การชนยอดฮิตอีกอย่างที่คนขับรถมานานต้องประสบพบเจอนั่นก็คือ “การชนแบบไม่มีคู่กรณี” นั่นเองครับ ซึ่งพอชนแล้ว ทุกๆคนก็จะเกิดคำถามขึ้นว่า ต้องทำยังไงดี และ ถ้าเคลมจะต้องเสียเงินเพิ่มมากน้อยแค่ไหน วันนี้ผมมาเล่าให้ฟังครับ
ชนแบบไหนคือการชนแบบไม่มีคู่กรณี?
ต้องบอกว่าอาจจะยังมีบางคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับลักษณะ “การชนแบบไม่มีคู่กรณี” กับ “การชนสิ่งที่ไม่ใช่รถ” อยู่ วันนี้เลยอยากให้ทุกๆคนเข้าใจตรงกันก่อนว่า การชนแบบไม่มีคู่กรณี นั้น คือการชนแบบที่ เกิดอุบัติเหตุทำให้รถของเราเสียหายแล้ว ระบุไม่ได้ว่าไปชนกับอะไร หรือ กับใครมา เช่น
ตัวอย่างการชนแบบไม่มีคู่กรณี
- ถูกชนแล้วหนี จำทะเบียนคนที่มาชนไม่ได้
- ตอบไม่ได้ว่าร่องรอยความเสียหายที่เกิดขึ้น ชนกับอะไร ชนที่ไหน ชนเมื่อไหร่
โดยถ้าเกิดเป็นกรณีที่ ถอยชนกำแพง ครูดฟุตบาท เบียดเสา การชนแบบนี้จะนับว่าเป็น “การชนแบบมีคู่กรณี” นะครับ ซึ่งหลายๆคนอาจจะจำสับสนกับกรณีชนแบบไม่มีคู่กรณี
เคลมประกันไม่มีคู่กรณี ต้องเสียเงินเพิ่มไหม เสีย excess ไหม?
ถ้าเกิดเราจำเป็นจะต้องเคลมแบบไม่มีคู่กรณี คือไม่สามารถบอกได้ว่าเราชนกับอะไร ที่ไหน และเมื่อไหร่ ส่วนนี้เราจะต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก หรือ excess ก่อน เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท ต่อเหตุการณ์ (ไม่ใช่ต่อ 1 แผลนะครับ แต่เป็น ต่อ 1 เหตุการณ์) และหลังจากนั้นบริษัทประกันรถยนต์ถึงจะซ่อมรถให้เรานั่นเองครับ
แจ้งเคลมยังไง ต้องแจ้งเคลมเมื่อไหร่?
สำหรับการแจ้งเคลมเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์แบบ ไม่มีคู่กรณี หรือ มีคู่กรณีก็ตาม
“ควรจะแจ้งเคลมทันทีที่เกิดเหตุนะครับ”
เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาทีหลัง เช่น แจ้งเคลมช้าแล้วรถเกิดความเสียหายเพิ่มจากร่องรอยการชนครั้งนั้น หรือ บริษัทประกันไม่เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดนั้นเกิดขึ้นจริง ส่วนนี้ถ้าเกิดเราแจ้งเคลมช้า ก็อาจจะเกิดผลเสียตามมาได้
แต่ถ้าหากในระหว่างที่ชนเราจำเป็นที่จะต้องแจ้งเคลมล่าช้าจริงๆ อาจจะเกิดเหตุสุดวิสัย เช่น สถานที่ชนเป็นที่เปลี่ยวไม่ปลอดภัย อาจจะมืดแล้ว หรือ ร่องรอยที่เกิดขึ้นไม่ได้เสียหายมาก ยังไม่อยากเข้าซ่อม ส่วนนี้เราก็อาจที่จะแจ้งเคลมล่าช้าได้ครับ เพราะยังไงถ้าเคลมแบบไม่มีคู่กรณี ยังไงเราก็ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรกก่อน 1,000.- บาทอยู่แล้ว
ส่วนถ้าเกิดเราเกิดเหตุชนแบบมีคู่กรณีแล้วอยากแจ้งเคลมทีหลัง
“ควรจะถ่ายรูปอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นไว้อย่างละเอียด ว่าชนตรงไหน เสียหายอย่างไร”
และ บันทึกไว้ด้วยว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ไหน เมื่อไหร่ เพื่อที่จะเป็นหลักฐานและข้อมูลให้กับบริษัทประกันเมื่อเราแจ้งเคลมทีหลังนั่นเองครับ
แต่ถ้าหากร่องรอยที่เกิดขึ้นคำนวณแล้วว่าไม่คุ้มกับการเสียค่า excess และจะต้องเสียเงินค่าเบี้ยเพิ่มในปีต่อไป ก็อาจจะไม่ต้องแจ้งเคลม แล้วซ่อมเองก็ได้นะครับ
เคลมประกันไม่มีคู่กรณี จะเสียประวัติไหม?
สำหรับการเคลมแบบไม่มีคู่กรณี รวมถึง กรณีชนแบบมีคู่กรณีที่เป็น ฟุตบาท กำแพง
จะนับว่าเราเป็น “ฝ่ายผิด” จะส่งผลถึงประวัติของเราแน่นอนครับ อาจจะทำให้เบี้ยประกันแพงขึ้นในปีต่อไปนั่นเอง
ซึ่งถ้าหากชนไม่กี่ครั้ง และความเสียหายไม่มากก็อาจจะมีโอกาสที่เบี้ยประกันจะเพิ่มไม่เยอะครับ แต่ถ้าหากมีความเสียหายมาก และชนหลายครั้ง ก็มีโอกาสที่เบี้ยประกันจะเพิ่มขึ้นเยอะ หรือ บริษัทประกันก็อาจจะไม่ให้เราทำประกันในปีต่อไปได้เลย
หลายๆ คนคงตั้งคำถาม ถ้าเราถอยรถชนรั้วบ้าน ชนกระถางต้นไม้ ชนเสาไฟฟ้า ขับไถลลงข้างทาง หรือถูกรถชนแล้วหนี รถของเราเกิดมีรอยเสียหาย แต่เรากลับไม่มีคู่กรณีแบบนี้ เราจะเคลมประกันค่าซ่อมได้ไหม?
ในบทความนี้มาดูกันว่า ถ้าเราแจ้งเคลมประกันรถแบบไม่มีคู่กรณี บริษัทประกันภัยจะคุ้มครองรถของเราอย่างไรบ้าง
อุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีคืออะไร?
อุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี คือ เหตุการณ์ที่ทำให้รถเกิดความเสียหาย โดยอาจเกิดจากผู้ขับขี่เอง จากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ หรือถูกผู้อื่นกระทำแต่หลบหนีไป ทำให้ไม่มีผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับความเสียหายนี้ ซึ่งในบทความนี้ได้แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ คือ
ชนสิ่งกีดขวาง
เป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับไปชนกับสิ่งกีดขวางเอง อาจจะด้วยความประมาท หรือความไม่ได้ตั้งใจ เช่น
- ชนรั้วบ้าน
- ครูดกำแพง
- ชนกระถางต้นไม้
- ชนเสาไฟฟ้า
- ชนสิ่งปลูกสร้างต่างๆ
ถูกชนแล้วหนี
ไม่ว่าจะจอดรถอยู่เฉยๆ หรือกำลังขับรถอยู่บนท้องถนน เกิดมีคนขับรถมาชนแล้วหนีไป ไม่ว่าจะเกิดความเสียหายเพียงเล็กน้อย เช่น ไฟแตก มีรอยขีด สีถลอก ไปจนถึงถูกชนแบบรุนแรง รถมีรอยบุบ กระจกแตก มีร่องรอยความเสียหายใหญ่
แต่คู่กรณีกลับหลบหนีไป ตัวรถไม่มีกล้องวงจรปิดทำให้สืบหาผู้กระทำความผิดไม่ได้ ในกรณีนี้ถือว่าเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี เพราะเราไม่รู้ว่าคู่กรณีคือใคร
จากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้
เป็นเหตุที่ทำให้รถเกิดความเสียหายโดยที่เราเองไม่รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติ เช่น
- ต้นไม้โค่นทับ
- เสาไฟฟ้าล้มทับ
- ลูกเห็บตกใส่รถ
- น้ำท่วม
ประกันแบบไหนคุ้มครองบ้าง
ประกันภัยสำหรับรถยนต์มีหลายประเภท โดยมีความคุ้มครองที่แตกต่างกัน แต่สำหรับอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณีแล้ว มีเพียงประกันภัยชั้น 1 เท่านั้น ที่จะได้รับความคุ้มครองจากอุบัติเหตุ ค่าซ่อมรถและค่าเสียหายอื่นร่วมด้วย
เคลมประกันได้เมื่อไร?
หลังจากเกิดอุบัติเหตุแล้ว สามารถแจ้งเคลมประกันได้ 2 แบบ คือ แบบสดและแบบแห้ง
- เคลมสด คือ แจ้งเคลมทันทีในขณะที่เกิดเหตุ เนื่องจากรถอาจจะอยู่ในสภาพที่ไม่สามาถนำไปใช้งานต่อได้
- เคลมแห้ง คือ แจ้งเคลมหลังจากวันที่เกิดเหตุ อาจจะเพราะรถเป็นรอยเพียงเล็กน้อย โดยต้องแจ้งเคลมก่อนกรมธรรม์ประกันรถยนต์จะหมดอายุ หลังจากแจ้งเคลมแล้วจะได้รับใบเคลมรถมา โดยเจ้าของรถจะนำรถเข้าศูนย์ซ่อมเมื่อไหร่ก็ได้ตามความสะดวกของผู้ใช้รถ แต่ต้องดำเนินการก่อนใบเคลมหมดอายุ
ประกันคุ้มครองใครบ้าง?
สำหรับประกันภัยประเภท 1 คุ้มครองการเคลมที่ไม่มีคู่กรณี โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน
ในส่วนที่ 1 คือ ตัวรถในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุโดยตัวรถเกิดความเสียหาย ตัวรถมีแผล ทางประกันภัยคุ้มครองในส่วนค่าซ่อมแซมให้ทั้งหมด
ในส่วนที่ 2 กรณีทำทรัพย์สินของผู้อื่นหรือของตนเองเสียหาย เช่น ชนรั้วบ้านคนอื่น ชนเสาไฟฟ้าสาธารณะ ประกันจะประเมินราคาและจ่ายค่าซ่อมแซมให้
อะไรที่การเคลมประกันไม่คุ้มครอง
กรณีที่ไม่คุ้มครอง คือเรื่องค่าซ่อมบำรุง เช่นเบาะรถชำรุด เปลี่ยนแบตเตอรี่ หม้อน้ำรั่ว หรือซ่อมแซมภายในที่ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ ทางประกันจะไม่คุ้มครองในส่วนค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ซึ่งผู้ใช้รถต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเอง
เคลมประกันแบบที่ไม่มีคู่กรณี มีค่าใช้จ่าย
หากต้องการเคลมประกันรถรอบคัน จะมีค่าเสียหายส่วนแรกที่ต้องชำระให้กับบริษัทประกัน ในกรณีที่ระบุไม่ได้ว่าคู่กรณีคือใคร โดยเราต้องเสียค่า Excess ประมาณ 2,000 บาท หรือแล้วแต่กรมธรรม์กำหนด
ความเสียหายแบบไหนที่ต้องเสียค่า Excess
- รถยางแตกจากการเหยียบของมีคม
- เศษหินกระเด็นโดนรถ หรือมีสีปลิวมาติดรถ
- โดนกลั่นแกล้งด้วยการขูด ขีด สร้างความเสียหาย
- ขับรถไปครูดกับสิ่งปลูกสร้าง
- รถไถลลงข้างทางโดยไม่มีคู่กรณี
ทำประกันรถยนต์เอาไว้ อุ่นใจต่อคนรักรถ
ประกันรถยนต์ชั้น 1 นั้นเป็นประกันที่หลายๆ คนควรจะเลือกทำ เนื่องจากความคุ้มครองครอบคลุมกว่าประกันประเภทอื่นๆ นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่เชี่ยวชาญในการขับขี่รถบนท้องถนน เพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวขับขี่เอง และยังคุ้มครองทั้งตัวรถและทรัพย์สินส่วนอื่นที่อาจจะได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุอีกด้วย
หากคุณกำลังตัดสินใจทำประกันรถยนต์ แต่ยังไม่สามารถเลือกบริษัทหรือมีความรู้ในเรื่องของความคุ้มค่าในการคุ้มครองไม่มากนัก สามารถปรึกษา “เงินติดล้อ” บริษัทที่จะช่วยให้คุณนั้นตัดสินใจทำประกันที่ตรงต่อความต้องการมากที่สุดได้ทุกสาขา หรือสามารถสอบเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 088-088-0880 ตลอด 24 ชั่วโมง