4. �����Ѥ�Ẻ��ࢵ ��ͧ���ѡɳ����ҧ����ҧ˹�觵��仹��
�ժ���㹷���¹��ҹ㹨ѧ��Ѵ�����ѤõԴ��͡ѹ�����¡��� 1 �� �Ѻ�֧�ѹ��Ѥ��Ѻ���͡�������
�Դ㹨ѧ��Ѵ����Ѥ� ����
������Ҫԡ��Ҽ��᷹��ɮ� ������ҷ�ͧ��� ���� ���繼������÷�ͧ��� 㹨ѧ��Ѵ�����Ѥ ����
���֡��㹨ѧ��Ѵ�����Ѥ������ҵԴ��͡ѹ�����¡��� 2 �ա���֡�� ����
���Ѻ�Ҫ��� �������ժ���㹷���¹��ҹ㹨ѧ��Ѵ�����Ѥ������ҵԴ��͡ѹ�����¡��� 2 ��
4. �����Ѥ÷ء�����ѡɳ����ҧ����ҧ˹�� ���仹��
�ժ���㹷���¹��ҹ㹨ѧ��Ѵ�����ѤõԴ��͡ѹ�����¡��� 1 �� �Ѻ�֧�ѹ��Ѥ��Ѻ���͡�������
�Դ㹨ѧ��Ѵ����Ѥ� ����
������Ҫԡ��Ҽ��᷹��ɮ� ������ҷ�ͧ��� ���� ���繼������÷�ͧ��� 㹨ѧ��Ѵ�����Ѥ ����
���֡��㹨ѧ��Ѵ�����Ѥ������ҵԴ��͡ѹ�����¡��� 2 �ա���֡�� ����
���Ѻ�Ҫ��� �������ժ���㹷���¹��ҹ 㹨ѧ��Ѵ�����Ѥ������ҵԴ��͡ѹ������ ���� 2 ��
รัฐธรรมนูญฉบับ 2560 “มาตรา 108” ระบุคุณสมบัติและข้อห้ามของผู้เข้ารับการคัดเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ดังนี้“หมวดคุณสมบัติ” 1.มีสัญชาติไทยโดยการเกิด2.มีอายุไม่ต่ำกว่า 40 ปี ในวันสมัครรับเลือก 3.มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ หรือทำงานในด้านที่สมัครไม่น้อยกว่า 10 ปีหรือเป็นผู้มีลักษณะตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา และ 4.เกิด มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ทำงาน หรือมีความเกี่ยวพันกับพื้นที่ที่สมัคร ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา
“หมวดข้อห้าม” 1.เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา 98 (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) (11) (15) (16) (17) หรือ (18)2.เป็นข้าราชการ 3.เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เว้นแต่ได้พ้นจากการเป็น สส. มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือก 4.เป็นสมาชิกพรรคการเมือง 5.เป็นหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง เว้นแต่ได้พ้นจากการดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือก
6.เป็นหรือเคยเป็นรัฐมนตรี เว้นแต่ได้พ้นจากการเป็นรัฐมนตรีมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือก 7.เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น เว้นแต่ได้พ้นจากการเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปีนับถึงวันสมัครรับเลือก 8.เป็นบุพการี คู่สมรสหรือบุตรของผู้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาในคราวเดียวกัน หรือผู้ดำรงตำแหน่งในศาลรัฐธรรมนูญหรือในองค์กรอิสระ
และ 9.เคยดำรงตำแหน่ง สว. ตามรัฐธรรมนูญนี้ ซึ่งใน “มาตรา 98” นั้นระบุข้อห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งข้างต้นไว้ ประกอบด้วย 1.ติดยาเสพติดให้โทษ 2.เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต 3.เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ 4.เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งตามมาตรา 96 (1) (2) หรือ (4) 5.อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง6.ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล
7.เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึง 10 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ 8.เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ 9.เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกเพราะกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
10.เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน,
กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสำนัก กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน 11.เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง 15.เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ 16.เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ
17.อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และ 18.เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุตามมาตรา 144 (ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามีส่วนร่วมในการใช้จ่ายงบประมาณ) หรือมาตรา 235 วรรคสาม (ว่าด้วยการถูกศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินว่ามีความผิดฐานกระทำการทุจริต) ส่วน “มาตรา 96” ว่าด้วยบุคคลที่ต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งข้างต้น ประกอบด้วย
1.เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช 2.อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่และ 4.วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ!!!