คุณสามารถเข้าร่วมกับทัวร์ปีนธารน้ำแข็งขึ้นไปสัมผัสความงดงามบนธารน้ำแข็งวัทนาโจกุลล์ได้จากเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสกัฟตาเฟลล์ (Skaftafell Nature Reserve)
ธารน้ำแข็งที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งคือธารน้ำแข็งสวีนาเฟลล์โจกุลล์ (Svinafellsjokull) ซึ่งอยู่ใกล้กับเรคยาวิกมากกว่า ส่วนอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้คุณได้ไปสัมผัสพื้นที่กว้างใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะบนธารน้ำแข็งคือการไปเที่ยวกับทัวร์ขี่สโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งลางโจกุลล์ (Langjokull) ซึ่งคุณจะได้สนุกไปกับกิจกรรมตื่นเต้นเร้าใจด้วย
แต่น่าเสียดายที่เดือนกันยายนยังเร็วเกินไปสำหรับการเที่ยวถ้ำน้ำแข็งเนื่องจากอุณหภูมิยังสูงเกินไปทำให้ถ้ำยังไม่มั่นคงมากพอ
พายเรือคายักในไอซ์แลนด์ในเดือนกันยายน
อย่าพลาดโอกาสในการไปชมทะเลสาบและฟยอร์ดอันงดงามของไอซ์แลนด์ในขณะที่อยู่บนผิวน้ำด้วย ฤดูหนาวใกล้เข้ามามากขึ้นแล้ว ดังนั้นเดือนกันยายนจึงเป็นโอกาสสุดท้ายที่คุณจะได้พายคายักในไอซ์แลนด์
การพายเรือคายักเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการชมสัตว์ในธรรมชาติของไอซ์แลนด์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะนกทะเลต่างๆ หรือแม้แต่แมวน้ำขี้สงสัยเองก็มักจะโผล่ขึ้นมาจากน้ำเพื่อทักทายผู้มาเยือน
ทัวร์พายคายักจะทำให้คุณสามารถชื่นชมภูมิประเทศที่งดงามของไอซ์แลนด์ได้อย่างอิสระในมุมที่แตกต่างออกไปท่ามกลางผืนน้ำที่สงบนิ่ง และเหนือสิ่งอื่นใด การพายเรือคายักเป็นกิจกรรมที่สนุก! หนึ่งในสถานที่ยอดนิยมสำหรับการพายเรือคายักคือที่ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน (Jokulsarlon) ที่มีภูเขาน้ำแข็งลอยเกลื่อนกลาดอยู่รายล้อม
หากคุณชื่นชอบแนวแอดเวนเจอร์ ก็มีทัวร์พายคายักในทะเลที่ออกเดินทางจากบนคาบสมุทนสไนล์แฟลซเนส (Snaefellsnes Peninsula) ซึ่งทริปนี้คุณจะได้ไปแวะชมภูเขาเคิร์กจูเฟลล์ (Kirkjufell) ที่งดงามราวภาพวาดด้วย
ดูวาฬในไอซ์แลนด์ในเดือนกันยายน
แม้ว่าคุณสามารถไปเข้าร่วมกับทัวร์ดูวาฬได้ทุกฤดูกาล แต่เดือนกันยายนในไอซ์แลนด์ถือว่าเป็นช่วงปลายฤดูร้อน ทำให้เหมาะกับการออกไปดูวาฬก่อนที่อากาศจะเริ่มหนาวจัด คุณจะมีโอกาสได้เห็นวาฬอพยพ ซึ่งจะผ่านมาในน่านน้ำของไอซ์แลนด์ระหว่างเดือนเมษายนและตุลาคมเท่านั้น
วาฬมิงค์เป็นวาฬที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด ในขณะที่วาฬหลังค่อมเป็นสายพันธุ์ที่สร้างความประทับใจให้มากที่สุดเมื่อพวกมันกระโดดและฟาดหาง
นอกจากนี้ยังถือว่าเป็นเดือนสุดท้ายที่นกพัฟฟินแสนน่ารักจะอยู่ที่ในไอซ์แลนด์ก่อนที่พวกมันจะอพยพลงใต้ต่อไป และคุณอาจจะได้พบนกพัฟฟินเมื่อออกไปดูวาฬในทะเลด้วย
มีทัวร์ดูวาฬมากมายที่ออกเดินทางจากเรคยาวิกและพาไปยังอ่าวฟาซาโฟลอิ (Faxafloi) แต่สถานที่ดูวาฬที่ดีที่สุดอยู่ที่เมืองฮูสาวิก (Husavik) ในทางเหนือของไอซ์แลนด์ ซึ่งถือว่าเป็น "เมืองหลวงแห่งการดูวาฬของยุโรป"
แหล่งน้ำพุร้อนในไอซ์แลนด์ในเดือนกันยายน
ก่อนที่ฤดูหนาวอันโหดร้ายของไอซ์แลนด์จะมาถึง เดือนกันยายนเป็นช่วงเวลาสุดท้ายสำหรับการไปแช่ตัวตามแหล่งน้ำพุร้อน หลังจากเดือนนี้ไปแหล่งน้ำพุร้อนหลายแห่งก็จะไม่สามารถเดินทางเข้าไปถึงได้เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยน้ำแข็ง
เนื่องจากไอซ์แลนด์อุดมไปด้วยพลังงานความร้อนใต้พิภพ ทำให้มีแหล่งน้ำพุร้อนและสระน้ำพลังงานความร้อนใต้พิภพกระจายตัวอยู่มากมายทั่วประเทศ บางแห่งนั้นอาจจะตั้งอยู่ในที่ดินส่วนบุคคล ซึ่งกรณีแบบนี้คุณต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่ดินก่อนคุณจึงจะสามารถเข้าไปใช้ได้
วิธีที่ง่ายที่สุดในการไปใช้บ่อน้ำร้อนคือการไปกับทัวร์เที่ยวบ่อน้ำพุร้อน เพราะคุณไม่ต้องมานั่งหาข้อมูล ศึกษาแผนที่และขับรถไปเอง หากคุณต้องการไปยังสถานที่ที่มีห้องแต่งตัวและสิ่งอำนวยความสะดวกให้ด้วย สระว่ายน้ำพลังงานความร้อนใต้พิภพในไอซ์แลนด์ทั้งหมดเป็นสระน้ำอุ่น ราคาย่อมเยา และหลายแห่งมีซาวน่าให้บริการด้วย!
สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในไอซ์แลนด์ในเดือนกันยายน
แน่นอนว่าถนนวงแหวน (Ring Road) อันโด่งดังนั้นเปิดให้วิ่งได้ตลอดทั้งปี (เว้นแต่ว่าจะมีพายุหิมะรุนแรง) แต่เมื่อไอซ์แลนด์ย่างเข้าสู่ฤดูหนาว การเดินทางบนไฮเวย์ก็จะลำบากขึ้นเรื่อยๆ
หากคุณเดินทางในเดือนกันยายน การขับรถบนถนนวงแหวนและไปเที่ยวบนเส้นทางวงกลมทองคำ (Golden Circle) คาบสมุทรสไนล์แฟลซเนส (Snaefelllsnes Peninsula) ทะเลสาบมิวาทน์ (Lake Myvatn) และชายฝั่งทางใต้ (South Coast) นั้นค่อนข้างง่ายดายถึงแม้ว่าคุณจะใช้รถขับเคลื่อนสองล้อ
หากคุณต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางขั้นสุด สถานที่เหล่านี้คือสถานที่ยอดนิยมที่คนนิยมไปเที่ยวในช่วงเดือนกันยายน
ชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์และทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน
หนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในไอซ์แลนด์คือถนนเลียบชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีเอกลักษณ์โดดเด่นที่สุดบางแห่งของไอซ์แลนด์ก็ตั้งอยู่นอกไฮเวย์ไม่ไกลนัก เช่น น้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์และน้ำตกสโกกาฟอสส์ (Seljalandsfoss and Skogafoss) ภูเขาไฟเอยาฟยาลลาโจกุลล์ (Eyjafjallajokull) ธารน้ำแข็งมิร์ดาลสโจกุลล์ (Myrdalsjokull) และหาดทรายดำเรย์นิสฟยารา (Reynisfjara) ซึ่งอยู่ใกล้กับหมู่บ้านวิก (Vik)
สำหรับผู้ที่เดินทางไปตามแนวชายฝั่งทางใต้นั้นจะต้องผ่านทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน (Jokulsarlon) ที่สวยงามอย่างแน่นอน และเดือนกันยายนเป็นเดือนสุดท้ายที่คุณสามารถล่องเรือในทะเลสาบเพื่อชมภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมาที่ลอยตัวอยู่บนผืนน้ำสีฟ้าเย็นยะเยือกได้อย่างใกล้ชิด
พื้นที่ไฮแลนด์
ถนนในไอซ์แลนด์เปิดให้รถวิ่งจนถึงช่วงกลางหรือปลายเดือนกันยายน เว้นแต่ว่าจะมีหิมะตกเร็วกว่าปกติ นี่จึงหมายความว่าคุณยังมีสิทธิ์ได้เข้าไปเที่ยวพื้นที่หลายส่วนของไฮแลนด์ (Highlands) ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ในช่วงฤดูหนาว
หากคุณขับรถเอง คุณสามารถมุ่งหน้าไปยังภูเขาไรโอไลต์หลากสีสันที่ลานมันนาเลยการ์ (Landmannalaugar) ซึ่งคุณสามารถลงแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่นั่นได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถเข้าร่วมกับทัวร์แบบมีไกด์ที่พาเข้าไปเที่ยวในไฮแลนด์ด้วยรถซุปเปอร์จี๊ปที่ปรับแต่งมาแล้ว และยังจะได้ไปเที่ยวนอกเส้นทางเพื่อไปดูสถานที่เที่ยวลับของไอซ์แลนด์ด้วย
นอกจากนี้ช่วงนี้ยังเป็นช่วงสุดท้ายที่สามารถไปไฮกิ้งในพื้นที่ไฮแลนด์ของไอซ์แลนด์และชมสีสันของฤดูใบไม้ร่วงก่อนในไฮแลนด์ก่อนที่พื้นที่นี้จะปิดให้บริการไปจนถึงฤดูร้อนของปีถัดไป
ฟยอร์ดทางตะวันตก
ถนนที่เป็นเส้นทางไปฟยอร์ดทางตะวันตกเปิดให้วิ่งในเดือนกันยายน ซึ่งฟยอร์ดตะวันตกเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่สวยงามมากที่สุดแต่มักจะถูกมองข้ามไป แค่การขับไปบนเส้นทางซิกแซกคดเคี้ยวผ่านไปตามฟยอร์ดอย่างเดียวก็ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจมากแล้ว ยังไม่ต้องพูดถึงความงดงามของภูมิประเทศที่บริสุทธิ์ไร้ผู้คนแตะต้อง ถนนหลายสายในฟยอร์ดทางตะวันตกเป็นถนนลูกรังที่ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ ดังนั้น อย่าลืมคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วยเมื่อคุณเลือกรถเช่า
ในเดือนกันยายนคุณยังสามารถเข้าไปชมน้ำตกดินยานดิ (Dynjandi) และหน้าผาลาทราบียาร์ก (Latrabjarg) อันน่าทึ่งได้ด้วย ลาทราบียาร์กเป็นผานกทะเลที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ที่นี่มีนกพัฟฟินอาศัยอยู่มากมายก่อนที่ถนนจะปิดในช่วงฤดูหนาว
เทศกาลต่างๆ ในไอซ์แลนด์ในเดือนกันยายน
คุณสงสัยหรือไม่ว่ามีอะไรเกิดขึ้นในไอซ์แลนด์ในช่วงเดือนกันยายนบ้าง? ในฤดูใบไม้ร่วง ปฏิทินกิจกรรมทางวัฒนธรรมของไอซ์แลนด์จะเริ่มหนาแน่นขึ้นและมีการจัดเทศกาลศิลปะ เทศกาลดนตรี และเทศกาลภาพยนตร์ขึ้นทั่วประเทศ และในเดือนกันยายนก็ยังมีงานอีกหลายงานในเมืองหลวงและคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes Penisula) ซึ่งขับรถออกไปเพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น
สามในสี่งานเทศกาลในช่วงเดือนนี้จัดขึ้นในเมืองเรคยาวิก ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาสิ่งที่ควรทำในเรคยาวิกในเดือนกันยายนอยู่ก็ขอให้อ่านต่อไป!
ลียอซานอทท์ - เทศกาลคืนแห่งแสง
เมื่อวันอันเจิดจ้าของหน้าร้อนเริ่มหลีกทางให้กับราตรีอันมืดมิดของฤดูใบไม้ร่วง ประชาชนในเรคยาเนสไบร์ (Reykjanesbær) บนคาบสมุทรเรคยาเนสก็จะจัดงานเพื่อเฉลิมฉลองความมืดกันเรียกว่า ลียอซานอทท์ (Ljosanott) หรือเทศกาลคืนแห่งแสง (The Night of Lights Festival) งานนี้เป็นงานประจำปีที่จัดขึ้นในสัปดาห์แรกของเดือนกันยายน และผู้ร่วมงานจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องดนตรีและศิลปะ
มีการแสดงผลงานของศิลปินให้เห็นอยู่รอบเมือง แกลเลอรี่หรือสตูดิโอเอกชนก็พากันเปิดให้ผู้สนใจได้เข้าชม นักดนตรีไอซ์แลนด์หลากหลายแนวต่างออกมาเล่นดนตรีตามสถานที่ต่างๆ ภายในเมือง และผู้เข้าร่วมงานก็จะได้ชิมซุปเนื้อแกะ (Kjotsupa meat soup) แบบดั้งเดิมกันด้วย นอกจากนี้ยังมีขบวนแห่รถคลาสสิกที่นำรถโบราณออกมาขับวนอวดโฉมให้ดูอีกต่างหาก
เด็กๆ ที่ใจกล้าหน่อยก็สามารถไปเที่ยวชมถ้ำของนางยักษ์ ซึ่งมีโทรลล์ตัวใหญ่นอนหลับอยู่ในนั้น แต่ก็ต้องระวังอย่าทำให้นางตื่นจากนิทรา!
สำหรับกิจกรรมหลักของงานนี้มีขึ้นในตอนหัวค่ำของวันเสาร์ เมื่อชาวเรคยาเนสไบร์พร้อมใจกันจุดไฟทำให้หน้าผาแบร์จิด (Bergid) ซึ่งหันหน้าเข้าหาท่าเรือของเมืองสว่างเจิดจ้า และค่ำคืนนี้จะสิ้นสุดลงด้วยการแสดงดอกไม้ไฟที่ยิ่งใหญ่ตระการตา
อีฟ ออนไลน์ แฟนเฟสต์
หนึ่งในกิจกรรมเฉพาะกลุ่มอีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจในเมืองเรคยาวิกคือเทศกาลอีฟ ออนไลน์ แฟนเฟสต์ (EVE Online Fanfest) ในเดือนกันยายน งานนี้เป็นมหกรรมแห่งโลกอนาคตกว่า 35,000 ปีข้างหน้าที่นักเล่นเกมบทบาทสมมุติออนไลน์ (MMORPG) ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท CCP Games ของประเทศไอซ์แลนด์มารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก
ในเกมนี้ผู้เล่นจะสำรวจ แลกเปลี่ยนของ และต่อสู้กันในโลกใหม่ 6,000 ใบที่เต็มไปด้วยความแปลกแหวกแนว
ส่วนงานอีฟ แฟนเฟสต์ เป็นโอกาสที่ผู้เล่นเกมและนักพัฒนาเกมจะได้มาพบเจอหน้ากันในเรคยาวิกเป็นเวลา 3 วัน เพื่อสังสรรค์และเฉลิมฉลองให้กับเกมอีฟออนไลน์
สิ่งที่ทำให้เกมนี้ไม่เหมือนใครคือโลกที่กว้างใหญ่และชุมชนที่ผู้เล่นเกมร่วมกันสร้างขึ้นมา โดยมีทั้งเครือข่ายพันธมิตรและองค์กรที่สามารถยกระดับไปสู่การทำสงครามเต็มรูปแบบต่อไป ซึ่งอาจจะกินเวลานานหลายสัปดาห์หรืออาจจะหลายเดือนในเวลาจริงบนโลก
ภาพโดย CCP Games จาก Wikimedia Creative Commons ไม่มีการแก้ไข
เทศกาลนี้จัดขึ้นที่สนามกีฬาเลยการ์ดาลสโชลลิน (Laugardlashollin) ในหุบเขาเลยการ์ดาลูร์ (Laugardalur Valley) ซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองเรคยาวิกออกมานิดเดียว
คุณจะได้พบผู้คนและสิ่งมีชีวิตที่น่าสนใจมากมายที่งานอีฟ แฟนเฟสต์ ทั้งมิตรและศัตรูในเกมสามารถมาเจอกันในชีวิตจริงเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเกม สนุกกับปาร์ตี้ และกอดคอกันตระเวณเที่ยวผับบนถนนในเมืองเรคยาวิก
ผู้เล่นหลายคนถือโอกาสนี้ออกเดินทางไปยังท่าเรือเรคยาวิก ซึ่งเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์อีฟออนไลน์สูง 15 ฟุตที่มีชื่อของผู้เล่นเกมนี้จำนวนหลายแสนคนสลักอยู่บนนั้นด้วย
ไฮไลต์สำคัญที่สุดของกิจกรรมนี้คือปาร์ตี้สุดเหวี่ยงที่ติดอันดับโลก ซึ่งในปี 2023 นี้นำโดยศิลปินแดนซ์ป๊อบชาวไอซ์แลนด์ Dadi Freyr
เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเรคยาวิก - RIFF
ทุกปีในช่วงปลายเดือนกันยายน เทศกาลภาพยนตร์เรคยาวิก (หรือ RIFF) จะจัดแสดงภาพยนตร์นับร้อยเรื่องจากกว่า 40 ประเทศ ในระยะเวลา 11 วัน
ในเทศกาลนี้มีการฉายทั้งภาพยนตร์ประเภทพิเศษหลายรูปแบบ ประเภท "New Vision" เน้นให้ความสำคัญกับผู้สร้างภาพยนตร์หน้าใหม่ที่กำลังมาแรง ประเภท "Icelandic Panorama" ฉายหนังจากผู้สร้างมากความสามารถของไอซ์แลนด์ ส่วนประเภท “Focus On” จะเน้นที่ประวัติศาสตร์การสร้างภาพยนตร์ของชาติใดชาติหนึ่งโดยเฉพาะ
การฉายภาพยนตร์จะจัดขึ้นที่ Bíó Paradís ซึ่งเป็นโรงภาพยนตร์ทางเลือก แต่อีเว้นท์พิเศษต่างๆ จะจัดขึ้นทั่วเมืองเรคยาวิก คุณสามารถไปดูคอนเสิร์ตภาพยนตร์ซิมโฟนิกได้ที่ฮาร์ปาคอนเสิร์ตฮอลล์ (Harpa Concert Hall) หรือจะไปที่โรงภาพยนตร์ประเภท Swim-in ที่ซุนด์ฮอลลลิน (Sundhollin) ก็ได้ ซึ่งที่นี่คุณจะได้แช่น้ำอุ่นในสระว่ายน้ำในร่มขณะที่ชมภาพยนตร์ด้วย
เทศกาลดนตรีเรคยาวิกแจ๊สเฟสทิวัล
เรคยาวิกแจ๊สเฟสทิวัล (Reykjavik Jazz Festival) เป็นอีเว้นท์ที่จัดเป็นประจำทุกปี โดยงานนี้กินเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมหรือต้นเดือนกันยายน และเป็นงานเทศกาลดนตรีที่มีความเก่าแก่เป็นอันดับที่สองของไอซ์แลนด์ด้วย โดยเริ่มจัดตั้งแต่ปี 1990
ดนตรีแจ๊สที่นำมาเล่นในเทศกาลนี้มีตั้งแต่แบบดนตรีบรรเลง ไปจนถึงแนวบีบ็อบ และเพลงแนวทดลอง มีการจัดกิจกรรมมากมายในร้านกาแฟ สวนสาธารณะ และร้านแผ่นเสียงทั่วเรคยาวิก โดยมีนักดนตรีทั้งในและต่างประเทศมาร่วมสร้างความบันเทิงให้กับผู้ฟัง
อ็อกโทเบอร์เฟสต์ SHI
อ็อกโทเบอร์เฟสต์ของชาวไอซ์แลนด์ หรือ Oktoberfest SHI เริ่มต้นจากการรวมตัวกันของนักเรียนนักศึกษากลุ่มหนึ่งที่เรียนภาษาเยอรมันอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งไอซ์แลนด์ โดยพวกเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากงานอ็อกโทเบอร์เฟสต์ในมิวนิก
และด้วยสภาพอากาศในเรคยาวิกในเดือนกันยายนยังคงมีความอบอุ่นของหน้าร้อนอยู่ นักศึกษาจึงมักจะออกมากางเต็นท์ภายในมหาวิทยาลัย ดื่มเบียร์ และฟังเพลงสไตล์บาวาเรียนด้วยกัน และกิจกรรมนี้ดูแลโดยสภานักศึกษา ดังนั้นเมื่อนักศึกษารุ่นใหม่ๆ เข้ามา พวกเขาก็จะสืบทอดเทศกาลนี้ต่อไป
ปัจจุบันในงานอ็อกโทเบอร์เฟสต์จะมีเบียร์ให้เลือกดื่มราว 20,000 แบรนด์และมักจะมีแบรนด์ใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาทุกปี เทศกาลนี้จัดขึ้นตั้งแต่วันพฤหัสถึงวันเสาร์และมีผู้ร่วมงานประมาณ 2,000 คน ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนนักศึกษา
ดนตรีแนวบาวาเรียนแบบเดิมๆ นั้นจะถูกแทนที่ด้วยวงดนตรีและศิลปินยอดนิยมของไอซ์แลนด์ เช่น Herra Hnetusmjör, AmabAdamA, และ Paul Oscar ซึ่งพวกเขาจะแสดงในเต็นท์ขนาดใหญ่หลายแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งก็จะเต็มไปด้วยความอึกทึกครื้นเครงของบรรดาวัยรุ่นที่มาร่วมสนุกสนานกันกลางแจ้งก่อนที่ฤดูหนาวจะมาเยือน
กิจกรรมทางวัฒนธรรมในเดือนกันยายน
ภูมิประเทศที่มหัศจรรย์ของไอซ์แลนด์หล่อหลอมวัฒนธรรมเกือบทั้งหมดของประเทศนี้ และในเดือนกันยายนชาวไอซ์แลนด์มีธรรมเนียมปฏิบัติเก่าแก่ที่สุดคือแบร์ยาโม (Berjamó) และเรียตติร์ (Réttir)
Berjamo หรือประเพณีเก็บผลเบอร์รี่ป่า
ภาพโดย Jeremy Ricketts
กิจกรรมฆ่าเวลาที่ชาวไอซ์แลนด์โปรดปรานกันมากอย่างหนึ่งในช่วงเดือนกันยายนคือการไปเก็บผลเบอร์รี่ หรือไป ‘berjamo’ ตามธรรมเนียมที่ทำกันมาตั้งแต่โบราณ ชาวไอซ์แลนด์และครอบครัวจะเดินทางออกไปนอกเมืองเพื่อไปเก็บผลเบอร์รี่ป่าที่ปลอดยาฆ่าแมลงซึ่งเติบโตงอกงามอยู่ทั่วประเทศ
กิจกรรมนี้ทำให้ผ่อนคลายอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะคุณจะไปนั่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ทุกอย่างเงียบเชียบได้ยินเพียงเสียงลูกเบอร์รี่กระทบกับภาชนะที่คุณเตรียมไปใส่ และอาจจะมีเสียงนกการ้องแว่วมาแต่ไกลบ้างเป็นครั้งคราว
โครว์เบอร์รี่ (Crowberries) เป็นเบอร์รี่ที่ขึ้นอยู่ทั่วไปในป่าท่ามกลางลาวาที่มีมอสขึ้นปกคลุม ผลเบอร์รี่เหล่านี้สดและมีรสขมเล็กน้อย ชาวไอซ์แลนด์นิยมใช้ทำเป็นของหวานและน้ำผลไม้มาหลายร้อยปีแล้ว
ส่วนเบอร์รี่ชนิดอื่นๆ ที่พบที่นี่ ได้แก่ บิลเบอร์รี่ ซึ่งเป็นเบอร์รี่ผลสีน้ำเงินที่ชาวไอซ์แลนด์มักจะเอาไปทำเป็นสกีร์ และก็ยังมีบลูเบอร์รีด้วย
ผลเบอร์รี่ที่เก็บมาได้นั้นชาวไอซ์แลนด์ก็จะเอาไปทำเป็นแยม เค้ก น้ำผลไม้ และไวน์ หากคุณมาเที่ยวแค่เพียงช่วงสั้นๆ และไม่ได้อยากลงมือทำแยมเอง คุณก็สามารถเอาผลเบอร์รี่สดไปรับประทานคู่กับสกีร์วนิลา หรือรับประทานสดๆ เป็นของว่างที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเลยก็ได้
Réttir หรือประเพณีต้อนแกะและม้า
แม้ว่าในเดือนกันยายนนกพัฟฟินจะบินลงใต้ไปหมดแล้ว แต่ในช่วงกลางเดือนจะเป็นเวลาที่นกนางนวลไอซ์แลนด์เริ่มกลับมาจากการบินไปผสมพันธุ์ที่แคนาดาและกรีนแลนด์ และในช่วงเวลาเดียวกันนี้ชาวไอซ์แลนด์จำนวนมากจึงนิยมออกไปตามชนบทเพื่อไปร่วมงานประเพณีต้อนแกะ ซึ่งเป็นธรรมเนียมเก่าแก่ที่สุดอีกอย่างหนึ่งของประเทศนี้
ช่วงหน้าร้อนแกะในไอซ์แลนด์จะได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ โดยพวกมันจะเล็มหญ้าและกินสมุนไพรป่าตามท้องทุ่งในชนบท ในเดือนกันยายนของทุกปีเกษตรกรจะเชิญครอบครัว เพื่อนฝูง และบางครั้งก็คนนอกให้มาช่วยพวกเขาต้อนแกะจากที่ราบสูงด้วย
คนเลี้ยงแกะจะใช้วิธีเดินหรือขี่ม้าเพื่อต้อนพวกแกะมาจากทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ โดยมักจะมีสุนัขต้อนแกะที่วางใจได้คอยช่วยเหลือ พวกแกะจะถูกต้อนกลับไปที่คอกและจะมีการแบ่งกลุ่มแกะในฝูงกัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สนุกสนานมาก โดยแกะเหล่านี้ได้ถูกตีตราเอาไว้ก่อนแล้วในฤดูใบไม้ผลิ พอถึงเดือนกันยายนบรรดาเจ้าของแกะก็แค่มาแยกเอาแกะของตนไปเท่านั้น
ทางเหนือของไอซ์แลนด์มีประเพณีที่เกี่ยวข้องกับการผสมพันธุ์ม้าและฝึกม้าให้เห็นมากมาย โดยจะเร่ิมมีการต้อนม้าที่ถูกปล่อยให้หากินอย่างอิสระในชนบทกลับมายังฟาร์มในช่วงปลายเดือนกันยายนหรือต้นเดือนตุลาคม
การต้อนสัตว์เป็นส่วนหนึ่งของธรรมเนียมที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ก่อนจะมีการสร้างถนน ครอบครัวชาวไอซ์แลนด์จะตั้งถิ่นฐานกระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศโดยมีการติดต่อสื่อสารกันเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีการติดต่อกันเลย การต้อนสัตว์หรือเรียตติร์จึงเป็นโอกาสเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้นในแต่ละปีที่ครอบครัวของเกษตรกรจะได้มารวมตัวกัน ในการพบปะครั้งนี้พวกเขาจะมาซื้อขายแลกเปลี่ยนม้าหรือแกะกัน หรืออาจจะมีการเจรจาเพื่อหาวิธีแก้ปัญหาความขัดแย้งในหมู่เกษตรกรด้วยกันเอง และเป็นโอกาสที่หนุ่มสาวจะมาหาคู่ครองด้วย
ทุกวันนี้แม้สิ่งต่างๆ จะเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ช่วงเวลานี้ก็ยังเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองอยู่ดี
เมื่อใดที่เพื่อนพ้องและครอบครัวของชาวไอซ์แลนด์มารวมตัวกัน เมื่อนั้นก็มักจะมีการร้องรำทำเพลง และประเพณีต้อนสัตว์นี้ก็เช่นกัน หลังจากที่ต้อนม้าหรือแกะกันมาทั้งวันแล้ว ก็ต้องมีปาร์ตี้หรืองานเลี้ยงที่เรียกว่าเรตตาร์บอลล์ (Rettarball)
ดังนั้นหากคุณขับรถเที่ยวรอบประเทศไอซ์แลนด์ในเดือนกันยายน คุณก็อย่าลืมสังเกตว่ามีฝูงแกะหรือม้าอยู่บนถนนบ้างหรือเปล่า ถ้าโชคดีคุณอาจได้รับเชิญให้ไปร่วมงานเลี้ยงก็ได้