โกนหนวดไปทํางานแล้วกลับมาพบเธอ เล่ม6

เดิมทีผมตั้งใจว่าจะทำเนื้อหาพารท์นี้ให้สั้นที่สุดเท่าที่จะสั้นได้ แต่ด้วยพารท์นี้น่าจะเป็นพารท์แห่ง"สงครามกองอวย" จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บ Hint ให้ครบเพื่อการพิจารณาของผู้อ่านเองนะครับ บทสรุปของเรื่องมาถึงแล้วครับ กับ

.

ひげを剃る。そして女子高生を拾 #5 Hige wo Soru. Soshite Joshi Kousei wo Hirou #5 "โกนหนวดไปทํางานแล้วกลับมาพบเธอ" เล่ม 5

.

◤◢◤◢◤ สรุปเนื้อเรื่อง พารท์สาม ◢◤ ◢◤ ◢

.

พารท์ที่ 3 การสารภาพรักของซายุ และ บทสรุปความสัมพันธ์

.

หลังจากที่ทุกอย่างจบลงด้วยดี โยชิดะซึ่งเข้าพักที่ห้องรับรองแขกก็อาบน้ำอาบท่าด้วยความสบายใจ และในขณะเดียวกัน อีกห้วงหนึ่งของจิตใจ ความเหงาก็เริ่มเข้ากัดกินจิตใจของโยชิดะ จากนี้กลับบ้านไปก็ไม่มีโอกาสเจอซายุอีกแล้วสินะ ถึงจะรู้สึกอย่างนั้นแต่โยชิดะก็พยายามฝืนตัวเองด้วยการสะกดความคิด "ก็แค่กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมเท่านั้นแหละ"

.

เพื่อให้ตัวเองลืมเรื่องฟุ้งซ่าน โยชิดะเลยตัดสินใจรีบนอน แต่แล้วก็ได้ยินเสียงมีใครทำอะไรอยู่ที่ข้างนอกประตูห้อง แล้ว บุคคลนั้นก็ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาใกล้โยชิดะเรื่อย ๆ กระทั่งมุดเข้ามาในที่นอนของโยชิดะ แต่ลักษณะท่าทางแบบนี้ไม่มีทางที่เขาจะไม่รู้หรอกว่าใคร "ทำอะไรน่ะ ซายุ" ทำเอาซายุได้แต่หัวเราะ คิก คิก ก่อนจะตอบ "ก็คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายแล้วนี่คะ ก็เลยอยากนอนด้วยกันน่ะค่ะ" "นี่เธอก็พูดแบบนี้ตอนอยู่บ้านฉันไปทีแล้วนี่" " อย่าสนใจเรื่องอะไรเล็กน้อยแบบนั้นสิคะ ครั้งสุดท้ายแล้วจริง ๆ น้า" คำพูดของซายุแม้จะเป็นน้ำเสียงที่ร่าเริง แต่มันกลับเสียดแทงความรู้สึกในใจลึก ๆ ของโยชิดะ

.

"เอาเถอะ ..."ในที่สุดโยชิดะก็พ่ายแพ้ต่อลูกตื๊อของซายุ "งั้นคุณโยชิดะช่วยหันไปทางนั้นทีค่ะ" "อะ...อืม" ถึงจะไม่เข้าใจเท่าไรว่าทำไม แต่โยชิดะก็ทำตามที่ซายุบอก จากนั้นซายุก็ค่อยเลื่อนตัวเข้าไปทางด้านหลังพร้อมทั้งกอดโยชิดะไว้แน่น" "นี่ทำอะไรของเธอน่ะ?" "ครั้งสุดท้ายแล้วน่า แค่นี้เอง" "ถึงจะครั้งสุดท้ายก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรก็ได้นะ...." "หรือจะคึกคักขึ้นมาแล้วหรือคะ?" "อย่ามาพูดบ้า ๆ น่า"

.

แต่ถ้าพูดถึงความรู้สึกในใจของโยชิดะ เขายอมรับกับตัวเองว่า ความรู้สึกนุ่ม ๆ และ อุ่น ๆ กลางหลังของเขาในตอนนี้มันทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นกว่าปกติ ที่สำคัญตัวเขาเองก็ไม่ได้ปฏิเสธซายุแบบเสียงแข็งเหมือนแต่ก่อนด้วย ซายุในตอนนี้เธอนอนกอดโยชิดะจากทางด้านหลังด้วยจังหวะผ่อนลมหายใจที่สม่ำเสมอกันจนโยชิดะนึกว่าเธอหลับไปแล้ว

.

"ถึงจะบอกว่าจะยืนให้ได้ด้วยตัวคนเดียว แต่ก็ไม่อยากแยกจากคุณโยชิดะเลยจริง ๆ นะคะ" คำพูดแบบตรง ๆ ของซายุที่พูดขึ้นมา แต่กลับทำให้โยชิดะ เกิดความรู้สึกลังเลในใจขึ้นมาว่าจะตอบยังไงดี " ไม่ดีหรือไง ไม่ต้องมานั่งทำงานบ้านทุกวัน แถมมีพี่ชายที่พึ่งพาได้ขนาดนั้น" คำตอบของโยชิดะ ทำให้ซายุถึงกับหัวเราะคิกออกมา จนโยชิดะรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวที่ราดลงบนกลางหลังของเขา

.

"หนูน่ะ ทำงานบ้านที่บ้านคุณโยชิดะ ไม่รู้สึกว่ามันลำบากสักนิดเลยค่ะ" "ยังงั้นเหรอ?" "อือ.....การได้ทำกับข้าวให้คนที่ชอบมาก ๆ กินทุกวันเนี่ย ถือเป็นความสุขค่ะ"คำพูดของซายุทำให้โยชิดะถึงกับอึ้งไปนิดหนึ่ง แม้ว่าหลัง ๆ ซายุจะพูดในสิ่งที่คิดออกมามากขึ้น แต่ก็ไม่คิดว่าจะพูดคำว่า "ชอบ" ออกมาตรง ๆ แม้ว่ามันอาจจะไม่ใช่ในความหมายของความรักหนุ่มสาวแต่มันก็ทำให้โยชิดะใจเต้นขึ้นมาเหมือนกัน .


.

"คุณโยชิดะไม่มีหนูอยู่ด้วย ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?" เป็นคำถามที่ทำให้โยชิดะหยุดคิด ณ ตอนนี้ความรู้สึกของคำว่าบ้านในใจเขา คือ "บ้านที่มีซายุอยู่ด้วย" แต่ในเมื่อต่อไปไม่มีเธอแล้ว คำตอบจากใจที่เขาตอบออกไปคือ "ไม่รู้สิ"

.

ตัวเขาในตอนนี้ เฝ้าแต่ปลอบใจตัวเองด้วยคำว่า "ก็แค่กลับไปเหมือนแต่ก่อนเท่านั้นแหละ แต่ไหนแต่ไรก็อยู่คนเดียวมาตลอด" แต่ในความเป็นจริง หลังจากที่ได้สัมผัส "ความอบอุ่นจากการใช้ชีวิตร่วมกับซายุ" มาแล้ว เขาไม่มั่นใจเลยว่าความรู้สึกเขาจะกลับไปเป็นเหมือนก่อนได้จริง ๆ

.

"แต่ก็คงเหงาอะนะ" เป็นคำตอบที่โยชิดะพูดมาออกมาหลังความคิดทั้งหมด "นั่นสินะคะ" ซายุซึ่งเอ่ยขึ้นหลังจากได้ยินคำตอบนี้และกอดโยชิดะแน่นขึ้นไปอีก ก่อนที่คลายแรงกอดนั้น พร้อมกับเอ่ยว่า "นี่คุณโยชิดะ หันมาทางนี้หน่อยสิคะ"

.

ถึงจะรู้สึกว่าวันนี้ท่าทางซายุแปลก ๆ แต่เขาก็ยินยอมทำตามคำสั่งซายุแต่โดยดี เมื่อหันกลับมาสบตากับซายุในระยะแทบประชิด จนสังเกตุได้วา ซายุในตอนนี้มีท่าทีเอียงอาย ดวงตาลุกลี้ลุกลน จนเขาต้องถามขึ้นว่า "มีอะไรเหรอ?" "คือว่า..ไหน ๆ คืนนี้ก็เป็นคืนสุดท้ายแล้วนี่คะ" "อาฮะ...." ท่าทางของซายุตอนนี้เขินและประหม่าเต็มที่จนเกร็งไปทั้งตัวอย่างเห็นได้ชัด "งั้นเรามา.....สักครั้ง...ส่งท้ายไหมคะ?" "อะไรน่ะ?" "อะ...คือ....มะ....มามีอะไรกันไหมคะ?" "หาาาาาาาาาาา.......?"

.

ใบหน้าของซายุตอนนี้ขนาดปิดไฟก็ยังรู้ว่าแดงก่ำเป็นลูกตำลึง ไม่ต่างกับโยชิดะที่ตอนนี้ก็รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัว ถ้าแค่เป็นคำพูดหยอกเหมือนทุกที เขาคงแค่ตอกกลับไปเฉย ๆ เหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้แม้จะแค่แวบเดียว เขาก็เห็นภาพตัวเอง เปลื้องผ้าซายุออก แล้ว สนิทแนบชิดเข้ากับตัวเธอ จนเขาต้องรีบส่ายหัวเพื่อสลัดความคิดนั้น

.

"พูดอะไรของเธอน่ะ....!!!" "อะ......คือ..แบบว่า...เรา 2 คนจะได้ไม่ลืมกันไงคะ..อะไรแบบนี้" "หะ......" คำพูดของซายุทำให้โยชิดะถึงกับต้องถอนหายใจยาวออกมา ก่อนจะพูดว่า "ถึงไม่ต้องทำเรื่องแบบนั้น...ก็ไม่มีทางลืมอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง

.

จากนั้นโยชิดะก็สบตากับซายุแล้วพูดว่า "เราสองคนน่ะ อยู่ด้วยกันมามากกว่าครึ่งปีนะ ทั้งที่ไม่ใช่คนรัก เป็นชายหญิงที่ไม่ใช่ครอบครัวเดียวกัน แต่ก็ใช้ชีวิตร่วมกันมามากกว่าครึ่งปีนะ" แล้วจึงลูบหัวซายุอย่างอ่อนโยนและแผ่วเบา "คิดว่า....คงลืมไม่ได้ทั้งชีวิตแหละ"

.



.

คำพูดของโยชิดะ ทำให้ซายุถึงกับมีน้ำตาปลิ่มขึ้นมาอีกครั้ง แล้วซุกเข้ากับแผงอกของโยชิดะ "อืม หนูก็จะไม่มีวันลืมตลอดชีวิตเหมือนกันค่ะ" ปล่อยให้โยชิดะลูบหัวเธออย่างแผ่วเบาต่อไป "จะว่าไปจริง ๆ ก็แอบสงสัยมาตลอดเหมือนกันนะ ทั้งที่ซายุดูลุคเป็นสาวมั่น แต่กลับบ่อน้ำตาแตกง่ายกว่าที่คิด นี่ขี้แยแบบนี้แต่ไหนแต่ไรเลยหรือเปล่านี่" "เกินไปค่ะ ก็ช่วงนี้มีเรื่องให้ดีใจอยู่เรื่อย มันก็ช่วยไม่ได้นี่นา"

.

จากนั้นทั้งคู่ก็นอนกอดกันเป็นระยะเวลานาน กระทั่งโยชิดะเองก็รู้สึกเสียดายความอบอุ่นที่โอบกอดเขาอยู่นี้หากต้องสูญเสียมันไป เวลาผ่านไปนาน จนซายุเอ่ยขึ้นว่า "งั้น....." ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาหาโยชิดะ แล้วถามว่า "จับหน่มน๊มหนูไหม?" "ตี๊อจริงนะเธอน่ะ"

.

และคืนสุดท้ายของทั้งคู่ก็ผ่านพ้นไปโดยที่ทั้งคู่ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรแบบลึกซึ้งต่อกัน

.

รุ่งขึ้นพี่ชายซายุ และ ซายุไปส่งโยชิดะที่สนามบินแต่เช้า ทีแรกโยชิดะตั้งใจว่าจะไปลาคุณแม่ซายุเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท แต่พี่ชายได้ห้ามไว้ โดยบอกว่า คุณแม่หลับอยู่อย่าปลุกเลย พร้อมกับออกปากชวนโยชิดะมาเยี่ยมซายุบ้างถ้ามีเวลา โยชิดะได้แต่รับคำทั้งที่รู้อยู่ในใจว่า คงเป็นไปได้ยาก แต่ที่แปลกตาที่สุดเห็นจะเป็นซายุที่ ทั้งที่ไม่ต้องไปโรงเรียนแต่เธอก็อยู่ในชุดนักเรียน เมื่อถามถึงเหตุผล เธอก็ได้แต่ตอบว่า ตัวเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน

.

เมื่อถึงสนามบิน และเข้าไปตัวสนามบินแล้ว ซายุได้ขอแยกไปเข้าห้องน้ำ ขณะที่พี่ชายซายุได้มอบเงินค่าตั๋วเครื่องบินให้กับโยชิดะ ซึ่งโยชิดะปฏิเสธเสียงแข็งและขอให้นำเงินจำนวนนี้ไปซื้อเสื้อผ้าให้ซายุแทน ก่อนที่พี่ชายซายุจะถามโยชิดะด้วยท่าทีจริงจังว่า "คุณโยชิดะครับ คุณตกหลุมรักซายุเข้าแล้วสินะครับ" ทำเอาโยชิดะรีบตอบกลับทันทีว่า " จะเป็นไปได้ยังไงกันครับ เด็กม.ปลายนะครับ" "จริงเหรอครับ แต่ความรักไม่ขึ้นกับอายุนะครับ" "สเปคผมน่ะ เป็นพี่สาวอายุมากกว่านะครับ"

.

เมื่อเห็นท่าทีแบบนี้ของโยชิดะ พี่ชายซายุ จึงพูดขึ้นด้วยท่าทางน้ำเสียงที่จริงจังกว่าเดิมว่า

"ถ้าคนที่อยู่เคียงข้างซายุ เป็นผู้ชายอย่างคุณโยชิดะ ผมในฐานะพี่ชายของเธอจะรู้สึกวางใจมากเลยครับ จริง ๆ นะครับ"

.

คำพูดของพี่ชายซายุ ทำให้โยชิดะนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ที่แม้เพียงแวบเดียวที่เขาคิดจะมีอะไรกับซายุจริง ๆ แต่ไม่ว่ายังไงนั่นก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาไม่ควรมองซายุด้วยสายตาที่มองเพศตรงข้าม แม้ว่าซายุจะน่ารักแค่ไหน แต่การยอมรับซายุเป็นคนรักตามข้อเสนอของพี่ชายซายุ มันคนล่ะเรื่องกัน

.

"ถ้าจะล้อกันเล่นก็กรุณาพอแค่นี้เถอะครับ..." "ถ้าคุณโยชิดะ พูดถึงขนาดนี้ ผมก็จะไม่พูดอะไรไปมากกว่านี้แล้วครับ" ก่อนที่พี่ชายซายุจะขอบคุณโยชิดะสำหรับทุกสิ่งที่ทำให้ซายุ พร้อมทั้งทิ้งคำพูดทิ้งท้ายด้วยท่าทีและน้ำเสียงที่จริงจังว่า

.

"แม้จะเป็นแค่อัตตาส่วนตัวของผม แต่ผมก็คิดว่า หากการได้พบซายุของคุณโยชิดะนั้น ได้มอบสิ่งที่มีค่าและความหมายสำหรับคุณโยชิดะกลับไป เช่นเดียวกันกับที่ให้ซายุ ผมคิดว่านั่นคงเป็นเรื่องที่มีความสุขนะครับ"

.

ก่อนที่จะบอกลาโยชิดะ และขอตัวกลับไปรอซายุที่รถ

.

หลังจากพี่ชายซายุลับสายตาไปไม่นาน ซายุก็กลับมา เธอถามหาพี่ชายของเธอ ซึ่งโยชิดะก็บอกว่า กลับไปรอที่รถก่อนแล้ว เธอจึงบอกกับโยชิดะว่า "ใกล้ได้เวลาจากกันแล้วสินะคะ" โยชิดะซึ่งแอบปั่นป่วนในใจเล็ก ๆ ว่ามันเป็นเวลาที่เขาควรอยู่กับซายุ 2 ต่อ 2 ดีไหม ก็ได้บอกให้เธอพยายามเรื่องในเรื่องเรียนของเธอ ขณะที่ซายุเองก็บอกให้โยชิดะอย่าลืมทำงานบ้านด้วย แต่แล้วก็เหมือนหมดเรื่องคุย จนทั้งคู่เงียบกันไปสักพัก

.

กระทั่งใกล้เวลาขึ้นเครื่อง ซายุได้พูดกับโยชิดะด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยพลังว่า "หนูดีใจที่หนูหนีออกจากบ้าน เพราะที่หมายสุดท้ายของหนูนั้นมีคุณโยชิดะอยู่ เมื่อคืนตอนก่อนที่จะนอน หนูนอนคิดตลอดว่า ถ้าหนูได้พบกับคุณโยชิดะในรูปแบบอื่นจะเป็นยังไง เช่น เป็นเพื่อนร่วมชั้น เป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียน หรือ คนในครอบครัว แต่สุดท้ายแล้ว หนูคิดว่า หนูเจอกับคุณโยชิดะ แบบนี้ดีที่สุดแล้วค่ะ เป็นลุงหนวดมนุษย์เงินเดือนแบบนี้ดีที่สุดแล้วค่ะ"

.

โยชิดะจึงตอบซายุว่า "ฉันก็เหมือนกัน ฉันดีใจที่ได้เจอเธอ แถมยังได้เข้าใจตัวเองมากขึ้นด้วย ถึงจะนิดหน่อยก็เถอะ" "งั้นหรือคะ"

.

ก่อนที่ซายุจะสบสายตากับโยชิดะแบบตรง ๆ "คุณโยชิดะคะ" "อะไรเหรอ"

.

"หนู..ชอบคุณโยชิดะค่ะ"

.

แม้จะเพียงแวบเดียว แต่ก็เหมือนโลกทั้งโลกของโยชิดะไม่ได้ยินเสียงอื่นใดนอกจากเสียงของซายุ นี่เขากำลังถูกสาวม.ปลายสารภาพรักหรือนี่

.

"พูดจริงเหรอน่ะ"

.

"หนูจริงจังนะคะ"

.

การสารภาพรักของซายุทำให้โยชิดะเข้าใจในการกระทำของซายุที่เสนอตัวเธอให้กับโยชิดะเมื่อคืน มันไม่ได้เกิดจากความเหงา หรือ ความต้องการ แต่เกิดจากความรักที่เธอมีให้เขาในฐานะผู้หญิงผู้ชาย แล้วเขาก็นึกถึงคำพูดของพี่ชายซายุที่ถามว่า เขาตกหลุมรักซายุเข้าแล้วใช่ไหม ถ้าเกิดเป็นแบบนั้นล่ะก็ ที่รออยู่ก็แค่บทสรุปที่มีความสุขรออยู่เท่านั้น แต่...

.

"ฉันน่ะ ไม่สนเด็กหรอกนะ"

.

โยชิดะตอบกลับซายุด้วยคำพูดเดิม ๆ แม้ว่าความรู้สึกในใจเขาตอนนี้จะเปลี่ยนไปจากตอนที่เจอกันครั้งแรกเยอะ แต่จะให้ยอมรับซายุในฐานะนั้นเขาทำไม่ได้ "เธอน่ะน่ารักนะ น่ารักจริง ๆ แต่จะให้คิดกับเธอแบบนั้น ฉันทำไม่ได้" ซายุยืนรับคำตอบของโยชิดะ ด้วยรอยยิ้ม และความเยือกเย็น ราวกับได้เตรียมใจมาไว้แล้ว

.

"งั้นถ้าหนูไม่ใช่เด็กแล้ว พอจะมีโอกาสไหมคะ?"

.

เมื่อได้ยินดังนั้นโยชิดะก็พยักหน้ารับแบบไม่รู้ตัวแล้วตอบว่า

.

"ถ้าเธอเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้นะ"

.

เมื่อได้ยินคำตอบ ซายุซึ่งยังคงรอยยิ้ม และ จ้องมองสบตากับโยชิดะอย่างไม่วางตาก็พูดว่า

.

"งั้น...รอหนูนะ"

.

เป็นคำพูดที่แสดงถึงความเอาจริงของเธอ ทำเอาโยชิดะแทบอยากถอนคำพูดเมื่อกี้ เพราะไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่สามารถให้คำตอบ YES กับการสารภาพรักของเธอได้

.

"ไม่รอหรอก...ถ้าฉันรอเธอฉันก็เป็นปู่พอดี"

.

เพราะกว่าซายุจะเรียนจบ แล้วไม่รู้จะต่อมหาลัยหรือเปล่า แล้วกว่าจะทำงาน เขาน่าจะเลยวัย 30 เข้า 40 ไปแล้ว "ชีวิตน่ะยังอีกยาวไกลนะ เรื่องของตอนนั้นไว้คิดตอนนั้นก็ได้ เก็บการพบกันของเธอกับฉันไว้ในกล่อง...แล้วก้าวเดินสู่เส้นทางชีวิตใหม่เถอะ" "นั่นน่ะ เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ" "เอ๋" "เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ นั่นน่ะ" ซายุพูดพลางเดินเข้ามาจับมือโยชิดะ

.

"คุณโกโตเคยบอกไว้ค่ะว่า ช่วงเวลาของ นร.ม.ปลาย เป็นช่วงเวลาพิเศษที่มีแค่ครั้งเดียวในชีวิต และ 1 ใน 6 ของช่วงเวลานั้นหนูใช้เวลาอยู่กับคุณโยชิดะ ความทรงจำที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ จะให้หนูเก็บมันใส่ไว้ในกล่อง หนูทำไม่ได้หรอกค่ะ" ซายุพูดพร้อมกับยิ้มแล้วบีบมือโยชิดะแน่น

.

"ต่อให้คุณโยชิดะไม่รอหนู หนูก็จะไปหาคุณโยชิดะให้ได้ค่ะ"

.

เป็นคำพูดที่ทำให้โยชิดะสั่นไปทั่วสรรพางค์ แต่ก่อนที่โยชิดะจะตอบอะไรเสียงเรียกขึ้นเครื่องก็ดังขึ้น

.

เป็นสัญญาณหมดเวลาที่บ่งบอกถึงเวลาแห่งการลาจากของทั้งคู่ "เข้าใจล่ะ" โยชิดะพยักหน้าก่อนจะพูดว่า

.

"ฉันจะไม่รอเธอหรอกนะ" ก่อนจะเดินเข้าไปหาซายุ วางมือลงบนศีรษะของเธอแล้วลูบเบา ๆ "แต่ฉันจะเฝ้ารอ วันที่อาจจะได้เจอเธออีกครั้ง สักนิดนึงล่ะกันนะ"

.

คำตอบของโยชิดะทำให้ซายุน้ำตาไหลรินลงอาบแก้มทั้งสองข้าง ก่อนที่โยชิดะจะพูดว่า "งั้น...แล้วเจอกันนะ" "อืม...แล้วพบกันค่ะ" เป็นการลาจากของทั้ง 2 คนอย่างเป็นทางการ

.



.

หลังจากแยกกับโยชิดะ ซายุกลับไปที่รถพี่ชายตัวเอง พี่ชายจึงถามซายุว่า จะให้กลับบ้านเลยหรือเปล่า หรือเธอจะรอจนกว่าเครื่องบินจะขึ้น ซึ่งซายุขอกลับบ้านเลย เมื่อพี่ชายถามว่า ครั้งสุดท้ายแล้วพูดสิ่งที่อยากพูดไปหมดหรือยัง ซายุก็ตอบทันทีว่า"ยังไม่ใช่ครั้งสุดท้ายสักหน่อย" พี่ชายจึงตอบว่า "งั้นรึ งั้นก็ต้องพยายามหน่อยนะ"

.

แม้จะอิจฉาโยชิดะอยู่หน่อย ๆ แต่เขาก็มีเป้าหมายในชีวิตเพิ่มขึ้นมาอีกอย่าง นั่นคือการเตรียมการให้น้องสาวคนนี้ไปอยู่ที่โตเกียว แต่ก่อนหน้านั้นสิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้คือ การปลอบน้องสาวที่กำลังนั่งน้ำตาตกอยู่ตอนนี้ ซึ่งกว่าเขาจะปลอบเธอให้สงบได้ก็ใช้เวลาอยู่นานพอดู

.

โยชิดะเมื่อกลับมาถึงห้องพักตัวเอง แม้จะเป็นห้องที่อยู่มาหลายปี แต่ความรู้สึกตอนนี้ของเขามันไม่เหมือนเดิม ทั้งที่แต่ก่อนรู้สึกว่าห้องมันเท่ารูหนู แต่บัดนี้ รูหนูที่ว่านั้นมันกลับรู้สึกกว้างเกินไป บรรยากาศของห้องที่ปราศจากซายุ ทำให้โยชิดะ ไม่เป็นอันทำอะไร เอาแต่นั่งเหม่ออยู่บนเตียงตัวเองอยู่นานสองนาน จนพอรู้สึกตัวจึงเตรียมที่จะลุกไปอาบน้ำ แต่เมื่อเปิดตู้เสื้อผ้าออกมา ก็พลันนึกถึงช่วงเวลาที่ซายุอยู่ ว่าตู้เสื้อผ้านี้มันเคยมีเสื้อผ้าของซายุเรียงอยู่ด้วย แต่บัดนี้มันไม่มีอีกแล้ว

.

แล้วสายตาของโยชิดะก็เหลือบไปเห็น ส่วนเสื้อของชุดนอนที่ซายุใส่นอนประจำ พอหยิบขึ้นมาดู ก็พบกระดาษเขียนจดหมายแผ่นหนึ่งร่วงลงมา บนจดหมายนั้นมันคือ ลายมือกลมน่ารักของซายุ ที่เขียนว่า "หนูขอฝากกลิ่นของหนูไว้ที่นี่นะ จำกลิ่นไว้ให้ดีล่ะ" "กลิ่นอะไรของเธอ...นี่มันกลิ่นน้ำยาซักผ้าที่บ้านชัด ๆ"

.

แต่เมื่อโยชิดะ สะบัดเสื้อออก ในหัวของเขากลับนึกถึงแต่ภาพวันคืนที่ซายุเคยใส่เสื้อตัวนี้ จนสบถออกมา "ทำไมว้าาา..." เลยตัดสินใจเปลี่ยนอารมณ์ไปหาอะไรกินแทน แต่พอตั้งแต่เข้าห้องครัว กระทั่งเปิดตู้เย็น ในหัวของเขาก็เอาแต่คิดถึง เรื่องราวของคืนวันที่ผ่านไป เรื่องจุ๊กจิ๊กต่าง ๆ ที่เคยคุยกับซายุ นึกถึงภาพที่ซายุนั่งทำซุปมิโสะ จนรำพึงออกมาว่า "ซุปมิโสะฝีมือเธอนี่มันอร่อยจริง ๆ เลยน้า"

.

พลันน้ำตาก็เริ่มรื้นขึ้นในตาของโยชิดะ มันไม่มีอีกแล้ว...คืนวันที่มีซายุ รู้ทั้งรู้ว่า ยังไงเขาก็ต้องพยายามปรับตัวให้อยู่คนเดียวให้ได้ แต่..แต่.....

.

"คนที่ "เป็นไร" กลับกลายเป็นเราเองนี่สิ"

.

ที่ผ่านมาเขากับซายุพยายามร่วมกันก็เพื่อให้แต่ล่ะคนกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมได้ แต่พอกลับไปเหมือนเดิม ทำไมมันถึงได้เจ็บปวดและทรมานขนาดนี้ นี่เขาทำอะไรพลาดไปตรงไหน

.

แล้วตอนที่ซายุมาส่งเขาที่สนามบิน เธอจะรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้ด้วยหรือเปล่านะ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังส่งเขาด้วยรอยยิ้ม สุดท้ายคนที่ไม่ได้เรื่องที่สุดคือเขานี่แหละ อยู่ต่อหน้าเด็กทำเป็นเท่ แต่พอลับหลังกลับมานั่งร้องไห้คนเดียว เพราะคิดถึงซายุ ....สุดท้าย โยชิดะก็มานั่งร้องไห้อยู่คนเดียวจนผลอยหลับไปบนเตียง

.

(SL Note: เนื้อหาในส่วนของตรงนี้ยังมีต่อนะครับ ซึ่งผมมองว่ามันเป็นเนื้อหาสำคัญ และเป็นส่วนที่บอกว่า โยชิดะนั้นตัดสินใจใช้ชีวิตต่ออีก 2 ปีด้วยความรู้สึกแบบไหน ในใจของโยชิดะตอนนี้จริง ๆ เป็น ซายุ หรือ ผู้จัดการ ซึ่งผมขออนุญาตยกเนื้อหาตรงนี้ทั้งหมดออกให้ทุกท่านติดตาม ในเล่มจริงนะครับ ยังไงก็อย่าลืม ถ้าอยากช่วยยอดของอ.ชิเมะซื้อเล่มจริงญี่ปุ่น อยากอ่านเนื้อหาเต็ม ๆ ซื้อเล่มจริงไทยนะครับ)

.

2 ปีผ่านไป รุ่นน้องเลื่อนขั้นเป็นพนักงานตัวจริงเต็มตัวจนคุมโปรเจคได้แล้ว และทำงานร่วมกับรุ่นพี่ จนฮาชิโมโตะออกปากชมว่าผิดกับตอนเข้าใหม่ ๆ ลิบลับ ซึ่งรุ่นน้องก็บอกว่า "ก็สภาพจิตใจตอนนั้นกับตอนนี้มันต่างกัน" ซึ่ง ณ ที่นี้คนที่รู้ว่าสภาพจิตใจของรุ่นน้องตอนนี้มันต่างออกไปยังไง มีเพียงแค่โยชิดะ เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมามีอะไรหลายอย่างที่เกิดขึ้น

.

และสำหรับตัวโยชิดะเอง "รักครั้งใหญ่อันยาวนาน" ของเขาก็ยังดำเนินต่อไป ผู้จัดการเองจากที่เคยเรียกโยชิดะไปหาที่โต๊ะ ก็กลับมาหาโยชิดะที่โต๊ะแทน และชวนโยชิดะไปทานข้าวเย็นด้วยกันบ่อยมากขึ้น แต่กลับเป็นฝ่ายโยชิดะเอง ที่ไปบ้าง ปฏิเสธบ้าง ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับผู้จัดการตอนนี้ ยังไม่ใช่ "ความสัมพันธ์ของคนรัก" แต่ก็รู้สึกค่อย ๆ ใกล้ชิดกันทีล่ะนิด ๆ

.

ซึ่งวันนี้ก็เช่นกัน โยชิดะปฏิเสธคำชวนทานข้าวของผู้จัดการเพราะมีนัดอยู่แล้ว ผู้จัดการทีแรกก็ทำหน้างงแปบนึงก่อนจะพอเดาได้ว่าเป็นใคร และพยักหน้ารับรู้ แล้วกลับไปที่โต๊ะตัวเองด้วยความเสียดายโอกาส

.

คนที่นัดโยชิดะวันนี้คือ อาซามิ ซึ่งตอนนี้เป็นนักศึกษามหาลัยแล้ว เธอเรียนอยู่คณะศิลปศาสตร์ และจะมาหาโยชิดะบ่อย ๆ เพื่อเอานิยายที่เธอเขียนมาให้อ่าน อันที่จริง โยชิดะไม่ได้ชอบอ่านนิยายเท่าไร แต่ชอบที่จะฟังเรื่องราวต่าง ๆ ในมหาลัยที่อาซามิเล่าให้ฟังมากกว่า ซึ่งทุกครั้งที่คุยกับเธอ ตัวเขาจะแอบนึกถึง "สาว ม.ปลาย" อีกคนไปด้วยทุกครั้ง

.



.

เมื่อโยชิดะออกจากออฟฟิศ จีงเมสเสจ ถามอาซามิว่าจะให้ไปเจอที่ไหน อาซามิก็ตอบทันทีว่าที่บ้านโยชิดะ ซึ่งช่วงเวลาที่ผ่านมา อาซามินั้นเปลี่ยนไปมาก ตั้งแต่การเรียกโยชิดะเป็นคุณโยชิดะ เปลี่ยนสีผมกลับเป็นสีชา จนโยชิดะแอบสงสัยว่าอะไรบันดาลใจเธอถึงขนาดนั้น

.

เมื่อโยชิดะใกล้ถึงบ้าน ณ เสาไฟฟ้าต้นนั้น เขาก็พบกับสาวสวยคนหนึ่งนั่งกอดเข่าอยู่ใต้เสาไฟฟ้าต้นนั้น

.



.

สาวสวยคนนี้อยู่ในชุดที่ดูเป็นผู้ใหญ่ ผมยาวสีดำเงางามดุจแพรไหม แม้เธอจะแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางแบบอ่อน ๆ แต่กลับสอดรับเข้ากับดวงหน้าของเธออย่างลงตัวจนทำให้สวยสะดุดตา ถึงสาวสวยตรงหน้าคนนี้จะต่างออกไปจาก "เธอ" ในความทรงจำของเขา แต่โยชิดะก็รู้ทันทีว่านี่คือ "เธอ"

.

เขาค่อย ๆ สืบเท้าเข้าไปหาเธอแล้วพูดว่า "นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วมานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้" แล้วเธอคนนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาพร้อมตอบเขาว่า "หนวดยาวขึ้นมานิดนึงแล้วนะคะ" "ต่อให้โกนตอนเช้า ตอนเย็นมันก็งอกใหม่อยู่ดีแหละ" "งั้นหรือคะ เดี๋ยวนี้โกนเป็นประจำทุกวันแล้วสินะคะ" "แน่สิ ก็มีคนเคยบอกไว้ว่ามันไม่เข้านี่นา" "ฮิฮิ อย่างงั้นหรือคะ" ก่อนที่โยชิดะ จะจ้องมองดูเธออย่างเต็มตา "ชุดแบบนี้น่ะ เหมาะกับเธอดีนะ" "ใช่ไหมล่ะคะ? นี่อุตสาห์เลือกมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะเลยนะคะ"

.

แม้เธอในตอนนี้ จะต่างกับเธอในตอนนั้นอย่างสิ้นเชิง แต่ในใจโยชิดะนั้นกลับรู้สึกได้ถึงความหวนคำนึงชวนถวิลหาในใจอย่างที่สุด "คุณโยชิดะ.....ได้เจอกันอีกแล้วนะคะ" คำพูดของเธอทำให้โยชิดะรู้สึกอุ่นวาบขึ้นมาในอก บางทีวันนี้อาจเป็นวันที่มุมใดมุมหนึ่งในหัวใจของเขาเฝ้าหวังและรอคอยมาตลอดก็ได้ "อา....ได้เจอกันอีกแล้วนะ ซายุ" ก่อนที่เธอจะทำท่าหยอกเย้า แล้วพูดว่า "คุณลุงคะ ขอค้างด้วยสิ" เมื่อได้ยินดังนั้นโยชิดะก็พยักหน้ารับอย่างเต็มใจ พร้อมบอกว่า "มีจอมจ้ออยู่ด้วยอีกคนหนึ่งนะ โอเคไหม?" "แน่นอนค่ะ"

.



.

สำหรับโยชิดะแล้ว ตัวตนของซายุนั้นเป็นยังไงสำหรับเขากันแน่ ทั้งที่เขาคิดว่าจะพยายามลืมเรื่องของเธอ แต่สุดท้าย คำตอบที่หัวใจให้กลับมาคือ ทำไม่ได้ ตอนนี้เธอได้พิสูจน์ตัวเธอเองหรือยังนะ ตอนนี้ชีวิตเธอได้พบแต่สิ่งที่ดีหรือยังนะ กลับสู่ชีวิตที่ควรจะเป็นหรือยังนะ นั่นเป็นสิ่งที่เขาอยากรับรู้ อยากได้ยินเรื่องราวของเธอ

.

"นี่..." ซายุซึ่งเดินเคียงข้างไปกับโยชิดะเอ่ยทักขึ้น พร้อมหันมาสบตากับโยชิดะก่อนจะพูดว่า "หนูกลับมาแล้วค่ะ คุณโยชิดะ" ก่อนที่เธอจะยิ้มพิมพ์ใจออกมา

.



.

ปัจฉิมลิขิต

.

เนื่องด้วยจากบทสัมภาษณ์ของอ.ชิเมะซาบะ ก่อนวันวางจำหน่ายนิยาย อ.อยากให้ผู้ที่อ่านเรื่องนี้ ได้อ่านปัจฉิมลิขิตของอ. ด้วย ซึ่งจะเป็นการบอกว่า อ.อยากสื่ออะไร อยากให้อะไรกับผู้อ่านในเรื่องนี้ ซึ่งผมขออนุญาต ยกมาอธิบายความไว้ดังนี้ครับ

.

"โยชิดะนั้นเป็นตัวละครที่ชอบ "เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล" รวมไปถึง "วิบัติทางจริยธรรม" ถึงจะนิสัยแบบนี้ก็ยังได้ช่วยคนที่อยู่ตรงหน้าไว้ครั้งหนึ่ง จัดว่าเป็นคนที่เกินกว่าการเยียวยา แต่ด้วยความที่เป็นคนที่เกินกว่าการเยียวยาของเขา ก็ได้เป็นคนมอบทางสว่างให้กับซายุสาวน้อยที่ "อัตตวิบัติ" (ไม่เห็นค่าของตัวเอง)และโอบกอดความสิ้นหวังไว้

.

บางทีการที่เราได้พบกับคนอื่น ๆ ก็เพื่อที่จะได้สร้าง "สมดุลแห่งปาฎิหาริย์" นั้นขึ้นมาก็ได้ ถ้าตอนนั้นไม่ได้พบกับคน ๆ นี้จะเป็นยังไงนะ ซึ่งตลอดเส้นทางแห่งชีวิตนั้นก็จะมีการพบกันแบบนี้เกิดซ้ำไปเรื่อย ๆ ตัวอาจารย์หวังไว้ว่า อยากให้ผู้อ่านทุกท่าน ได้พบกับ "การพบกัน" เฉกเช่น "การพบกันของตัวละครในเรื่องนี้"


◤◢◤◢◤◢◤ ◢◤ ◢◤ ◢◤ ◢


จากตรงนี้ไปจะเป็นการอธิบายความทั้งหมดของผมนะครับ


สังเกตได้ว่า ในบทปัจฉิมลิขิต อ. จะตำหนิตัวละครทั้ง 2 ไว้อย่างเต็มที่ ตามที่อ. ได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า "พระ-นาง" เรื่องนี้เป็นตัวละครที่อ.เกลียดที่สุด โยชิดะ "ดีแบบเอาแต่ใจ" ซายุ "เอาแต่หนี" แน่นอนครับ เพราะนิสัยบางส่วนของตัวละครทั้ง 2 ไม่สมควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

.

แม้เราจะไม่สามารถตำหนิซายุได้อย่างเต็มปากที่เธอหนีออกจากบ้านเพราะสภาพจิตใจเธอตอนนั้น แม้จะเข้าใจที่เธอทำงานพิเศษไม่ได้เพราะตามกฎหมายญี่ปุ่นระบุไว้ "การทำงานพิเศษสำหรับเด็กต้องมีผู้ปกครองรับรอง" เธอจึงไม่สามารถหารายได้ระหว่างที่เธอหนีออกจากบ้านได้ จนต้องใช้ตัวเข้าแลก แต่ในความเป็นสังคม คงไม่มีใครกล้ายกเรื่องนี้มา "ยกย่อง" ว่าเป็นการกระทำที่สมควรกระทำได้

.

ส่วนโยชิดะ แม้จะดูเท่ ในสายตาคนอ่านที่กล้ารับความเสี่ยง ยอมที่จะเสี่ยงกับการถูกสังคมตำหนิ และ ลงโทษ เรียกได้ว่า แลกอนาคตของเขาเพื่อซายุเลย แต่มันคือ ความดีที่เอาแต่ใจ คือ ฉันจะเชื่อของฉันแบบนี้ ใครจะว่ายังไงก็ช่าง แม้เจตนา และการกระทำทุกอย่างของเขาจะบริสุทธิ์ทั้งหมด แต่เรื่องไม่ควรทำ อย่างการเอาซายุเข้าบ้านก็เป็นเรื่องไม่ควรทำอยู่ดี

.

แม้แต่ตัวอาจารย์เองก็บอกว่า ถ้าอาจารย์เป็นโยชิดะ อ.แจ้งตำรวจจับซายุแน่นอน

.

(ถึงมันจะไม่ช่วยแก้ปัญหาอะไรให้กับซายุและเป็นการส่งเธอเข้าลูปเดิมที่เธออาจจะหนีออกจากบ้านอีกก็ตาม แต่นั่นคือสิ่งที่ควรทำ ทว่า....อ.ได้ให้สัมภาษณ์ไว้กับอีกรายการที่บรรยากาศกุ๊กกิ๊กกว่าว่า จริง ๆ ที่อ.ไม่ให้ซายุเข้าบ้าน น่ะ เพราะอ.มั่นใจว่า อ.จะหม่ำซายุแน่นอน เพราะอ.ไม่ใช่โยชิดะ เป็นการขู่สาว ๆ ไปในตัวว่า อย่าน๊ะจ๊ะ โดนหม่ำแน่ ๆ นะ)

.

ซึ่งผมคิดว่าเป็นสิ่งที่อ.ควรทำเพื่อเป็นการชี้นำสังคมในแนวทางที่สังคมอยากให้เป็น ทั้งนี้ยังไม่รวมที่ เรื่องนี้โดนองค์กรจริยธรรมตั้งประเด็นสอบเรื่องความเหมาะสม รวมถึงคนดูหลายคนที่ไม่แน่ใจว่า การเอาเรื่องนี้มาทำเป็นสื่อสาธารณะออกอากาศมันจะไหวเรอะ แม้เรื่องนี้จะได้พิสูจน์ความดีงามของมันด้วยยอดขายถล่มทลายในญี่ปุ่น แต่ในความขายดีมันก็หมายถึงกำลังในการชี้นำ ที่เป็นความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ของคนเขียนด้วยเช่นกัน

.

อีกประเด็นน่ารัก ๆ ที่ไม่อยากให้พลาด คือ "สมดุลแห่งปาฏิหาริย์" ครับ มันเหมือนกับ แต่ล่ะคนต่างก็มีของที่ตัวเองมีมาต่างกันไป แต่เมื่อมาเจอกัน หากทั้งคู่เติมเต็มในสิ่งที่มีที่ขาดให้กันและกัน สุดท้ายมันก็จะเหมือน "ตราชั่งที่สมดุล" จึงเป็น ที่มาของ OP Anime ที่เล่นกับคำว่า "การต่อความทรงจำ" และ "ตราชั่ง" ที่สมดุลกันจนกลายเป็น "คำสารภาพรัก" ในที่สุด จัดเป็น OP Anime ที่มีการคิดมาทุกด้านอย่างลงตัวจริง ๆ น่ารักจนบอกไม่ถูกเลยล่ะครับ ส่วน ED ก็เล่นกับ "การเสแสร้งยิ้มของซายุ" ที่เรียกว่า Plastic Smile ไป ซึ่งเนื้อหาก็ดีมากเช่นกันครับ . และที่สำคัญ ....."ซุปมิโสะ" ครับ 5555 สุดท้าย อ.ก็ยังเล่นกับซุปมิโสะ สรุป โยชิดะ ติดเสน่ห์ปลายจวักซายุเข้าให้แล้ว อ้อ....ไหน ๆ ก็ไหน แล้ว ในเล่มเสริม ~ Each Stories~ จะมีบทที่ผู้จัดการแอบงอนโยชิดะที่ออกปากชมอาหารที่ซายุทำ จนไปฝึกปรือฝืมือทำอาหาร......แต่ก็สู้ซายุไม่ได้อยู่ดี ใครสนใจอย่าลืมไปหาอ่านกันนะครับ

.

และประเด็นต่อไป เป็นการแกล้งจากผมครับ แน่นอนว่า คุณผู้จัดการ อ.ชิเมะ ให้สัมภาษณ์กี่รายการก็ยืนยันว่า ผู้หญิงแบบผู้จัดการ คือ สเปคของ อ. .....แต่คำถามจากผมเองคือ แล้วผู้จัดการเนี่ยสมดุลกับโยชิดะหรือเปล่าน้าาาาาาาาา? 55555 เป็นคำถามแกล้งกองเรือจากผมครับ

.

สำหรับการเขียนสรุปในการครั้งนี้ผมขอจบ ณ จุด ๆ นี้ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความกรุณาอดทนอ่าน อะไรที่มันยาว ๆ ถึงขนาดนี้ ขออภัยที่ความสามารถผมด้อยเกินกว่าที่จะลดทอนเนื้อหาให้สั้นกว่านี้ได้นะครับ แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ครับ หากอะไรในการสรุปครั้งนี้ ล่วงเกินใครไว้ก็ขออภัย มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ขอบคุณทุกท่านครับ สวัสดีครับผม

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

flow chart แสดงขั้นตอนการปฏิบัติงาน lmyour แปลภาษา กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่เรือ การเขียน flowchart โปรแกรม ตัวรับสัญญาณ wifi โน๊ตบุ๊คหาย ตัวอย่าง flowchart ขั้นตอนการทํางาน ผู้แต่งกาพย์เห่ชมไม้ ภูมิปัญญาหมายถึง มีสัญญาณ wifi แต่เชื่อมต่อไม่ได้ เชื่อมต่อแล้ว ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ /roblox promo code redeem 3 พระจอม มีที่ไหนบ้าง AKI PLUS รีวิว APC UPS APC UPS คือ Adobe Audition Adobe Bridge Anapril 5 mg Aqua City Odaiba Arcade Stick BMW F10 jerk Bahasa Thailand Benz C63 ราคา Bootstrap 4 Bootstrap 4 คือ Bootstrap 5 Brackets Brother Scanner Brother iPrint&Scan Brother utilities Burnt HD C63s AMG CSS เว้น ช่องว่าง CUPPA COFFEE สุราษฎร์ธานี Cathy Doll หาซื้อได้ที่ไหน Clock Humidity HTC-1 ColdFusion Constitutional isomer Cuppa Cottage เจ้าของ Cuppa Cottage เมนู Cuppa Cottage เวียงสระ DMC DRx จ่ายปันผลยังไง Detroit Metal City Div class คือ Drastic Vita