รายได้ที่ต้องเสียภาษีของคุณ
ค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน
ค่าลดหย่อนบุตร (ไม่จำกัดจำนวน)
ค่าลดหย่อน บิดา-มารดาตัวเอง:
ค่าลดหย่อน บิดา-มารดาคู่สมรส
(เฉพาะกรณีคู่สมรสไม่มีรายได้):
เงินสะสมประกันสังคม:
(ปีภาษี
2565 ได้สูงสุด 6,300 บาท)
เงินสะสมที่จ่ายเข้า
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ กบข.:
ค่าดอกเบี้ยกู้บ้าน: (บาท หักได้ตามจริง)
ค่าบริจาคการศึกษา: (บาท หักได้ตามจริง)
ค่าบริจาคอื่นๆ: (บาท หักได้ตามจริง)
คำนวณภาษี
รวมค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน:
0 -150,000 | 0% | 0.00 | |
150,001 -300,000 | 5% | 0.00 | |
300,001 -500,000 | 10% | 0.00 | |
500,001 -750,000 | 15% | 0.00 | |
750,001 -1,000,000 | 20% | 0.00 | |
1,000,001 -2,000,000 | 25% | 0.00 | |
2,000,001 -5,000,000 | 30% | 0.00 | |
5,000,001 -ขึ้นไป | 35% | 0.00 | |
รวม | 0.00 |
การลงทุนใน RMF SSF และประกันบำนาญ กรณีลงทุนเต็มเพดานที่กฎหมายกำหนด
จำนวนเงินสูงสุดที่ลงทุน RMF* ได้:
(ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 500,000 บาท)
จำนวนเงินสูงสุดที่ลงทุน SSF* ได้:
(ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท)
ค่าประกันบำนาญสูงสุด*:
(ไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท)
* เมื่อรวม RMF + SSF + ประกันบำนาญ และ เงินที่สะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ กบข.หรือ กองทุนเพื่อเกษียณอื่นๆ รวมแล้วกันต้องไม่เกิน 500,000 บาท
การลงทุนใน RMF SSF และประกันบำนาญ ตามที่ท่านต้องการ
เงินสะสมที่จ่ายเข้า
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ กบข.*:
ยอดสูงสุดที่จะลงทุนได้
(RMF + SSF + ประกันบำนาญ)
จำนวนเงินที่ท่านต้องการลงทุนใน RMF*:
จำนวนเงินที่ท่านต้องการลงทุนใน SSF*:
จำนวนเงินที่ท่านต้องการลงทุนประกันบำนาญ*:
* เมื่อรวม RMF + SSF + ประกันบำนาญ และ เงินที่สะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ กบข.หรือ กองทุนเพื่อเกษียณอื่นๆ รวมแล้วกันต้องไม่เกิน 500,000 บาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ ธนาคารยูโอบีทุกสาขา
ผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ที่ บลจ.แต่งตั้ง หรือที่
บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2786-2222 เว็บไซต์ www.uobam.co.th
เลขที่ ปชส.13/2546 |
วันที่แถลงข่าว 3 มกราคม 2546 |
เรื่อง กรมสรรพากรเปิดบริการ download โปรแกรมการหักภาษี ณ ที่จ่ายฟรี |
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
กรมสรรพากรเปิดบริการใหม่ทางอินเทอร์เน็ต โดยการนำโปรแกรมการหักภาษี ณ ที่จ่าย ประเภทเงินเดือน ค่าจ้าง กรณีผู้จ่ายเงินได้เป็นภาคเอกชนไว้ให้บริการแล้ว
เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายเงินได้พนักงานประเภทเงินเดือน ค่าจ้าง กรมสรรพากรจึงได้นำโปรแกรมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จ่ายไว้ให้บริการแล้ว โดยสามารถ download โปรแกรมดังกล่าวได้ทางเว็บไซต์ www.rd.go.th ของกรมสรรพากร ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักแผนภาษี ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร กล่าวว่า โปรแกรมดังกล่าวนอกจากจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนให้มีการหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ถูกต้องครบถ้วน ไม่ก่อให้เกิดภาระที่ต้องเสียภาษีและเงินเพิ่มเพิ่มเติม หรือไม่เป็นภาระที่ผู้เสียภาษีต้องทำเรื่องขอคืนภาษีที่หักไว้เกินด้วย
สำหรับ โปรแกรมคำนวณหักภาษี ณ ที่จ่ายเงินได้ประเภทเงินเดือน ค่าจ้างของผู้จ่ายเงินได้ที่เป็นภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมสรรพากรก็ได้เปิดให้บริการแล้ว ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2545 ที่ผ่านมา
HIGHLIGHTS
เงินได้มาตรา 40(1) หัก ณ ที่จ่ายตามอัตราก้าวหน้า คือ การประมาณรายได้พนักงานทั้งปี แล้วหักด้วยค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนเพื่อหาเงินได้สุทธินำส่งนำไปคำนวณภาษี นำเงินได้สุทธิมาคูณอัตราภาษีตามอัตราก้าวหน้า (0%-35%) เมื่อได้ยอดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่จะต้องเสีย จึงนำมาหารเฉลี่ยตามงวดที่จ่าย
หนึ่งในคำถามที่แอดมินได้รับ Inbox บ่อยมาก พี่ครับจ่ายเงินเดือนหักภาษีกี่ % / พี่ครับเงินเดือนพนักงาน xxx บาท จะต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายกี่บาท วันนี้เลยถือโอกาสมาสอนวิธีการคำนวณภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย กรณีจ่ายเงินเดือนพนักงานประจำ ผู้ประกอบการจะได้สามารถคำนวณได้ด้วยตัวเอง
กรมสรรพากรกำหนดให้เงินได้มาตรา 40(1) ได้แก่ เงินได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง โบนัส พวกนี้จะต้องคำนวนภาษีหัก ณ ที่จ่ายตามอัตราก้าวหน้า
หักภาษีตามอัตราก้าวหน้า คือ การประมาณรายได้พนักงานทั้งปี (อ้างอิงจากฐานเงินเดือนพนักงาน) แล้วหักด้วยค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนเพื่อหาเงินได้สุทธินำส่งนำไปคำนวณภาษี นำเงินได้สุทธิมาคูณอัตราภาษีตามอัตราก้าวหน้า (0%-35%) เมื่อได้ยอดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่จะต้องเสีย จึงนำมาหารเฉลี่ยตามงวดที่จ่าย
สำหรับบริษัทไหนที่มีจำนวนพนักงานเยอะ และการจ่ายค่าจ้างในแต่ละเดือนมีจำนวนไม่เท่ากัน เช่น มีเงินค่าคอมมิชชัน เบี้ยขยัน ทำให้การคำนวนภาษีหัก ณ ที่จ่ายเป็นเรื่องยาก แต่เรื่องนี้จะเป็นเรื่องง่ายมากเมื่อใช้โปรแกรมบัญชี PEAK ซึ่งจะมีระบบ PEAK Payroll ให้ใช้งานฟรีเมื่อสมัครแพ็กเกจ PEAK PRO Plus