วันนี้ 11 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีที่สถาบันการคุ้มครองเงินฝาก หรือ สคฝ. ประกาศลดวงเงินคุ้มครองเงินฝาก แก่ผู้ฝากเงิน ใน 35 สถาบันการเงิน จาก 5 ล้านบาทต่อบัญชีต่อสถาบันการเงิน เหลือ 1 ล้านบาท มีผลเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ 11 ส.ค.เป็นต้นไปนั้น ล่าสุดในส่วนของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 6 แห่ง ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคาร อาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ไม่ได้ปรับลดการคุ้มครองเงินฝากลง และยังให้การคุ้มครองเงินฝากเต็มจำนวนเหมือนเดิม
ทั้งนี้ สถาบันการเงินรัฐทั้ง 6 แห่ง ไม่ได้อยู่ในสมาชิกของ สคฝ. เนื่องจากมี พ.ร.บ.การก่อตั้งเป็นของตนเอง โดยปัจจุบันทุกธนาคาร ยังมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่งมาก และหากแบงก์ใดมีปัญหา รัฐบาลก็มีหน้าที่เข้าไปดูแลอยู่แล้ว ผู้ฝากไม่ต้องกังวลใจ ซึ่งข้อมูลล่าสุดในปี 2564 มีเงินฝากรวมกว่า 5.5 ล้านล้านบาท มีบัญชีเงินฝากทุกประเภท 82 ล้านบัญชี ซึ่งทุกสถาบันการเงินจะได้รับการดูแลโดยรัฐทั้งหมด
ด้านนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า การปรับลดวงเงินคุ้มครองเงินฝาก ไม่มีผลต่อลูกค้าธนาคาร เพราะธนาคารออมสิน เป็นธนาคารที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุด และมี พ.ร.บ.จัดตั้งเป็นของตัวเอง เงินฝากทุกบาททุกสตางค์นั้น รัฐเป็นผู้ค้ำประกัน โดยล่าสุดออมสินมีฐานลูกค้าเงินฝาก 22 ล้านบัญชี วงเงินฝากรวมกว่า 2.45 ล้านล้านบาท
ขณะที่นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธอส. ไม่ได้อยู่ในการดูแลคุ้มครองเงินฝากกับ สคฝ. โดย ธอส.เป็นแบงก์รัฐ มีความมั่นคงและสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง ลูกค้าที่ฝากเงินกับ ธอส.จะได้รับการดูแลเงินฝากเหมือนเดิม โดยปัจจุบันธนาคารมีฐานเงินฝากกว่า 9 แสนล้านบาท
ส่วนนายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. กล่าวขอยืนยัน เช่นกันว่า ลูกค้าที่ฝากเงินกับ ธ.ก.ส. 21 ล้านบัญชี วงเงิน 1.74 ล้านล้านบาท จะได้รับการคุ้มครองเหมือนเดิม เนื่องจาก ธ.ก.ส.เป็นธนาคารของรัฐ จึงไม่มีการปรับลดการคุ้มครองเงินฝากเหมือนธนาคารพาณิชย์แห่งอื่นๆ
วงเงินคุ้มครองเงินฝาก 1 ล้านบาท ครอบคลุมสถาบันการเงินทั้ง 35 แห่ง เริ่ม 11 ส.ค. 64 นี้
นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2564 นี้เป็นต้นไป ผู้ฝากเงินในสถาบันการเงินภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝาก จะได้รับความคุ้มครองเงินฝากตามกฎหมายคุ้มครองเงินฝาก ในวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท ต่อ 1 รายผู้ฝาก ต่อสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นวงเงินที่กำหนดตามกฎหมาย ทั้งนี้ วงเงินคุ้มครองที่ 1 ล้านบาท มีผู้ฝากที่ได้รับความคุ้มครองเงินฝากเต็มจำนวน 82.07 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 98.03 ของผู้ฝากทั้งระบบ ซึ่งถือเป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ
สำหรับข้อมูลเงินฝาก ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 ผู้ฝากในระบบสถาบันการเงินภายใต้ความคุ้มครองของสถาบันมีจำนวนทั้งหมด 83.72 ล้านราย เมื่อเปรียบเทียบกับสิ้นปีก่อน พบว่าจำนวนผู้ฝากเพิ่มขึ้น 1,337,334 ราย หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.62 โดยจำนวนผู้ฝากที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผู้ฝากรายย่อยซึ่งมีเงินฝากไม่เกิน 1 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 97 ของจำนวนผู้ฝากที่เพิ่มขึ้น และเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครองมีจำนวนทั้งสิ้น 15.28 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 347,940 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.33 จากสิ้นปีก่อน
สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) หรือ DPA มีบทบาทสำคัญในการคุ้มครองเงินฝากแก่ผู้ฝากทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติที่ฝากเงินเป็นสกุลเงินบาทกับสถาบันการเงินของไทยภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝาก ซึ่งประกอบด้วย ธนาคารพาณิชย์ไทย 19 แห่ง สาขาธนาคารต่างประเทศ 11 แห่ง บริษัทเงินทุน 2 แห่ง และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ 3 แห่ง รวมทั้งสิ้น 35 แห่ง ซึ่งจะคุ้มครองทันทีในลักษณะ 1 รายชื่อผู้ฝากต่อ 1 สถาบันการเงิน โดยคุ้มครองบัญชีเงินฝาก 5 ประเภท ได้แก่ 1.เงินฝากกระแสรายวัน 2.เงินฝากออมทรัพย์ 3.เงินฝากประจำ 4.บัตรเงินฝาก และ 5.ใบรับฝากเงิน โดยบัญชีเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครองต้องเป็นสกุลเงินบาทเท่านั้น ทั้งนี้ หากสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝากถูกเพิกถอนใบอนุญาต ผู้ฝากจะได้รับเงินฝากคืนภายใน 30 วัน ตามวงเงินที่กฎหมายกำหนด
ท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการคุ้มครองเงินฝากได้ที่ www.dpa.or.th, ศูนย์บริการข้อมูลคุ้มครองเงินฝาก โทร 1158 หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ www.facebook.com/dpathailand
เปิดรายชื่อ 35 สถาบันการเงิน ที่ได้รับคุ้มครองเงินฝาก ไม่เกิน 1 ล้านบาท หากถูกเพิกถอน ผู้ฝากมีสิทธิรับเงินคืนใน 30 วัน
ตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค. 2564 ผู้ฝากเงินในสถาบันการเงินทั้ง 35 แห่ง จะได้รับความคุ้มครองเงินฝากตามกฎหมายคุ้มครองเงินฝาก ในวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท/1 รายผู้ฝาก/1 สถาบันการเงิน ย้ำ!!! ไม่ใช่การคุ้มครองผู้ฝาก/1บัญชี ภายหลังจากขยายเวลาวงเงินคุ้มครอง 5 ล้านบาท ครบกำหนดในวันที่ 10 ส.ค. 2564 แล้ว
ข้อดี คือ หากสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝากถูกเพิกถอนใบอนุญาต หรือเข้าใจง่าย ๆ คือ เจ๊ง! ผู้ฝากจะได้รับเงินฝากคืนภายใน 30 วัน ตามวงเงินที่กฎหมายกำหนด
โดยมีรายชื่อสถาบันการเงิน 35 แห่ง ดังนี้
ธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศ (19 แห่ง)
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารเมกะ สากลพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารเอเอ็นแซด (ไทย) จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย ทรัสต์ (ไทย) จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ (11 แห่ง)
- ธนาคารเจพีมอร์แกน เชส
- ธนาคารโอเวอร์ซี-ไชนีส แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด
- ธนาคารซิตี้แบงก์
- ธนาคารอาร์ เอช บี จำกัด
- ธนาคารแห่งอเมริกา เนชั่นแนล แอสโซซิเอชั่น
- ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด
- ธนาคารดอยซ์แบงก์
- ธนาคารมิซูโฮ จำกัด
- ธนาคารบีเอ็นพี พารีบาส์
- ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น
- ธนาคารอินเดียน โอเวอร์ซีส์
บริษัทเงินทุน (2 แห่ง)
- บริษัทเงินทุน ศรีสวัสดิ์ จำกัด (มหาชน)
- บริษัทเงินทุน แอ็ดวานซ์ จำกัด (มหาชน)
บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ (3 แห่ง)
- บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ เอสเบ จำกัด
- บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ เวิลด์ จำกัด
- บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ แคปปิตอล ลิ้งค์ จำกัด
ทั้งนี้ เหตุผลที่มีการขยายเวลาคุ้มครองเงินฝาก 5 ล้านบาท/1 รายผู้ฝาก/1 สถาบันการเงิน ถึง 10 ส.ค.2564 จากเดิมที่จะเข้าสู่วงเงิน 1 ล้านบาท ในวันที่ 11 ส.ค.2563 นั้น เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก ทำให้ไทยต้องปิดเมือง 3 เดือน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ดังนั้น เพื่อรับมือสถานการณ์ดังกล่าว จึงขยายคุ้มครองเงินฝากออกไปนั่นเอง