การจัดวางจอภาพ

เราแทบจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้ เวลาเราจะทำงานอะไร ทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนอยู่เสมอๆ ทั้งการทำงาน การเรียน หรือกิจกรรมผ่อนคลาย อย่างเช่น เล่นเกม ดูภาพยนตร์ ฟังเพลง ทำให้เราต้องใช้สายตาเพ่งมองหน้าจออยู่แทบจะตลอดเวลา นานวันเข้าก็เริ่มที่จะเกิดปัญหาทางด้านสายตา เช่น อาการปวดตา ตามัว ตาแห้ง ตาล้า สายตาสั้น หรือผลข้างเคียงอื่นๆ เช่น อาการปวดหัว ปวดหลัง เมื่อยคอ ซึ่งจากสถิติพบว่าคนที่ใช้คอมพิวเตอร์มากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน มักจะประสบกับปัญหาสายตาหลักๆ 4 โรค ได้แก่

1. โรควุ้นในตาเสื่อม มีอาการคือ
– เห็นเหมือนหนากไย่ลอยไปมา
– เห็นแสงสว่างคล้ายแสงแฟลช

2. โรคสายตาสั้น เอียง มีอาการคือ
– มองภาพเบลอ ไม่ชัด
– ปวดตา ตาล้า ต้องเพ่งสายตา

3. โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม มีอาการคือ
– มีอาการตาแห้ง แสบตา เคืองตา ปวดตา และปวดศีรษะ
– ใช้สายตานานๆ แล้วเริ่มมองไม่ชัด

4. โรคจอประสาทตาเสื่อม มีอาการคือ
– เห็นภาพบิดเบี้ยว หรือมีจุดดำตรงกลางภาพ
– มองเห็นผ้ามีสีซีดลง

หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์มากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน จนเริ่มมีอาการบางอย่างข้างต้นแล้ว วันนี้เรามาดูวิธีที่จะช่วยลดการทำร้ายสายตา ทำให้สายตาเรารู้สึกสบายและผ่อนคลายมากขึ้น ดังคำแนะนำดังต่อไปนี้ได้เลยครับ

1. กะพริบตาให้ถี่ขึ้น
อาการตาแห้งเกิดจากการที่เรากะพริบตาน้อยลง เนื่องจากมีสมาธิขณะทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ อัตราการกะพริบตาจะลดลงจาก 20 – 22 ครั้งต่อนาที เหลือเพียง 6 – 8 ครั้งต่อนาที จึงควรที่จะกะพริบตาให้ถี่ขึ้น หรืออาจใช้น้ำตาเทียมหยอดตาเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น

2. จัดวางตำแหน่งคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม
ควรจัดให้มีระยะห่างระหว่างจอภาพกับตัวเราประมาณ 50-70 ซม. จัดระดับจอภาพให้อยู่ในระดับสายตาประมาณ 4-9 นิ้วจากพื้นหรือโต๊ะตั้งคอมพิวเตอร์ ไม่ควรให้จอภาพอยู่สูงหรือต่ำเกินไป

3. ปรับความสว่างของห้อง
จัดให้บริเวณหน้าต่างอยู่ทางด้านข้างของจอคอมพิวเตอร์ เพื่อลดแสงตกสะท้อนบนหน้าจอ และควรปิดไฟบางดวงที่รบกวนการทำงาน เพราะปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากความสว่างที่มากเกินไป ถ้ามีแสงจ้าจากหน้าต่างควรใช้มูลี่เพื่อปรับแสงให้ผ่านเข้ามาได้เพียงบางส่วน ไม่เข้าตาโดยตรง และหลีกเลี่ยงการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีพื้นผิวสะท้อน เช่น โต๊ะสีขาว ควรใช้วัสดุที่มีผิวด้านสะท้อนแสงไม่มากจะดีกว่า

4. แก้ปัญหาเรื่อง “ขนาด”
ความละเอียดของหน้าจอ หรือ screen resolution เป็นสิ่งที่ทำให้หน้าจอมีความละเอียดของภาพหรือ ตัวหนังสือแตกต่างกัน ดังนั้นจึงควรปรับค่าความละเอียดให้พอดีกับขนาดของหน้าจอ ไม่ควรเล็กหรือใหญ่เกินไป เพราะจะทำให้ขนาดของภาพและตัวหนังสือผิดเพี้ยนไปจากความจริง

5. เลือกใช้แว่นตาที่เหมาะสมกับการใช้คอมพิวเตอร์
ปัจจุบันมีแว่นตาที่ผลิตมาเพื่อกรองแสงจากหน้าจอโดยเฉพาะ เลนส์แว่นเคลือบด้วยวัสดุที่สามารถป้องกันรังสีจากหน้าจอได้ดี และสามารถนำมาตัดเป็นแว่นสายตาสำหรับคนสายตาสั้น-ยาว ดังนั้นหากต้องใช้เวลาอยู่หน้าจอคอมเป็นเวลานาน ควรเลือกใช้แว่นประเภทนี้ และใช้เลนส์สีเขียวอ่อนที่จะช่วยให้รู้สึกสบายตา และเพื่อลดแสงสะท้อนจากจอภาพ

6. พักสายตา
ทุกๆ ชั่วโมงควรเปลี่ยนอิริยาบถ หรือลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายบ้าง โดยละสายตาจากหน้าจอ แล้วมองออกไปในระยะไกล สัก 10 – 20 วินาที แล้วกลับมามองในระยะใกล้ ทำสลับกันไปหลายๆ ครั้ง จะช่วยให้คลายสายตาจากความเมื่อยล้าได้ดี

7. ออกไปข้างนอกบ้าง
การอุดอู้อยู่ที่เดิมเป็นเวลานานๆ ทำให้สายตาเราชินกับระดับแสงเดิมๆ และรู้สึกตึงเครียดอย่างไม่รู้ตัว ดังนั้นเราควรละจากหน้าจอคอมแล้วลุกออกไปเดินสูดอากาศข้างนอกบ้างสัก 15 นาที เพราะจะทำให้สายตาได้สัมผัสกับระดับแสงที่แตกต่างจากในห้อง ทำให้สมองและสายตาได้ผ่อนคลายความเมื่อยล้า ซึ่งจะทำให้เรารู้สึกมีพลังขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

แม้จะทำตามคำแนะนำข้างต้นแล้ว แต่เราก็ควรตรวจสุขภาพตาอย่างสม่ำเสมอ เพียงปีละ 1 ครั้ง เพื่อวัดความดันตา ตรวจเช็กจอประสาทตาและความผิดปกติของสายตา เพราะโรคตาบางอย่างจะไม่แสดงอาการจนกว่าจะถึงขั้นรุนแรงแล้ว หากตรวจพบโรคตาตั้งแต่เริ่มต้น ก็จะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อช่วยป้องกันการสูญเสียการมองเห็นนั่นเอง

เราใช้คุกกี้ในเว็บไซต์ของเราเพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องมากที่สุดโดยจดจำการตั้งค่าของคุณและเข้าชมซ้ำ การคลิก "ยอมรับทั้งหมด" แสดงว่าคุณยินยอมให้ใช้คุกกี้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเข้าไปที่ "การตั้งค่าคุกกี้" เพื่อให้คำยินยอมที่มีการควบคุม

การทำงานในยุคโควิด-19 แพร่ระบาด นำไปสู่โรคประจำถิ่นของสังคมไทยในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลกระทบให้เหล่าพนักงานออฟฟิศต้องปรับเปลี่ยนวิถีการทำงานแบบ Work From Home เป็นส่วนใหญ่ โดยอุปกรณ์

ตัวกลางในการประสานการทำงานแก่พวกเขาคงไม่พ้นจากคอมพิวเตอร์ และเครื่องระบบดิจิตอลจอสัมผัสอย่างสมาร์ทโฟน ที่มีแสงสีฟ้าเป็นองค์ประกอบหลักในการส่งผลสุขภาพสายตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนอวัยวะของ เลนส์ตา ที่มีหน้าที่ในการหักเหแสงกระทบจอตาในการเห็นภาพเป็นอย่างมาก 

แสงสีฟ้า (Blue Light) จัดเป็นภัยร้ายเงียบที่ผู้คนส่วนใหญ่ต่างละเลยการถนอมสายตา แหล่งพลังงานได้กระจายรังสีคลื่นแสงที่สามารถสร้างผลกระทบกล้ามเนื้อดวงตาอ่อนล้า จอประสาทเสื่อม และนำไปสู่ปัญหาภาวะค่าสายตาแก่ผู้ใช้สื่อดิจิตอลในชีวิตประจำวันได้

เพื่อป้องกันแสงสีฟ้าสร้างผลกระทบแก่ดวงตา ทางทีมแพทย์ได้จัดเตรียม 7 วิธีถนอมสายตาสำหรับพนักงานออฟฟิศ ที่ช่วยเยียวยาการมองเห็นของผู้ป่วยอย่างยั่งยืนได้ในบทความนี้

ถนอมสายตา เพื่อสุขภาพดวงตาที่ยั่งยืน

วิธีดูแลถนอมสายตา เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยบริหารอวัยวะส่วนของการมองเห็นให้มีการใช้งานที่ยืนยาว และชะลออายุตาไม่ให้เสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจที่เปรียบเสมือนกล้ามเนื้อที่ควรได้รับการฝึกถนอมสายตาให้มีความแข็งแรง สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมบำรุงสายตาคงสภาพอายุดวงตาได้อย่างสม่ำเสมอ 
 

โรคตาที่มักพบในพนักงานออฟฟิศ

รูปแบบการทำงานของพนักงานออฟฟิศโดยส่วนใหญ่ ยังคงทำงานร่วมกับอุปกรณ์ดิจิตอลอย่างจอหน้าคอมพิวเตอร์อย่างไม่ขาดสาย นอกจากนี้ผู้ใช้ยังคงบริโภคสื่อดิจิตอลโดยไม่ได้รับการถนอมสายตาในยามเวลาว่าง ไม่ว่าจะเป็นการเสพสื่อบันเทิงออนไลน์อย่าง การดูภาพยนต์ การเล่นเกมส์ หรือการใช้โซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่าง ๆ ดวงตาทั้งสองคู่ยังคงเป็นตัวกลางในการส่งภาพไปยังส่วนประสาทของสมองอยู่เสมอ หากผู้บริโภคใช้ดวงตาในการเสพสื่อมากเกินไป อาจทำให้ดวงตาที่อ่อนหล้านำไปสู่ภาวะปัญหาทางด้านสายตา อย่าง สายตาสั้น สายตาเอียง และสายตายาวก่อนวัยอันควร

 ผู้คนที่ทำการรักษาค่าสายตา อย่าง การรักษาสายตาสั้น ส่วนใหญ่มีความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่าการแก้ไขค่าสายตาเบื้องต้น เพียงพอสำหรับการดูแลดวงตา โดยความจริงแล้ว ส่วนประกอบอื่น ๆ ของตารงจุดอื่นมีส่วนได้รับภาระจากการใช้สายตาโดยไม่ได้รับการหาวิธีดูแลถนอมดวงตาอย่างยั่งยืนอีกเช่นกัน เช่น อาการปวดตา ตามัว ตาแห้ง ตาล้า และผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่นำไปสู่โรคปัญหาทางสายตา 4 โรคหลัก ได้แก่

1. โรควุ้นในตาเสื่อม

โรควุ้นในตาเสื่อม (Vitreous Degeneration) เป็นภาวะที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุผ่านดวงตาโดยตรง พร้อมรวมถึงการผ่าตัด การเสื่อมโทรมสภาพวุ้นตาตามอายุ และภาวะสายตาสั้น

ระยะเริ่มต้น ตัววุ้นตาจะจับตัวเป็นก้อนแล้วกลายเป็นจุดฝ้าดำข้างในส่วนประกอบดวงตาอย่าง จอประสาทตาได้ อาการของผู้ป่วยจะมองเห็นภาพเหมือนมีหยากไย่ลอยไปมา และเห็นแสงสว่างคล้ายแสงแฟลช ในยามกลางคืนดวงตาจะไม่มองเห็นเงาในพื้นที่มืด หากไม่ได้รับการถนอมสายตา ส่วนประกอบเส้นเลือดในการลำเลียงน้ำในจอประสาทตาอาจฉีกขาด นำไปสู่ภาวะตาบอดได้

2. โรคสายตาสั้น เอียง

โรคสายตาสั้น และภาวะสายตาเอียง (Myopia and Astigmatism) เป็นภาวะที่ได้รับผลกระทบมาจากกรรมพันธุ์ทางยีนส์ด้อย การคลอดก่อนกำหนด หรือการทำกิจกรรมการใช้สายตาอย่างการจดจ้องภาพในระยะเวลานานเกินไป หรือการใช้สายตาดูสื่อดิจิตอลต่าง ๆ อาการของผู้ป่วยจะมองเห็นวัตถุในระยะไกลไม่ชัดเจน เกิดการมองเห็นภาพเบลอ ไม่ชัด นำไปสู่อาการ ปวดตา ตาล้า และใช้กล้ามเนื้อตรงส่วนดวงตาในการเพ่งภาพมากกว่าปกติ

โดยทั่วไปผู้ป่วยทางสายตาสั้น มีโอกาสได้รับผลกระทบภาวะสายตาเอียงได้ เป็นผลที่เกิดจากส่วนประกอบกระจกตามีความโค้งที่ไม่สมมาตรกัน ทำให้การหักเหของแสงไม่ตั้งฉากกับภาพที่มองเห็น ทำให้บางครั้งผู้ป่วยต้อเอียงคอ เพื่อให้ภาพข้างหน้าเกิดการตั้งฉากกัน หากไม่ได้รับการถนอมสายตา อาจทำให้สายตาพร่ามัวในระยะเริ่มต้น โปรตีนที่ทำการหล่อเลี้ยงส่วนของเลนส์แก้วตาเสื่อมสภาพกลายเป็นต้อจุดเล็ก และอาจสะสมเป็นก้อนใหญ่ที่อาจนำไปสู่โรคทางสายตาอย่าง โรคต้อกระจกได้

3. โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม

โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม (Computer Vision Syndrome) เป็นภาวะที่ได้รับผลกระทบจากการใช้สายตาจดจ้องกับภาพหน้าจอที่มีแสงสีฟ้านานเกินไป  อาการของผู้ป่วยจะ มีอาการตาแห้ง แสบตา เคืองตา ปวดตา และปวดศีรษะ ปวดคอ ปวดไหล่ และอาการปวดหลังจากการไม่ค่อยเคลื่อนที่และเปลี่ยนท่าอิริยาบถใด ๆ หากไม่ได้รับการถนอมสายตา อาจทำให้เกิดภาวะสายตาเอียงได้ เนื่องจากแสงที่หักเหตรงส่วนเลนส์ตาที่ได้รับพลังงานแสงสีฟ้ามากเกินไป อาจทำให้การมองเห็นภาพไม่ตั้งฉาก อีกทั้งยังเกิดอาการตาแห้ง ภูมิแพ้ขึ้นตา และภาวะตาเหล่อีกด้วย

4. โรคจอประสาทตาเสื่อม

โรคจอประสาทตาเสื่อม (Macular Degeneration) เป็นภาวะที่ได้รับผลกระทบจากกรรมพันธุ์ การเข้าสู่ภาวะผู้สูงอายุ และการใช้สารเสพติดอย่างการสูบบุหรี่ ที่มีผลต่อการเสื่อมสภาพการทำงานของจอประสาทตา ในระยะเริ่มต้นผู้ป่วยมีอาการ สายตามองไม่ชัดเป็นครั้งคราว เห็นภาพบิดเบี้ยว หรือมีจุดดำตรงกลางภาพ  การมองเห็นสีเพี้ยน เช่น มองผ้ามีสีซีดลง

หากไม่ได้รับการถนอมสายตา ส่วนของตาดำ (Cornea) ที่ทำหน้าที่เป็นจุดภาพชัดของส่วนตรงกลางของผู้มอง เกิดจุดดำจาง ๆ กลางภาพ สายตาไม่สามารถทนรับแสงสว่าง แม้เป็นอาการที่สร้างผลกระทบไม่ร้ายแรงเท่าโรคอื่น ๆ ที่กล่าวมา ผู้ป่วยที่ป่วยภาวะโรคจอประสาทตาเสื่อมควรทำการนัดพบจักษุแพทย์เพื่อทำการถนอมสายตาโดยเร็วที่สุด

แนะนำ 7 วิธีถนอมสายตา

พนักงานออฟฟิศที่มีอาการ ตาพร่ามัว มองเห็นภาพเบลอ จนไปถึงส่วนประกอบการทำงานของอวัยวะตามีการทำงานผิดปกติจากการใช้สายตาผ่านคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลามากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน ทางแพทย์ได้จัดเตรียม 7 วิธีถนอมสายตาจากคอมพิวเตอร์ ที่ช่วยบรรเทาภาระดวงตาของคุณและผู้ได้รับการผ่าตัด ให้รู้สึกสบายและผ่อนคลายมากขึ้น และสามารถบริหารเป็นกิจวัตรประจำวันได้ ดังต่อไปนี้

1. กะพริบตาให้ถี่ขึ้น

การกะพริบตาเป็นวิธีถนอมสายตาที่ช่วยทำให้ดวงตาของคุณมีน้ำตาหล่อเลี้ยงและปรับจูนการโฟกัสดวงตา พร้อมกับป้องกันสิ่งระคายเคือง จากแสงสีฟ้า ที่มีผลกระทบในขณะทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพราะการโฟกัสหน้าจอ อัตราการกะพริบตาโดยทั่วไปจาก 20-22 ครั้งต่อนาที ลดลงเหลือเพียงประมาณ 6-8 ครั้งต่อนาทีเท่านั้น  ดังนั้นการกะพริบตาเป็นการถนอมสายตาที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ดวงตาอย่างสม่ำเสมอ หากเป็นคนตาแห้งง่าย อาจใช้ตัวช่วยอย่างน้ำตาเทียม (Artificial Tears) ในการทดแทนปริมาณน้ำที่ขาดไปได้

2. จัดวางตำแหน่งคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม

การจัดตำแหน่งคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ เป็นวิธีถนอมสายตาสั้นที่ควรมีระยะห่างจากจอภาพถึง 50-70 ซม. โดยประมาณ และดวงตาทั้งสองข้างอยู่ระนาบเดียวกับจอภาพในระดับสายตาที่มีระยะห่าง 5-9 นิ้ว และการเลือกโต๊ะสำหรับคอมพิวเตอร์ ควรเลือกระดับความสูงที่เหมาะสำหรับในระยะสายตาของผู้ใช้

3. ปรับความสว่างของห้อง

การจัดหน้าจอคอมพิวเตอร์ ควรวางอุปกรณ์ใกล้เคียงด้านข้างของหน้าต่างที่มีมู่ลี่ประกอบติดกัน เพื่อปรับแสงผ่านเข้ามาได้บางส่วนในห้องช่วงยามกลางวัน และลดอัตราแสงสะท้อนบนหน้าจอและการกระทบของตัวแสงเข้าตาโดยตรง

นอกจากนี้ควรงดเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีพื้นผิวสีสะท้อนในการประดับในห้อง เพื่อให้ภาพพื้นรวมในห้องรู้สึกโปร่งใส โล่ง และสบายตา ช่วยการถนอมสายตาเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ลงตัว

อีกทั้งการปรับแสงสว่างหน้าจอคอม เป็นโหมดแสงถนอมสายตาอย่าง Night Light จะช่วยลดพลังงานแสงสีฟ้าออกมาเพื่อเยียวยาดวงตาผู้ใช้งานบนหน้าจอคอมได้อย่างสบายตา

4. แก้ปัญหาเรื่อง “ขนาด”

การปรับความคมชัดของหน้าจอ (Screen resolution) ให้ลายละเอียดของตัวภาพและตัวอักษรนั้น ควรมีความสันทัดเข้ากับผู้ใช้ในการถนอมสายตา ไม่ควรปรับขนาดเล็กหรือใหญ่เดินไป เพราะจะทำให้ผู้ใช้เคยชินกับการดูภาพและตัวหนังสือที่ผิดเพี้ยนไปเกินความเป็นจริง

5. เลือกใช้แว่นตาที่เหมาะสมกับการใช้คอมพิวเตอร์

แว่นคัดกรองแสงสีฟ้าจะช่วยถนอมสายตาของผู้ใช้ในขณะทำงานหน้าจอโดยเฉพาะ เนื่องจากตัวเลนส์แว่นมีคุณสมบัติในการป้องกันรังสีพลังงานจากตัวหน้าจอได้เป็นอย่างดี ซึ่งวัสดุที่ช่วยป้องกันแสงสีฟ้านั้น สามารถนำไปประกอบกับแว่นตาสำหรับ สายตาสั้น สายตาเอียง สายตายาว หรือแม้กระทั่งบุคคลที่ได้รับการทำเลสิค (Lasik) สามารถสวมใส่แว่นคัดกรองแสงสีฟ้าในการลดการสะท้อนแสงจากจอภาพให้ดวงตาสามารถใช้งานได้ยืนยาว

6. พักสายตา

ในขณะที่ผู้ใช้กำลังทำกิจกรรมบนหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ควรมีการพักสายตาเพื่อคลายอาการอ่อนหล้าของบริเวณกล้ามเนื้อมดวงตาแบบเป็นครั้งเป็นคราวอย่างสม่ำเสมอ โดยหลักการทำวิธีการถนอมสายตานี้คือ การละสายตาออกแล้วมองออกไปในระยะไกลประมาณ 10-20 วินาที แล้วกลับมามองระยะใกล้ในระยะเวลาเดียวกัน แล้วทำสลับกันทำหลาย ๆ ครั้ง จะช่วยทำให้ความตึงเครียดบริเวณดวงตาคลายความเมื่อยล้าได้อย่างดี

7. ออกไปข้างนอกบ้าง

การใช้สายตาโฟกัสที่อยู่ในสภาพแวดล้อมเป็นระยะเวลานาน จะทำให้ดวงตาของคุณเคยชินกับแสงสว่างในห้องโดยไม่รู้ตัวและไม่สามารถปรับตัวกับแสงพื้นที่ข้างนอกได้ และยังเป็นวิธีถนอมสายตาจากโทรศัพท์เมื่อผู้ใช้สื่อเคลื่อนที่ในการบริโภคต่างสถานที่ที่มีแสงแตกต่างกัน ดังนั้นแล้วการถนอมสายตาโดยการออกไปข้างนอกทุก 15 นาที จะช่วยทำให้สายตาสามารถปรับตัวที่แตกต่างจากในห้องเดิม ๆ ได้อย่างคุ้นเคย

วิธีบริหารกล้ามเนื้อตาฉบับง่าย

การบริหารกล้ามเนื้อดวงตาแบบง่าย ๆ เป็นการถนอมสายตาที่คนทั่วไปสามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน โดย 6 วิธีการดังนี้

  1. การกรอกลูกตาซ้าย-ขวา ใบหน้าตั้งตรง กรอกลูกตาไปทางซ้ายและขวาไปกลับติดต่อกัน 10 ครั้ง โดยไม่หันตามทิศทางทางซ้ายตา
  2. การกรอกลูกตาขึ้น-ลง ใบหน้าตั้งตรง กรอกลูกตาไปทางข้างบนและกรอกลงล่าง ไปกลับติดต่อกัน 10 ครั้งโดยไม่หันตามทิศทางทางซ้ายตา
  3. การกรอกลูกตาเฉียงขึ้น-ลง ใบหน้าตั้งตรง กรอกลูกตาเฉียงไปตามคิ้วซ้ายหรือขวา หลังจากนั้นแล้วกรอกตาลงตั้งฉากกับส่วนของแก้มฝั่งตรงข้ามติดต่อกัน 10 ครั้ง โดยไม่หันตามทิศทางทางซ้ายตา
  4. การกรอกลูกตาเป็นวงกลมแบบตามเข็ม-ทวนเข็ม ใบหน้าตั้งตรง หมุนลูกตากรอกตามเข็มและทวนเข็มนาฬิกาๆ ติดต่อกัน 10 ครั้งแบบช้า ๆ โดยไม่หันตามทิศทางทางซ้ายตา
  5. การปรับโฟกัสสายตา 3 ระดับ โดยชูนิ้วชี้ข้างซ้ายออกไปสุดแขน แล้วเลื่อนนิ้วใกล้เข้ามาให้ห่างจากใบหน้า 3 นิ้ว ทุก ๆ ว วินาทีแล้วสลับติดต่อกัน 10 ครั้ง โดยใบหน้ายังคงตั้งตรง ไม่เอียงและงอตัวตามนิ้ว
  6. การนวดบริเวณดวงตา การปิดตาแล้วใช้มือทั้งสองข้างนวดบริเวณหัวคิ้วจนไปถึงหัวตา จะช่วยให้กล้ามเนื้อดวงตาผ่อนคลาย โดยจำนวนครั้งการนวดคลึงควรนวดตามเข็มและทวนเข็มไปกลับสลับติดต่อกัน 10 ครั้ง

ตรวจสายตาเป็นประจำ ช่วยถนอมดูแลสายตา

สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการปฎิบัติถนอมสายตาอย่างยั่งยืนคือ การตรวจสุขภาพประจำปี ปีละ 1 ครั้ง เพื่อตรวจเช็คส่วนประกอบอื่น ๆ ของดวงตาว่า มีสิ่งผิดปกติหรือโรคแทรกซ้อนที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าได้ เช่น โรคแทรกซ้อนของต้อกระจกจะมี ต้อลม ต้อเนื้อ และต้อหิน ที่มีระยะอาการเริ่มต้นเหมือนอาการปวดตาทั่วไป แต่แท้จริงแล้วเป็นภัยเงียบที่สามารถสร้างผลกระทบการมองเห็นแก่ดวงตาได้ ดังนั้นหากได้รับการตรวจสุขภาพของดวงตาตั้งแต่ต้น จะทำให้หมอสามารถวินิฉัยอาการและนำไปสู่การรักษาแก่ผู้ป่วยได้อย่างถูกต้อง

ข้อสรุป

จากการสรุปการถนอมสายตาสำหรับพนังงานออฟิศที่กล่าวมาข้างต้น ผู้ที่มีอาการตาล้าระยะเริ่มต้นควรหมั่นดูแลบำรุงรักษาสายตา และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการมองเห็นของดวงตาทั้งสองคู่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาอาการทางสายตา และโรคแทรกซ้อนทางดวงตาที่มีผลกระทบต่อการมองเห็นได้ในอนาคต  หากผู้ป่วยมีอาการผิดปกติทางด้านสายตาสามารถติดต่อสอบถามกับทีมจักษุแพทย์เฉพาะทางโรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ได้ที่ Line @samitivejchinatown หรือเบอร์ 02-118-7893 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

flow chart แสดงขั้นตอนการปฏิบัติงาน lmyour แปลภาษา กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่เรือ การเขียน flowchart โปรแกรม ตัวรับสัญญาณ wifi โน๊ตบุ๊คหาย ตัวอย่าง flowchart ขั้นตอนการทํางาน ผู้แต่งกาพย์เห่ชมไม้ ภูมิปัญญาหมายถึง มีสัญญาณ wifi แต่เชื่อมต่อไม่ได้ เชื่อมต่อแล้ว ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ /roblox promo code redeem 3 พระจอม มีที่ไหนบ้าง AKI PLUS รีวิว APC UPS APC UPS คือ Adobe Audition Adobe Bridge Anapril 5 mg Aqua City Odaiba Arcade Stick BMW F10 jerk Bahasa Thailand Benz C63 ราคา Bootstrap 4 Bootstrap 4 คือ Bootstrap 5 Brackets Brother Scanner Brother iPrint&Scan Brother utilities Burnt HD C63s AMG CSS เว้น ช่องว่าง CUPPA COFFEE สุราษฎร์ธานี Cathy Doll หาซื้อได้ที่ไหน Clock Humidity HTC-1 ColdFusion Constitutional isomer Cuppa Cottage เจ้าของ Cuppa Cottage เมนู Cuppa Cottage เวียงสระ DMC DRx จ่ายปันผลยังไง Detroit Metal City Div class คือ Drastic Vita