ลําโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง windows 7

เอกสารนี้ใช้กับคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปของ HP และ Compaq ที่ใช้ Windows 7

ขั้นตอนในเอกสารชุดนี้ระบุวิธีแก้ไขปัญหาเมื่อไม่มีเสียงจากลำโพง

ขั้นตอนที่ 1: การใช้ Microsoft Sound Troubleshooter ใน Windows 7

เพื่อแก้ไขปัญหาระบบเสียงต่าง ๆ อัตโนมัติ ให้ใช้ Mircosoft Sound Troubleshooter

แสดงวิธีใช้

ดูวิดีโอเกี่ยวกับการใช้ Microsoft Sound Troubleshooter

  1. คลิก Start

    (เริ่ม) จากนั้นคลิกที่ Control Panel (แผงควบคุม)

  2. จาก System and Security (ระบบและความปลอดภัย) คลิกที่ Find and fix problems (ค้นหาและแก้ไขปัญหา)

    รูปภาพ : การเปิดระบบแก้ไขปัญหา

  3. หน้า Troubleshoot computer problems (แก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์) จะเปิดขึ้นมา จาก Hardware and Sound (ฮาร์ดแวร์และเสียง) คลิกที่ Troubleshoot audio playback (แก้ไขปัญหาการเปิดเล่นเสียง)

    รูปภาพ : การแก้ไขปัญหาการเปิดเล่นเสียง

  4. หน้าแก้ไขปัญหา Playing audio (เปิดเล่นเสียง) จะเปิดขึ้นมา คลิก Next (ถัดไป) (เพื่อดำเนินการต่อ)

    รูปภาพ : ระบบแก้ไขปัญหาการเปิดเล่นเสียง

  5. รอขณะตัวแก้ไขปัญหาตรวจหาปัญหาที่คอมพิวเตอร์

    รูปภาพ : การตรวจหาปัญหาระบบเสียง

  6. เลือกอุปกรณ์เชื่อมต่อสัญญาณเสียงที่คุณต้องการแก้ไขปัญหา เช่นลำโพง จากนั้นคลิก Next (ถัดไป)

    รูปภาพ : การเลือกอุปกรณ์ที่ต้องการแก้ไขปัญหา

  7. รอให้ระบบแก้ไขปัญหาตรวจหาปัญหาและทำการแก้ไข

    รูปภาพ : การตรวจหาปัญหา

  8. หลังจากแก้ไขปัญหาเสร็จสิ้น หน้า Troubleshooting has completed (การแก้ไขปัญหาเสร็จสิ้น) จะเปิดขึ้นและแสดงปัญหาที่พบ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับคอมพิวเตอร์

    บันทึก

    ดูรายละเอียดการแก้ไขปัญหาโดยคลิก View detailed information (ดูข้อมูลโดยละเอียด)

    คลิก Close (ปิด)

    รูปภาพ : การแก้ไขปัญหาเสร็จสิ้น

ขั้นตอนที่ 2: การตรวจสอบการตั้งค่าระดับเสียงและการปิดเสียง

การตั้งค่าระดับเสียงสำหรับอุปกรณ์เสียงมากกว่าหนึ่งตัวขึ้นไปอาจได้รับการปิดใช้งานหรือตั้งไว้เบาเกินไป มีหลายสิ่งที่สามารถเปลี่ยนระดับเสียงได้ดังนี้ ปุ่มควบคุมระดับเสียงสำหรับลำโพงหรือจอภาพของคุณ การควบคุมระดับเสียงของ Windows และการควบคุมระดับเสียงในซอฟต์แวร์เสียง หากการควบคุมระดับเสียงใดๆ เหล่านี้ถูกปิดเสียงไว้หรือตั้งไว้เบาเกินไป จะมีผลกระทบต่อระบบเสียงทั้งหมด ใช้ขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อปรับระดับเสียงเป็นระดับที่ถูกต้อง

รับชมวิดีโอการตรวจสอบระดับเสียงและค่าการปิดเสียง

  1. หากลำโพงเพาเวอร์ของคุณมีปุ่มควบคุมระดับเสียง ให้หมุนไปครึ่งหนึ่ง

    รูปภาพ : ปุ่มควบคุมระดับเสียงสำหรับลำโพง (ลำโพงของคุณอาจแตกต่างกัน)

    หากคุณใช้ลำโพงที่อยู่ในจอภาพของคุณ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเปิดใช้เสียงสำหรับจอภาพ และตั้งระดับเสียงไว้ครึ่งหนึ่ง ปรับการตั้งค่าเสียงสำหรับจอภาพของคุณโดยใช้ปุ่มบนจอภาพหรือเมนูบนหน้าจอ เมื่อต้องการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้และการปรับการตั้งค่าลำโพงของจอภาพของคุณ โปรดดูที่เอกสารการสนับสนุนที่มาพร้อมกับจอภาพของคุณ

    รูปภาพ : ปุ่มระดับเสียงและเมนูบนจอภาพ (จอภาพของคุณอาจแตกต่างกัน)

  2. คลิก Start (เริ่ม)

    จากนั้นคลิกที่ Control Panel (แผงควบคุม)

  3. คลิก ฮาร์ดแวร์และเสียง ภายใต้ เสียง คลิก ปรับระดับเสียงของระบบ หน้าต่างตัวปรับแต่งระดับเสียงจะเปิดขึ้น

    รูปภาพ : ตัวปรับแต่งระดับเสียง

  4. ตรวจดูให้แน่ใจว่าระดับเสียงไม่ได้ปิดไว้ โดยดูที่ปุ่มปิดเสียงรูปสี่เหลี่ยมด้านล่างแถบเลื่อนระดับเสียง หากปุ่มนั้นมีวงกลมสีแดงขนาดเล็ก แสดงว่าปิดระดับเสียงไว้

    หากปิดระดับเสียงไว้ คลิกปุ่มปิดเสียงเพื่อเปิดเสียง วงกลมสีแดงบนไอคอนลำโพงอาจหายไปเมื่อไม่ได้ปิดเสียงไว้อีกต่อไป

    ปิดเสียง

    ไม่ได้ปิดเสีียง

  5. หลังจากตรวจสอบว่าไม่ได้ปิดเสียงไว้ ให้ลากตัวปรับระดับเสียงขึ้นไปจนถึงระดับ 75%

  6. เมื่อทำการทดสอบ คลิกแถบเลื่อนระดับเสียง หากคุณได้ยินเสียง ติ๊ง จากลำโพงทั้งหมด คุณได้แก้ไขปัญหาเรียบร้อยแล้ว

    รูปภาพ : การทดสอบระดับเสียง

    หากยังไม่ได้ยินเสียง ให้ปรับลำโพงที่ใช้เป็นลำโพงเริ่มต้น จากนั้นทำการทดสอบ

ขั้นตอนที่ 3: การตั้งค่าลำโพงเริ่มต้นและการทดสอบใน Windows 7

ดูวิดีโอเกี่ยวกับการตั้งค่าและการทดสอบลำโพงเริ่มต้น

  1. หากต่อเฮดโฟนไว้และไม่ได้ใช้เป็นลำโพงหลัก ให้ปลดสายเฮดโฟนตอนนี้ การต่อเฮดโฟนกับคอมพิวเตอร์จะเป็นการปิดเสียงลำโพงอื่น ๆ

  2. คลิก Start (เริ่ม)

    จากนั้นพิมพ์ Sound (เสียง) ในกล่องค้นหา

  3. จากผลการค้นหา คลิก Sound (เสียง) จากรายการโปรแกรม

  4. ค้นหาประเภทการเชื่อมต่อของคุณ หากมีการเชื่อมต่อมากกว่าหนึ่งประเภท เช่น HDMI และลำโพง ให้เลือกประเภทการเชื่อมต่อที่ต้องการใช้งาน

    ลำโพง

    หากใช้ลำโพงคอมพิวเตอร์หรือเฮดโฟนปกติ (อุปกรณ์อะนาล็อก) ให้เลือก Speakers (ลำโพง) นี่เป็นค่าเสียงเบื้องต้นสำหรับคอมพิวเตอร์เดสก์ทอป และครอบคลุมการใช้งานกับเฮดโฟน ลำโพงเดสก์ทอป และระบบเสียง 5.1 และ 7.1 จอภาพหลายแบบจะมีลำโพงในตัวและรองรับการเชื่อมต่อแบบลำโพงโดยใช้สายสัญญาณเสียงแยกเพื่อต่อระหว่างคอมพิวเตอร์กับจอภาพ (ไม่ใช่การเชื่อมต่อ HDMI)

    สัญญาณดิจิตอลขาออก

    หากต้องการส่งสัญญาณเสียงทั้งหมดจากคอมพิวเตอร์ไปยังลำโพงดิจิตอลหรืออุปกรณ์ดิจิตอล อุปกรณ์เปิดเล่นจะต้องกำกับเป็น Digital Output (สัญญาณดิจิตอล)

    HDMI

    หากคอมพิวเตอร์รองรับการเชื่อมต่อ HDMI และคุณพยายามใช้ลำโพงของโทรทัศน์หรือจอภาพ อุปกรณ์เปิดเล่นจะต้องเลือกไว้เป็น HDMI

  5. จากหน้าต่าง Sound (เสียง) เลือก Playback Device (อุปกรณ์เปิดเล่น) จากนั้นคลิก Set Default (ตั้งค่าเริ่มต้น)

    รูปภาพ : การเลือกอุปกรณ์เริ่มต้น (ประเภทการเชื่อมต่ออาจแตกต่างกัน)

  6. หลังจากเลือก Playback Device (อุปกรณ์เปิดเล่น) เริ่มต้นแล้ว ให้คลิกที่ Configure (กำหนดค่า)

  7. คลิกการตั้งค่าลำโพงของคุณจาก Audio channels (ช่องสัญญาณเสียง)

    รูปภาพ : หน้าต่าง Speaker Setup (ตั้งค่าลำโพง) ที่เลือกระบบเสียง 5.1 เซอร์ราวด์ (ลำโพงห้าตัวและซับวูฟเวอร์หนึ่งตัว)

  8. คลิก Test (ทดสอบ) เพื่อส่งสัญญาณเสียงไปที่ลำโพงแต่ละตัว หรือคลิกเลือกลำโพงที่ต้องการส่งสัญญาณเสียง

  9. หากได้ยินเสียงจากลำโพงแต่ละชุดถูกต้อง แสดงว่าเสร็จสิ้นขั้นตอนแล้ว

    หากไม่มีเสียงจากลำโพงทั้งหมดหรือบางตัว หรือหากมีการเปลี่ยนส่วนกำหนดค่า ให้ตั้งค่าลำโพงต่อโดยคลิก Next (ถัดไป) ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อสิ้นสุดการตั้งค่าลำโพง

    เปิดเล่นเสียง หากยังมีปัญหาระบบเสียง ให้ตรวจสอบการเชื่อมต่อลำโพง

ขั้นตอนที่ 4: การตรวจสอบการเชื่อมต่อลำโพง

ใช้ขั้นตอนเหล่านี้เพื่อตรวจสอบว่าสายโพงต่อกับขั้วต่อสัญญาณเสียงถูกต้อง

ดูวิดีโอเกี่ยวกับการตรวจสอบการเชื่อมต่อลำโพง

  1. จากหน้าต่าง Windows Sound (เสียงของ Windows) เลือก Speakers (ลำโพง) จากนั้นคลิกที่ Properties (คุณสมบัติ)

    รูปภาพ : การเปิดคุณสมบัติลำโพง

  2. หน้าต่าง Speakers Properties (คุณสมบัติลำโพง) จะมีขั้วต่อกำกับรหัสสีสำหรับลำโพงแต่ละคู่ ใช้ข้อมูลนี้เพื่อพิจารณาว่าขั้วต่อใดใช้กับชุดลำโพงใด

    รูปภาพ : หน้าต่าง Speakers Properties (คุณสมบัติลำโพง) โดยตั้งค่าเสียง 7:1 เซอร์ราวด์ ไว้

    ตัวอย่างแสดงภาพการตั้งค่าเสียง 7.1 Surround โดย:

    • L R (เขียว, Line Out) ใช้สำหรับชุดลำโพงด้านหน้าซ้ายและขวา (ขั้วต่อสีเขียว โดยมากกำกับเป็น Line out)

    • RL RR (ส้ม) ใช้สำหรับชุดลำโพงหลังซ้ายและขวา

    • C Sub (ดำ) ใช้สำหรับลำโพงตัวกลางและซับวูฟเวอร์

    • SL SR (เทา) ใช้สำหรับชุดลำโพงฝั่งซ้ายและฝั่งขวา

  3. สายลำโพงแต่ละเส้นจะต้องต่ออยู่กับขั้วต่อที่ถูกต้องที่ด้านหลังของคอมพิวเตอร์ สีในหน้าต่าง Speaker Properties (คุณสมบัติลำโพง) จะต้องตรงกับสีที่คอมพิวเตอร์

  4. หากใช้ลำโพงระบบ 5.1 หรือสูงกว่านี้ ให้ต่อสายลำโพงเข้ากับ speaker hardware (มักจะอยู่ที่ซับวูฟเวอร์) จากนั้นเทียบสายลำโพงกับขั้วต่อที่คอมพิวเตอร์โดยใช้สีตามที่แสดงในหน้าต่าง Speaker Property (คุณสมบัติลำโพง)

  5. เปิดเล่นเสียง หากยังเกิดปัญหาระบบเสียง ให้ตรวจสอบเสียงจากชุดหูฟังที่เสียบต่ออยู่

ขั้นตอนที่ 5: การตรวจสอบเสียงจากเฮดโฟน

หากยังไม่มีเสียง ให้ตรวจสอบสัญญาณเสียงขาออกโดยใช้เฮดโฟน

เฮดโฟนและขั้วต่อ

มีหัวต่อเฮดโฟนสองประเภทสำหรับคอมพิวเตอร์ HP แบบแรกรองรับเฉพาะการจ่ายสัญญาณเสียงไปยังเฮดโฟน แบบที่สองรองรับการจ่ายสัญญาณเสียงไปยังเฮดโฟนและการใช้ไมโครโฟน หัวต่อจะมีเครื่องหมายกำกับไว้

  • หัวต่อที่คอมพิวเตอร์ที่ระบุเฉพาะสำหรับเฮดโฟนอย่างเดียว

    รองรับการจ่ายสัญญาณเสียงเท่านั้นและใช้ได้กับเฮดโฟนสามขาปกติเพื่อจ่ายสัญญาณเสียง

    รูปภาพ : หัวเสียบสามขาแบบปกติ

  • หัวต่อที่คอมพิวเตอร์ที่กำกับไว้สำหรับเฮดโฟนและไมโครโฟน

    รองรับสัญญาณเสียงและไมโครโฟนเมื่อใช้ร่วมกับเฮดโฟนแบบสี่ขาและไมโครโฟน

    รูปภาพ : หัวเสียบสี่ขา

    รับฟังเสียงโดยสามารถใช้หัวเสียบกับหัวต่อทั้งสองนี้ การใช้หัวเสียบสี่ขาที่รองรับไมโครโฟนสำหรับหัวต่อสามขาสามารถใช้เพื่อรับฟังเสียงได้ แต่จะไม่สามารถใช้ไมโครโฟนได้เนื่องจากหัวต่อคอมพิวเตอร์สามขาไม่รองรับการทำงานร่วมกันกับไมโครโฟน

แสดงวิธีใช้

  1. ค้นหาสายต่อและปลดสายสัญญาณเสียงจากด้านหลังของคอมพิวเตอร์

  2. เสียบเฮดโฟนโดยตรงที่ช่องสัญญาณลำโพงขาออกด้านหลังคอมพิวเตอร์ ขั้วต่อสัญญาณลำโพงขาออกอาจมีรูปลำโพงหรือวงกลมพร้อมลูกศรชี้ออก หรืออาจกำกับเป็น OUT

  3. ทดสอบเสียงใน Windows ดับเบิลคลิกที่ไอคอนระดับเสียงจากทาสก์บาร์ จากนั้นคลิกที่แถบปรับระดับเสียงจาก Volume Mixer

    รูปภาพ : การทดสอบระดับเสียง

    ทุกครั้งที่คลิกที่แถบควบคุมเสียงหลัก คุณจะได้ยินเสียงบี๊บจากเฮดโฟน

    • หากคุณได้ยินเสียงจากเฮดโฟน แสดงว่าอุปกรณ์ในคอมพิวเตอร์ใช้งานได้ และปัญหาอาจไม่เกี่ยวกับลำโพงหรือสายลำโพง ปลดสายลำโพงและต่อลำโพงเข้าไปใหม่

      หลังจากเสร็จสิ้นให้ทำการทดสอบอีกครั้งโดยใช้ขั้นตอนเดิมข้างต้นกับแถบปรับระดับเสียง หากเสียงยังทำงานไม่ถูกต้องหลังต่อลำโพงใหม่ ให้ลองเปลี่ยนสายลำโพง (หากสามารถทำได้) หรือเปลี่ยนฟิวส์ลำโพงแล้วทำการทดสอบใหม่อีกครั้ง

    • หากไม่ได้ยินเสียงจากเฮดโฟน ให้ตรวจสอบว่าต่อลำโพงกับขั้วต่อถูกต้องแล้วลองใหม่อีกครั้ง หากไม่มีเสียง ให้เข้าสู่ขั้นตอนถัดไปหากแน่ใจว่าเฮดโฟนต่อกับขั้วสัญญาณเสียงถูกต้องที่ด้านหลังคอมพิวเตอร์

      รูปภาพ : คอมพิวเตอร์ที่มีขั้วต่อสัญญาณเสียง 3 ขั้ว

    1. ขั้วต่อไมโครโฟนหรือช่อง Center/Subwoofer Out

    2. ขั้วต่อลำโพงด้านหน้า (เข้ากับลำโพงหรือเฮดโฟนที่ได้รับไฟเลี้ยงด้านหน้า)

    3. ช่อง Line-in หรือ Rear speaker Out

      รูปภาพ : คอมพิวเตอร์ที่มีขั้วต่อสัญญาณเสียง 6 ขั้ว

    1. ช่อง Side speaker out

    2. ช่อง Rear speaker out

    3. ช่อง Center และ subwoofer out

    4. ช่อง Microphone

    5. ช่อง Line-out (เข้ากับลำโพงหรือเฮดโฟนที่ได้รับไฟเลี้ยงด้านหน้า)

    6. ช่อง line-in

ขั้นตอนที่ 6: การคืนค่าไดรเวอร์เสียงใน Windows 7

ไฟล์และค่าเสียงที่มีการเปลี่ยนแปลงอาจทำให้เกิดปัญหากับระบบเสียงได้ กู้คืนไดร์เวอร์เสียงเพื่อรีเซ็ตค่าเสียงสำหรับฮาร์ดแวร์เสียง และเริ่มการกำหนดค่าเสียงทั้งหมดใหม่ใน Windows

บันทึก

หากคอมพิวเตอร์อัพเกรดเป็น Windows Vista ก่อนอัพเกรดเป็น Windows 7 คุณอาจไม่สามารถใช้งานคุณสมบัติทั้งหมดของอุปกรณ์เสียงในตัวที่รองรับมาตรฐาน Audio Codex '97 (AD '97) ได้ แก้ไขปัญหาโดยทำการอัพเกรดไดร์เวอร์เสียง ดูในขั้นตอนที่ 7: การอัพเดตไดร์เวอร์เสียง

ใช้กระบวนการกู้คืนไดร์เวอร์เพื่อคืนค่าไดรเวอร์เสียงสำหรับฮาร์ดแวร์เสียงเริ่มต้นโดยใช้ขั้นตอนต่อไปนี้

  1. คลิก Start (เริ่ม)

    All Programs (โปรแกรมทั้งหมด)Recovery Manager (ตัวจัดการการกู้คืน) แล้วคลิก Recovery Manager (ตัวจัดการการกู้คืน) อีกครั้ง

    รูปภาพ : Recovery Manager

  2. คลิก การติดตั้งไดรเวอร์ฮาร์ดแวร์ใหม่

  3. บนหน้าจอต้อนรับของการติดตั้งไดรเวอร์ฮาร์ดแวร์ใหม่ ให้คลิก ถัดไป

  4. เลือกไดรเวอร์เสียงที่ต้องการติดตั้งใหม่ แล้วคลิก Next (ถัดไป)

    รูปภาพ : เลือกไดรเวอร์ที่ต้องการติดตั้งใหม่

    บันทึก

    หากไดรเวอร์ที่ต้องการติดตั้งใหม่ไม่อยู่ในรายการ ให้เลือก ไดรเวอร์ไม่อยู่ในรายการ แล้วคลิก ถัดไป ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จะแนะนำวิธีการติดตั้งไดรเวอร์โดยใช้ตัวจัดการอุปกรณ์ของ Windows ให้คุณ ปฏิบัติตามคำแนะนำบนหน้าจอ

  5. ตัวจัดการการกู้คืนจะเริ่มทำการติดตั้งไดรเวอร์ที่เลือกไว้ใหม่ หลังการติดตั้งไดรเวอร์เสร็จสมบูรณ์ ให้คลิก Finish (เสร็จสิ้น) เพื่อรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์

  6. หลังจากรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ ให้ทำการทดสอบเสียง หากยังไม่มีเสียง ไปตอนที่ 7: การอัพเดตไดร์เวอร์เสียง

หากคุณไม่สามารถติดตั้งไดร์เวอร์ใหม่ผ่าน Recovery Manager ให้ย้อนกลับไปใช้ไดร์เวอร์ที่ติดตั้งไว้ก่อนหน้าจาก Control Panel (แผงควบคุม):

  1. คลิก เริ่ม

    แล้วป้อน ตัวจัดการอุปกรณ์ ลงในช่องค้นหา คลิกที่ Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์)

    รูปภาพ : การเปิดตัวจัดการอุปกรณ์

  2. ดับเบิลคลิกที่ ระบบควบคุมเสียง วิดีโอและเกม

  3. คลิกขวาที่ชื่ออุปกรณ์เสียง จากนั้นเลือก Properties (คุณสมบัติ)

    รูปภาพ : คุณสมบัติอุปกรณ์เสียงจาก Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์)

  4. คลิกที่แท็บ Driver (ไดร์เวอร์)

  5. คลิก Roll Back Driver (ย้อนไดร์เวอร์)

  6. คลิก Yes (ใช่) เพื่อย้อนไปใช้ไดร์เวอร์ก่อนหน้า

  7. การทดสอบเสียง

หากยังไม่มีเสียง ให้ทำการอัพเดตไดร์เวอร์เสียง

ขั้นตอนที่ 7: การอัพเดตไดร์เวอร์เสียง

ไดร์เวอร์เสียงที่อัพเดตแล้วอาจแก้ไขปัญหาได้หากคอมพิวเตอร์มีปัญหาระบบเสียงหลังอัพเกรดระบบปฏิบัติการเป็น Windows 7 หรือหากคอมพิวเตอร์มีปัญหาระบบเสียงในโปรแกรมซอฟต์แวร์บางตัว

คลิกที่หัวข้อต่อไปนี้หรือเครื่องหมายบวก (+) เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

การอัพเดตไดรเวอร์เสียงจากเว็บไซต์ HP

  1. ถ้าคุณได้รับแจ้งให้ป้อนหมายเลขรุ่น ให้ระบุหมายเลขรุ่นของคุณ เช่น Pavilion p6230f หรือ Presario CQ5210IT

  2. เลือกเวอร์ชันของ Windows ที่คอมพิวเตอร์ของคุณใช้งานอยู่

  3. คลิกลิงค์ Driver - Audio (ไดร์เวอร์ - เสียง)

  4. หากมีข้อมูลอัพเดตจาก HP ให้ทำตามคำแนะนำในหน้าดาวน์โหลดเพื่อดาวน์โหลดไดร์เวอร์ จากนั้นทำการติดตั้ง

  5. ทดสอบเสียงหลังการติดตั้งซอฟต์แวร์

  6. หากไม่มีข้อมูลอัพเดตหรือเสียงยังมีปัญหาหลังการอัพเดต ให้ทำการอัพเดตไดร์เวอร์เสียงโดยใช้ Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์)

การอัพเดตไดร์เวอร์เสียงโดยใช้ Device Manager ใน Windows 7

อัพเดตไดร์เวอร์เสียงโดยใช้ Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) ตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

  2. คลิก Start (เริ่ม)

    จากนั้นพิมพ์ device manager ในช่อง Start Search (เริ่มการค้นหา) จากนั้นคลิก Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) ในรายการโปรแกรม

    ตัวจัดการอุปกรณ์จะเปิดขึ้น

  3. ดับเบิลคลิกที่ ระบบควบคุมเสียง วิดีโอและเกม

    รูปภาพ : อุปกรณ์เสียงใน Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์)

  4. คลิกขวาที่ชื่ออุปกรณ์เสียงที่แสดงไว้ภายใต้ตัวควบคุมเสียง วิดีโอ และเกม

  5. เลือก Update Driver Software (อัพเดตซอฟต์แวร์ไดร์เวอร์)

    รูปภาพ : การเลือก Update Driver Software (อัพเดตซอฟต์แวร์ไดร์เวอร์) ในตัวจัดการอุปกรณ์

  6. คลิก Search automatically for updated driver software (ค้นหาซอฟต์แวร์ไดร์เวอร์อัพเดตอัตโนมัติ)

    รูปภาพ : คุณต้องการค้นหาซอฟต์แวร์ไดร์เวอร์ด้วยวิธีใด

  7. Windows จะตรวจหาและติดตั้งไดร์เวอร์อัพเดตที่พบ หน้าต่างแสดงว่าคอมพิวเตอร์มีไดร์เวอร์ตัวล่าสุดหรือไม่ หรือ Windows สามารถอัพเดตไดร์เวอร์เสียงได้หรือไม่

    รูปภาพ : Windows อัพเดตซอฟต์แวร์ไดร์เวอร์ของคุณสำเร็จแล้ว

  8. หากหน้าต่างเปิดขึ้นและแจ้งให้รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ ให้ทำการรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์

  9. การทดสอบเสียง หากยังมีปัญหาระบบเสียงหรือไม่พบไดร์เวอร์หรือไม่มีไดร์เวอร์ติดตั้งไว้ ให้ทำการอัพเดตไดร์เวอร์เสียงผ่าน HP Support Assistant

การอัพเดตไดรเวอร์เสียงจาก HP Support Assistant

ใช้ขั้นตอนในหัวข้อนี้เพื่ออัพเดตไดร์เวอร์เสียงโดยใช้ HP Support Assistant

บันทึก

ก่อนใช้ HP Support Assistant กรุณาใช้ซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุด หากคุณไม่มีเวอร์ชั่นล่าสุด หรือคุณประสบปัญหากับ HP Support Assistant ให้ดูรายละเอียดจากหัวข้อ ดาวน์โหลด HP Support Assistant

  1. เปิด HP Support Assistant โดยคลิกที่ไอคอน HP Support Assistant (

    ) ในทาสก์บาร์

  2. จากหน้าจอ My devices (อุปกรณ์ของฉัน) คลิกที่ Updates (ข้อมูลอัพเดต)

    รูปภาพ : คลิกอัพเดท

  3. คลิก Check for updates and messages (ตรวจหาข้อมูลอัพเดตและข้อความ)

    รูปภาพ : ตรวจสอบข้อมูลอัพเดตและข้อความ

  4. ค้นหาข้อมูลอัพเดตไดร์เวอร์เสียงจากรายการ ติดกับข้อมูลอัพเดตระบบเสียง (ถ้ามี) ให้คลิกที่ไอคอนติดตั้งตอนนี้ (

    )

    รูปภาพ : ข้อมูลอัพเดตที่มี

  5. การทดสอบเสียงหลังจากอัพเดตไดร์เวอร์เสียง

  6. หากไม่มีข้อมูลอัพเดตเสียงหรือเสียงยังมีปัญหาหลังการอัพเดต ให้ดาวน์โหลดไดร์เวอร์โดยตรงจากผู้พัฒนาระบบเสียงดังกล่าว

ดาวน์โหลดไดร์เวอร์จากผู้ให้บริการระบบเสียง

หากไม่พบไดร์เวอร์จาก HP หรือ Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) ให้ดาวน์โหลดและติดตั้งไดร์เวอร์เสียงอัพเดตจากผู้พัฒนาเทคโนโลยีระบบเสียงตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. คอมพิวเตอร์ของคุณอาจใช้ Realtek Audio Codec หรือซอฟต์แวร์ Creative Audigy ดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรมควบคุมเสียงจากหนึ่งในไซต์ต่อไปนี้

  2. การทดสอบเสียง หากยังมีปัญหาระบบเสียงหรือไม่พบไดร์เวอร์สำหรับติดตั้ง ให้ตรวจสอบใน Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์)

ขั้นตอนที่ 8: การตรวจสอบ Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) ใน Windows 7

หากไม่ได้ยินเสียง ให้ตรวจสอบจาก Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) เพื่อพิจารณาสถานะของฮาร์ดแวร์เสียง

  1. คลิก Start (เริ่ม)

    จากนั้นพิมพ์ device manager ในช่อง Start Search (เริ่มการค้นหา)

    หน้าต่าง Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) จะเปิดขึ้นมา

  2. ดับเบิลคลิกที่ ระบบควบคุมเสียง วิดีโอและเกม

  3. ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ตามการแสดงผลที่แจ้ง:

    • หากอุปกรณ์เสียงไม่อยู่ในรายการและคอมพิวเตอร์มีการ์ดเสียง ให้เสียบการ์ดเสียงใหม่ที่เมนบอร์ด ไปที่ขั้นตอนถัดไปหากยังเกิดปัญหาอยู่

    • หากไม่มีรายชื่ออุปกรณ์เสียง และคอมพิวเตอร์ใช้ฮาร์ดแวร์ประมวลข้อมูลเสียงในตัวฮาร์ดแวร์เสียงอาจจำเป็นต้องเปิดใช้งานใน BIOS ไปขั้นตอนถัดไปเพื่อตรวจสอบการตั้งค่าเสียงใน BIOS และเทียบค่ากับโครงร่างฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ของคุณ
    • หากอุปกรณ์เสียงปรากฏในรายการพร้อมลูกศรลง แสดงว่าอุปกรณ์ปิดใช้งานอยู่ คลิกขวาที่ชื่ออุปกรณ์เสียง จากนั้นเลือก Enable (เปิดใช้) เพื่อเปิดใช้งานอุปกรณ์ใหม่ ไปที่ขั้นตอนต่อไปหากยังมีปัญหาหลังเปิดใช้งานอุปกรณ์แล้ว

      รูปภาพ : การเปิดใช้งานอุปกรณ์เสียงที่ปิดอยู่

    • หากมีอุปกรณ์เสียงแสดงอยู่ ให้คลิกขวาที่ชื่ออุปกรณ์ จากนั้นเลือก Properties (คุณสมบัติ) เพื่อดูข้อมูลการแก้ไขปัญหาเพิ่มเติมจากหน้าต่าง Device Status (สถานะอุปกรณ์) หาก Device Status (สถานะอุปกรณ์) แจ้งว่าอุปกรณ์ทำงานได้ตามปกติ แสดงว่าปัญหาอาจอยู่ที่การตั้งค่าเสียง ลำโพง หรือสายสัญญาณ

ขั้นตอนที่ 9: การกำหนดค่าเสียงในตัวใน BIOS

คอมพิวเตอร์บางเครื่องมาพร้อมกับระบบเสียงที่เมนบอร์ด (ระบบเสียงในตัว) บางรุ่นมาพร้อมกับการ์ดเสียง และบางรุ่นมาพร้อมกับเสียงในตัว (ปิดใช้งาน) และการ์ดเสียงแยก

ต้องตั้งค่าเสียงในตัวใน BIOS ให้ตรงกับโครงร่างฮาร์ดแวร์เสียงที่ต้องการ ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ตามเงื่อนไขของคุณเพื่อรีเซ็ต BIOS เป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน หรือปรับการตั้งเฉพาะค่าเสียงในตัวเท่านั้น:

คลิกที่หัวข้อต่อไปนี้หรือเครื่องหมายบวก (+) เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

การรีเซ็ต BIOS

ขั้นตอนนี้เป็นการรีเซ็ตค่าเสียงในตัวเป็น Automatic (อัตโนมัติ) สำหรับคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป HP และ Compaq ส่วนใหญ่ หากคุณต้องการเก็บส่วนกำหนดค่า BIOS ปัจจุบัน หรือหากการรีเซ็ต BIOS เป็นค่าเริ่มต้นไม่ช่วย ให้ทำตามหัวข้อต่อไปนี้ เปลี่ยนแปลงค่าเสียงออนบอร์ดใน BIOS

  1. เข้าไปยัง BIOS โดยเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์และกดปุ่ม F10 ซ้ำ ๆ กันทันที จนกว่าหน้าจอการตั้งค่า BIOS จะเปิดขึ้น

  2. จากหน้าจอการตั้งค่า BIOS กดปุ่ม F5

  3. เลือก Yes หรือ OK โดยกดปุ่ม Enter

    กดปุ่ม F10 เลือก Yes (ใช่) หรือ OK (ตกลง)เพื่อบันทึกค่าเริ่มต้น โดยกดปุ่ม Enter

  4. เริ่มคอมพิวเตอร์และตรวจสอบเสียง หากยังไม่มีเสียง ให้เปลี่ยนค่าเสียงออนบอร์ดใน BIOS

การเปลี่ยนค่าเสียงออนบอร์ดใน BIOS

ใช้ขั้นตอนนี้เพื่อตรวจสอบการตั้งค่าเสียงในตัวใน BIOS ว่าตรงกับค่าโครงร่างฮาร์ดแวร์เสียงของคุณหรือไม่

  1. ตรวจสอบด้านหลังของคอมพิวเตอร์ และตัวอย่างโครงร่างหนึ่งในสามแบบต่อไปนี้เพื่อพิจารณาโครงร่างระบบเสียงของคุณและค่าเสียงใน BIOS ที่จำเป็น อ่านรายละเอียดรายการทั้งสามก่อนตัดสินใจ

    • โครงร่าง A (เสียงในตัว): หากขั้วต่อเสียงสำหรับลำโพงและไมโครโฟนจะอยู่ติดกับพอร์ตขนาน อนุกรมหรือพอร์ต USB แสดงว่าคอมพิวเตอร์มีระบบเสียงในตัว ควรเปิดค่าเสียงในตัวจากใน BIOS

      รูปภาพ : การกำหนดค่าเสียงในตัว

    • โครงร่าง B (การ์ดเสียง): หากขั้วต่อเสียงสำหรับลำโพงและไมโครโฟนอยู่ห่างจากพอร์ตขนาน อนุกรม หรือพอร์ต USB แสดงว่าคอมพิวเตอร์ติดตั้งการ์ดเสียง หาก BIOS มีค่า On-board Audio (การ์ดเสียงในตัว) ค่า On-board Audio ใน BIOS ควรเป็น Disabled (ปิดใช้งาน) หาก BIOS ไม่มีคา On-board Audio ไม่จำเป็นต้องปรับค่า BIOS ให้ข้ามไปขั้นตอนที่ 8: การลบไดร์เวอร์เสียงในเซฟโหมด

      รูปภาพ : การกำหนดค่าการ์ดเสียง

    • โครงร่าง C: หากคอมพิวเตอร์มีขั้วต่อเสียงในตำแหน่งทั้งสอง ค่าเสียงในตัวใน BIOS ควรเป็น Disabled (ปิดใช้งาน)

  2. เข้าสู่ BIOS โดย เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์และกดปุ่ม F10 ซ้ำ ๆ กันทันที จนกว่าหน้าจอการตั้งค่า BIOS จะเปิดขึ้น

  3. ใช้ปุ่มลูกศรซ้ายและขวาเพื่อเลือกแท็บ Advanced (ขั้นสูง)

  4. ค้นหาและเลือกรายการเมนูขั้นสูงที่ตรงกับเสียง อาจเป็นรายการดังต่อไปนี้

    • Onboard Audio
    • ตัวเลือก Onboard Audio (เสียงในตัว)
    • I/O Device Configuration
    • On-board Sound (ระบบเสียงในตัว)
    • เสียง
    • Audio Codec (โคเดคเสียง)

    รูปภาพ : ตัวอย่างเมนู Onboard Audio

  5. เลือก Enabled (เปิดใช้งาน) หรือ Disabled (ปิดใช้งาน) โดยพิจารณาจากโครงร่างของคอมพิวเตอร์ จากนั้นกด Enter

    รูปภาพ : เปิดใช้งานระบบเสียงในตัว

  6. กด F10 จากนั้นกด Enter เพื่อบันทึกและออกจากรายการ

    Windows จะเปิดขึ้นมา

  7. ทดสอบเสียง

    • หากคุณสามารถได้ยินเสียง แสดงว่าเสร็จสิ้นขั้นตอนแล้ว

    • หากยังไม่มีเสียง ให้ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ และทำตามคำแนะนำต่อไปนี้ต่อไป

  8. หลังจากคอมพิวเตอร์ปิดการทำงาน ให้ถอดสายไฟคอมพิวเตอร์ และกดปุ่มเปิดปิดประมาณ 20 วินาที กระแสไฟจะถูกตัดจากคอมพิวเตอร์

  9. เสียบปลั๊กไฟและเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์

  10. เข้าไปยัง BIOS โดยเปิดคอมพิวเตอร์ และเมื่อหน้าจอโลโก้แรกปรากฏขึ้น ให้กดปุ่ม F10 ซ้ำ ๆ กันจนกระทั่งหน้าจอการตั้งค่า BIOS เปิดขึ้นมา

  11. กด F5 เลือก Yes (ใช่) และจากนั้น กด F10 เพื่อบันทึกค่า BIOS เริ่มต้น

  12. รอให้ Windows เปิดขึ้นมาจากนั้น เปิดเล่นเสียง หากยังมีปัญหาระบบเสียงอยู่ ให้ตรวจสอบฮาร์ดแวร์ของลำโพง

ขั้นตอนที่ 10: การตรวจสอบฮาร์ดแวร์ของลำโพง (ระบบไฟ ลำโพงและฟิวส์)

ตรวจสอบลำโพงว่าสายไฟต่ออยู่และลำโพงได้รับไฟเลี้ยงหรือไม่

ลำโพงที่ต้องใช้ไฟเลี้ยงหลายตัว โดยเฉพาะที่มีซับวูฟเวอร์มักจะมีฟิวส์อยู่ด้วย หากไม่มีเสียงมาจากลำโพงแม้เพียงเล็กน้อย ให้ถอดและเปลี่ยนฟิวส์ใหม่ แม้จะไม่คิดว่าฟิวส์ขาด แต่ขอแนะนำให้เปลี่ยนฟิวส์เพื่อให้แน่ใจที่สุด หากฟิวส์ยังอยู่ในสภาพดี คุณก็จะมีฟิวส์สำรองไว้ใช้

  1. ปิดตัวจ่ายไฟไปยังซับวูฟเวอร์ แล้วถอดปลั๊กออกจากลำโพง

  2. นำฝาครอบฟิวส์ออก แล้วดูที่หลอดแก้ว หากฟิวส์ด้านในแยกกัน มีจุดสีดำหรือรอยไหม้ ให้เปลี่ยนฟิวส์ใหม่ หากฟิวส์ดูดี ให้เปลี่ยนฟิวส์ต่อไปและเก็บไว้ใช้เป็นฟิวส์สำรอง

  3. ซื้อฟิวส์ตัวใหม่ แนะนำให้นำฟิวส์เก่าไปร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อเป็นแบบในการซื้อฟิวส์ตัวใหม่ ฟิวส์เก่าใช้เพื่อเทียบกับฟิวส์ใหม่ที่ซื้อจากร้านว่าตรงกัน

  4. ใส่ฟิวส์ใหม่ ปิดฝาครอบฟิวส์ จ่ายไฟเลี้ยง เปิดลำโพงและทดสอบเสียง

เพื่อป้องกันความเสียหายต่อลำโพงและฟิวส์จากการไหม้ในอนาคต ให้พิจารณาข้อต่อไปนี้ขณะใช้คอมพิวเตอร์:

  • ปิดส่วนควบคุมระดับเสียงก่อนส่งไฟเลี้ยงไปยังลำโพง

  • ไม่ควรเพิ่มระดับเสียงเกินกว่าครึ่งหนึ่งของช่วงแป้นควบคุม ลักษณะเดียวกับระบบโฮมสเตอริโอคุณภาพสูงอื่น ๆ การทำเช่นนี้จะลดคุณภาพของเสียงและทำให้ลำโพงทำงานหนัก คุณภาพเสียงที่ไม่ดีจะเกิดขึ้นหากเพิ่มระดับเสียงไปที่ระดับสูงสุด เสียงที่หลากหลายระหว่างปรับไปที่ระดับสูงสุดจะสร้างภาระหนักให้แก่ลำโพง

ขั้นตอนที่ 11: ใช้เฮดโฟนที่เหมาะสม

ต้องใช้เฮดโฟนที่ถูกต้องเพื่อให้มีเสียงจากคอมพิวเตอร์

ทำไมลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง

แก้ปัญหา ลำโพงโน๊ตบุ๊คไม่ดัง ไม่มีเสียง.
เช็คที่ Device Manager ตรวจพบปกติหรือไม่.
เช็คการตั้งค่าระดับเสียงใหม่อีกครั้ง.
ปิดลำโพงอยู่หรือไม่?.
ถอนการติดตั้งไดรเวอร์ แล้วลงใหม่.
แก้ไขใน App volume and device preferences..
อย่าลืมเช็ค Sound Level และ Audio Enhancement..
ดูแนวทางแก้ไขจาก Microsoft..

ทํายังไงให้ลําโพงดัง

วิธี แก้ลำโพงไม่ดัง เสียงในคอมไม่ดัง เพิ่มเสียงคอมให้ดัง จากนั้นให้ไปที่แท็บ Playback เลือก Speakers จากนั้นคลิ้กที่ Properties. คลิ้กเมนู Enhancements จากนั้นให้คลิ้กที่ Loundness Equalization เพื่อเพิ่มความดัง แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จ อย่าลืมกด OK เพื่อบันทึกค่า จากนั้นให้ลองทดสอบเสียง ว่าดังขึ้นหรือไม่

โน๊ตบุ๊คเสียงเบาทํายังไง

วิธีแก้ปัญหาเสียงคอมพิวเตอร์ไม่ดัง 1. คลิกขวาที่ไอคอนลำโพงมุมขวาล่างจอ แล้วเลือก Sounds. 2. เลือกไปที่แท็บ Playback เลื่อนหาลำโพงที่กำลังใช้งานอยู่ คลิกเลือกแล้วกดปุ่ม Properties ด้านล่าง 3. เลือกแท็บ Enchanements แล้วติ๊กเครื่องหมายถูกตรง Loudness Equalization จากนั้นคลิกปุ่ม OK ก็เป็นอันเรียบร้อย

ทำไงให้คอมมีเสียง

วิธีการ แก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ Windows ไม่มีเสียง.
แก้ไขเบื้องต้น.
เช็คมิกเซอร์เสียง.
เปลี่ยนฟอร์แมตลำโพง.
อัพเดทไดรฟ์เวอร์เสียงของ Windows..
ใช้ Command Prompt..

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

flow chart แสดงขั้นตอนการปฏิบัติงาน lmyour แปลภาษา กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่เรือ การเขียน flowchart โปรแกรม ตัวรับสัญญาณ wifi โน๊ตบุ๊คหาย ตัวอย่าง flowchart ขั้นตอนการทํางาน ผู้แต่งกาพย์เห่ชมไม้ ภูมิปัญญาหมายถึง มีสัญญาณ wifi แต่เชื่อมต่อไม่ได้ เชื่อมต่อแล้ว ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ /roblox promo code redeem 3 พระจอม มีที่ไหนบ้าง AKI PLUS รีวิว APC UPS APC UPS คือ Adobe Audition Adobe Bridge Anapril 5 mg Aqua City Odaiba Arcade Stick BMW F10 jerk Bahasa Thailand Benz C63 ราคา Bootstrap 4 Bootstrap 4 คือ Bootstrap 5 Brackets Brother Scanner Brother iPrint&Scan Brother utilities Burnt HD C63s AMG CSS เว้น ช่องว่าง CUPPA COFFEE สุราษฎร์ธานี Cathy Doll หาซื้อได้ที่ไหน Clock Humidity HTC-1 ColdFusion Constitutional isomer Cuppa Cottage เจ้าของ Cuppa Cottage เมนู Cuppa Cottage เวียงสระ DMC DRx จ่ายปันผลยังไง Detroit Metal City Div class คือ Drastic Vita