มะเขือเทศควรกินวันละกี่ลูก

รู้หรือไม่ การกินมะเขือเทศให้ได้ประโยชน์สูงสุดต้องเป็นมะเขือเทศที่เป็นผลิตภัณฑ์มะเขือเทศเข้มข้น นั่นก็เพราะว่ามะเขือเทศเมื่อผ่านความร้อนและกระบวนการสกัดต่างๆ จะยิ่งทำให้ไลโคปีนถูกปล่อยออกมามากกว่ามะเขือเทศที่เป็นมะเขือเทศสดๆ และการกินมะเขือเทศสดๆ ยังเป็นวิธีการที่ได้ประโยชน์จากมะเขือเทศได้น้อยที่สุดอีกด้วย ประโยชน์สูงสุดที่จะได้จากมะเขือเทศ เรียงตามลำดับต่อไปนี้ ผลิตภัณฑ์มะเขือเทศเข้มข้น > มะเขือเทศผง > ซอสมะเขือเทศ >น้ำ มะเขือเทศ > ซุปมะเขือเทศเข้มข้น > มะเขือเทศปรุงสุก > มะเขือเทศสด ( มากกว่า > น้อยกว่า )

มะเขือเทศ กินตอนไหนดีที่สุด ?

โดยปกติทั่วไปแล้ว มะเขือเทศ กินตอนไหนดีนั้น มักจะได้รับคำแนะนำให้กิน หรือ ดื่มน้ำมะเขือเทศ หลังอาหาร เพราะว่า ไคโลปีนในน้ำมะเขือเทศจะได้ช่วยละลายไขมันได้ง่ายขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่า กินมะเขือเทศตอนเย็นมีผลเสียเพราะว่าในมะเขือเทศ มีกรดออกซาลิกเป็นจำนวนมาก 

ซึ่งกรดออกซาลิกส่งผลเสียต่อการเผาผลาญโซเดียมและน้ำในร่างกาย อาจส่งผลให้เกิดอาการบวมตามมาได้ เวลาที่แนะนำจึงเป็นช่วงหลังอาหาร เช้า หรือเที่ยง แต่ที่แนะนำเป็นพิเศษหรือช่วงเช้าก่อนอาหาร เพราะว่ากรดอินทรีย์ในมะเขือเทศ จะช่วยควบคุมการทำงานของกระเพาะอาหารช่วยระบบย่อยอาหารและตับอ่อน แต่ให้ระวังเรื่องการกินมะเขือเทศก่อนแปรงฟัน เพราะมีกรดอาจทำลายสารเคลือบฟัน ได้

ข้อมูลทางโภชนาการในมะเขือเทศ 100 กรัม

มะเขือเทศมีน้ำอยู่ประมาณ 95% อีก 5% เป็นส่วนประกอบๆอื่นๆเช่น ไฟเบอร์และคคาร์โบไฮเดรตรต

  • แคลอรี่ 18
  • น้ำ 95%
  • โปรตตีน 0.9 กรัม
  • คาร์โบไฮเดรต 3.9 กรัม
  • น้ำตาล 2.6 กรัม
  • ไฟบเอร์ 1.2 กรัม
  • ไขมัน 0.2 กรัม

นอกจากนี้ในมะเขือเทศ 1 ลูกยังเต็มไปด้วย วิตามินซี 28% โพแทสเซียม วิตามิน K1 โฟเลตหรือ วิตามินบี 9 อีกด้วย

มะเขือเทศ ประโยชน์มากมายที่ไม่ควรมองข้าม

มะเขือเทศ ประโยชน์มากมายเป็นพืชตระกูลผักลูกกลมสีแดงสดใสมักนิยมนำมาประกอบอาหาร เครื่องเคียงตัดรสชาติ หรือกินสดๆ มีวิตามินสูง แถมยังมีสารสำคัญที่ ชื่อว่า ไลโคพีน (Lycopene) อยู่ด้วย ซึ่งเจ้าตัวนี้แหล่ะ เมื่อสกัดออกมาจะสามารถบรรเทาภาวะต่อมลูกหมากโตได้ 

โดยไลโคพีนจะเข้าไปยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์ต่อมลูกหมาก หยุดการทำงานเอนไซม์ 5 Alpha reductase และหยุดการสร้าง Androgen receptor และทำให้ค่า PSA ซึ่งเป็นค่าที่ชี้วัดความผิดปกติของต่อมลูกหมากลดลง นอกจากนั้นสารไลโคพีนยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยให้ร่างกายไม่แก่เร็วอีกด้วย
มีการวิจัยพบว่า การรับประทานผลไม้สีแดงที่มีสารโครบีนอยู่มาก เช่น มะเขือเทศ ในปริมาณ 15 มิลลิกรัม ต่อวัน ติดต่อกันนาน 3 – 6 เดือน จะช่วยป้องกันการขยายตัวของต่อมลูกหมาก และควบคุมค่า PSA ให้ปกติ นอกจากนี้ยังพบว่าไลโคพีนยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก อีกทั้งยังช่วยลดขนาดและยับยั้งการลุกลามของเซลล์มะเร็งต่างๆ

1.ป้องกันความเสียหายจากบุหรี่

มะเขือเทศนั้นมีสารที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันร่างกายจากผลเสียต่างๆของควันบุหรี่ อย่างกรดคูมาริก ทำให้ผู้ที่แพ้ควันบุหรี่ หรือคนที่ไม่แพ้ป้องกันควันบุหรี่ได้ดีขึ้น

2.ป้องกันมะเร็ง

มีการศึกษาเชิงสังเกตเกี่ยวกับมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาะอาหาร ผลลัพธ์คือ มะเขือเทศทำให้ลดความเสี่ยงของมะเร็งเหล่านี้ได้

3.ป้องกันเบาหวาน

มะเขือเทศมีส่วนช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือด และลดความเสียหายของเนื้อเยื่อในร่างกาย ที่เป็นสาเหตุของโรคเบาหวานได้

4.ดีต่อหัวใจ

มีการทดลองทางคลินิกเกี่ยวกับไลโคปีนในมะเขือเทศ พบว่าไลโคปีนช่วยลดไขมันเลว (LDL) ได้ และยังมีการศึกษาที่แสดงให้เห้นว่าสามารถช่วยปกป้องหลอดเลือดชั้นในได้ และอาจช่วยลดความเสี่ยงการแข็งตัวของเลือดอีกด้วย

5.บำรุงผิว

ไลโคปีนในมะเขือเทศอาจช่วยป้องกันการถูกแดดเผาได้ในระดับนึง แต่ไม่สามารถใช้แทนครีมกันแดดได้

6.บำรุงกระดูก

ไลโคปีนในมะเขือเทศอาจมีส่วนช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้ เนื่องจากมะเขือเทศเต็มไปด้วยแคลเซียมและวิตามินเค ที่อาจมีส่วนช่วยเสริมสร้างกระดูก

7.ดีต่อระบบย่อยอาหาร

เนื่องจากในมะเขือเทศนั้นเต็มไปด้วยเส้นใยไฟเบอร์ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมระบบย่อยอาหาร ป้องกันการท้องผูก การกินมะเขือเทศหลังอาหารเลยอาจจะมีส่วนช่วยให้ย่อยได้ง่ายขึ้น

8.ลดน้ำหนัก

เนื่องจากมะเขือเทศมีสารที่เรียกว่า คาร์นิทีน ซึ่งช่วยในการเผาผลาญไขมันในร่างกาย และยังมีไฟเบอร์ดีต่อระบบย่อยอาหาร เลยยิ่งทำให้ลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้น และผิวยังสุขภาพดีอีกด้วย

มะเขือเทศ อันตรายไหม ถ้ากินทุกวัน

เมื่อรู้ว่ามะเขือเทศ กินตอนไหนดีแล้ว แต่ตใช่ว่าจะกินเท่าไหร่ก็ได้โดยทั่วไปแล้วมะเขือเทศดีต่อสุขภาพก็จริง แต่เคยได้ยินคำนี้ไหม อะไรที่มากไปไม่เคยดี มะเขือเทศก็เป็น 1 ในนั้นด้วย โดยเฉพาะในอาหารเสริมเกี่ยวกับมะเขือเทศที่หาได้ทั่วโลก ถ้าจะเลือกกินอาหารเสริมที่มีส่วนผสมจากมะเขือเทศช่วยปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือ ทำตามคำแนะนำของอาหารเสริมนั้นๆ เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับไลโคปีนจากมะเขือเทศมากเกินไป หากกินมะเขือเทศมากเกินไป คุณอาจจะเจอปัญหาเหล่านี้ตามมา

1.ภูมิแพ้

มะเขือเทศมีสารที่เรียกว่า ฮีสตามีน ซึ่งการได้รับสารประกอบนี้มากเกินไปอาจนำไปสู่ผื่นหรือภูมิแพ้ได้ และถ้าแพ้มะเขือเทศอยู่แล้ว อาจนำไปสู่ภาวะที่รุนตามมาเช่น การบวมของ ลิ้น ปาก และใบหน้า ได้

2.ท้องเสีย

อาหารนี้เกิดขึ้นได้ยากกับคนที่ไม่มีอาการแพ้มะเขือเทศ แต่ถ้าเกิดกินมะเขือเทศแล้วเกิดท้องเสีย นั่นอาจแสดงว่าคุณมีอาการแพ้มะเขือเทศได้ เพราะในมะเขือเทศมีเชื้อแบคทีเรียซัลโมเนลล่า ที่ส่งผลให้ท้องร่วงได้นั่นเอง

3.ไลโคเพนโอเมีย

อาการนี้เกิดจากการกินมะเขือเทศ หรืออาหารเสริมไลโคปีนมากเกินไป ทำให้สีผิวเปลี่ยน แต่ไม่ได้เปลี่ยนเป็นสีขาวแต่อย่างใด แต่กลับเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แต่อาการจะดีขึ้นเมื่อหยุดกินมะเขือเทศหรืออาหารที่มีไลโคปีน

4.ปวดข้อต่อ

การกินมะเขือเทศมากเกินไปอาจนนำไปสู่การเพิ่มของโซลานีน ซึ่งเมื่อโวลานีนเยอะเกินไป จะทำให้เกิดการอักเสบได้

5.กรดไหลย้อน

มะเขือเทศมีกรดที่อาจทำให้กระเพาะอาหารมีความเป็นกรดมากเกินไป อาจนำไปสู่กรดไหลย้อนได้

6.นิ่วในไต

มะเขือเทศอุดมไปด้วยแคลเซียมและออกซาเลต เมื่อเข้าสู่ร่างกายมากเกินไป จะทำให้ระบบเผาผลาญกำจัดออกจากร่างกายไม่ทัน และสะสมทำให้เกิดนิ่วในไตได้

ไลโคปีนตัวช่วยอย่างดีในมะเขือเทศ

ไลโคปีน ( Lycopene ) คือ สารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมมาชาติ ในตระกูลแคโรทีนอยด์ เป็นตัวสร้างเม็ดสีอย่าง สีแดงและสีชมพูในผลไม้ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มักพบในมะเขือเทศ ส้มโอ และแตงโม เป็นต้น นอกจากมีคุณสมบัติหลักในการสร้างเม็ดสีแล้ว ไลโคปีนยังเป็น 1 ในสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติที่เรียกได้ว่าทรงพลังที่สุดเลยก็ว่าได้ และที่สำคัญ แม้จะถูกความร้อน ก็ยังคงประสิทธิภาพอยู่เหมือนเดิม อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับไลโคปีน

มะเขือเทศป้องกันผู้ชายจากโรคที่ต้องเป็นเมื่ออายุมากขึ้น

การรู้ว่ามะเขือเทศ กินตอนไหนดีนั้นนอกจากต่อคนทั่วไปแล้วยังดีต่อผู้ชายที่อายุเยอะอีกด้วย เพราะสามารถป้องกันต่อมลูกหมากโต ที่อาจะพัฒนาต่อไปเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากโต หรือ โรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะอื่นๆตามมา ต่อมลูกหมากโต คือภาวะที่อวัยวะหนึ่งในระบบสืบพันธุ์ชื่อ “ต่อมลูกหมาก” เกิดการขยายตัวใหญ่ขึ้นจนไปเบียดบัง “ท่อปัสสาวะ” ส่งผลให้ท่อปัสสาวะตีบและมีขนาดเล็กลง จนทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการปัสสาวะติดขัด ปัสสาวะไม่ออก ไม่พุ่ง รู้สึกว่าต้องใช้แรงเบ่ง แถมเบ่งยาก หากอาการหนักมากอาจมีอาการปัสสาวะเล็ดและปัสสาวะเป็นเลือดด้วย
โดยโรคนี้เกิดขึ้นแต่กับผู้ชายเท่านั้น โรค ต่อมลูกหมาก โต เป็นโรคสามัญประจำเพศชาย เพราะการสำรวจพบว่า ผู้ชายวัย 40 ปีขึ้นไป มีความเสี่ยงสูง 30% และมีความเสี่ยงมากขึ้นเรื่อยๆถึง 80% จนถึงอายุ 60และ70 ปี อัตราเสี่ยงอาจเพิ่มมากขึ้นหากมีพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องร่วมด้วย แต่มะเขือเทศสามารถช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันต่อมลูกหมากโตได้และมีการศึกษาจากผู้ชายกว่า 47,365 คนแล้วว่าไลโคปีนในมะเขือเทศนั้นช่วยรักษาต่อมลูกหมากโตได้จริงๆอีกด้วย

แหล่งอ้างอิงข้อมูล

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

flow chart แสดงขั้นตอนการปฏิบัติงาน lmyour แปลภาษา กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่เรือ การเขียน flowchart โปรแกรม ตัวรับสัญญาณ wifi โน๊ตบุ๊คหาย ตัวอย่าง flowchart ขั้นตอนการทํางาน ผู้แต่งกาพย์เห่ชมไม้ ภูมิปัญญาหมายถึง มีสัญญาณ wifi แต่เชื่อมต่อไม่ได้ เชื่อมต่อแล้ว ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ /roblox promo code redeem 3 พระจอม มีที่ไหนบ้าง AKI PLUS รีวิว APC UPS APC UPS คือ Adobe Audition Adobe Bridge Anapril 5 mg Aqua City Odaiba Arcade Stick BMW F10 jerk Bahasa Thailand Benz C63 ราคา Bootstrap 4 Bootstrap 4 คือ Bootstrap 5 Brackets Brother Scanner Brother iPrint&Scan Brother utilities Burnt HD C63s AMG CSS เว้น ช่องว่าง CUPPA COFFEE สุราษฎร์ธานี Cathy Doll หาซื้อได้ที่ไหน Clock Humidity HTC-1 ColdFusion Constitutional isomer Cuppa Cottage เจ้าของ Cuppa Cottage เมนู Cuppa Cottage เวียงสระ DMC DRx จ่ายปันผลยังไง Detroit Metal City Div class คือ Drastic Vita