เรื่องที่ 1 ที่เราควรสังเกตก็คือ “เรื่องการดูแลตัวเอง” ของชายหนุ่มผู้นั้น หนุ่มโสดมักจะไม่ค่อยดูแลตัวเองมากสักเท่า บางครั้งก็ปล่อยให้หนวดเครารุงรัง ดูออกแนวเซอร์ๆ ดิบๆ กันบ้างอะไรบ้างจ้า
เรื่องที่ 2 “เวลาเขาคุยโทรศัพท์” เขาจะไม่ค่อยคุยโทรศัพท์นานสักเท่าไร (นับเป็นวินาทีได้เลยจ้า) คุยไม่หวานเลย นอกจากเขาจะคุยกับพ่อ แม่นะ อาจจะมีพูดจ๊ะ/จ้าบ้าง แต่ถ้าคุยกับเพื่อนนี้ไม่มีแน่นอนคุยหวานๆ
เรื่องที่ 3 “เวลาเขาไปงานเลี้ยง หรืองานปาร์ตี้” เขาจะสนุกสุดเหวี้ยงเต็มที่เลยจ้า กินแอลกอฮอล์แบบจัดหนักจัดเต็มแน่นอน (เหล้า/เบียร์เป็นลังๆ) เว้นแต่ว่าเขาจะเป็นผู้ชายเรียบร้อยไม่กินแอลกอฮอล์นะจ๊ะ
เรื่องที่ 4 จะไม่พูดถึงก็ไม่ได้ “การรับ Add Friend” ทั้งในเฟสบุ๊ค อินสตาแกรม และทวิตเตอร์ เขาก็มักจะรับแต่สาวๆ ถึงแปลกหน้าก็รับหมดจ้า
เรื่องที่ 5 “เงินในกระเป๋าตังค์” หนุ่มๆ จะใช้เงินแบบประหยัดสุดๆ จะใช้เงินทำอะไรก็นึกแฟนเสมอ (ฟีบแฟบใช้แบบประหยัดมากๆ)
สาวๆ คนไหนที่กำลังเปิดใจคบกับใครสักคนอยู่ แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาคนนั้นมีแฟนอยู่แล้วหรือเปล่านะ? งั้นก็มาเอาทริคจับโป๊ะจาก GangBeauty ไปได้เลยจ้า กับ 8 วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณสแกนผู้ชายได้ง่ายขึ้น รับรองได้ผลชัวร์
1. สถานะบนเฟซบุ๊ก
หากเป็นไปได้อันดับแรกสาวๆ ควรเข้าไปเช็กในเฟสบุ๊กของเขาก่อน ว่ามีการตั้งสถานะคบกับใครแล้วหรือเปล่า ร่วมไปถึงการตอบคอมเมนต์ต่างๆ ว่ามีผู้หญิงอื่นเข้ามาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเขามั้ย , มีการแท็กอะไรมาหากันบ้างหรือเปล่า
2. ในรถของเขา
ถ้าเป็นรถผู้ชายโดยทั่วไป น้อยมากที่จะมีของน่ารักๆ อย่างตุ๊กตาวางอยู่ ซึ่งหากคุณพบว่าบนรถของเขามีสิ่งของที่มันน่าจะเป็นของผู้หญิง ก็อาจจะเข้าข่ายว่าเขามีแฟนอยู่แล้วก็ได้
3. รูปในมือถือ
อันดับแรกคือภาพพักหน้าจอ ต่อมาคือรูปวอลเปเปอร์ และสุดท้ายคือรูปในแกลอรี่มือถือของเขา หากพบว่ามีรูปคู่ที่ดูสนิทสนมกันมากกว่าความเป็นเพื่อนล่ะก็ ให้คิดได้เลยว่าเขาคนนี้มีเจ้าของแล้ว
4. กลุ่มเพื่อนของเขา
หากเขาปฏิเสธที่จะพาคุณไปพบกับกลุ่มเพื่อนสนิทของเขา ก็อาจเป็นไปได้ว่าเขาอยากเก็บคุณไว้เป็นคนในความลับเท่านั้น หรือไม่ก็.. ไม่อยากให้เพื่อนเขารู้ เพราะความลับอยากแพ่งพายไปถึงแฟนของเขานั่นเอง
5. เวลาคุยโทรศัพท์
ถ้าคุณสังเกตได้ว่าเวลาที่โทรไปหาเขานั้น เขาจะดูมีพิรุธอย่างการคุยแบบกระซิบ หรืออาจจะไม่รับสายคุณเลยแม้จะโทรไปหลายสายก็ตาม หนักกว่านั้นก็คือปิดเครื่องไปดื้อๆ แล้วมาอ้างทีหลังว่าแบตหมดบ้าง แบตเสื่อมบ้างอยู่บ่อยๆ
6. เวลาแชท
ผู้ชายเจ้าชู้ที่คุยกับผู้หญิงหลายคน มักจะเผยอาการเรียกชื่อผิดให้เห็นอยู่บ่อยๆ ดังนั้นถ้าเขาเกิดคุยกับคุณอยู่แต่กลับพิมพ์ชื่อคนอื่น หรือพิมพ์เรื่องอะไรก็ไม่รู้ ที่ไม่ได้คุยกันก่อนหน้านี้เลยก็แสดงว่าเขาเข้าข่ายว่ามีเจ้าของอยู่แล้วล่ะ
7. ช่วงวันหยุด
หากคุณพบว่าช่วงวันหยุดเขาจะหายไปบ่อยมาก และโทรไปก็จะบอกว่าไม่ว่าง หรือแชทไปก็ไม่ค่อยตอบ
8. เบอร์บ้าน
ให้คุณลองขอเบอร์บ้านจากเขาดูว่าจะกล้าให้หรือเปล่า เพราะหากเขาบริสุทธิ์ใจและมีคุณเพียงคนเดียว แน่นอนว่าเขาต้องกล้าให้เบอร์บ้านกับคุณไว้
สุดท้ายนี้ ผู้ชายที่มีเจ้าของแล้วหลายๆ คนก็มันจะพูดจาไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอย หรือคำพูดมักจะไม่ตรงกันเท่าไรนัก ดังนั้นสาวๆ ที่จะเลือกคบใครสักคนก็ควรที่จะเช็กให้ดีก่อนดีกว่าเนอะ จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจกันภายหลัง
ความสัมพันธ์ในยุคนี้ คงต้องบอกว่ามันซับซ้อนมากขึ้นทุกวันครับ หากย้อนไปหลักสิบปีก่อน สถานะก่อนแต่งงานก็คงจะมีแค่ ‘โสด’ กับ ‘มีแฟน’ แต่ยุคนี้สถานะที่เกิดขึ้นมาช่วงตรงกลางก่อนจะมีแฟนนั้นมีหลากหลายมากจริง ๆ ซึ่ง MenDetails.com ก็ได้รับคำถามหลังไมค์มาว่า เดี๋ยวนี้สาว ๆ ดูยังไงว่าโสด ? ซึ่งเป็นประเด็นแรกที่ควรเช็คก่อนจะเข้าไปจีบเธอนั่นล่ะครับ แต่จะโสดสนิทจริง ๆ โสดมีคนคุย โสดแบบมีคนไปออกเดท ก็เป็นรายละเอียดลึกลงไปที่ทุกคนต้องให้เวลาหน่อยล่ะครับถึงจะได้คำตอบ อย่างน้อยตรวจสอบให้มั่นใจว่า เธอไม่ได้คบกับใครอย่างเป็นทางการ การที่เราเข้าไปจีบเธอจะไม่ใช่การแทรกกลางความสัมพันธ์ไหน และเธอยังพร้อมเปิดใจในการทำความรู้จักคนใหม่ ๆ อยู่ก็นับว่าเพียงพอแล้วครับ
Social media is your good friend
แน่นอนว่าสเต็ปแรกในการตอบคำถามว่า ดูยังไงว่าโสด เราแนะนำให้ดูชีวิตของเธอผ่าน Social media เป็นอย่างแรกเลยครับ จะเป็นแพลตฟอร์ม Facebook, Twitter หรือ Instagram ก็ได้ทั้งนั้น เพราะอย่างน้อย ๆ มันจะมี Hint อะไรบางอย่างที่ช่วยบ่งบอกสถานะของเธอได้อยู่บ้าง อย่างง่ายที่สุด ถ้าเธอมีแฟนแล้วและเปิดเผย ในโซเชียลก็จะมีรูปคู่เธอกับแฟนครับ หรือบางคู่อาจไม่ค่อยลงรูปด้วยกัน แต่เป็นการติดเครดิตคนถ่ายรูปให้ซ้ำ ๆ เพื่อเป็นสัญญาณว่ามีเจ้าของแล้วแทนก็ได้ ฉะนั้นเช็ครูปที่เธอลงรวมถึงกดไปดูในส่วน Tagged photos ด้วย และที่สำคัญที่สุด อย่ามองข้ามการดู Story รายวันเด็ดขาด บางที Clue ของสถานะที่ชัดก็มักจะแอบซ่อนอยู่ในนี้นี่ล่ะครับ
หากเป็นสาวที่คุณรู้จักอยู่แล้วก็คงจะง่ายหน่อยในการหาโซเชียลมีเดียของเธอ ยิ่งถ้าเธอคนนั้นเป็นสาวโซเชียลแล้วล่ะก็คงสืบไม่ยากนัก แต่ถ้าเป็นการจีบสาวที่ไม่รู้จักกันมาก่อนแต่ไปปิ๊งต่อหน้า เราแนะนำให้ขอช่องทางการติดต่อเป็น Instagram หรือ Facebook จะดีกว่าการขอ Line ครับ เพราะหากจีบผ่านไลน์เราก็จะไม่รู้สภาพแวดล้อมและเรื่องราวรอบ ๆ ตัวของเธอเลย และอย่าลืมสังเกตให้ดีว่าแอคเคาท์ที่ได้มานั้นเป็นแอคเคาท์หลักจริง ๆ ของเธอ ไม่ใช่แอคเคาท์สำรองที่สร้างขึ้นมาเพื่อแอบคุยกับหนุ่มคนไหนนะครับ (กรณีโลกสองสามใบน่าจะมีให้เห็นกันเยอะ) หากดูจากจำนวนเพื่อนและเรื่องราวที่แชร์ลงในนั้นก็คงจะพอหาคำตอบได้ว่าเป็นของจริงหรือไม่
แต่ละแพลตฟอร์มก็มีจุดเด่นต่างกันไป ส่วนใหญ่คนจะเน้นลงรูปในอินสตาแกรม แชร์เรื่องราวลงเฟซบุ๊ก และบ่นหรือเล่าเรื่องของตัวเองลงทวิตเตอร์ ซึ่งสาว ๆ ก็คงมีแอปพลิเคชันที่ติดเป็นพิเศษแตกต่างกันไปเช่นกันครับ ถ้าโชคดีว่าเราหาเจอที่ ๆ เธอแชร์เรื่องราวของตัวเองลงไปมากหน่อยก็คงจะรู้ได้ทันทีว่าเธอโสดและพร้อมให้ใครเข้าไปจีบเลยหรือเปล่า
Ask her friends instead of ask her ‘Are you single?’
ดูเหมือนว่าวัฒนธรรมการจีบและเดทกันของไทยกับต่างชาติเดี๋ยวนี้จะเริ่มแตกต่างกันไปชัดขึ้นทุกทีครับ อย่างคนเกาหลีก็จะคบกันได้ไวมาก คบเป็นแฟนอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ถ้าไม่ใช่ก็เลิกลากันไป หรือทางฝรั่งก็คงไม่แปลกถ้าจะถามกันตรง ๆ เลยว่า “Are you seeing someone?”
แต่ตัดภาพมาที่คนไทยยุคนี้ ดูเหมือนว่าเราจะคิดกันนานมากก่อนเลือกคบใครสักคน หลายคนเลยกลายเป็นคนเผื่อ Choice ไว้มากมายแทนทีเดียว มันจึงส่งผลให้ขั้นตอนในการจีบและเข้าหากันดูไม่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ ครั้นจะถามตรง ๆ ว่าเธอโสดไหม ก็คงไม่ใช่อะไรที่สาว ๆ อยากฟังนัก บางคนจะมองว่ารุกเกินไป บางคนก็มองว่าเป็นคำถามที่ไม่ Charming เอาเสียเลย แต่จะให้ฝ่ายชายพุ่งเข้าไปจีบเลยแบบไม่แน่ใจสถานะของเธอก็คงลำบากเช่นกัน ฉะนั้นแนะนำให้เช็คจากคนใกล้ตัวเธอจะดีกว่าการถามเธอตรง ๆ ครับ
วิธีเช็คข้อนี้ จะใช้ได้กับผู้ชายที่พอรู้จักคนรอบตัวของสาวคนที่คุณสนใจเท่านั้นนะครับ หากมีคนรู้จักร่วมกันบ้าง มันก็จะทำให้การเข้าหาเธอนั้นง่ายขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัวทีเดียว นอกจากถามเพื่อเช็คว่าเธอโสดไหม เรายังสามารถให้คนใกล้ตัวเธอช่วยเป็นสะพานได้ด้วยอีกต่อหนึ่งครับ ซึ่งไม่ต้องขอให้ช่วยอะไรมาก นอกจากช่วยโยนสัญญาณไปหน่อยว่าเรากำลังสนใจอยู่ หากเธอเปิดใจและยังโสดอยู่จริง เราก็จะได้รับคำตอบกลับมาเองครับ ซึ่งช่วงแรกในการเข้าหาก็คงต้องเป็นสเต็ปทักแชทจีบสาวกันก่อนจะไปเดทเจอแบบเจอหน้ากัน
How did her react when you tagged something?
อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วย ดูยังไงว่าโสด วิธีนี้จะใช้ได้เมื่อคุณเริ่มเข้าหาเธอด้วยการทักทายและชวนคุยในเบื้องต้นสักระยะหนึ่งไปบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการคุยผ่านช่องทางไหนก็ตามนับหมดนะครับ เราแนะนำให้ทดลอง Tag อะไรบางสิ่งกับเธอ แต่แน่นอนว่าวิธีนี้ก็ถือเป็นการเปิดไพ่ฝั่งเราด้วยเช่นกันครับ
เมื่อเราเป็นฝ่ายแท็กหาก่อน เธออาจมองได้ว่าเราเปิดเผยและไม่ได้มีผู้หญิงคนอื่นที่คุยจริงจังอยู่ด้วย จึงกล้าแสดงออกอะไรกับเธอลงในที่ Public ครับ ฉะนั้นวิธีนี้ นอกจากเป็นการเช็คว่าเธอโสดไหม ยังเป็นการชี้สถานะของฝ่ายชายเองด้วยเช่นกัน
สำหรับเรื่องการแท็กหา เราต้องเตือนก่อนว่าเป็นวิธีที่เสี่ยงอยู่นิดหน่อยครับ หากรีบร้อนไปเธออาจจะมองว่าคุณเยอะเกิน หรือกลับกันหากเธอไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใด ๆ คุณก็อาจจะ Fail ไปเลยก็ได้ ฉะนั้นหากจะให้ MenDetails แนะนำการแท็กเพื่อเช็คท่าทีของเธอ แต่ไม่ให้ดูเซ้าซี้เกินไป เราแนะนำให้แท็กชื่อจากคอนเทนต์ใน Faceook Page เอาครับ
เช่น หากเธอมีประเด็นที่สนใจหาคำตอบอยู่ ลองช่วยเธอหา แต่แท็กชื่อเธอในเพจแทนที่จะส่งลิงก์ไปให้แล้วดูว่าเธอตอบกลับทางนั้นหรือไม่ หรือหากคุยกันหลังไมค์สักระยะแล้ว จะเทสต์ด้วยการแท็กชวนเธอไปร้านกาแฟ คาเฟ่ ร้านอาหารสักร้านดูก็ได้ครับ ถ้าเธอไม่กังวลหรือไม่มีเรื่องหนุ่มคนอื่นเธอก็จะตอบคุณทางสาธารณะได้เลย หากเป็นในอินสตาแกรม ถ้าเป็นช่วงที่มีเกมใน Story แล้วต้องแท็กเพื่อนหลาย ๆ คนมาเล่น ก็ลองแท็กเธอร่วมอยู่ในนั้นแล้วคอยดูอีกทีว่าเธอ Repost ไหมก็ได้ครับ รายละเอียดเหล่านี้พอจะบอกใบ้ได้ว่าสถานะของเธอเป็นอย่างไร
Ask her out for a date!
สุดท้าย วิธีสำคัญที่จะช่วยให้เราเช็คได้ว่าสถานะของเธอเป็นอย่างไรนั้น คือ ให้เวลาในการทำความรู้จักเธอครับ Take time ไม่ต้องรีบร้อน ดูจากวิธีการคุย การวางตัวและท่าทีที่เธอมีต่อเรา หากพูดคุยกันถึงจุดหนึ่งแล้ว คุณควรชวนเธอออกไปเดทเพื่อที่จะได้ไปลองใช้เวลาร่วมกันจริง ๆ อย่างน้อยสักหนึ่งครั้งครับ หากเธอบ่ายเบี่ยงไม่ยอมไปไหนกับคุณ อาจจะแปลได้ว่าเธอมีคนที่คบหาอยู่ด้วยอยู่แล้วครับ
สำหรับคำถามเรื่องระยะเวลาที่เหมาะสม ควรคุยกันนานเท่าไหร่ก่อนชวนออกเดทนั้น ต้องบอกว่าไม่มีคำตอบที่ตายตัวครับ สาว ๆ บางคนชอบออกเดทให้เร็วเลยจะได้รู้ว่าควรจะคุยต่อหรือขอลาตั้งแต่ต้น สาว ๆ บางคนก็ชอบที่จะพูดคุยทางโซเชียลผ่าน Text ไปเรื่อย ๆ สักเดือนจึงค่อยนัดเจอ เราจะประเมินเองได้แม่นที่สุดแล้วครับ แต่ถ้าจะให้แนะนำระยะเวลาที่อยู่กึ่งกลางที่สุด MenDetails มองว่าคุยทางโซเชียลสัก 3 อาทิตย์ก็น่าจะลองโยนหินถามทางเรื่องเดทได้แล้วครับ ช่วงเวลาก่อนออกเดทกันจริง บางคนอาจไม่นับเป็นการจีบเต็มตัว แต่หลังจากเดทกันไปครั้งหนึ่งแล้ว เรามั่นใจว่าผู้ชายทุกคนจะรู้ได้เองครับว่ากับสาวคนนี้ ‘เราลุยต่อได้เลยไหม’
ระหว่างการออกเดทก็จะมีรายละเอียดปลีกย่อยให้สังเกตอยู่เยอะครับ เราเชื่อว่าการเดทจะทำให้รู้ว่าสถานะของเธอน่ะโสดอยู่จริง หรือยังโสดแบบมีตัวเลือกอยู่ หากระหว่างที่เดทกัน เธอจับโทรศัพท์บ่อย ๆ พูดคุยกับคนอื่นตลอดระหว่างการเดท อาจตีความได้ว่าเธอยังมีหนุ่ม ๆ คนอื่นอยู่ก็เป็นได้ หรือลองสังเกตดูว่าถ้าจะถ่ายรูปแล้วหันไปทางเธอ เธอมีปฏิกิริยาอย่างไร ซึ่งไม่จำเป็นต้องอัพลงโซเชียลมีเดียนะครับ แค่ทดสอบท่าทีดูก็พอ
ยิ่งถ้าเป็นการชวนออกเดทในช่วงเทศกาล ยิ่งเป็นตัวบอกได้ชัดเจนเลยว่า เธอโสด เปิดไฟเขียวให้เราอยู่หรือไม่ จะเป็นช่วงวันวาเลนไทน์ วันลอยกระทง วันคริสมาสต์อะไรก็ตาม ลองดูครับว่าวันนั้นเธอใช้เวลากับใคร หรือถ้าชวนเธอออกเดทในวันเหล่านั้นเธอตอบตกลงไหม และในอีกทางการที่เราชวนเธอไปไหนในวันสำคัญ ๆ ก็เป็นการออกตัวว่าคุณเองก็โสดจริง ๆ จีบเธอจริงเช่นกันครับ
แม้ความสัมพันธ์ในยุคนี้จะยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้น แต่มันก็ยังมีวิถีเดิม ๆ ในการจีบสาวซ่อนอยู่เสมอครับ หากเราแสดงความจริงใจออกไป เป็นคนเสมอต้นเสมอปลายเรื่องความใส่ใจ ถ้าเธอโสดอยู่จริงก็มีโอกาสที่เธอจะเปิดใจให้เราอย่างแน่นอน เพียงแต่เช็คก่อนจีบให้ดีครับว่าสาวคนที่เราชอบนั้นไม่ได้มีเจ้าของเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้วใช่ไหม เพื่อที่เราจะได้เดินหน้าจีบได้อย่างสบายใจนะครับ