รับผลิตเครื่องสําอาง ออแกนิค

Organic Product จริงๆแล้วคืออะไร ? ปัจจุบันมีคนจำนวนมากยังเข้าใจผิดกับคำว่า ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค และ ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ อยู่มากมาย หรือแม้กระทั่งยังไม่สามารถแยกได้ว่าความแตกต่างของ ผลิตภัณฑ์ทั้งสองแบบ คืออะไร บางทีเราเห็นผักที่ปลูกหลังบ้าน ไม่ใช้สารเคมี หรือ ผักกางมุ้ง เราก็เรียกว่า ออร์แกนิค แล้ว  ซึ่งในความเป็นจริง คำว่า ออร์แกนิค จะต้องมีมาตรฐานจากองค์กรณ์ต่างๆเข้ามากำหนดและวัดมาตรฐาน

เครื่องสำอางออแกนิค ปัจจุบันนี้หลายคนน่าจะคุ้นหูกับคำว่า “ออร์แกนิค” กันเพิ่มมากขึ้น และคงรู้แล้วว่าผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคนี้ คือ ผลิตภัณฑ์ที่รักษ์โลก ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และตัววัตถุดิบสามารถนำมาได้จากทั้งพืชและสัตว์ อีกทั้งในกระบวนการผลิตต้องไม่ส่งผลเสียกับอากาศ ดิน หรือน้ำ แล้วรู้กันหรือไม่ว่า ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคสามารถที่จะนำมาทำเป็นเครื่องสำอางได้ โดยมีประสิทธิภาพเทียบเท่าหรือมากกว่ากับเครื่องสำอางทั่วไปเลยทีเดียว

คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านเลย น้ำตบ คืออะไร? จำเป็นแค่ไหนในการบำรุงผิว

คำนิยามของเครื่องสำอางออร์แกนิค

จากการศึกษาหาข้อมูลตามแหล่งต่างๆ ทำให้ทราบได้ว่า เครื่องสำอางออร์แกนิค ยังไม่มีคำนิยามที่ชัดเจน แต่สามารถให้ความหมายของคำที่สามารถทำให้เข้าใจได้ง่ายๆ ว่า เป็นเครื่องสำอางที่ประกอบไปด้วยสารธรรมชาติ และสารธรรมชาติที่นำมาผลิตเหล่านี้ ต้องไม่ผ่านกระบวนการดัดแปลงโครงสร้าง ไม่ใช้สารสังเคราะห์ ไม่ใช้เทคโนโลยีเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับตัวสาร หรือไม่มีการใช้สารเคมีใดๆ 100% ที่สำคัญในกระบวนการผลิตเครื่องสำอางประเภทนี้ ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติทั้งอากาศ ดิน และน้ำ

กว่าจะเป็นเครื่องสำอางออร์แกนิค

หลังจากผ่านกระบวนการคัดสรรวัตถุดิบและการผลิตมาแล้ว ก่อนจะเป็นเครื่องสำอางออร์แกนิคได้ ต้องผ่านการรับรองจากสถาบันผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และเกณฑ์ของแต่ละสถาบันนั้นจะมีความแตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น สถาบันในสหรัฐอเมริกาจะใช้คำว่า Certified Organic แทนผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบออร์แกนิคอย่างน้อย 95% แต่หากใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคที่ใช้ผลิตอยู่ในช่วง 70%-95% จะเปลี่ยนไปใช้คำว่า Made with Organic ingredients แทน

ข้อแตกต่างระหว่างผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก

อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้วว่า ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค คือ ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาจากวัตถุดิบและกระบวนการที่ไม่ใช้เทคโนโลยี การดัดแปลงโครงสร้างหรือการใช้สารเคมี ส่วนผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ คือ ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาจากผัก ผลไม้แท้ๆ 100% โดยผักหรือผลไม้นั้นสามารถผ่านการดัดแปลงพันธุกรรม ใช้สารเคมี หรือปรับเปลี่ยนโครงสร้างมาก่อนได้ แต่สำหรับกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ 100% เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากการขึ้นรูป เนื้อสัมผัสที่ต้องการของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวไม่ว่าจะเป็นสบู่ ครีมบำรุง หรือเซรั่มต่างๆล้วนจำเป็นต้องใช้สารเคมีบางตัวเข้ามาช่วย แต่ไม่ใช่ว่าการผลิตจะไม่สามารถทำได้เลย อาจจะมีอยู่บ้างแต่มีน้อยมากและหาผู้ผลิตได้ยากมากในประเทศไทย

คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านเลย อัญมณี ทั้ง 5 ส่วนผสมเลอค่า ที่แบรนด์ครีมดังๆ ชอบใช้

ข้อดีของเครื่องสำอางออร์แกนิค

1.เป็นเครื่องสำอางที่ปราศจากสารก่อมะเร็ง : ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ส่วนมากมีการผสมสารกันบูด หรือชื่อทางการค้าคือ Paraben free ด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งสารตัวนี้ได้รับการวิจัยมาแล้วว่าเป็นสารที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเซลล์ที่ผิดปกติ หรือก่อให้เกิดมะเร็ง สำหรับผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคก็สามารถช่วยตัดข้อกังวลเรื่องนี้ไปได้เลย เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ไม่มีการผสมสารเคมีใดๆ ลงไป

2.มีความอ่อนโยนสูง :เนื่องจากในผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคมีการเจือปนสารเคมีน้อยมาก ดังนั้นด้วยปริมาณสารเคมีที่น้อยนี้ จึงไม่ก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อผิวหนังเมื่อใช้งาน

3.สามารถใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานานได้ :เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารเคมี มีความอ่อนโยนสูงและไม่ทิ้งสิ่งตกค้างไว้อุดตันบนผิว ทำให้สามารถใช้ต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลานานได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงผลกระทบในอนาคต

ตัวอย่างเครื่องสำอางออร์แกนิคแบรนด์ของประเทศไทย

1.แบรนด์ ERB

• ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบรนด์ไทยแบรนด์นี้ อยู่คู่กับคนไทยมากว่า 17 ปี ความโดดเด่นและเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคจากแบรนด์ERB คือ การใช้สารสกัดจากเกสรดอกไม้นานาพันธุ์ และยังได้รับการรับรองว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารสกัดจากธรรมชาติ 100% ผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจของแบรนด์นี้ คือ Seven pollen เป็นผลิตภัณฑ์ช่วยบำรุงผิวหน้าที่สกัดมาจากเกสรดอกไม้ 7 ชนิด มีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูผิวหน้า ลดริ้วรอย และป้องกันผิวหน้าจากมลภาวะในแต่ละวัน

2.Organika

• แบรนด์น้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานนัก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ คือ Pure Aroma Massage Candle ตัวผลิตภัณฑ์เป็นเทียนหอมที่สามารถใช้น้ำตาเทียนเป็นน้ำมันนวดบำรุงผิวได้ ส่วนประกอบของเทียนหอมชนิดนี้ได้มาจากธรรมชาติ 100% และอุดมไปด้วยวิตามินอี ช่วยฟื้นฟูผิว และเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระให้กับผิว

3.Kaff& Co.

• เป็นผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่ใช้กับเส้นผม ตัวสารสกัดนั้นผ่านกระบวนการสกัดเย็นจึงคงคุณค่าได้มากกว่าการสกัดแบบธรรมดา กระบวนการผลิตทุกๆ ขั้นตอนเป็นขั้นตอนที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ วัตถุดิบธรรมชาติที่ทางแบรนด์เลือกใช้มีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คือ มะกรูดและเหง้าขิงแก่

4.Vowda

• ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้วัตถุดิบจากพืชไร่ของเกษตรกรชาวไทย ยกตัวอย่างเช่น เมล็ดบัว ข้าวเจ้า และเป็นเครื่องสำอางที่ใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคสูงถึง 93% ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ คือ Lotus Compact Powder เป็นแป้งพัฟที่ไม่มีการผสมสารเคมีเลย ไม่ว่าจะเห็นสารกันเสีย หรือน้ำหอม แต่จะมีสารสกัดจากไผ่เพื่อช่วยควบคุมความมันแทน ตัวผลิตภัณฑ์ออกแบบมาให้มี 3 สี เพื่อให้เข้ากับสภาพสีผิวของผู้หญิงไทย

5.Harnn

• แบรนด์ที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคออกมาอย่างต่อเนื่องทั้งสกินแคร์และเครื่องสำอางต่างๆ มีความอ่อนโยนต่อผิวหน้าสูง รวมไปถึงในปัจจุบันที่มีการจัดคอร์สเรียนรู้ศาสตร์จากธรรมชาติ สำหรับผู้ที่สนใจใช้ธรรมชาติบำบัด และนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน

สายรักษ์ธรรมชาติ รักษ์โลก คงหลงรักผลิตภัณฑ์สินค้าออร์แกนิคกันเป็นอย่างมาก เพราะไม่ใช่เพียงคุณสมบัติที่คอยช่วยดูแล ถนอมผิวอย่างอ่อนโยนเท่านั้น แต่ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ ไม่มีขั้นตอนหรือกระบวนการที่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติเลยแม้แต่อย่างน้อย