วันนี้สิ่งที่ "ขอบสนาม" อยากนำเสนอก็คือการพาทุกท่านไปยลโฉม 5 ผู้เล่นมิดฟิลด์ตัวตัดเกมที่มีไว้แล้วอุ่นใจสุดๆ จะมีใครบ้างไปดูกัน
โรดรี้ - แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ถูกมองไว้ว่าเป็นตัวแทนของ แฟร์นานดินโญ่ ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สำหรับ โรดรี้ เอร์นานเดซ และตลอด 3 ฤดูกาลที่ผ่านมาเขาก็รับผิดชอบบทบาทและหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดีกับการสกัดกั้นและทำลายจังหวะเกมของคู่แข่งบริเวณกลางสนาม ดังนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเขาจะได้รับฉายาว่า "นิว เซร์คิโอ บุสเก็ตส์" พร้อมกับเป็นส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, ลีก คัพ 2 สมัย
การมีเขาคอยยืนคุมจังหวะตรงกลางสนามทำให้เหล่าบรรดาผองเพื่อนเล่นกันได้สบายมากขึ้นทั้งเกมรับและเกมรุก และนอกจากทักษะในการปัดกวาดเกมของคู่แข่งแล้ว โรดรี้ ยังมีสกิลที่เด็ดดวงในเรื่องของการสร้างสรรค์เกมด้วยทั้งการครองบอล พาบอลเคลื่อนไปข้างหน้า และการผ่านบอลที่หวังผลได้ทั้งในระยะสั้นและระยะไกล จัดว่าเป็นนักเตะมากพรสวรรค์อีกคน
คาเซมิโร่ - เรอัล มาดริด
ที่ เรอัล มาดริด ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสโมสรที่มีแผงกองกลางที่แน่นและแข็งแกร่งที่สุดในโลกส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะการมี คาเซมิโร่ เป็นหนึ่งในแกนหลัก เขาอาจไม่ใช่นักเตะที่ถูกพูดถึงมากนักแต่ก็จัดว่าเป็นผู้เล่นที่ผลงานดีและมาตรฐานคงเส้นคงวามากที่สุดในเหล่าบรรดาก๊วน "ราชันชุดขาว" เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนักเตะผู้ปิดทองหลังพระคนหนึ่งในยุคนี้ แน่นอนว่าการมีเขาอยู่ในทีมโคตรจะรู้สึกอุ่นใจเลย
ถ้าจะให้บรรยายถึงสรรพคุณของ คาเซมิโร่ ก็คงเป็นเรื่องความดุดันและการทุ่มเทอย่างสุดตัว นี่คือนักเตะที่มีพละกำลังทางกายภาพเหลือเฟือ คล่องแคล่วคล่องตัว เข้าถึงบอลไว หน้าที่ของเขาคือการคุมจังหวะเกมและคอยสกัดกั้นและปัดกวาดเกมรุกของศัตรู และด้วยแววที่ฉายได้ดีมาตลอดมันก็ทำให้เขาได้รับการยกย่องและเทียบชั้นแข้งดังๆ รายอื่นในตำแหน่งเดียวกันไม่ว่าจะเป็น เอ็นโกโล่ ก็องเต้ หรือ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์
ดีแคลน ไรซ์ - เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
มีดีกรีเป็นตัวมิดฟิลด์ตัวรับ ทีมชาติอังกฤษ และตอนนี้กำลังเนื้อหอมสุดๆ เพื่อ ดีแคลน ไรซ์ กำลังตกเป็นเป้าหมายการเสริมทัพของหลายทีมดังไม่ว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี และอีกมากมาย ด้วยสไตล์การเล่นเกมรับที่แข็งแกร่ง มีความแน่นอนสูงในเรื่องการเข้าบอลและการตัดเกม ไหนจะมีเทคนิคที่ดีและหวังผลได้จากลูกยิงไกล นั่นจึงทำให้เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นมิดฟิลด์ตัวรับที่ดีที่สุดคนหนึ่งของอังกฤษในยุคนี้
การมี ดีแคลน ไรซ์ อยู่ในสนามแน่นอนว่าสามารถสร้างความอุ่นใจให้กับเพื่อนทีมได้ไม่น้อย แต่ในทางกลับกันเรื่องอนาคตก็อาจทำให้แฟนบอล เวสต์แฮม ยูไนเต็ด รู้สึกหวั่นใจไม่ใช่น้อย ถึงสโมสรจะไม่ยอมปล่อยตัวไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน แต่ก็มีข่าวลือหนาหูมากๆ ตัวของ ดีแคลน ไรซ์ เองอยากย้ายออกจากทีมเต็มแก่แล้วเพื่อเพิ่มโอกาสในการคว้าความสำเร็จให้ตัวเอง
เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ - บาร์เซโลน่า
เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ได้ก้าวขึ้นชั้นผู้เล่นระดับตำนานของ บาร์เซโลน่า ไปแล้วซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรถ้าได้เห็นที่สิ่งที่เจ้าตัวแสดงบนพื้นสนาม เขาอาจไม่ได้มีความเร็วเป็นจุดเด่นเหมือนนักเตะสเปนคนอื่น แต่ด้วยทักษะชั้นเชิงระดับสูงและมันสมองที่อัจฉริยะ การตอบโต้และเปลี่ยนจังหวะของเกม การเอาตัวรอดได้ดียามโดนกดดัน การผ่านบอลที่แม่นยำในทุกระยะนั่นจึงทำให้เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะที่พิเศษกว่านักเตะคนอื่นๆ
เช่นเดียวกับเรื่องของการทำลายจังหวะและตัดเกมของคู่แข่งก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ทำได้ดีและหวังผลได้มากเลยทีเดียว อย่างที่บอลว่าไปว่าพี่แกไม่ได้มีความเร็วเป็รนจุดเด่น แต่ทุกคนที่ศัตรูได้บอลบริเวณกลางสนามเขาจะไป จ๊ะเอ๋ ปรากฏถึงที่อยู่เสมอ แน่นอนว่าเขาคือจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ช่วยให้ บาร์เซโลน่า กอบโกยความสำเร็จได้มากมายตลอดช่วงที่ผ่านมา
เอ็นโกโล่ ก็องเต้ - เชลซี
เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ได้รับการยกย่องว่ามิดฟิลด์ตัวรับที่ดีที่สุดในโลกลูกหนังยุคปัจจุบัน ถึงตัวจะเล็กจิ๊ดเดียวแต่ขอบอกเลยว่าเรื่องคุณภาพนั้นใหญ่เกินตัวเป็นสิบๆ เท่า โดยเฉพาะเรื่องของการตัดเกมและทำลายจังหวะของคู่แข่งที่แม่นยำสุดๆ แน่นอนว่าเราทุกคนคุ้นชินอยู่แล้วกับการวิ่งได้ไม่มีหมดและไล่เพรสซิ่งไล่บี้ศัตรูไปทั่วทุกพื้นที่ในสนาม เรียกได้ว่าบอลอยู่ไหนก็จะเห็นชายคนนี้อยู่ตรงนั้นเสมอ
การมี เอ็นโกโล่ ก็องเต้ อยู่ในสนามจะชวนให้เพื่อนร่วมทีมรู้สึกอุ่นใจได้มาก เพราะบทบาทและสิ่งที่พี่แกทำให้เห็นอยู่เป็นประจำนั้นมันสามารถแบ่งเบาและช่วยรักษามาตรฐานของผู้เล่นเกมรับได้เป็นอย่างดี เผลอๆ ยังแอบให้ความรู้สึกว่ามีผู้เล่นที่ 12 ในสนามด้วยซ้ำไป แน่นอนว่าการที่ เชลซี ยังคงได้ชื่อว่าเป็นทีมที่เกมรับแข็งที่สุดทีมหนึ่งในยุคนี้ส่วนหนึ่งก็คือการมีเขาอยู่ในทีมนั่นเอง
ซึ่งเมื่อเรามองเกมฟุตบอลในสนาม นักเตะทั้ง 11 คน ต่างมีความสำคัญอย่างมาก แทบจะทุกตำแหน่ง แต่จะมีอยู่ตำแหน่งหนึ่ง ที่เรียกได้ว่ามีความสำคัญมากถึงมากที่สุดเลยก็ว่าได้ นั้นก็คือ ตำแหน่งกองกลางโดยตำแหน่งห้องเครื่องของทีม เมื่อเล่นเกมรุกจะต้องพาบอลไปข้างหน้า เพื่อจ่ายให้กองหน้าทำประตู หรือสร้างสรรค์เกมไปที่ด้านข้างให้ปีกทั้งสองฝั่งได้ใช้ฟุตบอลจากริมเส้นในการโจมตี
และเมื่อเล่นเกมรับ ตำแหน่งกองกลาง จะต้องเป็นนักเตะที่คอยไล่บี้ คอยเข้าปะทะตั้งแต่จังหวะแรกของการครองบอล ของฝ่ายตรงข้าม เพื่อไม่ให้คู่แข่งทำเกมขึ้นมาบุกได้
ดังนั้นคุณสมบัติของกองกลางที่ดี ต้องมีทั้งความขยันที่พร้อมจะวิ่งไล่บอลจากคู่แข่ง และเทคนิคการสร้างสรรค์เกมอย่างอัจฉริยะเพื่อให้กองหน้าสามารถทำประตูได้ ซึ่งจะนำมาสู่ชัยชนะของทีม
10 อันดับกองกลางฟอร์มแรง
ในปัจจุบัน นักเตะตำแหน่งกองกลางนั้นทั่วโลกมีอยู่หลายแสนคน และมีหลายประเภท ทั้งประเภทเกมรุก ที่คอยเป็นเพลเมกเกอร์ของทีม ประเภทเกมรับ ที่เป็นกองกลางตัวรับ ยืนอยู่ด้านหน้าของคู่เซนเตอร์ฮาร์ฟ เพื่อเป็นด่านแรกที่ตัวรุกจากฝั่งตรงข้ามต้องดวลก่อน
ซึ่งมันไม่ง่ายเลยที่จะสามารถจัดอันดับ 10 นักเตะที่ดีที่สุดได้ แต่ในวันนี้ เราได้รวบรวมทั้งสถิติการรับ – ส่งบอลในสนาม การทำประตู การเปิดบอล และที่สำคัญในตำแหน่งกองกลางคือการส่งบอลให้เพื่อนทำประตูได้ การสร้างโอกาสทำประตูในสนาม รวมไปถึงรางวัลส่วนตัว ทั้งทีมชาติและสโมสร เรามาดูกันว่า ใคร จะเป็นผู้เล่นอยู่ตรงกลางสนามที่เก่งที่สุด ในปัจจุบัน
อันดับที่ 10 : มาร์โก แวรัตติ (ปารีส แชงส์ เณอแมงส์)
กองกลางทีมชาติอิตาลีย้ายมาค้าแข้งกับ ปารีส แชง เณอแมงส์ เกือบ 10 ปีแล้วที่แวรัตติ ได้โชว์ฝีเท้าอันยอดเยี่ยมที่ฝรั่งเศส และปัจจุบันก็ยังคงเป็นแบบนั้น ด้วยการประสานงานกับกองหน้า และปีกดาวดัง ทีมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยซูเปอร์สตาร์ของโลก ทั้งเนย์มาร์, คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้, อังเคล ดิ มาเรีย ทำให้การสร้างโอกาสทำประตูของเขาไม่เสียเปล่าเลย
ด้วยสกิลทั้งเกมรับและเกมเขาสามารถเล่นได้อย่างลงตัว ถือว่าเป็นกองกลางที่สมบูรณ์แบบคนหนึ่งของโลกเลยทีเดียว และล่าสุดสามารถพาทีมเปแอสเซ คว่ำบาร์เซโลน่า ทะลุเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ
อันดับ 9 : แฟรงกี้ เดอ ยอง (บาร์เซโลน่า)
หลังจากการเริ่มต้นที่ยากลำบากในถิ่น คัมป์ นู แฟรงกี้ เดอ ยอง นักเตะกองกลางดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดคนหนึ่งในวงการฟุตบอลโลก ที่ได้เลือกย้ายจากอาแจกซ์ อัมเตอร์ดัม มาซบบาร์เซโลน่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ในปัจจุบันเขาได้ถูกวางว่าเป็นทายาท ตัวตายตัวแทน ของทั้งซาเวียร์ เฮอร์นันเดส และอังเดร อินเนสต้า สองโคตรกองกลางตำนานของบาร์เซโลน่า ในตัวคนคนเดียวไปแล้ว
นักเตะวัย 23 ปี มีสถิติได้สัมผัสและผ่านบอลให้กับผู้เล่นในทีม มากกว่านักเตะคนอื่น ๆ ในสนามและสร้างสถิติการจ่ายบอลที่สุดแม่นยำ โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ผ่านบอลสำเร็จ ถึง 92% ในหนึ่งนัด และสร้างโอกาสเปิดบอลแม่นยำมากกว่าผู้เล่นคนอื่น ๆ อยู่เป็นประจำ
สถิติเหล่านี้เปรียบเสมือนเครื่องการันตีแล้วว่า ดาวรุ่งผู้นี้พร้อมแล้วที่จะเป็นฐานกำลังใหม่ของทีมต่างดาว ซึ่งเคยรุ่งโรจน์มาแล้วในอดีตด้วยการใช้ผู้เล่นกองกลางเป็นเครื่องผลิตสกอร์
อันดับที่ 8 : เลออน กอร์เร็สก้า (บาเยิร์น มิวนิค)
นักเตะดาวรุ่งรายหนึ่งเมื่อปี 2019 ได้ย้ายเข้ามาร่วมทีม “เสือใต้” บาร์เยิร์น มิวนิค ด้วยการเซ็นสัญญานักเตะแบบฟรี ๆ ซึ่งใครจะไปคิดว่านักเตะรายนี้จะสามารถพัฒนาตัวเองภายในไม่กี่ปีขึ้นมาเป็นกองกลางระดับแถวหน้าของโลก ซึ่งส่วนใหญ่มาจากระบบการฝึกซ้อมและแนวทางการพัฒนานักเตะของสโมสร จนบาร์เยิร์น มิวนิค สามารถสร้างทีมที่ยากจะโค่นล้มในแต่ละปี การันตีจากแชมป์ลีก 8 สมัยรวด และได้ปลุกปั้นพลังแผงในตัวกอร์เร็สก้า จนตื่นขึ้นมาเป็นกองกลางที่มีทั้งความเร็ว และสามารถพังประตูได้อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งปัจจุบันเขาได้ซัดไปแล้ว 8 ประตูและจ่ายให้เพื่อนยิงอีก 9 แอสซิสต์ จากการลงเล่นที่ 29 นัด
อันดับที่ 7 : เอ็นกอโล่ กองเต้ (เชลซี)
“หากมีใครสักกล้าพูดออกมาว่าเขานั้นไม่ชอบกองเต้ จงอย่าเชื่อใจบุคคลนั้น” นี่คือประโยคเล่าถึงความดีงามของกองกลางแชมป์โลกรายนี้ ซึ่งเขานั้นมีนิสัยที่อ่อนโยน ขี้อาย ไม่ถือตัว และเป็นมิตรกับเพื่อนชาวโลกทุกคน
ไม่เพียงแต่กองกลางจอมขยันของเชลซีรายนี้จะเป็นบุคคลที่น่าคบหาที่สุดในโลก แต่เขายังเป็นหนึ่งในกองกลางที่สามารถครองบอลได้ดีที่สุดในโลกอีกด้วย และมีสถิติการเข้าปะทะที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ที่สำคัญกองเต้ได้วิ่งพลานในสนามรวมแล้วมากกว่า10 กิโลเมตร ต่อเกมเลยทีเดียว เท่ากับว่าเมื่อทีมได้เสียบอลให้กับฝ่ายตรงข้าม กองเต้จะวิ่งไล่บอลจนสุด จะเข้าหาบอลอยู่ตลอดจนกว่าบอลลูกนั้นจะกลับมาอยู่กับเท้าของผู้เล่นฝั่งตนเอง
จนผู้คนมองว่าเขานั้นได้อยู่ทุกที่บนสนามราวกับว่ามีเขาอีก 10 คนคอยวิ่งไล่บอลอยู่ซะอย่างงั้น นี่คือกองกลางตัวรับที่อยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลกอย่างแท้จริง