- หน้าหลัก
- เกี่ยวกับเรา
- ประวัติความเป็นมา ที่ตั้ง
- วิสัยทัศน์ พันธกิจสถานศึกษา
- โครงสร้างหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
- บุคลากร
- ★กศน.อำเภอเก้าเลี้ยว ★
- เว็ปไซต์กศน.ตำบล 5 แห่ง
- ศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอพียง ด้านการศึกษา
- งานประกันคุณภาพ
- Facebook กศน.ตำบลทั้ง 5 แห่ง
-
งานการศึกษาขั้นพื้นฐาน
- ข้อสอบออนไลน์ รายวิชาเลือก ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
- ใบสมัครเรียน กศน.
- เอกสาร กพช
- ข้อสอบออนไลน์ รายวิชาเลือก ชั้นประถมศึกษา
- งานการศึกษาต่อเนื่อง
- งานวิจัย
- แผนการจัดการเรียนรู้ออนไลน์
- งานการศึกษาขั้นพื้นฐาน
- ระบบห้องเรียนออนไลน์ (Google Classroom)
- ข้อสอบออนไลน์ รายวิชาเลือก ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
- ETVติวเข้มเติมเต็มความรู้
- หลักสูตรเพื่อพัฒนาอาชีพ
- VDO อาชีพออนไลน์กับกศน.อำเภอเก้าเลี้ยว
- ข้อสอบออนไลน์ รายวิชาบังคับ
- ข้อสอบออนไลน์ รายวิชาเลือกเสรี
- ข้อสอบออนไลน์ รายวิชาเลือกเสรี 2 2563
- ข้อสอบซ่อมออนไลน์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
- E - book หนังสือเรียน กศน. รายวิชาบังคับ
- E - book หนังสือเรียน กศน. รายวิชาเลือกบังคับ
- ☆สรุปเนื้อหาและเก็งข้อสอบสำหรับนักศึกษา ☆
- ห้องเรียนออนไลน์
-
ระบบสารสนเทศ
- ระบบ DMIS62
- ระบบ e-Office
- ระบบ e-Budget
- ปริ้นสลิปเงินเดือน
- ระบบ ข่าวประชาสัมพันธ์
- ห้องสมุดประชาชนอำเภอเก้าเลี้ยว
- หนังสือออนไลน์
- เพจ ห้องสมุด
- ประวัติห้องสมุด
- กิจกรรมห้องสมุดประชาชนอำเภอเก้าเลี้ยว
- สมัครเรียนออนไลน์
- สมัครเรียนกับกศน.อำเภอเก้าเลี้ยว
- เรียนออนไลน์ นักศึกษา ม. ต้น ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563
- เรียนออนไลน์ นักศึกษา ม. ปลาย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563
- เรียนออนไลน์ นักศึกษา ม. ต้น ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
- เรียนออนไลน์ นักศึกษา ม. ปลาย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
- เรียนออนไลน์ นักศึกษา ม. ปลาย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564
- เรียนออนไลน์ นักศึกษา ม. ต้น ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564
- เรียนออนไลน์ นักศึกษา ม. ปลาย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565
- เรียนออนไลน์ นักศึกษา ม. ต้น ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565
- ผลการเรียนออนไลน์
- ระบบรายงานข่าว
แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู กศน. แบบบูรณาการ ตามรูปแบบ ONIE Modal หนว ยการเรยี นรทู ี่ 1 – 5 หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ....... ปก ารศกึ ษา ................ สาํ นกั งานสง เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจังหวดั กาญจนบุรี สํานกั งานสง เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย สาํ นักงานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร กระทรวงศึกษาธกิ าร
คาํ นํา แผนการสอน หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับประถมศึกษา ฉบับน้ี จัดทาํ ข้ึนเพอ่ื เปนแนวทางในการจดั กิจกรรมการเรียนรู 6 ช่ัวโมงตอสัปดาห มีเน้ือหา รายวิชา 3 รายวิชาหลักที่มีการลงทะเบียนเรียน คือ ทักษะการเรียนรู (ทร11001) วิทยาศาสตร (พว11001) เศรษฐกิจพอเพียง (ทช11001) จุดเนนการปฏิบัติในการจัดทําแผนการสอนเลมนี้ ผูจัดทําไดรวบรวมองคความรู ทักษะและสภาพปญหาจากการจัดกระบวนการเรียนรูท่ีผานมา เพ่ือนํามาปรับปรุงเพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพ กระบวนการจัดการเรียนรู ใหม ปี ระสิทธิภาพมากยงิ่ ข้นึ มกี จิ กรรมการเรยี นรทู ค่ี รบตามเน้ือหา ตวั ชว้ี ดั และพัฒนา ผูเรยี นใหม ีคุณสมบัติทพ่ี ึงประสงคข องสถานศกึ ษา ขอขอบคุณ ภาคีเครือขายและผูท่ีมีสวนเกี่ยวของทุกทาน ที่ใหความรู คําแนะนําและให คาํ ปรึกษาเปนแนวทาง ทําใหแผนการจัดการะบวนการเรียนรูเ ลมนี้จนสาํ เร็จ เปนรปู เลม สมบูรณ ผูจดั ทําหวงั เปน อยางยิ่งวาเอกสารเลม น้ี จะเปนประโยชนสาํ หรบั ผูน ําไปใชจดั กจิ กรรมการเรยี นรู ไดอ ยางมปี ระสทิ ธิภาพ หากพบ ขอผดิ พลาดหรือมขี อ เสนอแนะประการใด ผูจัดทาํ ขอนอมรับไวแ กไ ขปรบั ปรุงดว ยความขอบคุณยิง่ ผูจ ัดทํา กศน.อาํ เภอเมืองกาญจนบรุ ี
แนวนโยบาย จดุ เนนการปฏบิ ตั ใิ นการจดั การศกึ ษาเพอ่ื ยกระดับคุณภาพการศกึ ษานอกระบบแบบมุง ผลสมั ฤทธ์ิ กระทรวงศึกษาธิการ กาํ หนดใหเปนปแ หงการยกระดับคณุ ภาพการศึกษา สานกั งาน กศน.จึงปรบั ปรุง การจัดการศกึ ษาตา งๆ เพ่ือยกระดบั คุณภาพการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ดงั น้ี การจดั การเรียนการสอนการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน 1. ผเู รียน เปน นกั ศึกษาท่ลี งทะเบยี นเรียน มีตวั ตนจรงิ มเี ลขบตั รประชาชน และสามารถมาเรียนที่สถานศกึ ษาได อยา งตอเนื่อง 2. ครู 2.1 ครสู อนการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน หมายถงึ ครู กศน.ตําบล ครู ศรช. และ ครอู าสาสมคั ร ครู 1 คน รบั ผิดชอบผเู รยี น 1 กลมุ ๆ ละ 50 คน 2.2 ครสู อนผูพ กิ ารทางสตปิ ญญา ครู 1 คน รบั ผดิ ชอบผูเรียน 1กลมุ ๆละ 5 คนไมเกิน 8คน 2.3 ครูสอนผูพิการทางรางกายครู 1คน รับผดิ ชอบผเู รยี น 1 กลุม ๆ ละ 10คน ไมเกิน 15คน 2.4 ครู ศศช. ครู 1 คน รบั ผิดชอบผูเ รียน 1 กลมุ ๆ ละ 40 – 80 คน ใหน ับรวมผเู รยี นระดบั ประถมศึกษา มัธยมศกึ ษาตอนตน มธั ยมศึกษาตอนตน และผูไมร หู นังสือดว ย 2.5 ครู English Program ครู 1คน รับผิดชอบผเู รยี น 1 กลุมๆละ 30 คน ไมเ กิน 35คน 2.6 ขาราชการครู ขาราชการท่ีปฏบิ ตั ิงานในสถานศกึ ษาที่จดั การศกึ ษา และสํานกั งาน กศน.จงั หวดั ให ทําหนาทสี่ อนเสริมในวชิ าที่ถนดั สปั ดาหล ะ 6 ชั่วโมง และการศกึ ษาตามอัธยาศยั ใหครบ 6 ช่ัวโมง 2.7 ครูประจาํ กลุม ครปู ระจาํ กลุมใหแตง ตัง้ ครปู ระจํากลมุ 3 หนว ยงานคือ หนวยงานทหาร เรือนจํา และ อสม. เทาน้นั 2.7.1 ครูประจํากลมุ 1 คน รบั ผดิ ชอบผเู รยี น 1 กลุมๆ ละ 80 คน 2.7.2 ครูประจาํ กลมุ ใหมีในหนวยงานทหาร เรอื นจํา และ อสม. เทา น้นั 2.7.3 บุคลากร กศน. ทุกคนท่ีรับเงินเดือนจาก สานักงาน กศน. และตองการขอใบประกอบวิชาชีพครูใหแตงต้ัง ครูประจํากลุมได และตองปฏิบัติการสอนจริงโดยไมเบิกคาตอบแทน เมื่อมีใบประกอบวิชาชีพครูแลวไมตองทํา การสอน 3. การจัดการเรียนการสอน 3.1 กําหนดใหมีการเรียนการสอน 9 ชั่วโมง แทนการพบกลุมแบบเดิม และใชคําวา การเรียน กศน. กลาวคือ ครูและผูเรียนตองมีการเรียนการสอน และทํากิจกรรมรวมกัน 9 ช่ัวโมง แบงเปนการจัดการเรียนการ สอนในรายวิชาท่ีลงทะเบียนเรียนและสอนเสริม จํานวน 6 ช่ัวโมง จํานวน 3 ช่ัวโมงที่เหลือ เปนการจัดกิจกรรม รว มกันระหวางผูเ รียนและครู ซึ่งเปน กิจกรรมในแหลง เรียนรู หรอื ICT ฯลฯ 3.2 ผูเรียนทม่ี ีเวลาเรยี นไมค รบรอ ยละ 75 ไมมสี ิทธิเขาสอบตน ภาคเรียน
3.3 ใหจ ดั ทาตารางการเรยี นการสอน ชั่วโมงท่ี 1 ,ชั่วโมงท่ี 2 …….. สอนวชิ าอะไร สอนเสริมอะไร เวลา เทาไร 3.4 ใหจ ดั ทาตารางการสอนของขา ราชการครทู ี่ทาํ หนา ท่สี อนเสรมิ ดว ย โดยผบู รหิ ารจัดทาํ คาํ สงั่ แตงตงั้ 3.5 การสอนเสริมใหขาราชการครูทําหนาที่สอนเสริมกลุมละ 1 ชั่วโมง ถาขาราชการครูไมพอจึงจาง บุคคลภายนอกมาสอนเสริม บุคคลภายนอกท่ีสอนเสริม จะสอนเสริมไดไมเกิน 3 ช่ัวโมงตอสัปดาห สวนจะสอน จาํ นวนกี่สปั ดาหใหพิจารณาจากความเหมาะสม ความจําเปน และวงเงนิ งบประมาณของสถานศึกษา 4. กิจกรรมพัฒนาคณุ ภาพชวี ิต (กพช.) กําหนดใหทํากิจกรรมพฒั นาคณุ ภาพชีวิต (กพช.) 200 ชั่วโมง ตลอดหลักสูตร แมว าผูเรียนเทียบโอน ผลการเรียนแลวและเหลือระยะเวลาเรียน 1-2 ภาคเรียน ก็ตองทํา กพช. 200 ช่ัวโมง โดยใหใชหลักเกณฑ ดงั กลา วกบั ผเู รยี นทั้งเกาและใหมท ่ีลงทะเบียนเรียน 5. การเทียบระดับการศึกษา 5.1 การเทยี บระดับการศกึ ษา (เดิม) ใหร บั สมัครใหมเฉพาะระดับประถมศึกษาเทานั้น ระดับมัธยมศึกษา ตอนตนและตอนตน ใหรับประเมินซอมเฉพาะผูขอเทียบระดับการศึกษาท่ีมีผลคะแนนบางมิติอยูแลว ซึ่งจะเปด ประเมินอีก 2 คร้ัง เทานั้น การเทียบระดับการศึกษาระดับประถมศึกษา ใหมีการประเมินทักษะการอาน เขียน ภาษาไทยกอ นจบดว ย 5.2 การเทยี บระดับการศกึ ษา (เดมิ ) และการเทยี บระดับการศึกษาในระดบั สูงสุดการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน (การเทียบระดับสงู สุด) ใหม กี ารจดั สมั มนาวิชาการ 3 วนั 2 คืน หรอื 50 ช่ัวโมง โดยใชแ นวปฏิบตั ิเชน เดียวกบั การเทียบระดบั การศึกษา (เดมิ ) 6. การจดั การศกึ ษาตามหลักสตู รประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) 6.1 จงั หวัดใดทย่ี ังไมเ คยจัดการเรียนการสอน ปวช.ใหเปดได 1 หอง 6.2 จงั หวดั ท่ีเคยจัดการเรียนการสอน ปวช.แลว ใหเปด เพิ่มไดอกี 1 หอ ง 6.3 ใหส านักงาน กศน.จังหวัด จั ดทา MOU (Memorandum Of Understanding) กับส ถา น ประกอบการ และสถานศึกษาในสังกัดสํานักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา สําหรับสถานศึกษาขึ้นตรงให ผูบริหารสถานศึกษาจัดทา MOU ไดโดยตรง 6.4 ครู ปวช. 1 คน รบั ผดิ ชอบผเู รยี น 1 กลุม ๆ ละ 40 คน ไมเ กิน 45 คน 7. การจัดการเรียนการสอนผูไมร หู นังสือ 100 % 7.1 การสาํ รวจขอ มลู ผูไมร หู นงั สือและความตอ งการทางการศึกษา ใหส าํ รวจประชากรทุกคน 7.1.1 ทม่ี อี ายุ 15 ปขน้ึ ไป 7.1.2 เกบ็ ขอ มลู ทุกครัวเรอื น ทกุ คนและเก็บเปนรายบคุ คล แมคนท่ีมชี ื่อแตไมอยบู านใหเ กบ็ ขอมูลทางโทรศัพท หรือสอบถามผใู กลช ดิ ท่ีทราบขอมูล 7.1.3 การรวบรวมขอมูลใหครู กศน. และอาสาสมัคร กศน.เปน ผดู าํ เนนิ การ และเบิกจา ยคาตอบแทนใหถกู ตอง ตามระเบยี บราชการ
7.2 การประเมินระดบั การรูหนงั สือ การประเมินระดับการรหู นังสือ ประเมนิ เฉพาะผทู ี่มีอายรุ ะหวา ง 15-59 ป 7.3 การสอนผไู มร หู นังสือ สอนโดย ครู กศน.ทุกคน โดยเฉล่ียกลมุ เปาหมายใหค รทู ุกคนรบั ผดิ ชอบ ตวั อยาง จากการประเมนิ ระดับการรูหนังสอื แลว มีผไู มร หู นังสอื 20 คน สถานศกึ ษามคี รู 5 คน (ครู กศน.ตาํ บล, ครู ศรช., ครูอาสาสมคั ร) ใหเฉล่ยี ความรบั ผิดชอบใหครูทง้ั 5 คน 8. อ่นื ๆ ใหแ ตง ตงั้ หัวหนา กศน.ตําบล ใหค รบทุกตําบล โดยคดั เลอื กจากครูอาสาสมัครเปนอันดับแรก
วิเคราะหส ภาพปญหา ผลกระทบตอการจดั การเรียนรูของผเู รียน การจัดกระบวนการเรียนรูตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 มุงพัฒนาใหผูเรียนสูความเปนคน “คิดเปน” โดยเนนพัฒนาทักษะการแสวงหาความรู ประยุกตใชความรู และสรางองคกรความรูสําหรับตนเอง และชุมชน สังคม ซ่ึงกําหนดการจัดกระบวนการเรียนรูแบบ กศน. หรือ ONIE MODEL เปนการจัดกระบวนการเรียนรทู ม่ี คี วามหลากหลาย ประกอบดวย 4 ขน้ั ตอน ดงั น้ี ขนั้ ที่ 1 กําหนดสภาพ ปญหา ความตอ งการในการเรียนรู (O: Orientation) ขนั้ ท่ี 2 แสวงหาขอ มูลและจัดการเรียนรู (N: New ways of learning) ขัน้ ที่ 3 ปฏบิ ัติและนาไปประยุกตใ ช (I: Implementation) ข้นั ท่ี 4 ประเมนิ ผลการเรียนรู (E: Evaluation) การจัดกระบวนการเรยี นรูทเี่ หมาะสมกับผูเรียนท่ีหลากหลาย มีความแตกตางกนั ทั้งดาน อาชพี อายุ สภาพสังคม ศาสนา ฯลฯ จาเปนตองวิเคราะหสภาพปญหาท่ีสงผลกระทบตอการเรียนรูของผูเรียนดานตางๆ แลวนํามาจัดกระบวนการเรียนรูใหตรงกับความตองการของผูเรียนโดย บูรณาการสภาพปญหาท้ังหมด เขา กับหนวยการเรียนรู ตัวชี้วัด และวัตถุประสงคการเรียนรู เพ่ือมุงสูผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนตามวัตถุประสงคของ การจดั การเรียนรู สามารถวิเคราะหสภาพปญหาในปจจบุ นั ได ดังน้ี ดานการศึกษา การสบื คน ขอมลู จากสื่อแหลง เรียนรู อินเตอรเ น็ต ความสําคัญของการเรียนรูแบบ กศน. และการนํา ความรไู ปปรับใชใ นชีวติ ประจําวัน ดานการเมืองการปกครอง กฎหมาย การเมืองการปกครอง สถานการณทางการเมอื ง การปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มี พระมหากษัตริยทรงเปน ประมขุ ดา นสังคม การวางแผนการดํารงชพี ทเี่ หมาะสมกบั สภาพสังคมปจจุบัน การปรบั ตัวเขา กบั สภาพชุมชน จารีต ประเพณี ธรรมเนยี มปฏบิ ัติในการอยูรว มในสังคม ดา นวฒั นธรรม ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ความสาํ คัญของวฒั นธรรมประเพณี คุณธรรม จรยิ ธรรมในการดําเนินชวี ิต วฒั นธรรมตางประเทศ การ ปฏิบตั ิตนตามหลกั คาสอนของพุทธศาสนา ดา นสงิ่ แวดลอ ม มลพศิ ทางเสยี ง ทางอากาศ ทางนํา้ ปา ไมและการอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติ การดาํ เนนิ ชวี ติ ตามแนว ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
ดา นสุขภาพ ความรู ความเขา ใจในดานสาธารณสขุ การใชย าสมนุ ไพรในการรักษาโรค ก กฎหมายที่เกย่ี วขอ งกบั การ คุมครองผบู ริโภคพฤติกรรมการเลยี นแบบ ความรูเรอ่ื งสารเสพตดิ ดา นเทคโนโลยสี ารสนเทศ ความรูเร่ืองการใชคอมพิวเตอร อินเตอรเน็ท และสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ การใชสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศท่ี ทันสมัย การเขา ถึงแหลง สงเสรมิ การใชส่ือเทคโนโลยีสารสนเทศอยา งทวั่ ถงึ
รายวิชาท่ลี งทะเบยี นเรยี น แผนการลงทะเบียนท่ี 4 รายวิชาทล่ี งทะเบยี นเรียน ภาคเรยี นที่ .......... ปก ารศึกษา ........... สาระการเรยี นรแู ละรายวิชาทลี่ งทะเบยี นเรยี นภาคเรียนท่ี ........... ปก ารศึกษา ........ ที่ สาระการเรยี นรู รหัส รายวชิ าบังคบั หนว ยกติ ทร 11001 รายวชิ า 1 ทกั ษะการเรยี นรู 5 2 ความรูพ ้ืนฐาน พว 11001 ทักษะการเรียนรู 3 3 ทักษะชีวิต ทช 11001 วิทยาศาสตร 1 เศรษฐกจิ พอพยี ง 9 รวม
ปฏทิ ินการเรยี นรูน กั ศกึ ษา กศน. หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดบั ประถมศึกษา แผนการเรียนที่ 4 ภาคเรยี นที่ .............. ปการศกึ ษา ...................... กศน.ตําบล.............................. กศน.อําเภอเมอื งกาญจนบรุ ี จังหวดั กาญจนบรุ ี
ปฏทิ ินการเรียนรูนักศกึ ษา กศน. หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ............ ปก ารศกึ ษา ........................ กศน.ตาํ บล.................... กศน.อําเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบรุ ี สัปดาหท ่ี ว/ด/ป การเรียนรูแบบบูรณาการ กจิ กรรมการเรยี นรู 1 ปฐมนเิ ทศนกั ศกึ ษาภาคเรียนที่ ......../....................... 2 วชิ า ทักษะการเรียนรู ทร11001 วิชา ทกั ษะการเรียนรู ทร11001 - ฝกทกั ษะพืน้ ฐานทางการศึกษา แกป ญหา เทคนิคในการเรียนรูดวยตนเอง ทกั ษา ใหผูเรียนไดดูคลปิ ในเร่ืองเก่ียวกบั การเรยี นรดู วยตัวเอง และให การวางแผน การประเมินผลการเรยี นรู การวเิ คราะหวิจารณ ผเู รียนสรปุ เปนรายงาน แผนพับ พรอมนาํ มาใหเ พ่ือนฟงในการพบ กลุมที่ กศน.ตําบล ครูสรุปอกี ครัง้ เพื่อใหผเู รียนไดมีความคิดทเ่ี ปน การเรยี นรดู ว ยตวั เอง 3 วิชา ทกั ษะการเรยี นรู ทร11001 วิชา ทกั ษะการเรยี นรู ทร11001 - ศกึ ษาเรียนรกู ารใชอ นิ เทอรเนต็ การเขาถึงขอมลู สารสนเทศและศักยภาพการ ใหผูเรียนไปศกึ ษานอกสถานท่ี พรอมเรื่องราวท่ีไดเ รียนมา 5 เร่ือง ประกอบอาชีพโดยเนน และอภิปรายแลกเปล่ยี นเรยี นรู ใหเพื่อนฟง ครแู ละผูเรยี นสรุปพรอม - ศกั ยภาพของทรพั ยากรธรรมชาติในแตละพ้ืนท่ี กันอีกคร้ัง และใหผูเรยี นทําเปนรายงาน จับใจความสาํ คัญ สง เพอ่ื - ศักยภาพของศลิ ปะ วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตของแตล ะพนื้ ท่ี เปนคะแนนเกบ็ 4 วิชา ทักษะการเรยี นรู ทร11001 วชิ า ทกั ษะการเรียนรู ทร11001 ฝกทักษะกระบวนการจัดการเรยี นรู การแสวงหาการประยุกตใชความรู การ ใหผเู รยี นศึกษาแนวทางการเรยี นรใู นส่ิงรอบตัวเรา และจัดบอรด แลกเปลี่ยนเรียนรแู ละการพัฒนาขอบขายความรู ความรู เพื่อใหเพ่ือนไดศึกษา และอธบิ ายใหเพ่ือนฟงในการพบกลุมท่ี กศน.ตาํ บล
ปฏทิ นิ การเรียนรูนักศกึ ษา กศน. หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ............ ปก ารศึกษา ........................ กศน.ตาํ บล.................... กศน.อาํ เภอเมอื งกาญจนบรุ ี จังหวัดกาญจนบุรี 5 วชิ า ทกั ษะการเรียนรู ทร11001 วิชา ทักษะการเรยี นรู ทร11001 ศกึ ษาฝกทกั ษะสถติ อิ ยางงา ยเพอื่ การวจิ ยั เครื่องมือการวิจัย และการเขียน ใหผูเรียนเลาการดําเนินชีวิตประจําวันของแตละคน และลอง โครงการวิจยั ดําเนินการวิจัยวาการดําเนินชีวิตของเรามีความสุขหรือไม พรอม ศัพทภาษาอังกฤษท่ีเก่ียวของกับการดําเนินชีวิตอยางนอย 5 คํา นํามาสรุปเปนแผนผังความคิด และอธิบายใหเพื่อนฟงในการพบกลุม ที่ กศน.ตําบล และครูเปนผสู รปุ ในภาพรวมทัง้ หมดของผูเ รียน 6 วิชา ทกั ษะการเรยี นรู ทร11001 วชิ า ทกั ษะการเรยี นรู ทร11001 ทบทวนความเขาใจความเช่ือพื้นฐานทางการศึกษาผใู หญการศกึ ษานอกระบบ การ ใหผเู รียนไปศึกษาแนวทางดานคณุ ธรรม จริยธรรม ที่เหมาะสมของ เชือ่ มโยงไปสูการเรียนรู ความหมายความสาํ คัญของการคิดเปน ประชาชนและการเลือกใชผ ลติ ภัณฑท เี่ ปนมิตรกับสิง่ แวดลอม นํามา แกปญหา จาก สื่อออนไลน หนงั สือ ครอบครวั ผรู ใู นชุมชน แลว นาํ มาอภิปรายแลกเปลย่ี นเรยี นรใู หเ พอ่ื นฟงในการพบกลมุ ท่ี กศน. ตําบล 7 วิชา ทกั ษะการเรียนรู ทร11001 วิชา ทกั ษะการเรยี นรู ทร11001 การฝกทักษะในการพจิ ารณาขอ มลู และการนําไปใช การฝกปฏิบตั ิการคิด การ ใหผ ูเ รียนไปศึกษาคน ควา การอนุรักษทาํ นบุ ํารงุ สง เสริม ตดั สินใจ อยางเปนระบบในการแกป ญหา ศิลปวัฒนธรรม จากวัดไชยชมุ พลชนะสงคราม แหลงเรียนรู โดยการ เปนจิตอาสาในการทาํ ความสะอาดหองน้ําวดั และสรา งสถิตใิ นการ เปน จติ อาสาของแตละคนนํามาทํารายงาน และอธบิ ายเพิ่มเติมให เพ่อื นฟง ในการพบกลมุ ที่ กศน.ตําบล
ปฏิทนิ การเรยี นรนู กั ศึกษา กศน. หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ............ ปก ารศกึ ษา ........................ กศน.ตาํ บล.................... กศน.อําเภอเมอื งกาญจนบรุ ี จังหวัดกาญจนบุรี 8 วชิ า วิทยาศาสตร พว11001 วชิ า วิทยาศาสตร พว11001 1. กระบวนการทางวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี - ใหผเู รยี นไปศกึ ษาเร่ืองวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี จํานวน 1 เร่ือง จาก สอื่ ออนไลน หอ งสมุด หนงั สือ แหลง เรยี นรู ผูร ู ภมู ปิ ญ ญา 9 วิชา วิทยาศาสตร พว11001 ทองถ่นิ สรุปเปน รายงานนํามาเสนอใหเพื่อนฟง และครกู ับผเู รียน 1. สิ่งมีชีวิตและส่งิ แวดลอ ม สรุปเนื้อหาท่เี ชือ่ มโยงกับวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ในการพบกลมุ 2. ระบบนิเวศ ที่ กศน.ตําบล - ใหผ เู รียนไปศกึ ษาคน ควา วิทยาศาสตรของตนเอง จาก สือ่ ออนไลน หนงั สือ ผูรู สรุปเปน แผนพบั และแสดงบทบาทสมมตุ ใิ หเพ่ือนดู พรอมทัง้ ครูและผูเรียนสรปุ รว มกนั ในการพบกลุมที่ กศน.ตําบล วิชา วิทยาศาสตร พว11001 - ใหผ ูเ รียนศึกษาคนควา ลักษณะของส่ิงมีชีวติ จาก สื่อออนไลน หนงั สือ แหลงเรยี นรู สรุปเปน แผนผังความคิด และนาํ มานําเสนอให เพือ่ นฟง พรอมทั้งครูและผูเรียนสรุปรวมกันในการพบกลุมท่ี กศน. ตําบล - ใหผ ูเรยี นไปศกึ ษาคน ควา เกณฑในการจัดกลุมว่ิงมีชีวติ จาก สอื่ ออนไลน แหลง เรยี นรู ผูรู นาํ มาจัดนทิ รรศการ และครอู ธบิ าย เพิ่มเติมใหผ ูเ รยี นฟงในการพบกลมุ ท่ี กศน.ตาํ บล
ปฏิทนิ การเรยี นรูนักศกึ ษา กศน. หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ............ ปการศกึ ษา ........................ กศน.ตําบล.................... กศน.อําเภอเมอื งกาญจนบรุ ี จังหวัดกาญจนบุรี 10 วิชา วิทยาศาสตร พว11001 วชิ า วิทยาศาสตร พว11001 1. ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ ม - ใหผเู รียนฝก ทกั ษะการอานจากสอ่ื ท่ีชืน่ ชอบจากหองสมุด แหลง 2. การอนรุ ักษท รัพยากรธรรมชาติ เรียนรู แลวใหเขียนสรปุ เปนชิน้ งาน เสนอหนาหองเรยี นในวนั พบ กลุมโดยครูและผูเรยี นรวมกนั สรปุ บทเรยี น พรอมใหบันทึกลงใน 11 วชิ า วิทยาศาสตร พว11001 - ใหผเู รยี นแสดงบทบาทสมมุติ เปนดาราท่ีชืน่ ชอบ และสรุปถงึ ขอดี 1. ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ ม ขอ เสีย ของการแตงกาย พรอมอบหมายใหผูเรียน นาํ เสนอ โดย 2. การอนุรกั ษทรัพยากรธรรมชาติ จัดเปนบอรดความรู ในวันพบกลมุ โดยครูและผูเรียนรวมกันสรุป 12 วิชา วิทยาศาสตร พว11001 วชิ า วิทยาศาสตร พว11001 1. แรงและการเคล่อื นที่ของแรง - ใหผเู รียนแบงกลมุ ศึกษาคน ควา ถึงระบบนิเวศ จากอินเทอรเ น็ต 2. พลงั งานในชวี ิตประจาํ วนั จากแหลง เรียนรู นาํ มาสรปุ หนาชน้ั เรียนโดยครูและผเู รยี นรว มกนั สรปุ บทเรียน พรอ มใหบนั ทึกลงใน -. จัดสอนเสริมและคายวิชาการ ใหกับผูเรียนในรายวิชาทีย่ ากโดย เชญิ วิทยากร ผรู มู าใหความรูแกผเู รยี นใน กศน.ตําบล โดยครูและ ผูเรยี นรวมกนั สรปุ องคความรูทีไ่ ดร บั วชิ า วิทยาศาสตร พว11001 - ใหผูเรยี นศึกษาวิธกี ารของแรงและการเคลอื่ นทีข่ องแรง จากผรู ู จากสอ่ื อินเทอรเ น็ต และบันทกึ การเรียนรลู งใน กรต. พรอมท้งั ครู นาํ ผเู รยี นเขารว มกิจกรรมการใชพ ลังงาน ครแู ละผเู รียนรว มกันสรุป ถึงผลการเขารว มกิจกรรมดงั กลาวและบันทึกลงในสมดุ - ใหผ เู รียนแบงกลุมนกั ศกึ ษาทาํ แผนภาพแสดงความคดิ เร่อื งสิทธิและ ประโยชนในการมีสว นรว มในดาราศาสตรพ รอมนาํ เสนอหนาชัน้ เรียน ครแู ละผูเรียนรว มกันสรุปรวมกนั
ปฏิทินการเรยี นรูนกั ศึกษา กศน. หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ............ ปก ารศึกษา ........................ กศน.ตําบล.................... กศน.อําเภอเมอื งกาญจนบรุ ี จังหวดั กาญจนบุรี 13 วชิ า วิทยาศาสตร พว11001 วชิ า วิทยาศาสตร พว11001 1. แรงและการเคล่อื นที่ของแรง - ใหผ ูเรียนแบง กลมุ ศึกษาเร่ืองการใชพ ลังงานเชงิ อนรุ ักษ จากแหลง 2. พลังงานในชีวิตประจาํ วัน เรียนรู อินเทอรเน็ต และจดั เปน บอรด ความรูในหอ งเรียนครูและ ผเู รยี น รว มกนั สรปุ ถงึ สาเหตุการเกิดภยั พิบัติ บนั ทกึ ลงใน กรต. 14 วชิ า เศรษฐกิจพอเพียง ทช11001 - แนวคดิ หลกั การ ความหมาย ความสาํ คญั วชิ า เศรษฐกิจพอเพียง ทช11001 - ประกอบอาชพี อยา งพอเพยี ง ใหผูเรยี นไดด ูคลิป ในเรื่องเกี่ยวกับการเมือง การปกครอง และ - สรา งเครอื ขายดําเนินชวี ติ แบบพอเพียง บทบาทหนา ท่ีของประชาชนและใหผเู รียนสรปุ เปนรายงาน แผนพับ และนาํ มาใหเพื่อนฟงในการพบกลุม ท่ี กศน.ตําบล ครูสรปุ อีกครั้ง 15 วิชา เศรษฐกิจพอเพียง ทช11001 ขนบธรรมเนยี มประเพณวี ัฒนธรรม วชิ า เศรษฐกิจพอเพียง ทช11001 ใหผูเรียนไปศกึ ษา ความพอเพยี งที่ประชาชนควรรู และสทิ ธิหนา ท่ี ของตนเอง จาก สือ่ ออนไลน หนังสือ แลวใหสรุปเปน แผนผงั ความคดิ พรอมคาํ ศัพทภาษาอังกฤษทเี่ กี่ยวกับกฎหมายทปี่ ระชาชน ควรรูมา 5 คํา และอภปิ รายแลกเปล่ียนเรียนรู ใหเ พือ่ นฟง ครูและ ผูเรียนสรปุ พรอมกนั อีกครัง้ และใหผ เู รยี นทําเปนรายงาน จับใจความสาํ คัญ สง เพอื่ เปนคะแนนเกบ็
ปฏทิ นิ การเรยี นรูน กั ศกึ ษา กศน. หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ............ ปการศกึ ษา ........................ กศน.ตาํ บล.................... กศน.อําเภอเมอื งกาญจนบรุ ี จังหวัดกาญจนบุรี 16 วิชา เศรษฐกิจพอเพียง ทช11001 วิชา เศรษฐกิจพอเพียง ทช11001 การดูแลรกั ษาสุขภาพดว ยการออกกาํ ลังกาย ใหผเู รยี นศกึ ษาแนวทางการทาํ อาชพี ทพี่ อเพียง จาก สอ่ื ออนไลน แหลง เรยี นรู หองสมดุ สรปุ ใจความสาํ คัญลงในกระดาษชารต และจัด บอรทความรู เพ่ือใหเพื่อนไดศกึ ษา และอธิบายใหเ พ่ือนฟงในการพบ กลุมท่ี กศน.ตาํ บล 17 สอบกลางภาคเรยี นที่ ………/…………. 18 สอบปลายภาคเรียนท่ี ............./............
แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู กศน. แบบบูรณาการ ตามรูปแบบ ONIE Model หนวยการเรยี นรูท ่ี 1 หวั เรอื่ ง แสวงหาความรสู กู ารคดิ เปน หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี 2 ปก ารศึกษา 2562 สํานักงานสง เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จังหวดั กาญจนบุรี สาํ นกั งานสง เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั สาํ นกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงศึกษาธิการ
คํานาํ ศูนยการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอเมืองกาญจนบุรีไดดําเนินการ จดั ทําแผนกจิ กรรมการเรียนรู กศน.แบบบูรณาการ หนวยการเรยี นรูท่ี 1 หัวเรื่อง แสวงหาความรูสกู ารคดิ เปน เพ่ือใหครูผูสอนใชเปนคูมือในการจัดกิจกรรมการเรียนรูใหกับผูเรียนไดเกิดการเรียนรูอยางมีคุณภาพตาม หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐานพุทธศักราช 2551 ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี 2 ปการศกึ ษา 2562 เอกสารประกอบการจัดทําแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู กศน.แบบบูรณาการ หนวยการ เรียนรูที่ 1 หัวเรื่อง แสวงหาความรูสูการคิดเปน ประกอบดวยแผนผังการจัดกิจกรรมการเรียนรู กศน.แบบ ONIEModel แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู กศน.แบบบูรณาการ ใบความรู แบบประเมนิ การจัดกจิ กรรมการ เรยี นรู แนวตอบ และแบบบนั ทกึ หลังการจัดกิจกรรมการเรยี นรู การดําเนินการจดั ทําแผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู กศน.แบบบูรณาการ หลกั สตู รการศกึ ษา นอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ 2 ปการศึกษา 2562 ในคร้ังนี้ ประสบความสําเร็จไดดวยดี ตองขอขอบพระคุณ นายศักด์ิชัย นาคเอ่ียม ผูอํานวยการ กศน.อําเภอ เมืองกาญจนบุรี นางสาวชมพู จันทนะ ครูชํานาญการเปนอยางสูงที่เปนผูใหค ําปรึกษา ในการดําเนนิ การจดั ทํา แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู กศน.แบบบูรณาการ หนวยการเรยี นรทู ่ี 1 หัวเร่ือง แสวงหาความรูสูการคิดเปน หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ 2 ปการศึกษา 2562 มาโดยตลอด และขอขอบคุณบุคลากรสํานักงาน กศน.จังหวัดกาญจนบุรีท่ีขับเคลื่อนทําให การดําเนินการจัดทําแผนการเรยี นรูแ บบบรู ณาการบรรลตุ ามวตั ถุประสงค จดั ทําโดย กศน.อําเภอเมืองกาญจนบุรี
สารบัญ หนา เรือ่ ง ก ข คํานาํ 1 สารบญั 3 8 แผนผงั การจดั หนว ยการเรยี นรู กศน.แบบบรู ณาการ 12 แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู กศน.แบบบรู ณาการตามรปู แบบ ONIE MODEL 19 20 ใบความรทู ี่ 1 25 ใบความรทู ี่ 2 30 ใบความรทู ่ี 3 35 ใบความรทู ี่ 4 36 แบบประเมนิ การจัดกิจกรรมการเรียนรู 37 แนวตอบแบบประเมนิ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู บันทกึ หลงั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู บรรณานุกรม คณะทาํ งาน
แผนผังหนวยการจัดกิจกรรมการเรยี นรู กศน. แบบบรู ณาการ หนวยการเรียนรูท่ี 1 หัวเรอ่ื ง แสวงหาความรูสกู ารคดิ เปน หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี 2 ปก ารศกึ ษา 2562 รายวิชา ทักษะการเรียนรู(ทร11001) รายวิชา ทกั ษะการเรียนรู(ทร11001) หวั เรอ่ื ง2 การใชแหลง เรียนรู หวั เร่ือง3 การจดั การความรู เนื้อหา - ศึกษาเรยี นรูก ารใชอนิ เทอรเ น็ต การเขา ถึงขอมลู เนอ้ื หา สารสนเทศและศักยภาพการประกอบอาชีพโดยเนน ฝกทักษะกระบวนการจัดการเรยี นรู การแสวงหาการ - ศกั ยภาพของทรัพยากรธรรมชาตใิ นแตละพน้ื ท่ี ประยุกตใชความรู การแลกเปลีย่ นเรยี นรแู ละการพัฒนา - ศกั ยภาพของศลิ ปะ วฒั นธรรม ประเพณี และวถิ ชี วี ติ ของแตละ ขอบขายความรู พน้ื ที่ รายวชิ า ทักษะการเรียนรู(ทร หนว ยที่ 1 เนือ้ หาเสริม (ภาษาองั กฤษ) 11001) คําศัพทภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ หัวเรื่อง1 การเรยี นรูด ว ยตนเอง หวั เรือ่ ง“เรยี นรูงา ยไดด วยตัวเอง” กฎหมายทีป่ ระชาชนควรรู เนื้อหา สภาพปญ หา -Self-learning=การเรยี นรดู ว ย -ฝกทกั ษะพ้ืนฐานทางการศึกษา 1. เรียนดว ยตัวเองอยา งไรใหไดความรู ตนเอง 2. ไปเรียนที่ไหนไดบ าง - Using learning resources= แกป ญหา เทคนคิ ในการเรยี นรูดวย 3. ขาดความรกู ารใชส ิ่งรอบตัวใหเ กดิ การใชแ หลง เรยี นรู ประโยชน - Knowledge Management= ตนเอง ทักษาการวางแผน การ 4. การขาดความตระหนักรถู งึ ความสําคญั ของ การจดั การความรู แหลงเรยี นรู ประเมนิ ผลการเรียนรู การ สอนเสริม (เศรษฐกิจ พอเพียง ทช21001) วิเคราะหวิจารณ แนวคิด หลกั การ ความหมาย ความสาํ คญั
การกาํ หนดประเด็น/ปญ หา/สิ่งจาํ เปนทตี่ อ ง การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู เรยี นรู 1. ใหผเู รียนไดดคู ลปิ ในเร่อื งเก่ียวกบั การเรียนรดู ว ยตัวเอง 1. ผูเ รียนขาดความรแู ละประสบการณการเรยี นรู และใหผ ูเรียนสรปุ เปนรายงาน แผน พับ พรอ มนํามาใหเพื่อน ดว ยตัวเองใหไ ดความรู ฟง ในการพบกลุมท่ี กศน.ตําบล ครูสรุปอกี คร้งั เพ่ือใหผ เู รียน 2. ผูเ รยี นไมท ราบวา เรยี นรูดว ยตวั เองที่ไหนไดบาง ไดม คี วามคดิ ท่เี ปน การเรียนรูดว ยตวั เอง 3. ผเู รียนขาดความรเู กีย่ วกบั การเรียนรูใ นสงิ่ 2. ใหผ ูเรียนไปศกึ ษานอกสถานที่ พรอ มเรอื่ งราวท่ไี ดเรยี นมา รอบตวั เรา 5 เรื่องและอภิปรายแลกเปลยี่ นเรียนรู ใหเ พือ่ นฟง ครแู ละ 4. ผเู รยี นไมเห็นคณุ คา ในความสําคัญในแหลง ผูเรยี นสรปุ พรอมกนั อีกครั้ง และใหผเู รยี นทาํ เปนรายงาน จับ เรยี นรตู าง ๆ ใจความสาํ คญั สง เพ่อื เปน คะแนนเกบ็ 3. ใหผเู รยี นศึกษาแนวทางการเรียนรูใ นสิ่งรอบตวั เราและจัด บอรดความรู เพ่ือใหเ พื่อนไดศกึ ษา และอธิบายใหเพ่ือนฟงใน การพบกลุมท่ี กศน.ตาํ บล 4. ใหผูเรียนศึกษาคุณคาในความสําคัญในแหลงเรียนรูตาง ๆ จากสื่อออนไลน หนังสือผูรูและทําเปนรูปเลมรายงาน อภิปรายใหเพ่ือนฟงในการพบกลุมที่ กศน.ตําบลจัดทําตาราง เปรียบเทียบ ความเชื่อถือ แลวอภิปรายใหเพื่อนฟงในการพบ กลุม ที่ กศน.ตําบล
แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู กศน. ตามรปู แบบ ONIE MODEL หนว ยการเรยี นรทู ่ี 1 หัวเร่ือง แสวงหาความรสู ูก ารคดิ เปน หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ 2 ปก ารศกึ ษา 2562 ครง้ั วนั / ตวั ช้วี ดั เนื้อหาสาระ หัวเรือ่ ง ประเดน็ / กจิ กรรมการ หมาย ที่ เดอื น/ป การเรียนรู เรยี นรู เหตุ ปญ หา/ สงิ่ จําเปนท่ตี อ ง เรยี นรู 1. บอก วชิ าทักษะ หนว ยท่ี 1 ผู เ รี ย น ข า ด การจดั กจิ กรรม ความหมาย การเรยี นรู แสวงหา ค ว า ม รู แ ล ะ การเรียนรู ตระหนกั รหัสวชิ า ทร ความรูส ู ประส บการ ณ ข้นั ท่ี 1 กําหนด และเห็น 11001 การคดิ เปน การเรียนรูดวย สภาพปญ หาการ ความสาํ คญั หวั เรอ่ื ง1. 1. ตั ว เ อ ง ใ ห ไ ด เรียนรู ของการ การเรยี นรู ความหมาย ความรู 1. ใหผ ูเ รียนไดดู เรียนรดู วย ดว ยตนเอง ตระหนัก คลิป ในเรอื่ ง ตนเอง และเห็น เกย่ี วกับการ ความสําคัญ เรียนรูดว ยตัวเอง ของการ และใหผูเ รยี น เรียนรูด ว ย สรุปเปน รายงาน ตนเอง แผน พับ พรอม นาํ มาใหเพ่ือนฟง ในการพบกลมุ ท่ี กศน.ตาํ บล ครู สรุปอกี ครง้ั เพ่อื ใหผเู รียนไดมี ความคดิ ทเี่ ปน การเรยี นรูด ว ย ตัวเอง
ครง้ั วนั / ตัวชว้ี ัด เน้ือหาสาระ หัวเรื่อง ประเด็น/ กิจกรรมการ หมาย เรยี นรู เหตุ ที่ เดอื น/ป การเรียนรู ปญ หา/ สิ่งจําเปนทต่ี อ ง เรยี นรู 2. อธิบาย วิชาทกั ษะ 2.การใช ผูเรยี นไมท ราบ ขั้นที่ 2 แสวงหา ความหมาย การเรียนรู แหลง ความสําคัญ รหัสวชิ า ทร เรยี นรู วา เรียนรูด วย ขอ มูลและการจัด ของการใช 11001 ตวั เองที่ไหนได กจิ กรรมการ หองสมดุ หัวเรอ่ื ง2. บาง เรียนรู อาํ เภอ การใชแ หลง กจิ กรรมที่ 2 เรียนรู ใหผ เู รียนไปศึกษา นอกสถานที่ พรอ มเรอ่ื งราวท่ี ไดเรยี นมา 5 เรอ่ื ง และ อภปิ ราย แลกเปล่ยี นเรยี นรู ใหเ พอื่ นฟง ครู และผูเรยี นสรุป พรอ มกันอกี ครั้ง และใหผเู รยี นทํา เปน รายงาน จับ ใจความสําคัญ สง เพอื่ เปนคะแนน เกบ็
ใบความรูท่ี 1 ใบความรู เร่ืองที่ 1 ความหมายและความสาํ คัญของการเรยี นรูด วยตนเอง ในปจจุบันโลกมีความกาวหนาทางดานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยีความรูตางๆไดเพ่ิมข้ึนเปนอันมาก การเรยี นรูจากสถาบันการศึกษาไมอ าจทําใหบคุ คลศึกษาความรูไดค รบทง้ั หมดการไขวค วาหาความรูดวยตนเอง จึงเปนอีกวิธีหน่ึงท่ีจะสนองความตองการของบุคคลไดเพราะเมื่อใดก็ตามที่บุคคลมีใจรักที่จะศึกษาคนควาส่ิงที่ ตนตองการจะรูบุคคลนั้นก็จะดําเนินการศึกษาเรียนรูอยางตอเนื่องโดยไมมีใครตองบอกประกอบกับระบบ การศึกษาและปรัชญาการศึกษาเพ่ือเตรียมคนใหสามารถเรียนรูไดตลอดชีวิตแสวงหาความรูดวยตนเองใฝหา ความรูรแู หลงทรัพยากรการเรียนรูวิธกี ารหาความรูมคี วามสามารถในการคิดเปนทําเปนแกปญหาเปนมีนิสัยใน การทํางานและการดํารงชีวติ และมีสว นรวมในการปกครองประเทศ การเรยี นรูด ว ยตนเองสามารถชวยใหผเู รยี นพฒั นาและเพ่ิมศักยภาพของตนเองโดยการคน พบความสามารถ และสงิ่ ที่มีคุณคาในตนเองที่เคยมองขา มไป (“...it is possible to help learners expand their potential by discovered thatwhich is yet untapped…”) (Brockett & Hiemstra, 1991) ความหมายและความสําคญั ของการเรียนรูดว ยตนเอง การเรียนรูเปนเรื่องของทุกคนศักดิ์ศรีของผูเรียนจะมีไดเม่ือมีโอกาสในการเลือกเรียนในเร่ืองท่ี หลากหลายและมีความหมายแกตนเองการเรียนรูมีองคประกอบ 2 ดานคือองคประกอบภายนอกไดแก สภาพแวดลอมโรงเรียนสถานศึกษาสิ่งอํานวยความสะดวกและครูองคประกอบภายในไดแกการคิดเปน พ่ึงตนเองไดมีอิสรภาพใฝรู ใฝสรางสรรคมีความคิดเชิงเหตุผลมีจิตสํานึกในการเรียนรูมีเจตคติเชิงบวกตอการ เรียนรูการเรียนรูท่ีเกิดข้ึนมิไดเกิดข้ึนจากการฟงคําบรรยายหรือทําตามที่ครูผูสอนบอกแตอาจเกิดขึ้นไดใน สถานการณต างๆตอไปนี้ 1. การเรียนรูโดยบังเอญิ การเรียนรูแบบน้เี กิดข้นึ โดยบังเอิญมิไดเ กดิ จากความต้งั ใจ 2. การเรียนรูดวยตนเองเปนการเรียนรูดวยความต้ังใจของผูเรียนซึ่งมีความปรารถนาจะรูในเร่ืองน้ัน ผูเรียนจึงคิดหาวิธีการเรียนดวยวิธีการตางๆหลังจากน้ันจะมีการประเมินผลการเรียนรูดวยตนเองจะเปน รปู แบบการเรียนรูท่ีทวีความสําคัญในโลกยุคโลกาภิวัฒนบุคคลซึ่งสามารถปรับตนเองใหตามทันความกาวหนา ของโลกโดยใชส่ืออปุ กรณยุคใหมไดจ ะทําใหเ ปนคนที่มีคุณคา และประสบความสาํ เร็จไดอยางดี ความพรอ มในการเรยี นรดู ว ยตนเอง ในการเรียนรูดวยตนเองเปนบุคลิกลักษณะสวนบุคคลของผูเรียนท่ีตองการใหเกิดข้ึนในตัวผูเรียนตาม เปาหมายของการศึกษาผูเรียนที่มีความพรอมในการเรียนดวยตนเองจะมีความรับผิดชอบสวนบุคคลความ
รับผิดชอบตอ ความคิดและการกระทําของตนเองสามารถควบคุมและโตตอบสถานการณส ามารถควบคุมตนเอง ใหเ ปน ไปในทิศทางทีต่ นเลือกโดยยอมรับผลทีเ่ กิดข้ึนจากการกระทาํ ที่มาจากความคิดตดั สนิ ใจของตนเอง 3. การเรียนรูโดยกลุมการเรียนรูแบบนี้เกิดจากการที่ผูเรียนรวมกลุมกันแลวเชิญผูทรงคุณวุฒิมา บรรยายใหกับสมาชกิ ทําใหสมาชกิ มคี วามรเู ร่อื งท่วี ิทยากรพดู 4. การเรียนรูจากสถาบันการศึกษาเปนการเรียนแบบเปนทางการมีหลักสูตรการประเมินผลมี ระเบียบการเขาศึกษาทีชัดเจนผูเรียนตองปฏิบัติตามกฎระเบียบทีกําหนดเมื่อปฏิบัติครบถวนตามเกณฑท่ี กําหนดก็จะไดรับปริญญาหรือประกาศนียบัตรจากสถานการณการเรียนรูดังกลาวจะเห็นไดวาการเรียนรูอาจ เกิดไดหลายวิธีและการเรยี นรูนน้ั ไมจ ําเปนตอ งเกิดข้ึนในสถาบนั การศึกษาเสมอไปการเรียนรอู าจเกิดข้ึนไดจาก การเรียนรูดวยตนเองหรือจากการเรียนโดยกลุมก็ไดและการท่ีบุคคลมีความตระหนักเรียนรูอยภู ายในจิตสํานึก ของบุคคลนั้นการเรียนรูดวยตนเองจึงเปนตัวอยางของการเรียนรูในลักษณะที่เปนการเรียนรูท่ีทําใหเกิดการ เรยี นรตู ลอดชวี ิตซง่ึ มคี วามสําคัญสอดคลองกบั กาเปลีย่ นแปลงของโลกปจ จุบนั และสนบั สนนุ สภาพ “สังคมแหง การเรียนรู” ไดเ ปน อยา งดี การเรยี นรดู วยตนเองคืออะไร เม่ือกลาวถึงการเรียนดวยตนเองแลวบุคคลโดยท่ัวไปมักจะเขา ใจวาเปนการเรียนที่ผูเรียนทาํ การศกึ ษา คนควาดวยตนเองตามลําพังโดยไมตองพ่ึงพาผูสอนแตแทท่ีจริงแลวการเรียนดวยตนเองท่ีตองการใหเกิดขึ้นใน ตัวผูเรียนน้นั เปนกระบวนการเรียนรูที่ผูเรยี นริเร่มิ การเรียนรูดวยตนเองตามความสนใจความตองการและความ ถนัดมีเปาหมายรูจักแสวงหาแหลงทรัพยากรของการเรียนรูเลือกวิธีการเรียนรจู นถงึ การประเมินความกาวหนา ของการเรียนรูของตนเองโดยจะดําเนินการดวยตนเองหรอื รวมมือชว ยเหลอื กบั ผูอ่นื หรือไมก็ไดซ ึ่งผูเรียนจะตอง มีความรับผิดชอบและเปนผูควบคุมการเรียนของตนเองท้ังน้ีการเรียนดวยตนเองน้ันมีแนวคิดพื้นฐานมาจาก แนวคิดทฤษฎีกลุมมนุษยนิยมท่ีมีความเชื่อในเรื่องความเปนอิสระและความเปนตัวของตัวเองของมนุษยวา มนุษยทุกคนเกิดมาพรอมกับความดีมีความเปนอิสระเปนตัวของตัวเองสามารถหาทางเลือกของตนเองมี ศักยภาพและสามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองไดอยางไมมีขีดจํากัดรวมทั้งมีความรับผิดชอบตอตนเองและ ผอู ่ืนซึ่งการเรยี นดวยตนเองกอใหเกิดผลในทางบวกตอการเรียนโดยจะสงผลใหผูเรียนมีความเช่ือม่ันในตนเองมี แรงจงู ใจในการเรียนมากขึน้ มี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงข้ึนและมีการใชวิธีการเรียนที่หลากหลายการเรียนดวยตนเองจึงเปนมาตรฐาน การศึกษาท่ีควรสงเสริมใหเกิดขึ้นในตัวผูเรียนทุกคนเพราะเมื่อใดก็ตามที่ผูเรียนมีใจรักท่ีจะศึกษาคนควาจาก ความตอ งการของตนเองผูเรียนก็จะมกี ารศกึ ษาคนควาอยางตอเนื่องตอไปโดยไมตองมีใครบอกหรือ“การเรียนรู เปน เพอื่ นทดี่ ีทีส่ ุดของมนษุ ย”(LEARNING makes a man fit company for himself) ... (Young)... การเรียนดวยตนเองมีอยู 2 ลักษณะคือลักษณะท่ีเปนการจัดการเรียนรูที้มี่จุดเนนใหผูเรียนเปน ศูนยกลางในการเรียนโดยเปนผูรับผิดชอบและควบคุมการเรียนของตนเองโดยการวางแผนปฏิบัติการเรียนรู และประเมินการเรียนรูดวยตนเองซ่ึงไมจําเปนจะตองเรียนดวยตนเองเพียงคนเดียวตามลําพังและผูเรียน สามารถถายโอนการเรียนรูและทักษะที่ไดจากสถานการณหน่ึงไปยังอีกสถานการณหนึ่งไดในอีกลักษณะหนึ่ง
เปนลักษณะทางบุคลิกภาพที่มีอยูในตัวผูท่ีเรียนดวยตนเองทุกคนซึ่งมีอยูในระดับที่ไมเทากันในแตละ สถานการณการเรียนโดยเปนลักษณะท่สี ามารถพัฒนาใหสูงข้ึนไดแ ละจะพัฒนาไดสูงสุดเม่ือมีการจัดสภาพการ จัดการเรยี นรูท ีเ่ ออื้ กัน การเรยี นรูดวยตนเองมคี วามสาํ คญั อยางไร การเรียนรูดวยตนเอง (Self-Directed Learning) เปนแนวทางการเรียนรูหนึ่งท่ีสอดคลองกับการ เปล่ียนแปลงของสภาพปจจุบันและเปนแนวคิดท่ีสนับสนุนการเรียนรูตลอดชีวิตของสมาชิกในสังคมสูการเปน สังคมแหงการเรียนรูโดยการเรียนรูดวยตนเองเปนการเรียนรูที่ทําใหบุคคลมีการริเร่ิมการเรียนรูดวยตนเองมี เปาหมายในการเรียนรูท่ีแนนอนมีความรับผิดชอบในชีวิตของตนเองไมพึ่งคนอ่ืนมีแรงจูงใจทําใหผูเรียนเปน บุคคลที่ใฝรูใฝเรียนท่ีมีการเรียนรูตลอดชีวิตเรียนรูวิธีเรียนสามารถเรียนรูเรื่องราวตางๆไดมากกวาการเรยี นท่ีมี ครูปอนความรูใหเพียงอยางเดียวการเรียนรูดวยตนเองไดนับวาเปนคุณลักษณะท่ีดีที่สุดซึ่งมีอยูในตัวบุคคลทุก คนผูเรยี นควรจะมีคุณลักษณะของการเรียนรูดวยตนเองการเรียนรูดวยตนเองจัดเปนกระบวนการเรียนรูตลอด ชีวติ ยอมรบั ในศักยภาพของผูเ รียนวา ผเู รียนทุกคนมีความสามารถทจี่ ะเรยี นรูสิ่งตางๆไดดว ยตนเองเพอื่ ที่ตนเอง สามารถท่ีดํารงชีวิตอยูในสงั คมทม่ี ีการเปลยี่ นแปลงอยูต ลอดเวลาไดอยางมคี วามสุขดงั นน้ั การเรียนรดู วยตนเอง มีความสาํ คัญดงั นี้ 1. บุคคลที่เรียนรูดวยการริเริ่มของตนเองจะเรียนไดมากกวาดีกวามีความต้ังใจมีจุดมุงหมายและมี แรงจูงใจสูงกวาสามารถนําประโยชนจากการเรียนรูไปใชไดดีกวาและยาวนานกวาคนท่ีเรียนโดยเปนเพียงผูรับ หรือรอการถา ยทอดจากครู การเรียนดว ยตนเอง(Self-Directed Learning) เปน กระบวนการเรยี นรูท่ีผเู รียนริเร่ิมการเรยี นรูดวยตนเองตาม ความสนใจความตองการและความถนัดมีเปาหมายรูจักแสวงหาแหลงทรัพยากรของการเรียนรูเลือกวิธีการ เรียนรูจนถึงการประเมินความกาวหนาของการเรียนรูของตนเองโดยจะดําเนินการดวยตนเองหรือรวมมือ ชว ยเหลอื กบั ผูอนื่ หรือไมก็ไดซึ่งผูเ รยี นจะตอ งมคี วามรับผิดชอบและเปนผูควบคมุ การเรียนของตนเอง 2. การเรียนรูดวยตนเองสอดคลองกับพัฒนาการทางจิตวิทยาและกระบวนการทางธรรมชาติทําให บุคคลมีทิศทางของการบรรลุวุฒิภาวะจากลักษณะหน่ึงไปสูอีกลักษณะหนึ่งคือเม่ือตอนเด็กๆเปนธรรมชาติที่ จะตองพ่ึงพิงผูอื่นตองการผูปกครองปกปองเลี้ยงดูและตัดสินใจแทนใหเมื่อเติบโตมีพัฒนาการข้ึนเรื่อยๆพัฒนา ตนเองไปสูความเปนอิสระไมตองพึ่งพิงผปู กครองครูและผูอ่ืนการพัฒนาเปนไปในสภาพที่เพ่ิมความเปนตัวของ ตัวเอง 3. การเรียนรูดว ยตนเองทําใหผูเรียนมีความรับผิดชอบซึ่งเปน ลักษณะที่สอดคลองกับพัฒนาการใหมๆ ทางการศึกษาเชนหลักสูตรหองเรียนแบบเปดศูนยบริการวิชาการการศึกษาอยางอิสระมหาวิทยาลัยเปดลวน เนน ใหผูเ รยี นรับผดิ ชอบการเรียนรเู อง 4. การเรียนรูดวยตนเองทําใหมนุษยอยูรอดการมีความเปลี่ยนแปลงใหมๆเกิดขึ้นเสมอทําใหมีความ จําเปนทีจ่ ะตองศกึ ษาเรยี นรกู ารเรยี นรดู ว ยตนเองจงึ เปน กระบวนการตอเน่ืองตลอดชวี ิต
การเรียนรูดว ยตนเองมีลกั ษณะอยางไร การเรยี นรดู ว ยตนเองสามารถจาํ แนกออกเปน 2 ลกั ษณะสําคญั ดงั น้ี 1. ลักษณะท่ีเปนบุคลิกคุณลักษณะสวนบุคคลของผูเรียนในการเรียนดวยตนเองจัดเปนองคประกอบ ภายในท่ีจะทําใหผูเรียนมีแรงจูงใจอยากเรยี นตอไปโดยผูเรียนท่ีมีคุณลักษณะในการเรียนดวยตนเองจะมีความ รับผิดชอบตอความคิดและการกระทําเก่ียวกับการเรียนรวมทั้งรับผิดชอบในการบริหารจัดการตนเองซ่ึงมี โอกาสเกดิ ข้ึนไดสูงสุดเมือ่ มกี ารจัดสภาพการเรียนรทู ่สี งเสรมิ กัน 2. ลักษณะที่เปนการจัดการเรียนรูใหผูเรียนไดเรียนดวยตนเองประกอบดวยข้ันตอนการวางแผนการ เรียนการปฏิบัติตามแผนและการประเมินผลการเรียนจัดเปนองคประกอบภายนอกท่ีสงผลตอการเรียนดวย ตนเองของผูเรียนซ่ึงการจัดการเรียนรูแบบนี้ผูเรียนจะไดประโยชนจากการเรียนมากท่ีสุด Knowles (1975) เสนอใหใชสัญญาการเรียน (Learning contracts) เปนการมอบหมายภาระงานใหแกผูเรียนวาจะตองทํา อะไรบา งเพ่ือใหไ ดรบั ความรูตามเปาประสงคและผูเรียนจะปฏบิ ตั ติ ามเงื่อนไขนน้ั องคป ระกอบของการเรยี นรูดวยตนเองมีอะไรบาง การเรียนรดู วยตนเองเปน คณุ ลกั ษณะท่สี าํ คัญตอการดาํ เนินชวี ิตทีม่ ีประสทิ ธิภาพชวยใหผ ูเรยี นมคี วาม ตั้งใจและมีแรงจงู ใจสูงมีความคิดริเรมิ่ สรางสรรคมีความยืดหยุนมากขึ้นมีการปรับพฤติกรรมการทํางานรวมกับ ผูอนื่ ไดรจู กั เหตุผลรจู ักคิดวิเคราะหปรับและประยุกตใ ชว ิธีการแกปญหาของตนเองจัดการกบั ปญ หาไดด ีขน้ึ และ สามารถนําประโยชนของการเรยี นรไู ปใชไดดีและยาวนานข้ึนทาํ ใหผ ูเรยี นประสบความสําเรจ็ ในการเรยี น องคป ระกอบของการเรยี นรดู วยตนเองมดี ังน้ี 1. การวิเคราะหความตองการของตนเองจะเริ่มจากใหผูเรียนแตละคนบอกความตองการและความ สนใจของตนในการเรียนกับเพื่อนอีกคนทําหนาที่เปนท่ีปรึกษาแนะนําและเพื่อนอีกคนทําหนาท่ีจดบันทึกและ ใหกระทําเชนนี้หมุนเวียนทั้ง 3 คนแสดงบทบาทครบทั้ง 3 ดานคือผูเสนอความตองการผูใหคําปรึกษาและผู คอยจดบนั ทกึ การสงั เกตการณเพ่ือประโยชนใ นการเรยี นรวมกนั และชวยเหลอื ซงึ่ กันและกันในทุกๆดา น 2. การกําหนดจุดมุงหมายในการเรียนโดยเริ่มจากบทบาทของผูเรียนเปนสําคัญผูเรียนควรศึกษา จุดมุงหมายของวิชาแลวเขียนจุดมุงหมายในการเรียนของตนใหชัดเจนเนนพฤติกรรมท่ีคาดหวังวัดไดมีความ แตกตา งของจุดมุงหมายในแตละระดบั 3. การวางแผนการเรียนใหผูเรียนกําหนดแนวทางการเรียนตามวัตถุประสงคท่ีระบุไวจัดเนื้อหาให เหมาะสมกับสภาพความตองการและความสนใจของตนระบกุ ารจัดการเรียนรใู หเหมาะสมกบั ตนเองมากทส่ี ุด 4. การแสวงหาแหลง วทิ ยาการทั้งท่ีเปน วัสดแุ ละบุคคล 4.1 แหลงวิทยาการทเ่ี ปน ประโยชนใ นการศึกษาคนควา เชนหองสมดุ พิพธิ ภัณฑเ ปน ตน 4.2 ทักษะตางๆที่มีสวนชว ยในการแสวงแหลงวทิ ยาการไดอ ยางสะดวกรวดเรว็ เชน ทกั ษะการตั้ง คําถามทักษะการอานเปน ตน 5. การประเมินผลควรประเมนิ ผลการเรยี นดวยตนเองตามที่กําหนดจุดมงุ หมายของการเรียนไวและให สอดคลองกบั วตั ถปุ ระสงคเก่ียวกบั ความรคู วามเขาใจทักษะทัศนคตคิ านิยมมขี นั้ ตอนในการประเมนิ คือ
5.1 กาํ หนดเปา หมายวัตถุประสงคใ หชดั เจน 5.2 ดาํ เนนิ การใหบรรลวุ ตั ถุประสงคซงึ่ เปนส่ิงสาํ คัญ 5.3 รวบรวมหลักฐานจากผลการประเมินเพ่ือตัดสนิ ใจซ่งึ ตอ งตัง้ อยูบนพ้นื ฐานของขอมูลทีส่ มบรู ณ และเช่ือถือได 5.4 เปรยี บเทียบขอมูลกอ นเรียนกับหลงั เรียนเพ่ือดูวา ผเู รยี นมคี วามกาวหนา เพียงใด 5.5 ใชแหลง ขอมลู จากครูและผเู รยี นเปนหลกั ในการประเมนิ องคประกอบของการเรียนรูดวยตนเองผูเรียนควรมีการวิเคราะหความตองการวิเคราะหเนื้อหากําหนด จุดมุงหมายและการวางแผนในการเรียนมีความสามารถในการแสวงหาแหลงวิทยาการและมีวิธีในการ ประเมินผลการเรียนรูดวยตนเองโดยมีเพื่อนเปนผูรวมเรียนรูไปพรอมกันและมีครูเปนผูชี้แนะอํานวยความ สะดวกและใหคําปรึกษาทั้งนี้ครูอาจตองมีการวิเคราะหความพรอมหรือทักษะท่ีจําเปนของผูเรียนในการกาวสู การเปน ผเู รียนรูดวยตนเองได กระบวนการของการเรยี นรดู วยตนเอง กระบวนการของการเรียนรูดวยตนเองความรับผิดชอบในการเรียนรูดวยตนเองของผูเรียนเปนสิ่ง สาํ คัญที่จะนําผูเรียนไปสูการเรยี นรูดวยตนเองเพราะความรับผดิ ชอบในการเรียนรดู วยตนเองนั้นหมายถึงการท่ี ผูเรียนควบคุมเน้ือหากระบวนการองคประกอบของสภาพแวดลอมในการเรียนรูของตนเองไดแกการวาง แผนการเรียนของตนเองโดยอาศยั แหลงทรัพยากรทางความรูตางๆท่ีจะชวยนําแผนสกู ารปฏิบตั แิ ตภ ายใตความ รับผิดชอบของผูเรียนผูเรียนรูดวยตนเองตองเตรียมการวางแผนการเรียนรูของตนและเลือกส่ิงที่จะเรียนจาก ทางเลือกท่ีกําหนดไวรวมท้ังวางโครงสรางของแผนการเรียนรูของตนอีกดวยในการวางแผนการเรียนรูผูเรียน ตอ งสามารถปฏิบัติงานท่ีกําหนดวนิ ิจฉัยความชวยเหลือที่ตองการและทําใหไดค วามชวยเหลือนั้นสามารถเลือก แหลงความรูวิเคราะหและวางแผนการการเรียนทั้งหมดรวมท้ังประเมินความกาวหนาในการเรียนของตน กระบวนการในการเรียนรูดวยตนเองเปนวิธีการที่ผูเรียนตองจัดกระบวนการเรียนรูดวยตนเองโดยดําเนินการ ดังน้ี 1. การวนิ ิจฉัยความตองการในการเรียน 2. การกําหนดจดุ มุงหมายในการเรียน 3. การออกแบบแผนการเรยี น 4. การดาํ เนนิ การเรียนรูจากแหลง วทิ ยาการ 5. การประเมินผล
ใบงานท่ี 1 การแสวงหาความรูด ว ยตนเอง ความหมายและความสําคัญของการแสวงหาความรูดวยตนเอง 1ใหอ ธิบายความหมายของคําวา “การแสวงหาความรดู วยตนเอง” ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ 2ใหอธิบาย “ความสาํ คัญของการเรียนรูดวยตนเอง” ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ 3ใหสรุปสาระสาํ คัญ “ลกั ษณะการเรียนรดู ว ยตนเอง” ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ 4. “องคป ระกอบของการเรียนรูดวยตนเอง” มีอะไรบาง ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ผตู รวจ.......................................................... (...............................................................) ครกู ศน.ตําบล
ใบความรเู รื่องท่ี 2 การทําสัญญาการเรยี นรู กระบวนการเรียนรูดวยตนเองประกอบดว ยข้นั ตอนวินิจฉยั ความตอ งการในการเรียนรูของผเู รียน กาํ หนดจุดมุง หมายในการเรยี นวางแผนการเรยี นโดยใชส ัญญาการเรียนเขยี นโครงการเรียนรูดาํ เนินการเรยี นรู และประเมินผลการเรียนรนู น้ั ผูเ รียนจะไดป ระโยชนจากการเรียนมากท่ีสดุ “สญั ญาการเรียน (Learning Contract)” เปนการมอบหมายภาระงานใหกับผูเรียนวา จะตอ งทาํ อะไรบางเพอ่ื ใหไ ดร บั ความรตู าม เปา ประสงคและผเู รยี นจะปฏิบตั ติ ามเง่ือนไขน้นั สัญญาการเรยี น (Learning Contract) คาํ วาสัญญาโดยท่วั ไปหมายถึงขอ ตกลงระหวางบุคคล 2 ฝา ยหรอื หลายฝายวาจะทําการหรือ งดเวน กระทําการอยางใดอยา งหน่งึ ความจรงิ นั้นในระบบการจัดการเรียนรูกม็ ีการทําสญั ญากนั ระหวา งครกู บั ผเู รียนแตสวนมากไมไดเปน ลายลักษณอกั ษรวาถาผเู รยี นทําไดอยางนั้นแลวผูเรียนจะไดร ับอะไรบา งตาม ขอ ตกลง สญั ญาการเรียนจะเปน เครื่องมอื ทชี่ ว ยใหผเู รียนสามารถกําหนดแนวการเรียนของตัวเองไดด ียิ่งข้นึ ทําใหประสบผลสําเร็จตามจุดมงุ หมายและเปน เครื่องยนื ยนั ที่เปน รปู ธรรม ทา นคงแปลกใจทไ่ี ดยนิ คาํ วา “สญั ญา” เพราะคําน้ีเปนคาํ ท่ีคนุ หกู ันดีอยแู ตไมแนใ จวา ทานเคยไดยนิ คําวา “สัญญาการเรียน” หรอื ยังคําวา สญั ญาการเรยี นมีผูเรม่ิ ใชเปน คนแรกคือ Dr. M.S. Knowles ศาสตราจารยสอนวชิ าการศึกษาผใู หญ มหาวทิ ยาลัย North Carolina State ในสหรัฐอเมรกิ า 24 คําวาสัญญาแปลตามพจนานกุ รมฉบับ ราชบณั ฑิตยสถานแปลวา “ขอตกลงกัน” ดังนั้น สญั ญาการเรยี นก็คอื ขอ ตกลงท่ีผูเ รียนไดทาํ ไวก บั ครวู าเขาจะปฏิบตั อิ ยางไรบา งในกระบวนการเรียนรูเพ่ือให บรรลุ จดุ มุงหมายของหลักสตู รน่ันเอง สญั ญาการเรยี นเปนรปู แบบของการเรียนรูทแี่ สดงหลกั ฐานของการเรยี นรโู ดยใชแฟมสะสมผลงาน หรือ Portfolio 1. แนวคดิ การจดั การเรยี นรใู นระบบเปนการเรียนรทู ่ีครูเปน ผูก ําหนดรูปแบบเน้ือหากจิ กรรมเปน สว นใหญผูเรียนเปน แตเ พยี งผูปฏิบัติตามไมไดม โี อกาสในการมีสวนรวมในการวางแผนการเรยี นนักการศึกษาท้งั ในตะวนั ตกและแอฟริกามองเหน็ วา ระบบการศึกษาแบบนเี้ ปน ระบบการศึกษาของพวกจักรพรรดนิ ยิ มหรือเปน การศกึ ษาของพวกชนช้นั สูงบางเปน ระบบการศึกษาของผูถูกกดขี่บางสรปุ แลวกค็ ือระบบการศึกษาแบบนี้ไมได ฝกคนใหเปนตัวของตัวเองไมไ ดฝกใหคนรจู กั พึ่งตนเองจึงมผี ูพยายามท่ีจะเปล่ยี นแนวคิดทางการศึกษาใหม อยางเชน ระบบการศึกษาทเ่ี นนการฝก ใหค นไดร ูจ กั พง่ึ ตนเองในประเทศแทนซาเนียการศึกษาท่ีใหค นคดิ เปน ใน ประเทศไทยเราเหลา น้เี ปนตนรปู แบบของการศึกษาในอนาคตควรจะมุงไปสตู วั ผูเรียนมากกวา ตวั ผสู อน เพราะวาในโลกปจ จบุ ันวิทยาการใหมๆ ไดเ จริญกาวหนา ไปอยางรวดเรว็ มีหลายสง่ิ หลายอยา งท่ีมนุษยจะตอ ง เรยี นรถู าจะใหแตมาคอยบอกกนั คงทําไมไดด งั นั้นในการเรียนจะตอ งมกี ารฝกฝนใหคดิ ใหร ูจักการหาวิธกี ารท่ีได ศึกษาสง่ิ ที่คนตองการกลาวงา ยๆกค็ ือผเู รียนทไ่ี ดร ับการศึกษาแบบทีเ่ รียกวา เรียนรเู พ่ือการเรยี นในอนาคต
2. ทําไมจะตองมีการทําสัญญาการเรียน ผลจากการวจิ ัยเกย่ี วกับการเรียนรูของผูใหญพ บวา ผใู หญ จะเรียนไดดีทีส่ ดุ ก็ตอเม่ือการเรยี นรูดว ยตนเองไมใชการบอกหรอื การสอนแบบที่เปน โรงเรียนและผลจากการ วิจยั ทางดานจติ วิทยายงั พบอีกวา ผใู หญม ีลกั ษณะท่ีเดน ชัดในเรือ่ งความตองการทจี่ ะทาํ อะไรดว ยตนเองโดยไม ตอ งมีการสอนหรือการชีแ้ นะ มากนักอยางไรก็ดีเม่ือพูดถึงระบบการศกึ ษาก็ยอมจะตองมีการกลาวถงึ คุณภาพของบุคคลทเ่ี ขามาอยูใ นระบบ การศึกษาจึงมีความจาํ เปน ที่จะตองกาํ หนดกฎเกณฑข้นึ มาเพื่อเปน มาตรฐานดังน้นั ถงึ แมจะใหผ ูเ รยี นเรียนรดู ว ย ตนเองก็ตามกจ็ าํ เปน จะตองสรางมาตรการขึ้นมาเพื่อการควบคมุ คุณภาพของผเู รยี นเพื่อใหมมี าตรฐานตามที่ สังคมยอมรับ เหตนุ ้สี ญั ญาการเรียนจงึ เขามามบี ทบาทในการเรียนการสอนเปนการวางแผนการเรยี นที่เปนระบบขอดีของ สญั ญา-การเรียนคือเปนการประสานความคิดทวี่ าการเรยี นรูควรใหผเู รยี นกําหนดและการศึกษาจะตองมเี กณฑ มาตรฐานเขา ดว ยกันเพราะในสญั ญาการเรียนจะบงระบวุ า ผูเรยี นตอ งการเรียนเรื่องอะไรและจะวดั วาไดบรรลุ ตามความมุงหมายแลว น้นั หรือไมอยางไรมหี ลกั ฐานการเรยี นรอู ะไรบา งท่บี งบอกวา ผเู รียนมีผลการเรยี นรู อยา งไร 3. การเขียนสญั ญาการเรียน การเรียนรดู ว ยตนเองซึ่งเริ่มจากการจัดทาํ สัญญาการเรยี นจะมีลําดับ การดําเนินการดงั น้ี ข้นั ที่ 1 แจกหลักสตู รใหกับผเู รยี นในหลกั สูตรจะตองระบุ จดุ ประสงคข องรายวชิ านี้ รายชื่อหนังสอื อา งองิ หรือหนังสือสาํ หรบั ท่ีจะศกึ ษาคน ควา หนวยการเรยี นยอยพรอมรายชื่อหนังสอื อางอิง ครอู ธิบายและทําความเขาใจกับผูเรียนในเร่ืองหลักสูตรจุดมุงหมายและหนว ยการเรยี น ยอย ข้นั ที่ 2 แจกแบบฟอรมของสญั ญาการเรียน จุดมุงหมาย แหลงวิทยาการ/วธิ กี าร หลักฐาน การประเมินผล เปน สว นที่ระบวุ า ผูเรยี น เปน สวนทรี่ ะบวุ าผเู รยี น เปนสว นท่มี ีสิ่งอางอิง เปนสว นทีร่ ะบุวา ผูเรยี น ตอ งการบรรลุผลสําเร็จ จะเรยี นรูไดอยา งไร หรอื ยนื ยนั ทเี่ ปน สามารถเกดิ การเรยี นรู ในเรื่องอะไร อยา งไร จากแหลง ความรใู ด รูปธรรมทแ่ี สดงใหเ ห็น ในระดบั ใด วา ผูเ รยี นไดเกิดการ เรยี นรูแ ลว โดยเกบ็ รวบรวมเปน แฟม สะสมงาน
ขั้นท่ี 3 อธิบายวิธกี ารเขยี นขอตกลงในแบบฟอรม แตละชองโดยเรม่ิ จาก จุดมงุ หมาย วธิ กี ารเรยี นรหู รอื แหลง วทิ ยาการ หลกั ฐาน การประเมนิ ผล ขั้นท่ี 4 ถามปญหาและขอสงสัย ขนั้ ท่ี 5 แจกตัวอยางสัญญาการเรยี นใหผ เู รยี นคนละ 1 ชุด ข้นั ท่ี 6 อธิบายถงึ การเขยี นสัญญาการเรียน ผูเรยี นลงมือเขียนขอตกลงโดยผูเ รยี นเองโดยเขยี น รายละเอยี ดทงั้ 4 ชองในแบบฟอรมสญั ญาการเรยี น นอกจากนีผ้ เู รยี นยังสามารถระบุระดับการเรยี นท้ังใน ระดบั ดีดีเยย่ี มหรือปานกลางซ่ึงผูเรยี นมคี วามต้ังใจที่จะบรรลุการเรยี นในระดบั ดีเยีย่ มหรือมีความต้ังใจท่จี ะ เรียนรูในระดับดหี รือพอใจผูเรียนกต็ อ งแสดงรายละเอยี ดผูเรยี นตองการแตระดบั ดคี ือผเู รียนตองแสดง ความสามารถตามวัตถุประสงคท่ีกลา วไวในหลักสตู รใหค รบถวนการทาํ สัญญาระดบั ดีเยีย่ มนอกจากผเู รียนจะ บรรลุวัตถปุ ระสงคต ามหลักสูตรแลว ผูเ รยี นจะตองแสดงความสามารถพเิ ศษเรอื่ งใดเร่ืองหนง่ึ โดยเฉพาะอนั มี สว นเกย่ี วของกับหลักสูตร ขัน้ ท่ี 7 ใหผูเ รียนและเพอ่ื นพิจารณาสัญญาการเรียนใหเรยี บรอ ยตอไปใหผ ูเรียนเลือกเพื่อนในกลมุ 1 คนเพื่อจะไดช วยกนั พจิ ารณาสัญญาการเรยี นรขู องท้ัง 2 คน ในการพิจารณาสญั ญาการเรยี นใหพิจารณาตาม หวั ขอ ตอ ไปนี้ 1. จดุ มุงหมายมีความแจม ชดั หรือไมเ ขาใจหรือไมเปน ไปไดจริงหรือไมบอกพฤตกิ รรมท่ีจะใหเกิด จริงๆหรือไม 2. มจี ดุ ประสงคอืน่ ที่พอจะนาํ มากลาวเพ่ิมเตมิ ไดอ ีกหรอื ไม 3. แหลง วชิ าการและวธิ กี ารหาขอมลู เหมาะสมเพยี งใดมปี ระสทิ ธิภาพเพียงใด 4. มวี ธิ กี ารอื่นอีกหรอื ไมท่ีสามารถนํามาใชเพ่ือการเรียนรู 5. หลกั ฐานการเรยี นรมู คี วามสอดคลอ งกบั จุดมุงหมายเพียงใด 6. มีหลักฐานอ่ืนท่ีพอจะนาํ มาแสดงไดอกี หรือไม 7. วธิ กี ารประเมินผลหรือมาตรการทใ่ี ชว ัดมีความเช่อื ถือไดมากนอยเพยี งใด 8. มีวธิ กี ารประเมินผลหรือมาตรการอ่ืนอีกบา งหรือไมใ นการวดั ผลและประเมินผลการเรียนรู ขั้นที่ 8 ใหผูเรียนนําสัญญาการเรยี นไปปรบั ปรุงใหเ หมาะสมอีกครั้งหนง่ึ ข้นั ที่ 9 ใหผเู รยี นทําสญั ญาการเรยี นที่ปรบั ปรุงแลว ใหครูและท่ีปรกึ ษาตรวจดูอีกครง้ั หนึ่งฉบบั ที่ เรียบรอ ยใหดําเนนิ การไดตามที่เขยี นไวในสัญญาการเรียน ขน้ั ที่ 10 การเรียนกอ นท่จี ะจบเทอม 2 อาทติ ยใหผ เู รียนนาํ แฟม สะสมงาน (แฟม เก็บขอมูล Portfolio) ตามท่รี ะบุไวในสญั ญาการเรยี นมาแสดง ขน้ั ที่ 11 ครแู ละผเู รียนจะตงั้ คณะกรรมการในการพิจารณาแฟม สะสมงานทผ่ี เู รยี นนาํ มาสงและ สง คืนผูเรียนกอ นสิ้นภาคเรียน
(ตัวอยา ง) การวางแผนการเรียนโดยใชสัญญาการเรียน จุดมงุ หมาย วธิ กี ารเรยี นรู/ หลกั ฐาน การประเมนิ ผล แหลงวิทยาการ 1. สามารถอธิบายความ ใหผ ูเรียน 2-5 คน ตอ งการความสนใจ 1. อานเอกสารอา งองิ 1. ทาํ รายงานยอ ประเมนิ แรงจูงใจ ความสามารถ รายงานและบันทกึ การ และความสนใจของ ทเ่ี สนอแนะในหลกั สตู ร ขอ คิดเห็นจากหนงั สือ อภิปรายการประเมินให ผูใหญได ประเมินตามหวั ขอ 2. อานเอกสารที่ ทีอ่ าน ตอไปนี้ 1. รายงานครอบคลมุ เก่ียวของอ่นื ๆ 2. บนั ทกึ การอภิปราย เนื้อหาตามความมุง หมาย 3. รวมกลุม รายงานและ 3. ทาํ รายงานและ เพียงใด 54321 อภิปรายกับผเู รยี นอน่ื เสนอแนะเกี่ยวกบั 2. รายงานมคี วาม ชดั เจน หรือกลุมการเรยี นอ่นื ทฤษฎี เพยี งใด 54321 การเรยี นรูเพื่อนาํ ไป 3. รายงานมีประโยชน ในการเรยี นของผเู รยี น ใชกบั ผูเรียนผใู หญ ผูใ หญเ พยี งใด 54321 (โดยจัดทาํ ในรูปแบบ แฟมสะสมงาน) โดยขา พเจา จะเริ่มปฏิบัติตั้งแตว ันที่.....เดอื น.................พ.ศ. .........ถงึ วนั ท.ี่ ......เดอื น................พ.ศ. ....... ลงชือ่ ............................................................ผทู ําสัญญา (.......................................................... ) ลงชอ่ื .............................................................พยาน (.......................................................... ) ลงชอื่ ............................................................พยาน (.......................................................... ) ลงชือ่ ............................................................ครูผูสอน (.......................................................... )
ใบงานท่ี 2 เรอ่ื ง การวางแผนการเรียนโดยใชส ัญญาการเรียนรู จดุ มุงหมาย วิธกี ารเรยี นร/ู แหลง หลกั ฐาน การประเมนิ ผล ปญหา/แกไ ขปญ หา วทิ ยาการ โดยขาพเจา จะเริ่มปฏิบตั ติ ้งั แตวนั ท.ี่ ..........เดือน............ พ.ศ.......................ถงึ วันที่...........เดือน................พ.ศ............ ลงช่ือ......................................................ผูทําสญั ญา (................................................) ลงช่ือ......................................................พยาน (................................................) ลงชื่อ......................................................พยาน (................................................) ลงช่อื ......................................................ครผู สู อน (................................................)
แบบประเมินการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู หนวยที่ 1 เรื่อง แสวงหาความรูสูการคิดเปน แบบทดสอบยอยคร้ังท่ี 1 ระดบั ประถมศึกษา รายวิชาทกั ษะการเรียนรู รหัสวชิ า ทร๑1001 เรอ่ื ง การวางแผนการเรยี นโดยใชส ญั ญาการเรยี นรู จุดมงุ หมาย วธิ กี ารเรยี นร/ู แหลง หลักฐาน การประเมนิ ผล ปญหา/แกไขปญ หา วทิ ยาการ โดยขาพเจา จะเริม่ ปฏิบตั ิตั้งแตว นั ที่...........เดือน............ พ.ศ.......................ถงึ วันท.ี่ ..........เดือน................พ.ศ............ ลงช่ือ......................................................ผทู าํ สญั ญา (................................................) ลงช่ือ......................................................พยาน (................................................) ลงชอ่ื ......................................................พยาน (................................................) ลงชือ่ ......................................................ครูผูสอน (................................................)
แบบทดสอบยอยครั้งท่ี 2 ระดับประถมศกึ ษา รายวิชาการพัฒนาตนเอง ชุมชน สงั คม รหัสวิชา สค21003 แบบทดสอบ กอ น – หลังเรียน วิชาทกั ษะการเรียนรู ระดับมธั ยมศกึ ษา 1. ขอใดไมใชค วามสําคญั ของการเรียนรูดวยตนเอง ก. ทาํ ใหผ เู รียนมคี วามตั้งใจและมแี รงใจสงู ข. ทาํ ใหเ ปนคนมีความคิดรเิ ร่ิมสรางสรรค ค. มเี หตุผลและทาํ งานรว มกับผูอ นื่ ได ง. มรี ะเบยี บวินยั ในตนเองสงู 2. การเรียนรูด ว ยตนเองมีกี่ลักษณะ ก.2 ข.3 ค.4 ง. 5 3. สิง่ ท่เี ปนตวั ควบคมุ ท่ีสาํ คัญทส่ี ดุ ตอ การเรียนรดู วยตนเองคืออะไร ก. ความเช่อื ม่นั ในตวั เอง ข. ความซ่อื สตั ยต อตนเอง ค. ความอยากรูอยากเห็น ง. ความรบั ผดิ ชอบตอ ตนเอง 4. ขอ ใดคือการเรียนรูด ว ยตนเอง ก.นอ ยชอบลอกการบานเพ่ือน ข. นดิ ทํานํ้าสม ปน ตามท่คี รแู นะนาํ ค.หนอยชอบดูสาระคดชี ีวิตสัตวโ ลกทางอินเตอรเ น็ต ง. นชุ สอนนองใหรูจักวิธีสบื คนขอ มูลจากอนิ เตอรเนต็ 5. การเรยี นรูด วยตนเองแบบ กศน.คือการเรียนในขอ ใด ก. มแี รงจงู ใจอยากเรยี นก็เรียน ข. แสวงหาความรดู ว ยตนเองท้งั หมด ค. มีการวางแผนและใชส ัญญาการเรยี นรู ง. ผูเรยี นตอ งบริหารเวลารับผิดชอบตนเองทัง้ หมด
6.ขอใดไมใ ชองคประกอบของการเรยี นรู ก.วางแผนการเรียน ข.วเิ คราะหความตองการ ค.ตรวจสอบและติดตามผล ง.กาํ หนดจดุ มงุ หมายในการเรียน 7. เหตใุ ดจึงตอ งมีการทําสัญญาการเรียนรู ก.เพอ่ื ใหผเู รียนควบคมุ ตนเองได ข.เพอ่ื ควบคุมความประพฤติของผูเรยี น ค.เพ่ือกาํ หนดใหผ เู รียนมีแนวทางในการเรียน ง.เพอื่ ควบคมุ คุณภาพของผูเรียนใหม มี าตรฐาน ตามท่สี งั คมยอมรับ 8. สิง่ หน่งึ ท่นี ํามาใชใ นการประเมนิ ผลการเรยี นแบบการเรยี นรูด วยตนเอง คือขอใด ก.การสงั เกต ข.การมีสวนรว ม ค.แฟมสะสมงาน ง.พฤตกิ รรมกลมุ 9.ขอ ใดคือ“ การเรียนรดู ว ยตนเอง ” ก. ลนิ ดาโทรศัพทส อบถามอาจารย ข. กนกจา งครูมาสอน ค. อษุ าสืบคนขอ มูลทางอินเทอรเ น็ต ง. โสพายมื หนงั สอื เพื่อนมาอาน 10. การเรยี นรดู ว ยตนเองขัน้ ตอนแรกคอื ขอใด ก. การออกแบบการเรยี น ข. การกาํ หนดจุดมุงหมาย ค. จัดหาแหลง เรียนรู ง. การวเิ คราะหความตอ งการในการเรียน
แนวตอบแบบประเมนิ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู หนว ยท่ี 1 เรอื่ ง แสวงหาความรูสูการคิดเปน แบบทดสอบยอยครั้งท่ี 1 ระดบั ประถมศกึ ษา รายวชิ าทกั ษะการเรียนรู ทร11001 1. การพฒั นาตนเองคือ ตอบ การพัฒนาตนเองคือการปรับปรุงดวยตนเองใหด ีข้ึนกวา เดิมท้งั ดานรา งกายจิตใจอารมณแ ละสงั คมเพื่อให สามารถทํากจิ กรรมทพ่ี งึ ประสงคต ามเปา หมายทต่ี นตั้งไวเพื่อการดํารงชีวิตรว มกบั ผูอื่นไดอ ยา งปกตสิ ขุ รวมทงั้ เพ่อื ใหเปนสมาชกิ ที่ดีของครอบครัวชุมชนและสงั คม 2. ใหนักศึกษาบอกความสําคัญของการพัฒนาตนเองมา 3 ขอ ตอบ 1. มีความเขาใจตนเองเห็นคุณคาของตนเองทําใหสามารถทําหนาที่ตามบทบาทของตนเองใน ครอบครวั ชมุ ชนและสงั คมไดอยา งเตม็ กาํ ลังความสามารถ 2. สามารถปรับปรงุ การปฏิบัตติ นและแสดงพฤติกรรมใหเ ปน ท่ียอมรับของบุคคลรอบขา งในครอบครัว ชมุ ชนและสงั คม 3. สามารถกาํ หนดแนวทางการพฒั นาตนเองใหพัฒนาไปสเู ปาหมายสูงสุดของชวี ติ ตามที่วางแผนไว 3. จงบอกถงึ แนวทางในการพัฒนาตนเอง ตอบ 1. การสาํ รวจตนเอง2. การปลกู ฝง คณุ สมบตั ิทด่ี งี าม 3. การปลุกใจตนเอง4. การสงเสรมิ ตนเอง 5. การลงมือพัฒนาตนเอง 4. พัฒนาชมุ ชนคอื ตอบพฒั นาชมุ ชนคือการกระทาํ ท่ีมงุ ปรบั ปรุงสงเสรมิ ใหก ลุมคนที่อยรู วมกนั มีการเปลยี่ นแปลงไปในทิศทางท่ดี ี ข้ึนในทุกๆดานทั้งดานที่อยูอาศัยอาหารเครื่องนุงหมสขุ ภาพรา งกายอาชพี ท่ีมัน่ คงความปลอดภยั ในชีวิตและ ทรพั ยส ินโดยอาศัยความรวมมอื จากประชาชนภายในชุมชนและหนวยงานองคก รตางๆท้งั จากภายในและ ภายนอกชมุ ชน 5. จงบอกถึงความสําคญั ของพัฒนาชุมชนมา 5 ขอ ตอบ 1. สง เสริมและกระตุน ใหประชาชนไดม ีสว นรว มในการแกไ ขปญ หาพฒั นาตนเองและชมุ ชน 2. เปนการสง เสรมิ ใหประชาชนมีจิตวิญญาณรจู กั คิดทําพัฒนาเพอ่ื สวนรวมและเรยี นรซู ง่ึ กันและกัน 3. เปน การสง เสริมการรวมกลุมในการดําเนินชีวิตตามระบอบประชาธิปไตย 4. ทาํ ใหปญหาของชมุ ชนลดนอยลงและหมดไป 5. ทาํ ใหสามารถหาแนวทางปอ งกนั ไมใ หปญหาในลักษณะเดียวกันเกิดข้นึ อีก
แบบทดสอบยอยครงั้ ที่ 2 ระดับมัธยมศึกษาตอนตน รายวิชาทักษะการเรียนรูทร21001 1. จงบอกถึงหลักการพัฒนาชุมชน ตอบ 1. ประชาชนมสี วนรว ม 2. พิจารณาวัฒนธรรมและสภาพความเปนอยูของชุมชน 3.ใหความสําคญั กับ คนในชุมชนโดยคนในชุมชนตองเปนหลกั สาํ คัญหรือเปนศนู ยกลางของการพัฒนา 4. การพฒั นาตองไมร วบรดั และเรง รบี การดาํ เนนิ งานควรคาํ นึงถงึ ผลของการพัฒนาในระยะยาวดาํ เนินงานแบบคอ ยเปน คอยไป 5. ทาํ เปน กระบวนการและประเมนิ ผลอยา งตอเนื่อง 2. ขอ มลู หมายถงึ ตอบ ขา วสารหรอื ขอเทจ็ จริงท่ีเกดิ ขน้ึ กบั ส่ิงตา งๆที่เปน สญั ลกั ษณต ัวเลขขอความภาพหรือเสียงทีไ่ ดมาจาก วิธีการตางๆเชนการสงั เกตการนบั การวัดและบนั ทึกเปนหลักฐานใชเ พ่ือคนหาความจรงิ 3. จงบอกความสาํ คัญและประโยชนของขอมูล ตอบ 1. เพอ่ื การนําไปสูการปรบั ปรุงแกไขในสง่ิ ท่ีดกี วา 2. เพื่อเปนแนวทางการพฒั นาดานตาง ๆ 3. เพื่อการเรียนรศู ึกษาคนควา 4. เพ่อื ใชประกอบเปนหลักฐานอางองิ ประเดน็ สาํ คัญ 5. เพือ่ การวางแผนการปฏบิ ัติและการประเมนิ ผล 6. เพ่อื การตัดสินใจ 4. จงบอกถึงขอมลู ท่ีเกยี่ วขอ งกับการพัฒนาชมุ ชน ตอบ 1. ขอมลู เก่ียวกับครอบครัวและประชากร 2. ขอมูลดานเศรษฐกจิ 3. ขอ มูลดา นประเพณแี ละวัฒนธรรม 4. ขอมูลดานการเมืองการปกครอง 5. ขอมลู ดา นสังคม 6. ขอ มูลดานระบบนเิ วศและสิ่งแวดลอม 5. จงบอกถึงเทคนคิ และวิธกี ารเก็บขอ มูลชุมชน ตอบ 1. การสงั เกต 2. การสมั ภาษณ 3. การใชแบบสอบถาม 7. การจดั เวทปี ระชาคม 5. การสนทนากลุม 6. การสาํ รวจ
บนั ทกึ หลังการจดั กจิ กรรมการเรียนรู คร้ังที่ .......... วนั ...........................ท.่ี ............เดือน.................................พ.ศ........................ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน จาํ นวนนกั ศกึ ษา ทั้งหมด....................คน ชาย................คน หญงิ ..................คน จํานวนนกั ศกึ ษามาเรยี น ท้งั หมด....................คน ชาย................คน หญงิ ..................คน จํานวนนักศึกษาขาดเรียน ทัง้ หมด....................คน ชาย................คน หญงิ ..................คน ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ สภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ปญ หาท่ีพบและการแกไ ขปญหา ........................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ การดาํ เนินการแกไ ข/พฒั นา ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ขอ เสนอแนะ/ความคดิ เห็นผนู ิเทศ ……………………………………………………………………………………………………………………………….……….………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………….............................… (ลงชือ่ )...................................................ครูผูสอน (ลงชอ่ื )....................................................ผนู เิ ทศ (............................................) (...........................................) ………….. /….……… /…….…… ………….. /….……… /…….…… (ลงชื่อ) ………………………………..………….......... ผอ.กศน.อําเภอเมอื งกาญจนบรุ ี (นายศกั ดิ์ชัย นาคเอย่ี ม) ………….. /….……… /…….……
บรรณานกุ รม เรือ่ ง การเรียนรดู วยตนเอง //taamkru.com/th/%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%B9 %E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%9D%E0%B9 %88%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0 %B8%B9%E0%B9%89/#article104 วนั ทส่ี ืบคนวันท่ี 15 ตลุ าคม 2562 เรอ่ื ง การพฒั นาตนเอง sk.nfe.go.th/.../Self%20Development%20Community%2021003.do... วันที่สืบคนวันที่ 15 ตุลาคม 2562เรอ่ื ง เทคนคิ และวธิ กี ารเรียนรู //sites.google.com/site/siyamonthammatasila/1-7-kar-cad-keb-khxmul วันท่ีสืบคนวันท่ี 15 ตุลาคม 2562
คณะผจู ัดทาํ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู กศน.แบบบรู ณาการ ตามรูปแบบ ONIE MODEL หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ 2 ปการศกึ ษา 2562 ทีป่ รกึ ษา ผอู าํ นวยการ กศน.อาํ เภอเมอื งกาญจนบรุ ี 1. นายศกั ดิ์ชยั นาคเอยี่ ม ครู คศ.2 บรรณารกั ษณป ฏบิ ัติการ 2. นางสาวชมพู จนั ทนะ 3. นางสาวสภุ าภรณ หวังเลิศพาณชิ ย คณะผจู ดั ทําหนวยการเรียนรู หนวยการเรยี นรูท่ี 1 หวั เร่ือง แสวงหาความรูส กู ารคดิ เปน 1. นางสุนีย ทนั ไกร ครอู าสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน กศน.อาํ เภอเมอื งกาญจนบรุ ี 2. นายสชุ าติ สุกใส ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรยี น กศน.อาํ เภอเมืองกาญจนบุรี 3. นางสาวอารีย โพธน์ิ าคร ครู กศน.ตําบลบานเหนือ กศน.อาํ เภอเมืองกาญจนบุรี 4. นางกชกร ชา งงา ครู กศน.ตําบลเกาะสาํ โรง กศน.อําเภอเมืองกาญจนบุรี 5. นางจนิ ตนา กระดังงา ครู กศน.ตาํ บลวังเย็น กศน.อาํ เภอเมืองกาญจนบุรี 6. นางอําพรรตั น แดงกูล ครู กศน.ตําบลชอ งสะเดา กศน.อําเภอเมืองกาญจนบุรี 7. นางสาวดรณุ ี สมคดิ ครู กศน.ตําบลแกงเสีย้ น กศน.อําเภอเมืองกาญจนบุรี 8. นางสาวนิตยา ถนิ่ ทุง ทอง ครู ศรช.ตาํ บลเกาะสําโรง กศน.อาํ เภอเมืองกาญจนบุรี 9. นางสาวจารุณี สําราญวงศ ครู ศรช.ตําบลหนองบัว กศน.อําเภอเมืองกาญจนบุรี 10.นางสาวอนงคน าฏ บษุ บงก ครู ศรช.ตาํ บลบานใต กศน.อําเภอเมืองกาญจนบุรี 11.นางสาวอังคษญิ าร มั่นคง ครู ศรฃ.ตําบลบา นเกา กศน.อาํ เภอเมืองกาญจนบุรี 12.นางดารนิ ทร ราคา ครู ศรฃ.ตาํ บลลาดหญา กศน.อําเภอเมืองกาญจนบุรี คณะทํางานจดั ทําและรวบรวมเอกสาร ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรยี น กศน.อาํ เภอเมอื งกาญจนบรุ ี 1. นางสนุ ยี ทันไกร 2. นายสชุ าติ สกุ ใส ครอู าสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน กศน.อําเภอเมืองกาญจนบรุ ี 3. นางสาวอารีย โพธิ์นาคร 4. นางกชกร ชา งงา ครู กศน.ตําบลบานเหนือ กศน.อําเภอเมืองกาญจนบุรี 5. นางจินตนา กระดงั งา 6. นางอําพรรตั น แดงกลู ครู กศน.ตําบลเกาะสําโรง กศน.อาํ เภอเมืองกาญจนบุรี 7. นางสาวดรณุ ี สมคดิ ครู กศน.ตาํ บลวงั เยน็ กศน.อําเภอเมืองกาญจนบุรี ครู กศน.ตาํ บลชอ งสะเดา กศน.อําเภอเมืองกาญจนบุรี ครู กศน.ตาํ บลแกงเส้ยี น กศน.อาํ เภอเมืองกาญจนบุรี
8. นางสาวนติ ยา ถ่นิ ทุงทอง ครู ศรช.ตาํ บลเกาะสาํ โรง กศน.อําเภอเมืองกาญจนบุรี 9. นางสาวจารุณี สาํ ราญวงศ ครู ศรช.ตําบลหนองบวั กศน.อําเภอเมืองกาญจนบุรี 10.นางสาวอนงคน าฏ บษุ บงก ครู ศรช.ตําบลบานใต กศน.อาํ เภอเมืองกาญจนบุรี 11.นางสาวอังคษิญาร ม่ันคง ครู ศรฃ.ตาํ บลบานเกา กศน.อาํ เภอเมืองกาญจนบุรี 12.นางดารนิ ทร ราคา ครู ศรฃ.ตาํ บลลาดหญา กศน.อําเภอเมืองกาญจนบุรี
แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู กศน. แบบบรู ณาการ ตามรปู แบบ ONIE Model หนวยการเรยี นรูท่ี 2 หวั เร่อื ง คดิ เปนตามแหลงวิจยั ในชมุ ชน หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดับ ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ……… ปการศึกษา …………… สาํ นักงานสงเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวัดกาญจนบรุ ี สํานกั งานสง เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย สาํ นกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธกิ าร
คาํ นาํ ศูนยการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอเมืองกาญจนบุรี ไดดําเนินการ จัดทําแผนกิจกรรมการเรียนรู กศน.แบบบูรณาการ หนวยการเรียนรูที่ 2 หัวเรื่อง คิดเปนตามแหลงวิจัยใน ชุมชน เพื่อใหครูผูสอนใชเปนคูมือในการจัดกิจกรรมการเรียนรูใหกับผูเรียนไดเกิดการเรียนรูอยางมีคุณภาพ ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับประถมศึกษา ภาค เรียนที่ ....... ปก ารศกึ ษา ............. เอกสารประกอบการจัดทําแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู กศน.แบบบูรณาการ หนวยการ เรียนรทู ี่ 2 หวั เร่ือง คิดเปน ตามแหลง วิจัยในชมุ ชน ประกอบดว ย แผนผงั การจัดกิจกรรมการเรยี นรู กศน. แบบ ONIE Mode แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู กศน.แบบบูรณาการ ใบความรู แบบประเมินการจดั กิจกรรมการ เรียนรู แนวตอบ และแบบบันทกึ หลังการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู การดาํ เนินการจัดทําแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู กศน.แบบบูรณาการ หลักสตู รการศกึ ษา นอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ......... ปการศึกษา ......... ในคร้ังนี้ ประสบความสําเร็จไดดวยดี ตองขอขอบพระคุณ นายศักด์ิชัย นาคเอี่ยม ผูอํานวยการ กศน. อําเภอเมืองกาญจนบุรี นางสาวชมพู จันทนะ ครูชํานาญการเปนอยางสูงที่เปนผูใหคําปรึกษา ในการ ดําเนนิ การจดั ทาํ แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู กศน.แบบบูรณาการ หนว ยการเรียนรูท ่ี 2 หวั เรือ่ ง คิดเปนตาม แหลงวิจัยในชุมชน หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับ ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ .......... ปการศึกษา ............... มาโดยตลอด และขอขอบคุณบุคลากรสํานักงาน กศน.จังหวัดกาญจนบุรีท่ีขับเคล่ือนทําใหการดําเนินการจัดทําแผนการเรียนรูแบบบูรณาการบรรลุตาม วัตถปุ ระสงค จัดทาํ โดย กศน.อาํ เภอเมอื งกาญจนบุรี
สารบญั หนา เร่ือง ก ข คาํ นาํ 1 สารบญั 2 7 แผนผงั การจดั หนวยการเรยี นรู กศน.แบบบรู ณาการ 11 แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู กศน.แบบบรู ณาการตามรปู แบบ ONIE MODEL 13 16 ใบความรูท่ี 1 17 ใบความรูที่ 2 19 ใบความรูที่ 3 20 ใบความรทู ่ี 4 23 ใบความรูท่ี 5 แบบประเมินการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู แนวตอบแบบประเมินการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู บนั ทกึ หลังการจดั กิจกรรมการเรยี นรู บรรณานกุ รม คณะทํางาน
แผนผังหนว ยการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู กศน. แบบบูรณาการ หนวยการเรยี นรูที่ 2 หวั เรือ่ ง คดิ เปนตามแหลง วิจยั ในชุมชน หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ......... ปก ารศึกษา ............ รายวิชา ทักษะการเรียนรู (ทร11001) รายวชิ า ทกั ษะการเรียนรู (ทร11001) หวั เร่ือง การคดิ เปน หัวเรื่อง การคิดเปน เนือ้ หา เน้อื หา ทบทวนความเขาใจความเช่ือพ้ืนฐานทาง การฝกทักษะในการพิจารณาขอ มูล และ การศึกษาผูใหญการศึกษานอกระบบ การ การนําไปใช การฝกปฏิบตั ิการคิด การ เชอ่ื มโยงไปสกู ารเรียนรู ความหมาย ตัดสนิ ใจ อยา งเปน ระบบในการแกป ญ หา ความสําคัญของการคิดเปน รายวชิ า ทักษะการเรียนรู หนว ยท่ี 2 เนื้อหาเสริม (ภาษาไทย) (ทร11001) - ความสาํ คัญการวจิ ยั หวั เร่อื ง การวิจยั อยางงาย หวั เรื่อง “คดิ เปนตามแหลงวิจยั ในชุมชน” - กระบวนการ เนอ้ื หา สภาพปญ หา ศกึ ษาฝกทกั ษะสถติ ิอยางงา ย 1. การคดิ วจิ ัยอยา งไร ใหเ ขาใจ เน้อื หาเสรมิ (ภาษาอังกฤษ) 2. การคดิ อยางไร แกป ญหาได Classroom Action เพอ่ื การวิจยั เครือ่ งมือการ 3. การสรา งสถิตอิ ยา งา ยใหเขาใจ Research = การวิจยั อยา ง 4. การตดั สนิ ใจอยางเปนระบบและแกปญหาได งา ย วจิ ัย และการเขียน Thinking = การคิดเปน โครงการวิจยั
การกาํ หนดประเดน็ /ปญหา/สงิ่ จําเปน ที่ การจดั กิจกรรมการเรียนรู ตอ งเรียนรู 1. ใหผูเรียนเลาการดําเนินชีวิตประจําวันของแตละคน และลอง 1. ผูเรียนขาดการคิดวจิ ยั อยางไร ใหเ ขาใจ ดําเนินการวิจัยวาการดําเนินชีวิตของเรามีความสุขหรือไม พรอมศัพท 2. ผูเรยี นขาดการแกปญ หาท่ีถูกวธิ ี ภาษาอังกฤษท่ีเกี่ยวของกับการดําเนินชีวิตอยางนอย 5 คํา นํามาสรุป 3. ผูเ รียนขาดการสราสถติ ิในการ เปนแผนผังความคิด และอธบิ ายใหเพ่อื นฟงในการพบกลุม ที่ กศน.ตําบล ปฏิบัตงิ าน และครเู ปนผูสรปุ ในภาพรวมท้ังหมดของผเู รียน 4. ผูเรียนไมกลา ตดั สินใจ 2. ใหผูเรียนไปศึกษาแนวทางดานคุณธรรม จริยธรรม ที่เหมาะสมของ ประชาชนและการเลือกใชผลิตภัณฑท่ีเปนมิตรกับสิ่งแวดลอม นํามา แกปญหา จาก ส่ือออนไลน หนังสือ ครอบครัว ผูรูในชุมชน แลวนํามา อภิปรายแลกเปลีย่ นเรียนรใู หเพ่ือนฟง ในการพบกลุมที่ กศน.ตําบล 3. ใหผูเรียนไปศึกษาคนควา การอนุรักษทํานุบํารุงสงเส ริม ศลิ ปวัฒนธรรม จากวัดไชยชมุ พลชนะสงคราม แหลงเรียนรู โดยการเปน จิตอาสาในการทําความสะอาดหองนํ้าวัด และสรางสถิติในการเปนจิต อาสาของแตละคนนํามาทํารายงาน และอธิบายเพ่ิมเติมใหเพื่อนฟงใน การพบกลมุ ท่ี กศน.ตาํ บล 4. ใหผูเรียนไปศึกษาคนควาการเปนพลเมืองท่ีดีตามวิถีประชาธิปไตย จาก สื่อออนไลน แหลงเรียนรู ผูรู และตัดสินใจดูวาเรื่องน้ันถูกหรือผิด อยางไร นํามาสรุปใจความสําคัญลงในกระดาษชารต พรอมอภิปรายให เพ่ือนฟง ในการพบกลุม ท่ี กศน.ตาํ บล
แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู กศน. ตามรูปแบบ ONIE MODEL หนวยการเรยี นรทู ่ี 2 หัวเรื่อง คดิ เปนตามแหลงวิจัยในชุมชน หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ....... ปก ารศึกษา .................. คร้งั ที่ วัน/ ตวั ชีว้ ดั เนือ้ หาสาระ หัวเร่อื ง ประเดน็ / กจิ กรรมการเรียนรู หมายเหตุ เดอื น/ป การเรยี นรู ปญ หา/ สิง่ จาํ เปนท่ี ตองเรยี นรู 1. อธบิ าย วิชาทกั ษะ หนว ยท่ี 2 1. ผูเ รียน การจัดกจิ กรรมการ และฝก การเรียนรู คิดเปนตาม ขาดการคดิ เรียนรู ปฏบิ ตั ิการ รหัสวิชา ทร แหลง วจิ ัยใน วิจยั อยา งไร ขั้นที่ 1 กําหนดสภาพ คดิ เปน จาก 11001 ชมุ ชน ใหเขา ใจ ปญ หาการเรยี นรู กรณี หัวเรื่อง 1. 1. 2. ผูเรียน 1. ใหผเู รยี นเลาการ ตัวอยาง การคดิ เปน กระบวนการ ขาดการ ดาํ เนินชวี ิตประจาํ วัน ตา งๆ ถงึ คิดการ แกป ญ หาท่ี ของแตละคน และลอง กระบวนการ แกป ญหา ถูกวธิ ี ดาํ เนนิ การวจิ ัยวา การ แกป ญหา อยางคนคิด ดาํ เนินชีวิตของเรามี อยา งคนคิด เปน ใน ความสขุ หรือไม พรอ ม เปน ไดอยาง รายละเอียด ศัพทภาษาอังกฤษท่ี เปนระบบ พรอม เก่ยี วของกับการดาํ เนิน ตวั อยางการ ชวี ิตอยา งนอย 5 คํา นําไปปฏิบัติ นาํ มาสรุปเปน แผนผัง ในวถิ กี าร ความคดิ และอธิบาย ดําเนินชีวติ ใหเพอื่ นฟง ในการพบ จรงิ กลมุ ที่ กศน.ตําบล และครเู ปนผูสรุปใน ภาพรวมทั้งหมดของ ผเู รยี น 2. ใหผ ูเรียนไปศกึ ษา แนวทางดา นคุณธรรม
คร้งั ที่ วนั / ตัวช้ีวัด เนอื้ หาสาระ หวั เรื่อง ประเด็น/ กิจกรรมการเรยี นรู หมายเหตุ เดอื น/ป การเรียนรู ปญ หา/ ส่ิงจําเปนท่ี ตองเรียนรู จรยิ ธรรม ทีเ่ หมาะสม ของประชาชนและการ เลือกใชผ ลิตภัณฑท่ี เปน มติ รกับสิ่งแวดลอม นาํ มาแกปญหา จาก สือ่ ออนไลน หนงั สือ ครอบครวั ผูร ูในชุมชน แลวนาํ มาอภปิ ราย แลกเปลยี่ นเรียนรูใ ห เพอ่ื นฟง ในการพบกลมุ ท่ี กศน.ตาํ บล 2. มที กั ษะ วชิ าทักษะ 2. ฝกทักษะ 1. ผเู รียน ขน้ั ที่ 2 แสวงหาขอ มลู ในการใช การเรียนรู สถิตงิ า ยๆ ขาดการสรา และการจัดกิจกรรม สถิตงิ า ยๆ รหัสวชิ า ทร เพอื่ การวจิ ยั สถิติในการ การเรยี นรู เพ่ือการวจิ ยั 11001 เครอ่ื งมือ ปฏบิ ตั ิงาน กิจกรรมที่ 2 และจัดทาํ หวั เรื่อง 2. การวิจัย 2. ผูเรียนไม 1. ใหผูเรียนไปศึกษา กลาตดั สินใจ คนควา การอนุรักษ เครื่องมือใน การวจิ ัย ทํ า นุ บํ า รุ ง ส ง เ ส ริ ม การเก็บ อยา งงาย ศิลปวฒั นธรรม จากวัด รวบรวม ขอมูล ไชยชุมพลชนะสงคราม แหลงเรียนรู โดยการ เปนจิตอาสาในการทํา ความสะอาดหองน้ําวัด และสรางสถิติในการ เปนจิตอาสาของแตละ ค น นํ า ม า ทํ า ร า ย ง า น และอธิบายเพ่ิมเติมให เพื่อนฟงในการพบกลุม ที่ กศน.ตาํ บล