ทั่วไป
23 มี.ค. 2565 เวลา 12:34 น.153.0k
เช็กเลย "สมทบประกันสังคม 2565" ลดจ่าย ม.33 เหลือ 1% , ม.39 ลงมาอยู่ 1.9% ส่วน ม.40 จ่ายเพียง 40-180 บาท
ตรวจสอบรายละเอียดและอัตราเดิม
1. ผู้ประกันตน ม.33
- นายจ้าง และลูกจ้าง ที่อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 33 ลดจ่ายเงินสมทบจากอัตราที่เท่ากัน 5% ต่อเดือน เหลือเป็น 1% ต่อเดือน เพื่อให้ลูกจ้างและนายจ้างสามารถมีกำลังในการใช้จ่ายและผู้ประกอบการสามารถมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นในการดำเนินธุรกิจในช่วงถัดไป
2. ผู้ประกันตน ม.39
- ลดอัตราเงินสมทบจาก 9% ต่อเดือน เหลือเป็น 1.9% เดือน
3. ผู้ประกันตน ม.40
ลดอัตราเงินสมทบ ลงเหลือ 42-180 บาทต่อเดือนดังนี้
- เดิมจ่ายในอัตรา 70 บาท/เดือน เหลือเป็น 42 บาท/เดือน มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน ในกรณีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย
- เดิมจ่ายในอัตรา 100 บาท/เดือน เหลือเป็น 60 บาท/เดือน มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน ในกรณีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย และกรณีชราภาพ
- เดิมจ่ายสมทบ 300 บาท/เดือน เหลือเป็น 180 บาท/เดือน มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน ในกรณีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย ชราภาพ และกรณีสงเคราะห์บุตร
ทั้งนี้ ปรับลดอัตราเงินสบทบของผู้ประกันตน 3 มาตรา ระยะเวลา 3 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่เดือนพ.ค.-ก.ค. 2565 ซึ่งหากความคืบหน้าจาก สำนักงานประกันสังคม จะรายงานให้ทราบอย่างต่อเนื่อง
ทั่วไป
07 เม.ย. 2565 เวลา 10:31 น.28.4k
บอกไว้ก่อนวางแผนเที่ยว อัปเดต "ประกันสังคม" แนะเช็ก "วันหยุด" ปี 2565 พกบัตรพร้อมดูแลอย่างไรบ้าง
เบิกค่าอะไรได้บ้าง
สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน แจ้งถึง "ผู้ประกันตน" ม.33 ม.39 และ ม.40 กรณีช่วงเวลาวันหยุดปี 2565 อัพเดตวันหยุดยาว เตรียมวางแผน ท่องเที่ยวหยุดยาวแบบสบายใจ อย่าลืม‼️ พกบัตรประจำตัวประชาชนติดตัวไว้ อุ่นใจตลอดการเดินทาง ด้วยความห่วงใย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสังคมได้ที่ (คลิก) หรือ โทรสายด่วน 1506 ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เช็ก "ประกันสังคม" ผู้ประกันตน เจ็บป่วยฉุกเฉิน-ติดโควิด ช่วงสงกรานต์ 2565
สธ.คาดโควิด19 หลัง "สงกรานต์" พุ่ง สั่งขยายเตียง สำรองยาเพิ่ม
-
"ประกันสังคม" ม.33 ม.39 ม.40 เช็กสิทธิประโยชน์ ตั้งแต่เกิด แก่ เจ็บและตาย
สำนักงานประกันสังคม ได้ให้สิทธิการรักษาในสถานพยาบาลตามมาตรฐานการให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ประกันตน โดยสถานพยาบาลมีหน้าที่ให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ประกันตนอย่างเต็มกำลังความสามารถตลอด 24 ชั่วโมง และจัดหายาเวชภัณฑ์ ครุภัณฑ์ และบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ เพื่อให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ประกันตนอย่างเพียงพอจนสิ้นสุดการรักษาโดยไม่จำกัดจำนวนเงินค่าใช้จ่าย และจำนวนครั้งที่เข้ารับการรักษา
โดยสถานพยาบาลจะไม่เก็บค่าบริการทางการแพทย์จากผู้ประกันตน โดยเฉพาะการสั่งจ่ายยาที่ใช้สำหรับผู้ประกันตนจะต้องไม่ต่ำกว่ามาตรฐานบัญชียาหลักแห่งชาติ และจะต้องจัดให้ผู้ประกันตนโดยไม่เรียกเก็บเงินเพิ่ม ในกรณีที่ผู้ประกันตนได้รับอุบัติเหตุ หรือมีอาการเจ็บป่วยรุนแรงที่มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูง สามารถเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดได้ทันที โดยไม่ถูกทวงถามสิทธิก่อนรักษา ไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลไม่ถูกบ่ายเบี่ยงการรักษา และได้รับการดูแลรักษาจนสิ้นสุดการรักษา
นอกจากสิทธิการรักษาพยาบาลแล้ว ผู้ประกันตนสามารถเบิกเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีหยุดพักรักษาตัวตามคำสั่งแพทย์ ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้าง ครั้งละไม่เกิน 90 วัน และปีละไม่เกิน 180 วัน เว้นแต่โรคเรื้อรังไม่เกิน 365 วันต่อปี อีกด้วย
สำนักงานประกันสังคมได้มีการควบคุมคุณภาพการให้บริการของสถานพยาบาลในระบบประกันสังคม โดยมีการตรวจประเมินคุณภาพของสถานพยาบาลเป็นประจำทุกปี เพื่อตรวจสอบความพร้อมของสถานพยาบาลตามมาตรฐานในด้านการบริการทางการแพทย์เป็นสำคัญ หากพบสถานพยาบาลใดมิได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหรือมาตรฐานที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดไว้จะได้รับการลงโทษตามประกาศสำนักงานประกันสังคม คือ ว่ากล่าวตักเตือน ลดจำนวนโควตาผู้ประกันตนในปีต่อไป ส่งเรื่องให้แพทยสภา หรือยกเลิกสัญญาจ้างแล้วแต่กรณี
อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกันตนไม่ได้รับความสะดวกในการเข้ารับบริการทางการแพทย์กับสถานพยาบาลในระบบประกันสังคมสามารถร้องเรียนมาได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ ทั้ง 12 แห่ง หรือที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัด / สาขา ทั่วประเทศที่ท่านสะดวก หรือโทร.1506 ตลอด 24 ชั่วโมง
สำนักงานประกันสังคม ขยายเวลาให้นายจ้างยื่นแบบและนำส่งเงินสมทบผ่าน e-Payment ออกไปอีก 7 วันทำการ นับจากวันที่พ้นกำหนด วันที่ 15 ของเดือนถัดจากเดือนที่มีการหักเงินสมทบ โดยมีผลตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 ถึง ธันวาคม 2566 เพื่อเป็นการส่งเสริมสนับสนุนและรองรับความสะดวกในการประกอบธุรกิจของนายจ้าง อีกทั้งเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกันตนให้ได้รับความคุ้มครอง รวมถึงบรรเทา เยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และส่งเสริมการเว้นระยะห่างทางสังคม โดยสำนักงานประกันสังคมสนับสนุนให้นายจ้างทำธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมขอเชิญชวนสถานประกอบการทำธุรกรรมนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคมและชำระเงินสมทบผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ของธนาคารและหน่วยบริการ เพื่อความสะดวก ลดขั้นตอน ระยะเวลา และค่าใช้จ่ายในการเดินทางของนายจ้างอีกด้วย ปัจจุบันมีธนาคารและหน่วยบริการที่ร่วมให้บริการรับชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ทั้งหมด 12 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น ธนาคารมิซูโฮ จำกัด สาขากรุงเทพฯ ธนาคารซิตี้แบงก์ เอ็น.เอ. ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารดอยซ์ แบงก์ ธนาคารบีเอ็นพี พารีบาส์ และบริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด
ขั้นตอนการนำส่งข้อมูลเงินสมทบและชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment)
- เข้าเว็บไซต์ สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th เลือกหัวข้อ “สถานประกอบการ” เลือก “ส่งข้อมูลเงินสมทบ”
- Login เข้าระบบ และนำส่งข้อมูลเงินสมทบในระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคม
- เลือกหัวข้อชำระเงินผ่านระบบ e-payment และเลือกธนาคาร/หน่วยบริการ เพื่อเข้าสู่ระบบให้บริการชำระเงินของธนาคาร/หน่วยบริการ
- เมื่อชำระเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถพิมพ์และดาวน์โหลดใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์จากระบบ e-Receipt ได้ด้วยตนเอง จากเว็บไซต์ สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th
ขั้นตอนการพิมพ์และดาวน์โหลดใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์จากระบบ e-Receipt
- เข้าเว็บไซต์ สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th เลือกหัวข้อ“สถานประกอบการ”
- Login เข้าระบบ เลือกหัวข้อ “ ใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์”
- เลือก “ข้อมูลใบเสร็จรับเงิน”>> “กองทุนประกันสังคม”
- ค้นหาใบเสร็จรับเงิน >> เลือก “พิมพ์” / “ดาวน์โหลด” ใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสังคมได้ที่ www.sso.go.th หรือโทรสายด่วน 1506 ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง