บัตรเดบิต คือ บัตรที่ผูกไว้กับบัญชีเงินฝากของผู้ถือบัตร เพื่อใช้ทำรายการที่เครื่อง ATM ไม่ว่าจะเป็นการถอนเงิน โอนเงิน สอบถามยอด และชำระค่าสินค้าและบริการ (ซึ่งเป็นคุณสมบัติของบัตร ATM) และใช้ทำรายการชำระค่าสินค้าและบริการที่ร้านค้า รวมถึงการซื้อสินค้าออนไลน์ได้ โดยจะเป็นการหักเงินออกจากบัญชีเงินฝากทันที (หรือที่เรียกว่า pay now นั่นเอง)
ในการชำระค่าสินค้าและบริการที่ร้านค้า ร้านค้าที่รับบัตรเดบิตจะติดสัญลักษณ์ของเครือข่ายบัตรเดบิตที่ออกบัตรร่วมกับธนาคารเจ้าของบัตร เช่น เครือข่าย VISA, Master Card, China Union Pay (CUP) เป็นต้น ผู้ถือบัตรจะชำระโดยการเซ็นชื่อในใบบันทึกการขาย (Sales Slip) หรือกดรหัส (Personal Identification Number: PIN) ทั้งนี้ รูปแบบขึ้นอยู่กับเครือข่ายของผู้ให้บริการบัตรเดบิตเป็นผู้กำหนด ส่วนการซื้อสินค้าออนไลน์ ผู้ถือบัตรจะชำระโดยการระบุหมายเลขบัตรเดบิต 16 หลัก รหัส CVV (หมายเลข 3 หลัก ด้านหลังบัตร) วันหมดอายุของบัตร และรหัสผ่านใช้ครั้งเดียว (OTP: One Time Password) ที่ได้รับทาง SMS
ลองใช้ Check-list ที่จะทำให้การใช้บัตร ATM/ บัตรเดบิต เป็นเรื่องง่ายและได้ประโยชน์
ข้อดีของการใช้บัตรเดบิต
ไม่ต้องพกเงินสด ซึ่งจะช่วยลดความเสียหายหากถูกโจรกรรมหรือทำบัตรหายสะดวก รวดเร็วในการชำระเงิน และไม่ต้องเสียเวลาในการทอนเงินควบคุมการใช้จ่ายของผู้ถือบัตรเดบิตได้ดีกว่าการใช้บัตรเครดิต เนื่องจากถ้าไม่มีเงินในบัญชีก็จะไม่สามารถเบิกเงินสดหรือซื้อสินค้าและบริการได้ได้รับสิทธิประโยชน์อื่นเพิ่มเติมตามโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย เช่น ส่วนลดในการซื้อสินค้า ความคุ้มครองตามการประกันชีวิต การโอนเงินโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประเภทของบัตรและเงื่อนไขการใช้บริการ ซึ่งอาจมีอัตราค่าธรรมเนียมแพงกว่ากรณีบัตรเดบิตทั่วไป ดังนั้น จึงควรเลือกใช้ประเภทบัตรเดบิตให้เหมาะสม โดยสอบถามรายละเอียดได้จากสถาบันการเงินผู้ออกบัตร
ข้อควรระวังในการใช้บัตรเดบิต
เลือกใช้ประเภทบัตรเดบิตให้เหมาะสมเพื่อให้เกิดความคุ้มค่า เพราะอัตราค่าธรรมเนียมบัตรเดบิตที่ให้สิทธิประโยชน์อื่นเพิ่มเติมมักจะแพงกว่ากรณีบัตรเดบิตทั่วไปเซ็นชื่อหลังบัตรทันทีเมื่อได้รับบัตรใหม่ และรักษาบัตรเสมือนเป็นเงินสดไม่ควรกำหนดรหัส PIN ให้ง่ายต่อการสุ่มเดา เช่น ไม่ใช้หมายเลขโทรศัพท์ บ้านเลขที่ วันเกิด และไม่เก็บรหัสไว้รวมกับบัตร รวมทั้งไม่เปิดเผยกับผู้อื่น จัดเก็บไว้ในที่ปลอดภัยและเป็นความลับ หรือหากจำรหัสได้แล้วก็ควรฉีกทิ้งทำลายไป และควรเปลี่ยนรหัสอยู่เสมอเฝ้าดูผู้ขายในขณะรูดบัตร เพื่อป้องกันการขโมยข้อมูลบัตรด้วยเครื่อง Skimmerตรวจสอบจำนวนเงินให้ถูกต้องก่อนเซ็นชื่อบน Sales Slip หรือกดรหัส PIN ที่เครื่องรูดบัตร ซึ่งร้านค้าจะเก็บไว้เป็นหลักฐานการรับชำระ และให้สำเนา Sales Slip อีกฉบับแก่ลูกค้า เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้ ตามเงื่อนไขของทาง Visa, MasterCard และ JCB ร่วมกับธนาคารเจ้าของบัตร คุณจะต้องเปิดบริการชำระเงินออนไลน์ (Verified By Visa/MasterCard SecureCode/JCB J/Secure) กับทางธนาคารเจ้าของบัตรก่อน เพื่อให้บัตรของคุณสามารถซื้อของและชำระเงินออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ต่างๆ ได้ หากคุณยังไม่เปิดบริการชำระเงินออนไลน์ ระบบจะไม่เจอข้อมูลบัตรของคุณและไม่สามารถตัดเงินผ่านบัตรได้พร้อมแสดงข้อความ ดังรูป
คุณสามารถอ่านวิธีและเปิดบริการชำระเงินออนไลน์บัตรที่คุณต้องการได้จากลิงค์ข้างล่างนี้
วิธีเปิดบริการ บัวหลวง ไอเพย์ สำหรับบัตรเครดิต/เดบิตของธนาคารกรุงเทพ
วิธีเปิดบริการ Verified by VISA สำหรับบัตรเครดิต/เดบิตของธนาคารกรุงไทย
วิธีเปิดบริการ Verified by VISA สำหรับบัตรเครดิต/เดบิตของธนาคารกรุงศรีอยุธยา
วิธีเปิดบริการ Internet Shopping สำหรับบัตรเครดิต/เดบิตของธนาคารกสิกรไทย
วิธีเปิดบริการ SCB Easy Net สำหรับบัตรเครดิต/เดบิตของธนาคารไทยพาณิชย์
วิธีเปิดบริการ Internet Shopping สำหรับบัตรเครดิต/เดบิตของธนาคารธนชาติ
หลังจากที่คุณเปิดบริการชำระเงินออนไลน์เรียบร้อยแล้ว คุณสามารถซื้อบัตร/สินค้า/บริการและชำระเงินผ่านบัตรเดบิต/เครดิตได้ทันที
การชำระเงินผ่านบัตรเครดิต/เดบิต
คุณสามารถทำการชำระเงินผ่านวิธีนี้ได้ทั้งบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Eventpop ตามขั้นตอนดังนี้
การชำระเงินผ่านบัตรเครดิต/เดบิตทางเว็บไซต์ Eventpop
1. เลือกช่องทางชำระเงิน "บัตรเครดิต/บัตรเดบิต"
2. กรอกรายละเอียดข้อมูลของบัตรให้ถูกต้องครบถ้วน หากข้อมูลบัตรเครดิต/เดบิตถูกต้องจะสามารถกดปุ่ม "ยืนยัน" ได้
- หมายเลขบัตรเครดิต/บัตรเดบิต : เลข 13 หลัก บนหน้าบัตรเครดิต/เดบิต ของคุณ
- ชื่อผู้ถือบัตร : ชื่อ-สกุลเจ้าของบัตรที่แสดงบนบัตร (ภาษาอังกฤษ ตัวพิมพ์ใหญ่ทุกตัวอักษร)
- วันหมดอายุบัตร : วันหมดอายุบนหน้าบัตรเครดิต/เดบิต ของคุณ (กรอกเพียง ดด/ปป)
- หมายเลข CVV : เลข 3 ตัวหลังบัตรเครดิต/เดบิต (หรือ 4 ตัวแล้วแต่ชนิดของบัตร)
3. ระบบจะแสดงหน้าตรวจสอบความปลอดภัยซึ่งเป็นหน้าเว็บของทางธนาคาร กดปุ่ม " Request OTP” ระบบจะส่งรหัส OTP ไปที่มือถือของคุณ (เบอร์มือถือจะเป็นเบอร์ที่คุณกรอกตอนสมัครบัตรนั้นๆ)
4. กรอกรหัส OTP (One Time Password) เพื่อยืนยันและกดปุ่ม “ตกลง (Submit)” หากข้อมูลถูกต้อง ระบบจะทำการตัดบัตรของคุณเพื่อชำระเงินตามปกติ
หากคำสั่งซื้อเสร็จสมบูรณ์ ระบบจะพาคุณมายังหน้าขอบคุณดังรูปด้านล่างและส่งอีเมลยืนยันการชำระเงินพร้อมบัตรให้กับคุณ หรือ กดปุ่ม "ดูบัตรของฉัน" เพื่อดูบัตรของคุณ