– The Male Beasts เก็บกลุ่มตัวอย่าง 201คนในกลุ่มผู้ชายคนเมือง อายุ 16 – 30 ปี มีรายได้ครัวเรือนระดับกลางถึงสูง (Middle-to-Upper Class) และใช้เครื่องสำอางผู้หญิงแต่งหน้าเป็นประจำ
– The Female Beasts เก็บกลุ่มตัวอย่าง 213 คนเป็นผู้หญิงคนเมือง อายุ 20 – 35 ปี มีรายได้ครัวเรือนระดับกลางถึงสูง (Middle-to-Upper Class), ใช้เครื่องสำอางแต่งหน้าเป็นประจำ และหลงใหลใน K-Pop Culture
รวมกับการวิเคราะห์ Data ที่ได้จากแหล่งข้อมูลต่างๆ ทั้ง Global Web Index, T-CUBE Thailand และ Nielsen Media Research
รู้จักตัวตน “Beauty Beasts” ใส่ใจการดูแลตัวเอง–เปิดรับเทรนด์-กล้าแสดงความเห็นบนโซเชียลมีเดีย
คาแรคเตอร์ และทัศนคติของผู้บริโภคกลุ่ม Beauty Beasts คือ
– 60% ของกลุ่ม Beauty Beasts ให้ความสำคัญกับ “ชีวิตความเป็นอยู่และความสุขของตนเอง” (Self-focused and Self-care) ก่อนที่จะให้ความสนใจกับคนรอบข้าง
Beauty Beasts บางคนเปรียบเทียบตัวเขาเอง กับรุ่นพ่อแม่ว่า พ่อแม่ใช้ชีวิตไปกับการทำมาหาได้ และพยายามจัดหาความสะดวกสบายต่างๆ ให้กับลูกๆ จนลืมนึกถึงความสุขของตัวเอง แต่สำหรับคนรุ่นเขา มองว่าต้องทำให้ตัวเองมีความสุขก่อน ถึงจะทำให้คนอื่นมีความสุขได้
– ความสุขของกลุ่มนี้เริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวันมากกว่าการวางเป้าหมายเรื่องการประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เช่น ตื่นขึ้นมาแล้วไม่เครียด ได้รับประทานอาหารอร่อย ไปคาเฟ่ ได้ถ่ายรูป ได้คุยกับเพื่อน สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ทำให้ผู้บริโภคกลุ่ม Beauty Beasts มีความสุขได้แล้ว
– 96% ของกลุ่ม Beauty Beast เป็น “Trend Adapter” คือ เปิดรับเทรนด์ แล้วนำมาปรับให้เหมาะสมกับสไตล์และความชอบของตนเองมากกว่าการเลียนแบบจากกระแสนิยม
– 85% ของกลุ่ม Beauty Beasts “กล้าแสดงความคิดเห็น” (Expressive) โดยเฉพาะบน Social Media
– 75% เป็น “Tech-savvy” ด้วยความที่คนกลุ่มนี้เกิดและเติบโตในยุคเทคโนโลยี จึงเป็นกลุ่ม Digital Native
– 71% เป็น “Convenience Lover” คือ รักความสะดวกสบาย เป็นผลมาจากการเกิดและเติบโตกับเทคโนโลยี และอุปกรณ์สมาร์ทต่างๆ ทำให้เกิดวัฒนธรรม On-demand Culture
Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand
เมื่อเจาะลึกถึงความกล้าแสดงความคิดเห็นและความเป็นตัวตนใน Social Media จึงพบว่า หลาย ๆ คนอยากที่จะพัฒนาตนเองให้เป็น Content Creator หน้าใหม่ ซึ่งพวกเขาให้ความสำคัญในการออกแบบและสร้างสรรค์คอนเทนท์ก่อนโพสต์บนโซเชียลมีเดียเสมอ
– 52% ของ Male Beasts ใช้เวลาในการแก้ไขปรับแต่งรูปภาพ/คอนเทนต์ ก่อนโพสต์บน Social Media
– 56% ของ Female Beasts ใช้เวลาในการแก้ไขปรับแต่งรูปภาพ/คอนเทนต์ ก่อนโพสต์บน Social Media
แตกต่างจากในอดีตที่ผู้หญิงมักจะให้ความพิถีพิถันในการตกแต่งรูปภาพมากกว่าผู้ชาย และจากพฤติกรรมนี้ถือเป็นข้อมูลที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับนักการตลาดที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่ม Beauty Beasts ได้ด้วยการสร้างกิจกรรมทางการตลาดที่โฟกัสไปที่สิ่งสนุกสนาน และการสร้างแคมเปญที่ดึงดูดให้กลุ่ม Beauty Beasts อยากทำคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์บน Social Media และเผยแพร่ไปยังผู้ใช้งานในแต่ละแพลตฟอร์ม
นอกจากกลุ่ม Beauty Beasts หลายคนผันตัวเองเป็น Content Creator แล้ว ขณะเดียวกันพฤติกรรมการใช้แพลตฟอร์ม Social Media ของคนรุ่นใหม่กลุ่มนี้ ใน 1 แพลตฟอร์มมีมากกว่า 1 บัญชี เช่น Instagram มีหลายบัญชี โดยให้ Account หนึ่งโชว์ไลฟ์สไตล์ตัวเอง อีก Account สำหรับเพื่อนสนิท ส่วนอีก Account สำหรับคนไม่สนิท หรือใช้ติดตาม Influencer ที่ชื่นชอบ เพราะต้องการให้แต่ละ Account แยกชัดเจนระหว่างพื้นที่ส่วนตัว (Me Space) กับพื้นที่สาธารณะ (Public Space)
Beauty Beasts หลงใหลใน “K-Pop Culture” ให้ความบันเทิง – ความสบายใจ – แรงบันดาลใจ
“K-Pop Effect” เป็นปรากฏการณ์ระดับโลก ทั้งในอเมริกา, ยุโรป, แถบเอเชีย รวมถึงประเทศไทย ในการสำรวจครั้งนี้ยังเจอ Insights น่าสนใจอีกอย่างสำหรับกลุ่ม Beauty Beasts ทั้งชายและหญิงว่า
– ผู้ชายชื่นชอบ K-Pop เหมือนกัน แต่ดีกรีความหลงใหล ความชอบอาจไม่เท่ากับผู้หญิง
K-Pop ในมุมของคนหนุ่มสาว Beauty Beasts คือ การให้ความบันเทิง ให้ความสบายใจ ให้แรงบันดาลใจ ไปจนถึงทำให้เกิด Passion หรือความหลงใหลบางอย่าง เช่น ด้านไลฟ์สไตล์ แฟชั่น อาหาร ภาษา
– 82% ของกลุ่ม Beauty Beasts บอกว่า K-Pop ทำให้ตัวเขาเองอยากเรียนรู้วัฒนธรรมเกาหลีเพิ่มเติม เช่น ภาษา, อาหาร, แฟชั่น
– 73% บอกว่านำเทรนด์ K-Pop เช่น การแต่งหน้า, แฟชั่น มาปรับให้เข้ากับบุคลิก และความชอบของตัวเอง
กลุ่ม Beauty Beasts ยังบอกอีกว่า K-Pop ยังเป็นเรื่องของการให้กำลังใจ หรือ Mural Support เช่น เวลาเหนื่อย ได้ดูซีรีส์เกาหลี แล้วรู้สึกหายเหนื่อย และขั้นสูงกว่านั้นคือ K-Pop ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งมีผลในด้านไลฟ์สไตล์ แฟชั่น ความชอบ และการตัดสินใจซื้อ
– 61% ของผู้หญิง (Female Beasts) บอกว่าทำอย่างไรก็ได้ให้ตัวเขาเองสามารถเป็น Top Spender เพื่อซัพพอร์ตดาราศิลปินไอดอลที่เขาชื่นชอบ แม้ของสิ่งนั้นไม่เคยใช้มาก่อน หรือไม่ได้ใช้เป็นประจำก็ตาม แต่เมื่อเห็นดาราศิลปินเกาหลีที่ชื่นชอบเป็นพรีเซ็นเตอร์ ก็อยากสนับสนุนโดยการซื้อสินค้านั้นมาใช้
นอกจากนี้ยังพบว่าผู้บริโภคที่ชื่นชอบ K-Pop บางคน เวลาซื้อของ ไม่ได้ใช้เป็นประจำ หรือไม่เคยใช้ด้วยซ้ำ แต่พอเห็นพรีเซ็นเตอร์เป็นไอดอลของเขา เขารู้สึกว่าเขาต้องให้การสนับสนุนโดยการซื้อสินค้านั้นมาใช้ นี่เป็นประโยชน์กับนักการตลาด
ผู้ชายยุคใหม่เริ่มแต่งหน้าตั้งแต่อายุ 13 ปี – ใช้เครื่องสำอาง 9.3 ชนิดเป็นประจำ
เมื่อถามเจาะลึกถึงการใช้เครื่องสำอางในกลุ่ม “Male Beasts” ใช้ พบว่า ผู้บริโภคกลุ่มนี้ให้ความสำคัญในการดูแลตัวเอง รวมไปถึงการทำให้ตัวเองดูดีขึ้นจากการใช้เครื่องสำอางผู้หญิง โดยบางคนสามารถพัฒนาตนเองจนเป็นผู้เชี่ยวชาญมากกว่าผู้หญิงบางกลุ่ม
– กลุ่ม Male Beasts ใช้เครื่องสำอางผู้หญิงแต่งหน้าโดยเฉลี่ย 9.3 ชนิดเป็นประจำ
ประเภทเครื่องสำอางที่ผู้ชาย Beauty Beasts ใช้เป็นประจำ มีทั้งแป้งรองพื้น, ลิปสติก, แป้งฝุ่น, อายไลเนอร์, บีบีครีม, ดินสอเขียนคิ้ว, ซีซีครีม, คุชชั่น, แป้งแข็งอัด, ลิปไลเนอร์, อายแชโดว์, คอนซีลเลอร์, บรัชออนปัดแก้ม, ไพรเมอร์
– 78% ใช้รองพื้น
– 65%ใช้อายไลน์เนอร์
– 56% ใช้ดินสอเขียนคิ้ว
Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand
เหตุผลสำคัญที่ทำให้กลุ่ม Beauty Beasts ทั้งชายและหญิง ให้ความสำคัญกับการแต่งหน้า นั่นเพราะ
– เพื่อดูแลและพัฒนาตัวเอง (Self-care & Self-development)
– เสริมสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง (Confidence)
– สร้างความน่าสนใจในตัวเอง (Attraction)
– เรื่องของความหลงใหล (Passion)
– แก้ไขจุดบกพร่องต่างๆ ทำให้ตัวเองดูดีขึ้น (Correction)
– ทำให้ตัวเองดีขึ้น (Enhancement)
เมื่อเจาะลึกถึงกลุ่ม Male Beasts เริ่มแต่งหน้าตั้งอายุเท่าไร พบว่า
– 26% เริ่มแต่งหน้าตั้งแต่อายุ 13 ปี ซึ่งเป็นวัยมัธยมต้น
– 37% บอกว่าเริ่มแต่งหน้าตั้งแต่อายุ 16 – 18 ปี
– 24% บอกว่าเริ่มแต่งหน้าตั้งแต่อายุ 19 – 22 ปี เป็นช่วงเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นช่วงของการเปลี่ยนแปลงจากวัยรุ่นคนหนึ่ง กำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่
เหตุผลหลักที่กลุ่ม Male Beasts ตั้งแต่วัย 13 ปี ไปจนถึงวัย 19 – 22 ปี เริ่มแต่งหน้า เพราะมองว่าเป็นการเป็นพัฒนาตัวเอง (Self-development) เพื่อปรับบุคลิกภาพของตัวเองให้ดีขึ้น ถ้าเปรียบเทียบก็เหมือนกับการออกกำลังกาย ทำให้ตัวเองมีรูปร่างที่ดูดี โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ต้องดูแลตัวเอง เพราะฉะนั้นการแต่งหน้าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขาในการพัฒนาตัวเอง
3 เส้นทางการซื้อสินค้าความงามของกลุ่ม Beauty Beasts
ขณะที่ Customer Journey การซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์ความงามของผู้บริโภคกลุ่ม Beauty Beasts ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย สามารถแบ่งออกเป็น 3 Journey เริ่มจาก Discovery ต่อด้วย Consideration และ Purchase ซึ่งแต่ละ Journey มีปัจจัยต่างๆ ที่มีอิทธิพล หรือมีบทบาทต่อผู้บริโภค
Discovery Journey
เป็น Stage แรกของทุกคน การค้นพบ ได้รู้จักแบรนด์ และผลิตภัณฑ์ความงามประเภทต่างๆ โดยในขั้นนี้แบ่งเป็น 2 รูปแบบคือ
1. Passive Discovery คือ นั่งอยู่เฉยๆ แล้วได้รู้จักแบรนด์ หรือผลิตภัณฑ์ความงามต่างๆ ปัจจัยที่ทำให้เกิดการค้นพบแบรนด์ หรือสินค้าในรูปแบบนี้ เช่น
– Facebook Live Streaming ของแบรนด์เครื่องสำอาง/ความงาม
– Facebook Post ของ Beauty Blogger หรือ Celebrity
– TikTok Post ของ Beauty Blogger หรือ Celebrity
– IG Live Streaming ของแบรนด์เครื่องสำอาง/ความงาม
– Facebook Post ของแบรนด์เครื่องสำอาง/ความงาม
– IG Post ของ Beauty Blogger หรือ Celebrity
– YouTube Ads
– Twitter Post ของ Beauty Blogger หรือ Celebrity
– Facebook Ads
– Shopee Live ของแบรนด์เครื่องสำอาง/ความงาม
– TikTok Post ของแบรนด์เครื่องสำอาง/ความงาม
– Lazada Live ของแบรนด์เครื่องสำอาง/ความงาม
2. Active Discovery คือ ผู้บริโภคทำการค้นหาข้อมูลด้วยตัวเอง เพื่อให้ได้รู้จักแบรนด์ หรือผลิตภัณฑ์ความงาม
– ดูคอนเทนต์บน YouTube ของ Beauty Blogger หรือ Celebrity
– ค้นหาจาก YouTube
– ค้นหาจาก Google
– ค้นหาจาก Facebook
– ดูคอนเทนต์ในช่อง YouTube ของแบรนด์
– ค้นหาข้อมูลจาก Online Community เช่น Facebook Group
– คำแนะนำจากครอบครัว หรือเพื่อน
Consideration Journey
การคิดพิจารณาการเลือกเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ความงามต่างๆ โดยมี 5 ปัจจัยประกอบการพิจารณาการซื้อ ได้แก่
– ชื่อเสียงของแบรนด์
– รีวิวจากผู้ใช้งานจริง
– โฆษณา
– พรีเซ็นเตอร์แบรนด์
– รีวิวจาก Beauty Blogger
Purchase Journey
การตัดสินใจเลือกซื้อ ทั้งช่องทางออฟไลน์ และออนไลน์
ช่องทางออฟไลน์
– เคาน์เตอร์เครื่องสำอาง
– ซูเปอร์มาร์เก็ต
– ร้านค้าปลีกผลิตภัณฑ์ความงาม
– ร้านสุขภาพและความงาม
ช่องทางออนไลน์
– เว็บไซต์ของแบรนด์เครื่องสำอาง
– เว็บไซต์ของร้านค้าปลีกเครื่องสำอาง
– Official Store บน LazMall
– Official Store บน Shopee
– Live streaming บน Facebook ของแบรนด์
– Live stream บน Facebook ของร้านค้าปลีกอิสระ
– แอปพลิเคชันของดีพาร์ทเมนท์สโตร์
– แอปพลิเคชันของร้านค้าปลีกผลิตภัณฑ์ความงาม เช่น Sephora
Touchpoint เข้าถึงผู้บริโภคกลุ่ม Beauty Beasts ผสานทั้งออฟไลน์และออนไลน์
ในส่วนของช่องทางการสื่อสาร ต้องผสานทั้งสื่อออฟไลน์ และออนไลน์เข้าด้วยกัน โดยเป็นสื่อที่อยู่ในไลฟ์สไตล์ประจำวันของผู้บริโภคกลุ่ม Beauty Beasts ซึ่งแต่ละสื่อมีบทบาทแตกต่างกัน
สื่อออฟไลน์ มี 5 สื่อหลักที่มีบทบาทกับกลุ่ม Beauty Beasts
“ทีวี” แม้ผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ใช้เวลาดูทีวีน้อยกว่าวัยผู้ใหญ่ แต่ผู้บริโภคกลุ่มนี้บอกว่าสื่อทีวีก็มีความสำคัญเช่นกัน พบว่า
– 64% ให้ความเห็นว่าสื่อทีวีช่วยให้ได้รู้จักแบรนด์ หรือสินค้าใหม่ ๆ
“สื่อนอกบ้าน” (Out of Home) คุณลักษณะเด่นของสื่อประเภทนี้ คือ ความถี่ในการเห็นสื่อ เพราะคนเราเดินทางในเส้นทางซ้ำๆ กันทุกวัน เช่น จากบ้านไปที่ทำงาน จากบ้านไปสถานศึกษา จะผ่านป้ายโฆษณา หรือสื่อกลางแจ้งประเภทอื่นๆ บ่อยครั้ง ทำให้เพิ่มการรับรู้ และการระลึกถึงแบรนด์ (Brand Recall)
– 42% เผยว่าสื่อนอกบ้าน ทำให้จดจำแบรนด์หรือสินค้าต่างๆได้ดียิ่งขึ้น
“สื่อ ณ จุดขาย” มีจุดเด่นคือ กระตุ้นการตัดสินใจซื้อ ณ จุดขาย พบว่า
– 37% เห็นด้วยว่าช่วยกระตุ้นให้ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าได้ทันที
“สื่อวิทยุ” เป็นสื่อสนับสนุนให้เกิด Brand Recall เพราะเป็นสื่อที่สามารถทำความถี่ในการสื่อสารได้ ในงบประมาณที่ไม่แพงเกินไป
– 37% เห็นด้วยว่าสื่อวิทยุทำให้จดจำแบรนด์หรือสินค้าต่าง ๆ ได้ดี จึงเหมาะกับการเปิดตัวสินค้าใหม่ที่ต้องการสร้างการรับรู้และทำให้สินค้าหรือแบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
“สื่อโรงภาพยนตร์” เป็นสื่อให้ความรู้สึกที่ดีและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับแบรนด์ เพราะผู้บริโภคอยู่ในโหมดผ่อนคลาย การที่แบรนด์เข้าไปให้ผู้บริโภคเห็นในช่วงเวลาที่ผู้บริโภคอยู่ในโหมดผ่อนคลาย จะช่วยสร้างการจดจำที่ดีให้กับแบรนด์
– 20% บอกว่าสื่อโรงภาพยนตร์ ทำให้รู้สึก Engage กับแบรนด์
สื่อออนไลน์ แต่ละแพลตฟอร์ม Social Media มีบทบาทแตกต่างกัน
– Facebook : 75% ยังใช้เป็นช่องทางในการอัพเดทข้อมูลข่าวสาร
– LINE : 55% ใช้เพื่อติดต่อสื่อสารกับคนรอบข้างและซื้อสินค้า
– YouTube : 55% ใช้ในการค้นหาไอเดีย และ 51% ใช้เพื่อความบันเทิง
– Facebook Messenger : 66% สำหรับตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า
– Instagram : 44% ใช้เป็นพื้นที่ในการหาแรงบันดาลใจและสร้างคอนเทนต์ของตัวเอง
– TikTok : 51% เคยมีส่วนร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ บน TikTok และใช้ TikTok เพื่อความบันเทิง
– Twitter : 59% ใช้เพื่อสื่อสาร ติดตามไอดอล หรือ Celebrity ต่าง ๆ เพื่อรู้สึกใกล้ชิดกับบุคคลที่เขาชื่นชอบมากขึ้น
แบรนด์ – นักการตลาดจะจับเทรนด์ความงามไร้เพศได้อย่างไร ?
จากการศึกษาข้อมูลเชิงลึกครั้งนี้ สิ่งที่เป็นประโยชน์สำหรับนักการตลาดและแบรนด์สินค้าที่ต้องการเข้าถึงกลุ่ม Beauty Beast คือ
– ต้องเน้นการสื่อสารเรื่องความสวยความงามที่เป็นกลาง ไม่แบ่งแยกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะผู้หญิงหรือผู้ชายเท่านั้น
– ชูประโยชน์ที่ได้รับนอกเหนือการจากใช้ผลิตภัณฑ์ว่าสามารถพัฒนาตัวตนหรือบุคลิกภาพของกลุ่ม Beauty Beasts ได้
– ต้องสื่อสาร – ทำกิจกรรมทางการตลาดผ่านทาง Beauty Bloggers ทั้งหญิงและชายในช่องทางออนไลน์ต่างๆ เช่น IG Stories หรือ Tik Tok อย่างสม่ำเสมอ
– แบรนด์ควรมีช่องทางการขายผ่านทั้งทางจุดจำหน่ายตามห้างร้านค้า และทาง e-commerce เนื่องจากแต่ละช่องทางมีจุดเด่นในการกระตุ้นให้เกิดการซื้อที่ต่างกันคือ จุดจำหน่ายตามห้างหรือออฟไลน์ มีบทบาทในการสร้างประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์ ในขณะที่ออนไลน์มีบทบาทในด้านการใช้โปรโมชั่นและสามารถเข้าถึงได้ทุกที่
แชร์ :
Beauty BeastsBeauty Become GenderlessBeauty BloggerConsideration JourneyContent CreatorCustomer JourneyDiscovery JourneyE-CommerceGender NeutralK-Pop CultureK-Pop EffectOffline MediaOnline MediaPurchase JourneySelf-careSelf-developmentsocial mediaTech-savvyTouchpointTrend Adapterความสวยความงามตลาดความงามผลิตภัณฑ์ความงามเครื่องสำอางเทรนด์ความงามไร้เพศไม่มีการจำกัดเพศ