่ถ้วน ฉันแทบจะลงรอยท่ป็นท่าประณมอยู่ เสมอป็นแล้วและหลังก็เกือบจะโค้งเพราะคำนับคนไม่ได้หยุด- ความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ของคุณพ่อ คือ อยากให้ฉันเข้ารับราชการในราชสำนัก แต่ผู้ที่ต้องการสมัยนี้มันมีมากมายจนเหลือตำแหน่ง- ฉันบอกว่าจะลองประกอบอาชีพค้าขายดูบ้างแต่คุณพ่อไม่ยอมให้ทำเช่นนั้น ท่านว่าค้าขายไม่มีหนทางที่จะเป็นใหญ่เป็นโตต่อไปได้- ฉันได้ไปเรียนมาจากยุโรป..จะแต่งงานแบบคลุมถุงชนไม่ได้เลย- กรุงเทพฯหาที่เที่ยวยากเพราะขาดเร็สตอรังศ์และโรงละครดีๆจดหมายฉบับที่ ๕ ถนนหัวลำโพง- ในที่สุดฉันเป็นอันได้เข้ารับราชการในกรมพาณิชย์และสถิติพยากรณ์- ฉันไปดูตัวแม่กิมเน้ยแล้วหน้าตาหล่อนเหมือนนางชุนฮูหยิน ตายาว หลังตาชั้นเดียว ผิวขาวดี ใช้เสื้อผ้าดีถูกแฟชั่นแต่แต่งเครื่องเพชรมากไป- รายที่ฉันเล่ามาในจดหมายว่าได้เห็นที่โรงพัฒนากรนั้น ได้สืบสาวว่าหล่อนชื่ออุไร ได้ข่าวว่าหล่อนเป็นผู้หญิงสมัยใหม่แท้ ไม่หดหู่กลัวผู้ชาย- ถ้าได้รู้จักผู้หญิงอย่างเช่นแม่อุไรแล้วจะทำให้ฉัยค่อยวายค่อยวายคิดถึงเมืองอังกฤษได้และจะทำให้ชีวิตเป็นของน่าดำรงอีกด้วย- หล่อนจะพอใจในตัวฉันหรือไม่ก็ยังไม่รู้ได้ เพราะหล่อนเป็นผู้ที่มีชายตอมมานานแล้วจดหมายฉบับที่ ๖ ถนนหัวลำโพง- นึกๆก็น่าประหลาดอยู่ที่ในเมืองเรานี้พี่น้องจูบกันไม่ได้เหมือนอย่างฝรั่งเขา แต่นึกไปอีกทีก็เห็นว่าห้ามไว้ดีกว่า ของฝรั่งเขาพี่น้องแต่งงานกันไม่ได้ แต่ของเราเป็นผัวเมียกันได้เท่ากับไม่ได้เป็นญาติกัน- ฉันได้เห็นอย่างแน่นอนว่าหล่อน “ปอปูลาร์”ปานใด หล่อนราวกับดวงไฟที่มีตัวแมลงบินตอมว่อนอยู่ หล่อนได้ยอมให้ฉันพาเที่ยวทุกคืน เต้นรำด้วยกัน กิน “สัปเป้อร์”ด้วยกันทุกคืน คนอื่นๆพากันริษยาฉันเป็นแถว- หล่อนเป็นผู้หญิงที่งามที่สุดของฉันได้พบในกรุงสยาม ไม่ใช่งามแต่รูปทั้งกิริยาก็งามยวนใจ พูดก็ดีและเสียงเพราะราวกับเพลงดนตรี- นึกถึงชุนฮูหยินที่คุณพ่ออยากได้เป็นลูกสะใภ้นัก หล่อนแต่งตัวไปเสียเพียบเพื่อ “โช” คน พราวทั้งตัวราวกับหุ่นที่เขาติดของสำหรับขายจดหมายฉบับที่ ๙ หัวหิน- การแต่งงานของฉันหาได้เป็นไปโดยสมปรารถนาทุกประการไม่ แต่ข้อสำคัญคือว่าได้แต่งงานกันแล้ว ทำให้ค่อยโล่งใจไปมากเพราะตามที่เป็นอยู่ก็แต่ก่อนรู้สึกว่ามันไม่งดงามเลย- ท่านไม่อยากได้แม่อุไรมาเป็นลูกสะใภ้ โดยรังเกียจว่าได้เคยรู้จักมักคุ่นกับผู้ชายมาหลายคนแล้ว ที่บ้านนั้นใช้คำเรียกว่า “โรงเรียนฝึกหัดเจ้าชู้”- ในที่สุดฉันต้องบอกท่านว่า “ถ้าจะให้คอยอีกปีหนึ่งละก็คุณพ่อต้องได้หลานเสียนั้นแล้ว” ท่านตะลึงเป็นครู่หนึ่ง จึงกล่าวว่า “ เมื่อเจ้าได้ชิงสุกก่อนห่ามเสียเช่นนั้นแล้ว พ่อก็สิ้นพูด”- เมื่อแต่งงานแล้วได้ตกลงมา “ฮันนี่มูน” ที่หัวหิน แม่อุไรว่าเราเริ่มรักกันจริงจังที่หัวหิน แต่ฤดูนี้คนไม่ค่อยมากัน ออกจะเงียบๆอยู่จดหมายฉบับที่ ๑๑ บ้านถนนสี่พระยา- “บ้าน!”คำนี้ที่จริงควรเป็นคำไพเราะที่สุดสำหรับมนุษย์ แต่อนิจจาฉันเป็นคนอาภัพ ไม่ได้รับความสบายกายสบายใจด้วยคำว่า “บ้าน” นี้เลย- ถ้าขืนอยู่ที่เพชรบุรีต่อไปอีกสองหรือสามวันก็คงต้องอายขอายหน้าเขาเป็นแน่ ชาวเพชรบุรีคงได้เห็นฉันกับเมียวิวาทกันกลางเมือง- แม่อุไรเมียรักของฉัน เขาดูเหมือนจะถือคติตรงกันข้าม คือเห็นว่าถ้าโกรธผัวได้ต่อหน้าเป็นเกียรติยศดี- เมื่อมาถึงสถานีไม่มีผู้มารับเลยจนคนเดียว ทำให้แม่อุไรโกรธและบ่นไม่รู้จบพูดจาแดกดันจนฉันขอไว้เพราะการทะเลาะต่อหน้าคนแจวเรือจ้างดูไม่เป็นการงดงามเลย- เสียใจที่ดิฉันเป็นลูกผู้ดี ไม่เคยต้องยกต้องขนของอะไรเองจดหมายฉบับที่ ๑๒ บ้านที่ถนนสี่พระยา- จริงอยู่การที่ฉันหย่ากับแม่อุไรได้ถูกบางคนนินทาติโทษ แต่ฉันถือคติว่าการแต่งงานเป็นกิจส่วนตัว ไม่มีผู้ใดมารับสุขรับทุกข์แทนได้- ฉันเห็นว่าการที่ฉันคงเป็นผัวหญิงที่ไม่ด้อยู่ในบ้านฉันและไปอยู่ที่บ้านชายอื่นนั้น เป็นการหน้าด้านพ้นวิสัยจะทำได้- เขาตกลงหาบ้านให้แม่อุไรที่ราชประสงค์ เขาได้เงินเดือน ๗๐๐ บาท มีบ้าน๒หลัง เมีย๘คน ม้า๔ตัว เล่นกีฬาและเลี้ยงเพื่อนฝูงบ่อยๆเก่งไหม?- ฉันได้ย้ายตำแหน่งมาเป็นผู้ช่วยเจ้ากรมโรงเรียนในพระราชูปถัมภ์- ส่วนทางเสือป่า ฉันได้เข้าไปประจำอยู่กรมม้าหลวงแล้ว การที่เคยฝึกหัดในกองฝึกหัดนายทหารที่อ๊อกฟอร์ดนั้นเป็นผลดีแก่ฉันทีเดียว นได้เป็นผู้รั้งผู้บังคับบัญชาหมวดผู้๑ และได้เลื่อนยศเป็นนายหมู่เอกจดหมายฉบับที่ ๑๕ กรมเสือป่าม้าหลวง ร.อ.พระราชวังสนามจันทร์- มีการเต้นรำของกระทรวงต่างประเทศ พระยาตระเวนพาลูกสาวไปแต่ไม่ได้พาแม่อุไรไปด้วยเพราะยังไม่ได้เป็นผัวเมีย “โดยทางราชการ”- งานฤดูหนาวพระยาตระเวนเดินดวงอยู่กับแม่สร้อยโดยมาก ส่วนแม่อุไรคงนึกแค้นไม่น้อยเพราะเขาถือตัวว่า เป็นผู้หญิงงามลัยั่วยวนมากที่สุดในเมืองไทยและเชื่อว่าจะผูกใจอันรวนเรของพระยาตระเวนไว้ได้- หล่อนคงเห็นชอบตามสุภาษิตอังกฤษว่า “ขนมปังครึ่งก้อนยังดีกว่าไม่มีเลย”- ความจริงมีอยู่ว่าผู้ชายใดยิ่งมีชื่อเสียงเป็นนักเลงผู้หญิงมักก็ยิ่งหาเมียง่าย- เมื่อไรผู้หญิงไทยที่ดีๆพร้อมใจกันตั้งกติกาไม่ยอมเป็นเมียคนที่เลี้ยงผู้หญิงไว้อย่างเลี้ยงไก่เป็นฝูงๆเท่านั้นแหละ ผู้ชายพวกมักมากในกามซึ่งจะต้องกลับความคิดและเปลี่ยนความประพฤติจดหมายฉบับที่ ๑๗ บ้านที่ถนนสี่พระยา- ฉันมีความยินดีที่ฉันได้เลื่อนยศเป็นนายหมู่ใหญ่ขึ้นแล้ว นับว่าได้ขึ้นเร็วเกินกว่าที่ฉันเองคาดหมาย- หล่อนแต่งตัวเรี่ยม เสื้อแพรสีชมพูบางๆนุ่งซิ่นไหมสีชมพู ประดับเครื่องเพชร พลอยพองาม แต่ผัดหน้ามากไปสักหน่อย- คุณหลวงจะลงโทษอย่างไรดีฉันยอมรับทุกอย่าง ขอแต่ให้มีความกรุณาต่อดิฉันผู้เป็นสัตว์ผู้ยากเท่านั้น- พระยาตระเวนต้องการบ้านที่ราชประสงค์สำหรับแม่สร้อยเมียรักเขาอยู่ เขาจึงขอให้แม่อุไรไปอยู่ที่อื่น บ้านก็ไม่มีจะอยู่ เงินทองก็ไม่มีใช้สอย- หล่อนได้ขุดอู่ตามใจตนเองแล้ว เมื่อนอนในอู่นั้นไม่สบายจะโทษใครได้ การที่หล่อนกับฉันจะกลับคืนดีกันใหม่นั้น ฉันไม่แลเห็นหนทางที่จะเป็นไปได้ จดหมายฉบับที่ ๑๘ บ้านที่ถนนสี่พระยา- ฉันต้องรีบบอกข่าวดีให้ทราบ แม่อุไรตกลงแต่งงานกับหลวงพิเศษผลพานิช พ่อค้ามั่งมี ซึ่งนับว่าโชคดีสำหรับหล่อน- หลวงพิเศษนั้นรูปร่างไม่ใช่เทวดาถอดรูป แต่หวังใจว่าคงจะเข้าลักษณะขุนช้างคือ “ถึงรูปชั่วใจช่วงเหมือนดวงเดือน” ถึงใจไม่ช่วงเขาก็มีเงินพอที่จะซื้อความสุขให้แม่ อุไรได้- ฉันขอบอกตรงๆว่า ฉันได้รักผู้หญิงอยู่รายหนึ่งแล้ว ซึ่งฉันหวังว่าจะได้เป็นคู่ชีวิตกันต่อไปโดยยั่งยืนจีรัง- หล่อนชื่อนางสาวศรีสมาน เป็นลูกสาวพระยาพิสิฐเสวก ฉันกับหล่อนได้คุ้นเคยพูดจากันเป็นที่ต้องใจแล้ว เจ้าคุณพิสิฐกับคุณพ่อของฉันก็ชอบกันมาก พอพ่อประเสริฐกลับเข้ามากรุงเทพฯก็เตรียมตัวเป็นเพื่อนบ่าวทีเดียวเถิดข้อคิดที่ได้รับ
๑. อย่าหลงวัฒนธรรมตะวันตกจนลืมจิตสำนึกแห่งความเป็นไทย ควรเก็บสิ่งที่ดีมาปฏิบัติ แล้วเก็บสิ่งที่ไม่ดีไว้เป็นอุทาหรณ์ ขณะเดียวกันก็อย่าดูถูกบ้านเกิดเมืองนอนว่าหัวโบราณ เก่าคร่ำครึ เพราะวัฒนธรรมที่ดีงามของไทยนี้แลจึงสามารถจรรโลงประเทศให้อยู่ได้มาสืบทุกวันนี้
๒. ๒. การแต่งงานของหนุ่มสาวที่มาจากการชอบพอกันแค่เพียงเปลือกนอก ขาดการรู้จักและเข้าใจกันอย่างแท้จริงย่อมไม่ยั่งยืนและอับปางลงอย่างง่ายดาย เช่นกรณีของประพันธ์ และแม่อุไรที่รักเร็วใจเร็ว ทำให้ความรักนั้นจบลงในเวลาอันสั้น
๓. ๓. การใช้เสรีภาพในทางที่ผิดโดยปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนกระทั่งพลาดพลั้งชิงสุกก่อนห่ามจะต้องประสบชะตากรรมอันเลวร้าย ดังแม่อุไรที่ปล่อยตัวได้เสียกับประพันธ์ทำให้ไม่เป็นที่พอใจของผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายนำไปสู่การหย่าร้างกันวันข้างหน้า
๔. ๔. คนเราควรดำเนินชีวิตในทางยุติธรรม ดังเช่นประพันธ์ เขาไม่ชอบการใช้เส้นสาย แต่ไม่สามารถหางานได้ด้วยตนเอง จึงต้องยอมรับงานที่ผู้ใหญ่ฝากฝังให้ แต่ก็ได้ใช้ความสามารถของตนเองทำให้มีความก้าวหน้าในราชการ ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหลวงบริบาลบรมศักดิ์ในที่สุด
คำศัพท์ที่น่าสนใจ
คำศัพท์
ความหมาย
คลุมถุงชน
ลักษณะที่ผู้ใหญ่หามาให้โดยทั้งสองฝ่ายไม่รู้จักหรือรักกันมาก่อน
ขุดอุ่
เลือกคู่ครองด้วยตัวเอง
สิ้นพูด
พูดไปก็ไม่เกิดประโยชน์
ศิวิไลซ์
มีอารยธรรม ความเจริญ
หมอบราบคาบแก้ว
ยอมตามโดยไม่ขัดขืน
หอยจุ๊บแจง
ผู้หญิงขี้อาย ไม่เข้าสังคม
เทวดาถอดรูป
หน้าตาดีราวเทวดา
ครึ
เก่า ล่าสมัย
เดินเข้าท้ายครัว
ให้ความคุ้นเคยช่วยให้ได้มีงานทำ
ความรู้เพิ่มเติม
การเขียนจดหมายภาษาอังกฤษ อาจแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือจดหมายติดต่อระหว่างบุคคล หรือจดหมายส่วนตัว อาจเป็นจดหมายถามทุกข์สุข แสดงความยินดี แสดงความเสียใจ จดหมาย เชิญ จดหมายอีกประเภทหนึ่งเป็นจดหมายธุรกิจ ซึ่งใช้ติดต่อระหว่างบุคคลกับสำนักงานธุรกิจ หรือระหว่างสำนักงานธุรกิจด้วยกัน สำหรับในเอกสารนี้จะให้รายละเอียดเฉพาะจดหมายส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งเป็นจดหมายที่นักเรียนคุ้นเคย และอาจนำไปใช้ประโยชน์ได้มากกว่า
1. Heading (หัวจดหมายภาษาอังกฤษ) หัวจดหมายคือที่อยู่ของผู้เขียนจดหมาย และวันที่ที่เขียนจดหมาย ซึ่งนิยมเขียนไว้บนมุมด้านขวาหรือซ้ายของจดหมายก็ได้
2. Inside Address (ชื่อที่อยู่ของผู้รับจดหมายภาษาอังกฤษ) ชื่อที่อยู่ของผู้รับจดหมายภาษาอังกฤษ ซึ่งเขียนหรือพิมพ์ไว้ทางด้านซ้ายบน ถัดจากหัวจดหมายลงมาจะปรากฏเฉพาะในจดหมายธุรกิจเท่านั้น สำหรับรูปแบบการเขียนเหมือนกับหัวจดหมาย
3. Solution (คำขึ้นต้นจดหมายภาษาอังกฤษ) คำขึ้นต้นจดหมายในภาษาอังกฤษ เปรียบเสมือนคำทักทายเพื่อเริ่มต้นจดหมาย ต้องเขียนหรือพิมพ์ไว้ริมซ้ายของกระดาษด้านบนต่อจากหัวจดหมาย สำหรับจดหมายติดต่อระหว่างบุคคล และต่อจากชื่อที่อยู่ของผู้รับจดหมาย สำหรับจดหมายธุรกิจ คำขึ้นต้นจดหมายอาจเขียนได้หลายแบบ ขึ้นอยู่กับบุคคลที่เราเขียนถึงว่ามีความสัมพันธ์กับผู้เขียนอย่างไร
. Body of letter (ตัวจดหมายภาษาอังกฤษ) ตัวจดหมาย คือ ข้อความของจดหมายซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของจดหมาย เพราะเป็นการสื่อความประสงค์ระหว่าง โดยข้อความในจดหมายปกติแล้วจะแบ่งเป็น 3 ตอน
4.1 ความนำ แสดงการแนะนำตัวหรือบอกสาเหตุ
4.2 เนื้อความ บอกวัตถุประสงค์
4.3 สรุป เขียนสรุปเรื่องหรือความมุ่งหวังในอนาคต
5.Complimentary Close (คำลงท้ายจดหมายภาษาอังกฤษ) เมื่อเขียนจดหมายจบแล้ว ต้องมีคำลงท้าย ซึ่งมีหลายแบบขึ้นอยู่กับผู้รับ สำหรับที่นิยมกันโดยทั่วไปได้แก่
Yours sincerely, Sincerely yours, Sincerely, = ด้วยความจริงใจ
With love,With much love,Love, = ด้วยความรัก
6. Signature (การลงนามจดหมายภาษาอังกฤษ) การ ลงนามของผู้เขียนจดหมาย แสดงให้รู้ว่าใครเป็นผู้เขียนจดหมายนั้น ถ้าเป็นจดหมายส่วนตัว อาจเขียนชื่อหรือทั้งชื่อและนามสกุลในลักษณะหวัด หรือหวัดแกมบรรจง หรืออาจเป็นลายเซ็น (สำหรับบุคคลที่คุ้นเคยมาก ๆ) แต่สำหรับจดหมายธุรกิจนั้น ถัดจากคำลงท้ายจะเป็นลายเซ็น ถัดลงมาจะเป็นชื่อนามสกุลตัวบรรจง ถัดจากชื่ออาจเป็นตำแหน่ง
ถึงรูปชั่วใจช่วงเหมือนดวงเดือนหมายความว่าอย่างไร
ทำหน้ามู่ทู่ หมายความว่าอย่างไร
หัวใจชายหนุ่มเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร
งานฤดูหนาวหมายถึงอะไร