DBD e-Service DepartMent of Business Development กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
DBD e-Service เป็นโปรแกรมตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคล/งบการเงิน ข้อมูลร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนพาณิชย์และข้อมูลสมาคม และบริการออนไลน์
- กฎหมาย
- กฎหมายและระเบียบ
- แสดงความคิดเห็นร่างกฎหมาย
- คำวินิจฉัย
- ประกาศรายชื่อกฎหมายที่ต้องประเมินผลสัมฤทธิ์และเผยแพร่ข้อมูล
- อื่นๆ
-
- ข่าวสาร
- ข่าวประชาสัมพันธ์
- ภาพข่าวกิจกรรม
- ข่าวอบรม/สัมมนา
- ข่าวประกาศ/ระเบียบ
- ข่าวกรม (Press release)
- ข่าวรับสมัครงาน
- จัดซื้อจัดจ้าง
- วารสารต้นสายปลายทางธุรกิจ
- วารสาร DBD Accounting
- จดหมายข่าวอิเล็กทรอนิกส์
(e-Newsletter)
-
- นายทศพล ทังสุบุตร
-
- อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
- ประวัติกรม
- วิสัยทัศน์/พันธกิจ/ยุทธศาสตร์
- ค่านิยมและวัฒนธรรมของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
- อำนาจหน้าที่
- ผู้บริหารกรม
- โครงสร้างกรม
- ผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DCIO)
- ภารกิจและยุทธศาสตร์
- การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- รายงานประจำปี
- รายงานต้นทุนผลผลิต
- รายงานงบการเงินรวม
- แผน/ผลการใช้จ่ายงบประมาณ
- นโยบายกำกับดูแลองค์การที่ดี
- รางวัลเกียรติยศ
- การเปิดเผยการใช้จ่ายเงินหรือทรัพย์สินของหน่วยงานของรัฐให้สื่อมวลชนฯ
- แผนดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องฯ (BCP) ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
- การเปิดเผยข้อมูลและการป้องกันการทุจริต
- ธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐ
- แผนปฏิบัติราชการกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
- คู่มือการปฏิบัติงาน
- การตรวจสอบภายใน
- ผลสำรวจความพึงพอใจ
- การบริหารทรัพยากรบุคคล
- การเปิดโอกาสให้เกิดการมีส่วนร่วม
เข้าสู่ระบบ
อยากทราบว่าผมเป็นนายหน้าประกันวินาศภัย ต้องการจดใบทะเบียนการค้า ได้หรือไม่ครับผมขาย พรบ.รถทุกประเภท
อดิศรแซ่ตัง 06 พฤศจิกายน 2557 12:03:01 IP: 58.8.99.117
ความคิดเห็นที่ 1 ตอบ คุณอดิศร แซ่ตัง
การประกอบกิจการขาย พรบ.รถ ถือเป็นธุรกิจประเภทประกันภัย ซึ่งไม่เข้าข่ายต้องจดทะเบียนพาณิชย์ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์
ฉบับที่ 11 พ.ศ. 2553 เรื่อง พาณิชยกิจที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์
ทั้งนี้ การประกอบธุรกิจประกันภัยต้องติดต่อขอใบอนุญาตจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
ขอเชิญร่วมแสดงความคิดเห็น (ถ้อยคำที่สุภาพ สร้างสรรค์ เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม)กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความคิดเห็น
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560 ธุรกิจประกันภัยทั้งระบบมีตัวแทน/นายหน้าประกันภัย จำนวนทั้งสิ้น 526,951 ราย โดยแบ่งเป็นตัวแทนประกันชีวิต จำนวน 273,853 ราย ตัวแทนประกันวินาศภัย จำนวน 19,984ราย นายหน้าประกันชีวิต จำนวน 106,143 ราย และนายหน้าประกันวินาศภัย จำนวน 126,971 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบุคลากรที่มีมาตรฐานและคุณภาพที่ดี ส่วนตัวแทน/นายหน้าประกันภัยที่กระทำผิดกฎหมายสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนนั้นถือได้ว่ามีอัตราส่วนที่น้อยมาก ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานพิสูจน์ยืนยันแล้ว จึงได้ดำเนินการลงโทษอย่างเคร่งครัดด้วยการเพิกถอนใบอนุญาต ซึ่งใน ไตรมาสที่ 2 ของปี 2560 (วันที่ 1 เมษายน - 30 มิถุนายน) ตนในฐานะนายทะเบียนได้มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตตัวแทน/นายหน้าประกันภัย รวม 17 ราย โดยอาศัยอำนาจตาม ข้อ 6 (4) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการประกาศ หรือโฆษณาการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต (วินาศภัย) พ.ศ. 2556 ซึ่งผู้ที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตทั้ง 17 ราย จะไม่สามารถกระทำการเป็นตัวแทน/นายหน้าประกันภัยหรือขอรับใบอนุญาตใหม่ได้ภายใน 5 ปี นับแต่วันที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับสาเหตุของการกระทำความผิดของตัวแทน/นายหน้าประกันภัยที่นำไปสู่การเพิกถอนใบอนุญาตในครั้งนี้ เกิดจาก 4 กรณี ได้แก่ ได้รับชำระเงินค่าเบี้ยประกันภัยจากผู้เอาประกันภัย แต่มิได้นำเงินค่าเบี้ยประกันภัยส่งให้บริษัท กระทำการทุจริตการสอบ โดยสวมสิทธิ์เข้าสอบความรู้เพื่อขอรับใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันชีวิต ยินยอมให้ผู้อื่นที่มิได้รับใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันชีวิตให้กับบุคคลเอาประกันภัยกับบริษัทในนามตนเอง และชักชวนให้ผู้เอาประกันภัยทำสัญญาประกันภัยโดยมิได้อธิบายเงื่อนไขให้ชัดแจ้ง
“ที่ผ่านมา สำนักงาน คปภ. ได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งเกี่ยวกับคุณภาพของตัวแทน/นายหน้าประกันภัย ตั้งแต่กระบวนการก่อนการขาย การเสนอขายตลอดจนการให้บริการหลังการขาย อีกทั้งมีการอบรม การสอบ การขอต่ออายุ เพื่อขอรับใบอนุญาตเป็นตัวแทน/นายหน้าประกันภัย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการคุ้มครองประชาชนผู้เอาประกันภัยไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ สำนักงาน คปภ. จะดำเนินการตรวจสอบและพิจารณาลงโทษตัวแทน/นายหน้า ที่มีพฤติการณ์เอารัดเอาเปรียบและฝ่าฝืนกฎกติกาที่กำหนดโดยเคร่งครัด จริงจัง และต่อเนื่อง และจากนี้ไปการบังคับใช้กฎหมายในเรื่องนี้จะมีแต่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น เนื่องจากได้มีการเสนอแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกันชีวิตและพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย ให้มีบทบัญญัติเกี่ยวกับการฉ้อฉลประกันภัย โดยได้กำหนดบทลงโทษทางอาญาทั้งจำคุกและปรับด้วย ซึ่งในอนาคตหากตัวแทนและนายหน้าประกันภัยกระทำผิด นอกจากจะถูกเพิกถอนใบอนุญาตแล้ว ถ้าการกระทำเข้าองค์ประกอบความผิดเรื่องการฉ้อฉลประกันภัยก็อาจถูกดำเนินคดีจนถึงขั้นจำคุกและปรับอีกด้วย”
ดร.สุทธิพล กล่าวทิ้งท้ายว่า เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนในอันที่จะได้รับข้อมูลที่ครบถ้วน ถูกต้อง จากการซื้อประกันภัยจากตัวแทน/นายหน้าประกันภัยที่มีคุณภาพ ประชาชนควรตรวจสอบว่าผู้เสนอขายประกันภัย เป็นตัวแทน/นายหน้าประกันภัยที่ได้รับใบอนุญาตถูกต้อง โดยสามารถตรวจสอบสถานะตัวแทน/นายหน้าประกันภัย ได้จากเว็บไซต์ของสำนักงานคปภ. www.oic.or.th หรือสอบถามได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186
ที่มา : //www.oic.or.th/th/consumer/news/releases/87493