บริการดีจัง โอนเงินเข้าบัญชี ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้ท่าน โดยเปลี่ยนวงเงินคงเหลือในบัตรเครดิตของท่านเป็นเงินสด แล้วโอนเงินเข้าบัญชี ให้ท่านเลือกผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 36 เดือน
**หมายเหตุ: กรณีผู้ถือบัตรมีความประสงค์จะปิดยอดผ่อนชำระต่อเดือนทุกงวดก่อนครบกำหนดระยะเวลาผ่อน ผู้ถือบัตรจะต้องแจ้งให้ธนาคารทราบล่วงหน้าผ่าน SCB Call Center 0 2777 7777 หรือ ศูนย์บริการลูกค้าคาร์ดเอกซ์ 1468 โดยในกรณีดังกล่าว ผู้ถือบัตรจะต้องชำระยอดเบิกถอนเงินสดล่วงหน้าที่คงค้างพร้อมดอกเบี้ยทั้งหมด รวมทั้งค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินสดล่วงหน้าในอัตราร้อยละ 3 ของยอดเบิกถอนเงินสดล่วงหน้า และภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 7 ของค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินสดล่วงหน้า
- ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้บริการโดย บริษัท คาร์ดเอกซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม SCBX เช่นเดียวกับธนาคาร
ตลาดบัตรเครดิตเป็นตลาดที่เรียกได้ว่าสนุกอีกตลาดหนึ่ง แม้จะเป็นตลาดที่มีผู้ใช้งานอยู่ในกลุ่มที่จำกัด จากจำนวนบัตรเครดิตในตลาด 22.1 ล้านใบในปีที่ผ่านมา และส่วนใหญ่คนถือครองบัตรเครดิตมากกว่าหนึ่งใบ เพื่อใช้เป็นบัตรหลักและบัตรรองตามความสะดวกในการใช้งาน และสิทธิพิเศษต่างๆ ที่ธนาคารมอบให้การแข่งขันในธุรกิจบัตรเครดิตจึงประกอบด้วยการแข่งขัน 2 ทาง คือ การหาลูกค้าใหม่ และกระตุ้นให้ลูกค้าใช้เป็นบัตรหลักในการใช้จ่าย
และเป็นการแข่งขันที่รุนแรงทั้งคู่ ผ่านแคมเปญแจกของสมนาคุณเมื่อสมัครบัตรใหม่ โปรโมชั่นกระตุ้นการรูดบัตรด้วยการแลกพอยต์สะสมในรูปแบบต่างๆ ที่นอกเหนือจากสินค้าในแค็ตตาล็อก แคมเปญร่วมกับร้านค้าเพื่อมอบสิทธิพิเศษที่มากขึ้น เมื่อชำระผ่านบัตร ร่วมมือกับพาร์ตเนอร์จัดทำบัตรโคแบรนด์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ในแต่ละราย และอื่นๆ
สิ่งที่ทำให้ธนาคารยอมทุ่มเม็ดเงินเพื่อง้อผู้ใช้ให้ใช้บัตรเครดิตของธนาคารในการจับจ่ายแทนเงินสด หรือธนาคารคู่แข่งเพราะ
- ตลาดนี้ยิ่งมีลูกค้าใช้งานมากขึ้นเท่าไร โอกาสทางรายได้จากการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการรูดบัตรจากร้านค้า และรายได้จากดอกเบี้ยสินเชื่อบัตรเครดิต จากการที่ลูกค้าผ่อนชำระค่าสินค้า, ลูกค้าขอทยอยจ่ายยอดเรียกเก็บบัตรเครดิตเป็นงวดๆ เพราะไม่สามารถนำเงินมาชำระยอดการใช้ของบัตรเครดิตที่เรียกเก็บในแต่ละเดือนได้ทั้งก้อน และลูกค้าใช้บัตรเครดิตกดเงินล่วงหน้ามาใช้ก็จะมีมากขึ้นตามมา
- ธนาคารยังได้ฐานลูกค้าที่เป็นลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มที่มีกำลังซื้อ เพราะฐานเงินเดือนของผู้สมัครบัตรเครดิตจะต้องมีฐานเงินเดือนที่มากกว่า 15,000 บาทต่อเดือน หรือเจ้าของกิจการที่มีรายได้ที่แน่นอน
ซึ่งการที่ลูกค้าบัตรเครดิตธนาคารเลือกใช้เป็นบัตรเครดิตหลัก ธนาคารจะได้ดาต้าเบสที่เป็นรสนิยมด้านการจับจ่ายของลูกค้าในแต่ละรายที่สามารถต่อยอดนำไปพัฒนาบริการใหม่ๆ หรือนำเสนอบริการที่ธนาคารมีอยู่ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น
เพราะทุกการรูดคือโอกาส ในปีที่ผ่านมาภาพรวมจำนวนบัตรเครดิตในประเทศไทย จึงมีจำนวนบัตรเครดิตที่มีมากถึง 22.1 ล้านใบ เติบโต 9% จากปี 2560 ที่มีจำนวนบัตรเครดิตในระบบทั้งสิ้น 20.3 ล้านใบ
และมีการเติบโตด้านยอดสเปนดิ้ง 11%
ช้อปเปอร์รูดบัตรไม่พอ ต้อง First Jober รูดด้วย
ตลาดบัตรเครดิตมีการเติบโตและการแข่งขัน ธนาคารไทยพาณิชย์ก็เป็นอีกธนาคารหนึ่งที่มีการเติบโตที่โดดเด่นในตลาดบัตรเครดิตในปีที่ผ่านมา
ปิติพร พนาภัทร์ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานบริหารพันธมิตรและพัฒนาธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้เปิดเผยข้อมูลการเติบโตของธุรกิจบัตรเครดิตธนาคารไทยพาณิชย์ในปีที่ผ่านมาว่า
บัตรเครดิตธนาคารไทยพาณิชย์มีการเติบโต 20% ด้านจำนวนบัตร ซึ่งเป็นการเติบโตสูงกว่าตลาด จากลูกค้าที่สมัครบัตรใหม่กว่า 500,000 ใบ
การเติบโตนี้มาจากการรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง และการเปิดตัวบัตรเครดิตโคแบรนด์ SCB M VISA กับเดอะมอลล์ ที่สามารถหายอดบัตรใหม่ได้มากถึง 200,000 ใบ หลังจากเปิดตัวในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
และการจับมือร่วมกับเดอะมอลล์เปิดบัตร SCB M VISA ยังทำให้ธนาคารไทยพาณิชย์ขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มช้อปเปอร์ที่มีพฤติกรรมการจับจ่ายอยู่ในห้างเดอะมอลล์เป็นประจำ เพราะกลุ่มนี้ส่วนใหญ่แล้วจะมียอดสเปนดิ้งโดยเฉลี่ยที่สูงกว่าผู้ถือบัตรอื่นๆ โดยเฉลี่ย 30-40% ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจบัตรเครดิตของธนาคารไทยพาณิชย์เพิ่มสูงขึ้น
เมื่อปีที่ผ่านมาธนาคารไทยพาณิชย์ทำได้ดีในกลุ่มช้อปเปอร์ ในปีนี้ ปิติพรได้วางเป้าหมายการเติบโตไว้ที่จำนวนบัตร 500,000 ใบ เท่ากับปีที่ผ่านมา
แต่ภาวการณ์บัตรเครดิตที่อิ่มตัวด้านยอดผู้ใช้การเพิ่มจำนวนบัตรอีกครึ่งล้านจึงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก นอกเหนือจากการขยายไปยังกลุ่มฐานลูกค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่เป็น First Jobber ที่เพิ่งเรียนจบและเข้าทำงาน และยังไม่มีบัตรเครดิตมาก่อน
ซึ่งการที่ไทยพาณิชย์เห็นความสำคัญกับกลุ่ม First Jobber มาจากการที่ต้องการเป็นบัตรเครดิตหลักหรือเป็นใบเดียวที่ลูกค้าใช้ เพราะ First Jobber ในวันนี้อนาคตจะเติบโตด้านการงานและรายได้ที่มากขึ้นในวันหน้า
แต่การที่จะจับกลุ่ม First Jobber ได้นั้น จำเป็นต้องนำเสนอบัตรเครดิตที่มีไลฟ์สไตล์ที่เหมาะสมกับพวกเขา
ปิติพรมองว่า ในวันนี้คนรุ่นใหม่มีพฤติกรรมเปิดรับเทรนด์ต่างประเทศ โดยเฉพาะอาเซียน เทรนดี้ ไลฟ์สไตล์ และนิยมท่องเที่ยวในต่างประเทศ โดยเฉพาะญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ ต่อเนื่องเป็นประจำ
จากพฤติกรรมเหล่านี้ทำให้ปิติพรได้จับมือกับเจซีบี ผู้ให้บริการบัตรเครดิตจากประเทศญี่ปุ่นร่วมทำตลาดภายใต้บัตรที่ชื่อว่า SCB-JCB Platinum Credit Card บนคอนเซ็ปต์ Passport of Asian Trendy Lifestyle–บัตรเดียวครบประสบการณ์เอเชียนเทรนดี้ ที่มีจุดเด่นในเรื่องให้เครดิตเงินคืน 3% ตั้งแต่บาทแรก เมื่อใช้จ่ายใน 5 ประเทศได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง และสิงคโปร์ พร้อมสิทธิพิเศษที่บัตรเจซีบีมอบให้ในประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทย
การที่ไทยพาณิชย์เลือกเจซีบีเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่มาจากความต้องการที่จะนำความแข็งแกร่งด้านการใช้จ่ายที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์แบบเอเชีย ที่มีพันธมิตรร้านค้า และจุดรับชำระบัตรในประเทศญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ ในเอเชีย จากการขยายตลาดตามเทรนด์กระแสญี่ปุ่นไปยังประเทศต่างๆ ของเจซีบี ให้เกิดประโยชน์ให้กับธุรกิจ
เพราะจุดเด่นของเจซีบีที่แตกต่างจากวีซ่าและมาสเตอร์การ์ดคือ แคมเปญโปรโมชั่นที่บัตรเจซีบีร่วมกับร้านค้าสัญชาติญี่ปุ่นในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าบัตรเครดิตของ SCB-JCB Platinum ได้สิทธิประโยชน์ในร้านค้าที่โคแคมเปญโปรโมชั่นกับบัตรเพิ่มขึ้น
สิ่งที่ให้ไทยพาณิชย์ใช้คำว่า Platinum ต่อท้าย แม้ผู้สมัครบัตร SCB-JCB Platinum มีฐานเงินเดือนเริ่มต้น 15,000 บาท เพราะต้องการยกระดับให้มีความพรีเมียมเพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกภูมิใจเมื่อหยิบบัตรออกมาจากกระเป๋าเพื่อใช้จ่าย
Music Marketing การตลาดที่ชนะ Story Telling
กลยุทธ์การตลาดของ SCB JCB Platinum มีความแตกต่างจากกลยุทธ์บัตรเครดิตอื่นๆ คือ การใช้ “มิวสิก มาร์เก็ตติ้ง” ในการสร้างการรับรู้ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่
โดยธนาคารได้ ให้ “เดอะทอย-ธันวา บุญสูงเนิน” นักร้อง นักแต่งเพลงชื่อดัง ขวัญใจวัยรุ่นยุคดิจิทัล นำเสนอบริการที่น่าสนใจของบัตร ผ่านเอ็กซ์คลูซีฟซิงเกิ้ล “มีเธอทุกวันก็โอนิ” เพลงที่แต่งขึ้นเป็นพิเศษเพื่อบัตรเครดิต SCB JCB Platinum โดยมี ดีเจ โอโน่ และ พิมฐา เน็ตไอดอลสาวลุคใสขวัญใจชาวโซเชียล ร่วมฟีเจอร์ริ่งในเพลงพิเศษนี้ด้วย
ไทยพาณิชย์เลือกบุคคลทั้ง 3 เป็นตัวแทนของธนาคารนำเสนอ SCB JCB Platinum ถึงคนรุ่นใหม่เพราะ
ทอยเป็นตัวแทนของบัตรเครดิตที่ดึงดูดกลุ่มวัยรุ่น และดีเจโอโน่ ลูกครึ่งญี่ปุ่น เป็นตัวแทนของประเทศอื่นๆ ในเอเชีย พิมฐา มีคนคิดตาม 3.5 ล้าน และมีพลังในการโน้มน้าวเป็นอย่างดี
ธนาคารไทยพาณิชย์ใช้มิวสิกมาร์เก็ตติ้งเป็นตัวขับเคลื่อนสร้างการรับรู้มาจากที่ผ่านมาธนาคารไทยพาณิชย์ ได้นำเสนอโฆษณาในรูปแบบมิวสิกมาร์เก็ตติ้งครั้งแรกเมื่อสองปีที่ผ่านมากับเพลง “เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว” ซึ่งเป็นเพลงที่ใช้โปรโมตสร้างการรับรู้เมื่อครั้งธนาคารได้เปิดตัวแอป SCB Easy เวอร์ชั่นใหม่
ซึ่งผลปรากฏว่าประสบความสำเร็จด้านการจดจำและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี จนธนาคารได้ต่อยอดแคมเปญการตลาดผ่านมิวสิกมาร์เก็ตติ้งไปยังบริการอื่นๆ ของธนาคารอีก 4 แคมเปญด้วยกัน
สุธีรพันธุ์ สักรวัตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานการตลาด ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้บอกอินไซด์ของผู้บริโภคในการสื่อสารการตลาดผ่านมิวสิกมาร์เก็ตติ้งพบว่า จะทำให้ผู้บริโภคดูภาพและฟังเสียง และเกิดการค้นหาต่อ เพื่อจะฟังเพลงและดูเอ็มวีซ้ำต่อไปเรื่อยๆ
ซึ่งการทำมิวสิกมาร์เก็ตติ้งนี้ สุธีรพันธุ์มองว่าถือเป็นการทำตลาดที่มีอิมแพคชนะ Story Telling เพราะเพลงจะทำให้การทำแบรนด์แข็งแกร่ง จากความชอบและดูบ่อย สามารถทำให้คนรักและเกิดแบรนด์เลิฟที่มากกว่า
และเพลงที่มีความยาวสองถึงสามนาที ทำให้สามารถยัดข้อมูลที่อยากเสนอเข้าไปในเพลงได้จำนวนมากเท่าที่ต้องการในรูปแบบเนียนๆ ที่ผู้บริโภคไม่รู้สึกว่านี่คือโฆษณาขายสินค้า
นอกจากนี้ธนาคารไทยพาณิชย์ยังใช้งบการตลาด 50 ล้านบาทกับแคมเปญนี้ พร้อมเลือกใช้ Joox และ Youtube เป็นหนึ่งในเครื่องมือกระจายเพลงสร้างการรับรู้ในกลุ่มวัยรุ่นอีกด้วย
ทั้งนี้ เพื่อให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ ปิติพรได้เลือกทดลองตลาดด้วยการเปิดรับสมัครบัตรเครดิต SCB JCB Platinum ผ่านช่องทางดิจิทัล บนแอปพลิเคชัน SCB EASY เท่านั้น ซึ่งการใช้ช่องทางดิจิทัลเพียงช่วงทางเดียวนี้จะเป็นการลดค่าใช้จ่ายด้านคนในการตั้งบูธเปิดรับ และแมสเซนเจอร์ในการวิ่งรับส่งเอกสารได้เป็นอย่างดี
และได้ตั้งเป้าภายในสิ้นปี 2562 มียอดผู้สมัครบัตรเครดิต SCB JCB Platinum 1 แสนใบ จากฐานลูกค้าบัตรเครดิตไทยพาณิชย์โดยรวมในปัจจุบัน 2.4 ล้านราย
Marketeer FYI
การที่ธนาคารไทยพาณิชย์ต้องการยอดบัตรเครดิตใหม่มากถึงครึ่งล้านนั้น ส่วนหนึ่งเพราะกลยุทธ์ของธนาคารในปีนี้ที่ต้องการเติบโตด้วยสินเชื่อ โดยเฉพาะสินเชื่อรายย่อย
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นคือรายได้ของธุรกิจบัตรเครดิตส่วนหนึ่งมาจากสินเชื่อผ่อนชำระ และที่ผ่านมาสัดส่วนการใช้เงินหมุนเวียนในธุรกิจบัตรเครดิตธนาคารไทยพาณิชย์ทั้งหมด 50% เป็นการใช้จ่ายและชำระเงินในรูปแบบผ่อนชำระทั้งมีดอกเบี้ยและไม่มีดอกเบี้ย