Soundbar ยี่ห้อ ไหน ดี 2023

หากเรากำลังมองหาเครื่องเสียงสักเครื่องไว้ใช้ในบ้านก็อาจสะดุดตาอยู่กับอุปกรณ์รูปร่างแปลกตาอย่างซาวด์บาร์เสียงดีที่พบเห็นได้มากมายในปัจจุบัน จนพาลให้สงสัยว่าเจ้าเครื่องเสียงชนิดนี้จะน่าใช้กว่าลำโพงหรือชุดเครื่องเสียงโฮมเธียเตอร์หรือไม่ เรทราคาเอื้อมถึงได้หรือเปล่า รวมทั้งจะมี Soundbar ยี่ห้อไหนดีให้เราเลือกใช้ได้บ้าง คราวนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้และซาวด์บาร์ยี่ห้อไหนดีที่น่าสนใจกัน

หัวข้อต่างๆ ของบทความนี้

1. TCL Soundbar รุ่น TS7010

ซื้อสินค้าที่นี่

เริ่มกันด้วยซาวด์บาร์เสียงดีจาก TCL Soundbar รุ่น TS7010 ที่ให้เสียงเต็มคุณภาพด้วยระบบ Dolby Audio มาตรฐานเดียวกับโรงภาพยนตร์ ให้คุณได้เพลิดเพลินและดื่มด่ำกับอรรถรสของคุณภาพเสียงที่ได้อย่างเต็มที่ พร้อมเสียงเบสอันทรงพลังจากซับวูฟเฟอร์ขนาด 6.5 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้งช่องต่อทั้งจากสาย HDMI ช่องเสียบ USB และการเชื่อมต่อไร้สายผ่านบลูทูธ

ด้วยราคาระดับกลางที่ไม่เกินเอื้อมบวกกับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้หลากหลาย รองรับการใช้งานกับสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ปรับเปลี่ยนโหมดเสียงตามประเภทเนื้อหาที่รับชมได้อย่างง่ายดายด้วยรีโมท ทำให้ TCL Soundbar รุ่น TS7010 กลายเป็นซาวด์บาร์รุ่นคุ้ม ๆ ที่จัดเต็มด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลายคนชื่นชอบ

  • คุณสมบัติ: ระบบเสียง Dolby Audio มาตรฐานโรงภาพยนตร์ให้เสียงทรงพลัง รองรับการใช้งานไร้สาย
  • ระบบเสียง: Dolby Surround
  • ขนาด: 920 x 64 x 98mm (soundbar) with subwoofer
  • จำนวนแชนแนล: 2.1 ch
  • กำลังขับเคลื่อนเสียง: 320W
  • พอร์ตเชื่อมต่อไร้สาย: Bluetooth
  • ราคาเริ่มต้น: ฿4,990

2. Creative Stage Air Soundbar

ซื้อสินค้าที่นี่

สำหรับ Soundbar ยี่ห้อไหนดีตัวนี้ เราจะดูแค่ราคาและขนาดไม่ได้เลยกับ CREATIVE Stage Air Soundbar ที่แม้จะมาด้วยสนนราคาจิ๊บ ๆ ที่ 1,350 บาท และตัวเครื่องขนาดกะทัดรัดยาวเพียง 41 ซม. แต่ตัวซาวด์บาร์เสียงดีตัวนี้ให้เสียงได้กระหึ่มเกินตัว ด้วยชาแนล 2.0 และระบบเสียง clear dialog ให้เสียงใสสมคุณภาพ ทั้งยังเชื่อมต่อได้ทั้งแบบ USB AUX และเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth เรียกได้ว่าตอบโจทย์และครบครันสุด ๆ

ด้วยขนาดของตัวซาวด์บาร์ที่มาในรูปลักษณ์มินิมอลสุด ๆ ทำให้ซาวด์บาร์เสียงดีตัวนี้เหมาะมาก ๆ กับการตั้งบนโต๊ะทำงานหรือใช้คู่กับคอมพิวเตอร์ ที่จะช่วยให้เหลือพื้นที่ใช้งานเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ด้วยการชาร์จไฟหนึ่งครั้งยังสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 6 ชั่วโมง ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานแบบเบา ๆ ได้ด้วยสนนราคาที่เป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์แบบสุด ๆ

  • คุณสมบัติ: ขนาดกะทัดรัดเหมาะใช้วางคู่คอมพิวเตอร์ ให้เสียงกระหึ่มเกินตัว ใช้งานต่อเนื่องสูงสุด 6 ชั่วโมง
  • ระบบเสียง: Clear Dialog
  • ขนาด: 410 x 78 x 70 mm (soundbar)
  • จำนวนแชนแนล: 2.0 ch
  • กำลังขับเคลื่อนเสียง: 20W
  • พอร์ตเชื่อมต่อไร้สาย: Bluetooth 4.2, A2DP
  • ราคาเริ่มต้น: ฿1,350

3. Klipsch BAR 40 Soundbar Speaker

ซื้อสินค้าที่นี่

มาถึงซาวด์บาร์จาก Klipsch รุ่น BAR 40 ที่มาพร้อมคุณสมบัติเครื่องเสียงทรงพลัง ด้วยไดรเวอร์ที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวช่วยขับย่านเสียงกลางให้ละเอียดใส รายละเอียดดนตรีคมชัดมาตรฐานเดียวกับโรงภาพยนตร์ แม้จะเป็นตัวลำโพงที่เล่นจากเครื่องก็ให้เสียงคมกริบมีไดนามิกชัดได้ และด้วยกำลังขับเสียงที่สูงถึง 320W ช่วยให้ได้เสียงที่ทรงพลังสุด ๆ

นอกจากนี้ตัวเครื่องยังผลิตจากวัสดุลายไม้สีดำดูหรูหรา มาพร้อมซับวูฟเฟอร์ช่วยดึงพลังเบสให้กระแทกได้ถึงอารมณ์ เหมาะสำหรับการฟังทั้งเพื่อความบันเทิงดูหนังฟังเพลง โดยเฉพาะแนวเพลงยังสนับสนุนในทุกแนว ไม่ว่าจะเป็นคลาสสิค ป๊อบ ร็อก R&B หรือ EDM ก็เรียกว่าตัวเดียเอาอยู่ทั้งหมด และด้วยราคาต่ำหมื่นที่ครบด้วยคุณสมบัติการให้เสียงแบบนี้ก็นับว่าเหมาะสุด ๆ กับการใช้เพื่อความบันเทิงในบ้าน

  • คุณสมบัติ: ลำโพงซับวูฟเฟอร์มาพร้อมวัสดุไม้สุดหรู ควบคุมผ่านรีโมทไร้สาย ให้คุณภาพเสียง Dolby Atmos ขนาด 320W เสียงทรงพลังคมชัด
  • ระบบเสียง: Dolby Atmos
  • ขนาด: 1014 x 73 x 86 mm (soundbar) / 241 x 359 x 241 mm (subwoofer)
  • จำนวนแชนแนล: 2.1 ch
  • กำลังขับเคลื่อนเสียง: 320W
  • พอร์ตเชื่อมต่อไร้สาย: Bluetooth 4.2
  • ราคาเริ่มต้น: ฿9,990

4. Samsung Soundbar T400 รุ่น HW-T400/XT

ซื้อสินค้าที่นี่

เป็นซาวด์บาร์จากแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังจากเกาหลีที่ดีกรีความน่าใช้งานไม่น้อยหน้ากว่าใคร ซึ่งคราวนี้มาพร้อมกับ SAMSUNG Soundbar T400 รุ่น HW-T400/XT ซาวด์บาร์รุ่นเบา ๆ กับแรงขับ 40W แต่ให้กำลังเสียงกระหึ่มทรงพลังไม่แพ้ซาวด์บาร์รุ่นใหญ่ ให้เสียงละเอียดครบทุกเครื่องดนตรี ด้วยมาตรฐานระบบเสียง Dolby Digital 2.0, DTS 2.0 แบบเดียวกับโรงภาพยนตร์ ช่วยรังสรรค์พื้นที่เล็ก ๆ ในบ้านเพื่อตอบสนองความต้องการด้านความบันเทิงได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ตัวเครื่องเป็นชิ้นเดียวแบบมินิมอล ติดตั้งและจัดวางได้ง่าย สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งจาก USB, Optical TOSLINK รวมถึงการเชื่อมต่อไร้สายแบบบลูทูธ ควบคุมได้สะดวกด้วยรีโมทคอนโทรล และสามารถปรับเป็นโหมดเกมที่เชื่อมต่อโดยอัตโนมัติเมื่อมีการเล่นเกมได้แบบสะดวกสุด ๆ

  • คุณสมบัติ: ขนาดกะทัดรัด ราคาน่าคบ สามารถปรับเป็น Game Mode อัตโนมัติเมื่อเชื่อมต่อกับเกมส์ได้
  • ระบบเสียง: Dolby Digital 2.0, DTS 2.0
  • ขนาด: 641 x 65 x 107 mm (soundbar)
  • จำนวนแชนแนล: 2.0 ch
  • กำลังขับเคลื่อนเสียง: 40W
  • พอร์ตเชื่อมต่อไร้สาย: Bluetooth, NFC Connection
  • ราคาเริ่มต้น: ฿2,990

5. Samsung Soundbar T420 รุ่น HW-T420

ซื้อสินค้าที่นี่

หาก SAMSUNG Soundbar T400 นั้นไม่ชุ่มฉ่ำหัวใจพอ ลองดู Samsung Soundbar T420 ซาวด์บาร์ที่ขยับสเป็กขึ้นมาอีกนิด แต่กินขาดด้วยกำลังขับสูงสุด 150W ที่ให้พลังเสียงอย่างทรงพลัง ขับเสียงเบสให้หนักแน่นขึ้นด้วยตู้ซับวูฟเฟอร์ที่แยกมาเพื่อให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ ให้เสียงกระหึ่ม ละเอียดใส คมชัดในทุกย่านเสียงด้วยราคาเบา ๆ ที่ ฿3,090 เท่านั้น

ตัวเครื่องมาพร้อมกับการเชื่อมต่อทั้งจาก USB, Optical TOSLINK รวมถึงการเชื่อมต่อไร้สายจากบลูทูธ ด้วยขนาดซาวด์บาร์กว้างจึงเหมาะกับทีวีขนาด 35 นิ้วขึ้นไป

  • คุณสมบัติ: Game Mode ตอบโจทย์สายเกมเมอร์ ควบคุมสะดวกด้วยรีโมทเดียว ฟังก์ชันเสียงอัจฉริยะ ตามกิจกรรมที่ฟัง
  • ระบบเสียง: Dolby Digital 2ch / DTS 2.0
  • ขนาด: 860.0 x 54.0 x 74.0 mm (soundbar) / 181.5 x 343.0 x 272.0 mm (subwoofer)
  • จำนวนแชนแนล: 2.1ch
  • กำลังขับเคลื่อนเสียง: 150W
  • พอร์ตเชื่อมต่อไร้สาย: Bluetooth
  • ราคาเริ่มต้น: ฿3,090

6. LG Sound Bar รุ่น SL5Y

ซื้อสินค้าที่นี่

อีกหนึ่งแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังจากเกาหลีที่มาพร้อมกับ LG Sound Bar รุ่น SL5Y ที่ดีไซน์รูปลักษณ์ออกมาอย่างหรูหรา ตัวซาวด์บาร์บางเฉียบ สูงเพียง 5.7 เซนติเมตรเท่านั้น แต่ครบครันด้วยคุณสมบัติการเล่นเสียงด้วยกำลังขับเคลื่อนเสียงสูงถึง 400W สามารถขับเสียงแบบ Hi-Rise ได้สูงถึง 24bit/96KHz High บวกรวมกับซับวูฟเฟอร์แบบไร้สาย ให้กำลังเสียงเบสได้แบบแน่น ๆ ควบคุมการทำงานได้อย่างง่ายดายด้วยรีโมทคอนโทรล ทั้งยังรองรับการเล่นเพลงจากแอป Music Flow Bluetooth ที่ช่วยให้เล่นและควบคุมเสียงได้ง่ายดาย รองรับทุกการใช้งานจริง ๆ

  • คุณสมบัติ: มีการออกแบบที่หรูหรา ให้เสียงแบบ Hi-Res กำลังขับสูง 400W ควบคุมการทำงานได้ด้วยรีโมทและแอป
  • ระบบเสียง: DTS Virtual : X
  • ขนาด: 890 x 57 x 85 mm (soundbar) / 171.0 x 393.0 x 248.5 mm (subwoofer)
  • จำนวนแชนแนล: 2.1 ch
  • กำลังขับเคลื่อนเสียง: 400W
  • พอร์ตเชื่อมต่อไร้สาย: Bluetooth ไม่ระบุเวอร์ชั่น
  • ราคาเริ่มต้น: ฿5,990

7. Xiaomi TV Speaker Soundbar Theater

ซื้อสินค้าที่นี่

มาถึงฝั่งเครื่อใช้ไฟฟ้าฝั่งจีนที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นในประเทศไทย จากคุณภาพที่คุ้มค่าคุ้มราคาพร้อมกับสนนราคาค่าตัวที่เอื้อมถึงได้ Xiaomi TV Speaker Soundbar Theater ก็ไม่ทิ้งคอนเซปต์นั้นด้วยซาวด์บาร์เสียงดีที่มาพร้อมกับกำลังขับเคลื่อนเสียงที่สูงถึง 100W และระบบเสียงแชแนล 2.1 ที่ประกอบด้วยลำโพงหลักและซับวูฟเฟอร์ ให้เสียงใสแต่กระหึ่มด้วยกำลังขับ เน้นเสียงเบสได้แบบแน่น ๆ ทั้งยังเชื่อมต่อได้หลากหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็น Coaxial, AUX, Optical รวมไปถึงการเชื่อมต่อแบบไร้สายจาก Bluetooth 5.0

  • คุณสมบัติ: ให้กำลังขับสูง 100W คุณภาพเกินราคา
  • ระบบเสียง: N/A
  • ขนาด: 900 x 63 x 102 mm (soundbar) / 240 x 240 x 306 mm (subwoofer)
  • จำนวนแชนแนล: 2.1 ch
  • กำลังขับเคลื่อนเสียง: 100W
  • พอร์ตเชื่อมต่อไร้สาย: Bluetooth 5.0
  • ราคาเริ่มต้น: ฿2,970

8. Xiaomi Redmi Bluetooth TV Speaker Soundbar

ซื้อสินค้าที่นี่

อีกหนึ่งซาวด์บาร์จาก Xiaomi Redmi ที่มาด้วยราคาเบา ๆ ต่ำ 1,000 บาท แต่อัดแน่นและครบถ้วนด้วยคุณสมบัติเครื่องเสียงที่จำเป็นและคุณภาพสูง ภายในอัดแน่นด้วยไดรเวอร์ขับเสียงแบบ Full Range ด้วยกำลังขับ 30W และระบบเสียง Clear Dialog ขับเสียงได้กระหึ่ม ครบทุกย่านเสียง สามารถเชื่อมต่อกับช่องทางได้หลากหลาย ทั้ง S/PDIF และ AUX รวมถึงการเชื่อมต่อไร้สายผ่านบลูทูธ 5.0 สามารถวางได้ทั้งแบบเคาท์เตอร์หรือติดผนัง ด้วยขนาดกะทัดรัด เหมาะกับทุกความบันเทิงในบ้าน

  • คุณสมบัติ: มาพร้อมเสียงคุณภาพสูงที่ผ่านการปรับแต่งโดย Acoustic Engineer เพื่อปรุงแต่งเสียงให้มีความชัดเจนและสบายหูมากที่สุด
  • ระบบเสียง: Clear Dialog
  • ขนาด: 780 x 63 x 64 mm (soundbar)
  • จำนวนแชนแนล: N/A
  • กำลังขับเคลื่อนเสียง: 30W
  • พอร์ตเชื่อมต่อไร้สาย: Bluetooth 5.0
  • ราคาเริ่มต้น: ฿999

9. AJ SB-103 Soundbar Speaker

ซื้อสินค้าที่นี่

กลับมาที่ซาวด์บาร์เสียงดีที่เป็นแบรนด์ไทยกันบ้างกับ AJ SB-103 Soundbar Speaker ที่มาพร้อมกับดีไซน์หรูหรา เข้ากับการใช้งานอย่างลงตัว ให้เสียงดังกระหึ่มประทับใจทุกการใช้งานด้วยลำโพงซาวด์บาร์กำลังขับ 15W x4 (RMS) พร้อมด้วยซับวูฟเฟอร์ขับเสียงเบสแน่น ๆ เชื่อมต่อได้ทั้งจาก AUX , COAXIAL , OPTICAL รวมถึงการเชื่อมต่อไร้สายผ่านบลูทูธ ตอบทุกโจทย์การใช้งาน

  • คุณสมบัติ: รับสัญญาณวิทยุ FM ให้คุณภาพเสียงดังกระหึ่ม ประทับใจ เต็มอารมณ์ทุกความบันเทิง
  • ระบบเสียง: N/A
  • ขนาด: 1005 x 128 x 120 mm (soundbar) / 352 x 252 x 390 mm (subwoofer)
  • จำนวนแชนแนล: 2.1 ch
  • กำลังขับเคลื่อนเสียง: 15W x4 (RMS)
  • พอร์ตเชื่อมต่อไร้สาย: Bluetooth
  • ราคาเริ่มต้น: ฿3,990

10. JBL Soundbar 9.1

ซื้อสินค้าที่นี่

มาถึงตัวสุดท้ายกับคุณสมบัติด้านพลังเสียงที่อัดแน่นเต็มรูปแบบกับ JBL Soundbar 9.1 True Wireless Surround with Dolby Atmos® ที่มาพร้อมกับระบบเสียง Dolby Atmos, DTS:X พลังขับ 820W มาตรฐานสูงเทียบเท่าโรงภาพยนตร์ ด้วยชาแนล 5.4.1 ที่ประกอบด้วย ลำโพงซาวน์บาร์ไร้สายแบบไฮเอนด์ พร้อมซับวูฟเฟอร์ และรีโมทควบคุมได้จากระยะไกล รองรับสัญญาณทั้งจาก 5G Chromecast และ AirPlay2 เรียกได้ว่ามาตรฐานการให้เสียงเทียบเท่าโฮมเธียเตอร์จนเหมือนการยกโรงภาพยนตร์มาไว้ในบ้านได้ด้วยการวางซาวด์บาร์ตัวเล็ก ๆ ตัวนี้ไว้แค่ตัวเดียวเลย

  • คุณสมบัติ: ระบบเสียง 3D รอบทิศทาง 5.1.4 ch รองรับการใช้งานแบบไร้สาย
  • ระบบเสียง: Dolby Atmos, DTS:X
  • ขนาด: 884 x 62 x 120mm (soundbar) / 305 x 440 x 305mm (subwoofer)
  • จำนวนแชนแนล: 5.1.4 ch
  • กำลังขับเคลื่อนเสียง: 820W
  • พอร์ตเชื่อมต่อไร้สาย: Bluetooth 4.2, Google Chromecast, Apple Airplay 2
  • ราคาเริ่มต้น: ฿29,900

ใช้เครื่องเสียงตัวอื่นได้ไหมทำไมต้อง Sound Bar

เครื่องเสียงในท้องตลาดที่เราพบเห็นได้บ่อยก็คงหนีไม่พ้นลำโพงทั่วไปที่มีข้อจำกัดเรื่องคุณภาพเสียงและชุดเครื่องเสียงโฮมเธียเตอร์ที่จำเป็นต้องติดตั้งอย่างดี แต่สำหรับซาวด์บาร์เสียงดี ๆ แล้วเป็นเหมือนสิ่งที่อยู่ตรงกลางของอุปกรณ์ทั้งสอง นั่นคือเป็นอุปกรณ์ที่รวมคุณสมบัติการให้เสียงของลำโพงชนิดต่างๆ เอาไว้ โดยที่คงความเรียบง่ายสไตล์มินิมอลแบบชิ้นเดียวอยู่ไว้ได้ ทำให้สามารถเป็นเครื่องเสียงที่วางไว้ในบ้านได้แบบไม่ดูแปลกแยก ในขณะที่ก็สามารถให้พลังเสียงเพื่อเติมเต็มประสบการณ์ดูหนังฟังเพลงได้อย่างเต็มที่

ดังนั้นจุดเด่นเลยของตัวซาวด์บาร์ก็คงหนีไม่พ้นคุณสมบัติในการประหยัดพื้นที่และติดตั้งง่าย สามารถวางไว้ใต้จอทีวีได้แบบไม่มีปัญหา ทั้งยังสร้างประสบการณ์บันเทิงได้อย่างเต็มที่ด้วยคุณสมบัติที่สามารถกระจายเสียงได้เป็นอย่างดี ซึ่งทั้งหมดนี้เรียกได้ว่าครบจบจริง ๆ สำหรับการใช้งานเพื่อความบันเทิงขนาดย่อมในบ้าน

เคล็ดลับเลือก Sound Bar ให้เสียงใส-แต่งบ้านสวย

เพื่อให้ได้ซาวด์บาร์เสียงดีที่ถูกใจ ก่อนที่เราจะเลือกSoundbar ยี่ห้อไหนดีกลับมาที่บ้านก็ควรต้องคำนึงถึงเคล็ดลับดังต่อไปนี้

1. ขนาดที่พอดีกับพื้นที่

จริงอยู่ที่การเลือกซาวด์บาร์ที่มีขนาดกว้างจะช่วยให้การกระจายเสียงเป็นไปได้ดี แต่หากคุณต้องการความสวยงามแล้วการเลือกซาวด์บาร์ให้มีความกว้างพอเหมาะกับหน้าจอโทรทัศน์ก็สามารถทำได้ นอกจากนี้หากต้องการวางไว้ใต้จอโทรทัศน์ก็ควรคำนวณความสูงของซาวด์บาร์ให้พอเหมาะกับพื้นที่ที่มีอยู่ด้วย

2. ชนิดของซาวด์บาร์ที่เหมาะ

เพราะซาวด์บาร์มีทั้งแบบ All-in-one ที่สามารถถ่ายทอดเสียงออกมาได้แบบ 5.1.2 หรือ 7.1.2 ชาแนล ที่ให้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม หรือซาวด์บาร์ที่มาพร้อมกับ Subwoofer หรือ เชื่อมต่อกับลำโพงแบบเซอร์ราวด์แยกมาให้ ซึ่งก็จะให้คุณภาพเสียงที่สมจริงได้มากยิ่งขึ้น แต่ก็จะมีขั้นตอนการติดตั้งเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

3. คุณสมบัติการเชื่อมต่อ

เนื่องจากตัวซาวด์บาร์มีไว้เพื่อปรับปรุงเสียงจากโทรทัศน์ให้มีคุณภาพดีขึ้น แต่ก็ยังจำเป็นต้องรับสัญญาณเสียงจากโทรทัศน์อยู่เหมือนกัน ซึ่งโทรทัศน์บางรุ่นก็ให้เอาท์พุทได้เฉพาะแค่ PCM 2.0 แต่บางรุ่นก็สามารถให้ได้ถึง 5.1 แชนเนล ขณะที่ซาวด์บาร์บางรุ่นมีช่องรับ HDMI ซึ่งเป็นประโยชน์มาก แต่หากโทรทัศน์ของคุณรองรับสัญญาณภาพสูงขนาด 4K UHD เพื่อให้รับคุณภาพเสียงได้อย่างเต็มที่ควรเช็กช่องรับสัญญาณของซาวด์บาร์ให้รองรับ HDMI 2.0a หรือ HDCP 2.2 ขึ้นไป

4. คุณสมบัติของเสียงที่ต้องการ

หากคุณต้องการซาวด์บาร์ที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีควรสังเกตรุ่นที่รองรับ Dolby Atmos และ DTS:X ซึ่งสามารถถ่ายทอดเสียงได้สมจริงกว่า และได้รับความนิยมใส่คุณสมบัตินี้ไว้ในซาวด์บาร์รุ่นใหม่ ๆ หลาย ๆ ตัว

5. รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย

หากมองหาซาวด์บาร์สำหรับเชื่อมต่อบลูทูธหรือรองรับการใช้งานแบบไร้สาย ควรหารุ่นที่รองรับบลูทูธ aptX ที่ให้คุณภาพเสียงระดับสูงไม่ทำให้เกิดเสียงที่ผิดเพี้ยนไปได้ ขณะที่รุ่นที่ใช้ระบบ DTS Play-Fi จะเป็นระบบมาตรฐานของซาวด์บาร์ทั่วไป

และเหล่านี้ก็คือบรรดา Soundbar ยี่ห้อไหนดีที่เราแนะนำในคราวนี้ ด้วยคุณภาพเสียงที่คุ้มค่าคุ้มราคาและสนนราคาค่าตัวของแต่ละเครื่องค่อนข้างหลากหลาย ซึ่งแน่นอนว่าหากคุณกำลังมองหาซาวด์บาร์เสียงดีสักตัว รีวิวซาวด์บาร์ยี่ห้อไหนดีที่เรานำมาฝากกันในคราวนี้น่าจะพอเป็นตัวเลือกในการซื้อหาได้แบบไม่ยาก นอกจากนี้หากใครอยากซื้อสมาร์ตทีวียี่ห้อไหนดีเราก็มีตัวเลือกมาให้เลือกเช่นกัน

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

flow chart แสดงขั้นตอนการปฏิบัติงาน lmyour แปลภาษา กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่เรือ การเขียน flowchart โปรแกรม ตัวรับสัญญาณ wifi โน๊ตบุ๊คหาย ตัวอย่าง flowchart ขั้นตอนการทํางาน ผู้แต่งกาพย์เห่ชมไม้ ภูมิปัญญาหมายถึง มีสัญญาณ wifi แต่เชื่อมต่อไม่ได้ เชื่อมต่อแล้ว ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ /roblox promo code redeem 3 พระจอม มีที่ไหนบ้าง AKI PLUS รีวิว APC UPS APC UPS คือ Adobe Audition Adobe Bridge Anapril 5 mg Aqua City Odaiba Arcade Stick BMW F10 jerk Bahasa Thailand Benz C63 ราคา Bootstrap 4 Bootstrap 4 คือ Bootstrap 5 Brackets Brother Scanner Brother iPrint&Scan Brother utilities Burnt HD C63s AMG CSS เว้น ช่องว่าง CUPPA COFFEE สุราษฎร์ธานี Cathy Doll หาซื้อได้ที่ไหน Clock Humidity HTC-1 ColdFusion Constitutional isomer Cuppa Cottage เจ้าของ Cuppa Cottage เมนู Cuppa Cottage เวียงสระ DMC DRx จ่ายปันผลยังไง Detroit Metal City Div class คือ Drastic Vita