ถือเป็นช่วงเวลามาตรฐานที่ช่างแอร์ส่วนใหญ่แนะนำให้ล้างแอร์ครับ เพราะโดยปกติแล้วเราจะเปิดแอร์กันเฉลี่ยวันละ 8 ชั่วโมง เมื่อใช้งานผ่านไป 3 – 6 เดือน พัดลมแอร์จะเริ่มมีฝุ่นมาเกาะหนาจนทำให้ลมไม่สามารถออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้ทุก 6 เดือนหรือปีละ 2 ครั้งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการล้างแอร์นั่นเองครับ
รอจนแอร์ไม่เย็น
ในสำหรับบางบ้านที่เพิ่งล้างแอร์ไปได้ไม่นาน กลับพบว่าแอร์ไม่เย็นเหมือนตอนล้างใหม่ๆ ซะแล้ว หรือบางบ้านผ่านไปเกิน 6 เดือนแอร์ก็ยังทำความเย็นได้เป็นปกติไม่มีปัญหาอะไร ที่เป็นเช่นนี้เป็นเพราะปริมาณการใช้งาน หากใช้บ่อยครั้งและนานก็ย่อมส่งผลให้มีฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกเข้าไปมากกว่า อีกปัจจัยหนึ่งคือตำแหน่งที่อยู่อาศัย ถ้าบ้านตั้งอยู่ห่างจากถนน หรือบริเวณที่มีฝุ่นละอองน้อย ก็จะทำให้แอร์เย็นได้นานครับ ทำให้บางบ้านไม่สามารถกำหนดเวลาการล้างแอร์ได้แน่นอน
สรุปแล้วล้างตอนไหนดีกว่ากัน?
ถ้าจะให้ฟันธงไปเลยว่าแบบไหนดีกว่ากันก็คงจะไม่ได้ครับ เพราะขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน และสภาวะแวดล้อมของแต่ละสถานที่ แต่ถ้าตามมาตรฐานแล้วก็ควรล้างอย่างน้อยทุก 6 เดือนครับ การล้างแอร์นอกจากจะทำให้บ้านเย็นฉ่ำแล้ว ยังช่วยทั้งประหยัดค่าไฟอย่างน้อย 10% ยืดอายุการใช้งาน แถมยังช่วยป้องกันเชื้อโรคให้กับคนในครอบครัวอีกด้วยนะครับ
แต่ไม่ว่าจะล้างทุก 6 เดือน หรือรอจนแอร์ไม่เย็น ก็มาใช้บริการล้างแอร์กับ Butler ได้นะครับ เรามีช่างแอร์มืออาชีพคอยบริการให้กับคุณในราคาที่เป็นกันเอง โดยที่คุณสามารถกำหนดวันเวลาล่วงหน้าได้ผ่านแอปพลิเคชัน “DIGITAL BUTLER” บน App Store และ Google Play ได้เลยครับ
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ที่: //bit.ly/pr-origin
#Alwaysatyourservice #ใช้ชีวิตให้ง่ายในแอปเดียว
หากคุณมีเรื่องราวไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจ ที่ต้องการประชาสัมพันธ์ในเวบไซต์ Alive Around ของเรา ไม่ว่าจะเป็นการอัพเดทเทรนด์แฟชั่น ความงาม ร้านอาหาร คาเฟ่สุดชิค แหล่งท่องเที่ยว หรือสถานที่แฮงค์เอ้าท์สุดคูล เทรนด์การตกแต่งบ้าน งานศิลปะ การออกแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ หรือแม้แต่ข่าวสาร และเกร็ดความรู้ในวงการอสังหาริมทรัพย์ งานอีเว้นท์ เทคโนโลยี แก็ดเจ็ตใหม่ล่าสุด ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ สามารถติดต่อกับทีม Admin ของเราได้ที่ www.alivearound.com โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
- แท็ก
- ล้างแอร์
- ล้างแอร์ตอนไหนดี
Google+
LINE
บทความก่อนหน้านี้ทำอย่างไรเมื่องานบ้านเป็นปัญหาของคนยุคปัจจุบัน
บทความถัดไปBioLite Campstove 2 เตาแคมป์ปิ้งไฮเทค [PR]
ฟีนิกซ์ 4.0
นักเขียนลึกลับที่กำลังจะแจ้งเกิดตัวเองเปรียบเหมือนนกฟีนิกซ์เป็นสัญลักษณ์ของการมีชีวิตเป็นอมตะ การฟื้นคืนชีพ
เจ้าของเครื่องปรับอากาศบางคนทั้งที่เพิ่งซื้อเครื่องปรับอากาศ และทั้งที่ซื้อมานานแล้วย่อมตระหนักดีว่าพวกเข้าต้องล้างเครื่องปรับอากาศเมื่อถึงรอบเวลา เพราะการล้างเครื่องปรับอากาศนั้นถือเป็นการซ่อมบำรุงที่สำคัญอย่างหนึ่ง โดยเป็นที่รู้กันว่าการล้างแอร์ตามรอบเวลานั้นให้ประโยชน์หลายอย่าง อาทิ ช่วยประหยัดพลังงาน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน หรือแม้แต่การให้อากาศที่สะอาดปราศจากสิ่งสกปรกที่สะสมอุดตันตามแผ่นกรอง
โดยทั่วไปแล้วระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการล้างเครื่องปรับอากาศ ก็คือปีละ 2 ครั้ง หรือหกเดือนครั้งนั่นเอง นี่คือคำแนะนำที่ร้านแอร์ทั่วไปจะแนะนำคุณ ทั้งนี้ก็มีปัจจัยที่ส่งผลต่อรอบเวลาการล้างเครื่องปรับอากาศของคุณเช่นกัน
- ลักษณะการใช้งาน : เพราะแต่ละบ้านมีการใช้งานเครื่องปรับอากาศที่แตกต่างกัน บางบ้านเปิดทุกวันในตอนกลางคืน บางบ้านเปิดวันละชั่วโมง หรือบางที่อาจเปิดแค่เดือนละไม่กี่วัน ไปจนถึงเปิดทัื้้งวันทั้งคืนในบางบริษัท หากใช้งานมากเป็นธรรมดาที่คุณจจะต้องล้างถี่กว่า อาจต้องล้างปีละ 3 ครั้งเป็นต้น
- ลักษณะสภาวะแวดล้อม : แน่นอนว่าถ้าบ้านคุณอยู่ต่างจังหวัดไร้ซึ่งมลภาวะ แผ่นกรองในเครื่องปรับอากาศย่อมใช้เวลานานในการสะสะสมสิ่งสกปรกมากกว่า บ้านที่อยู่ใกล้บริเวณที่มีฝุ่นละออกหนาแน่น ที่เมื่อมีการดูโอากาศนั้นมากรองย่อมทำให้ฟิลเตอร์เต็มโดยง่าย เช่น หากบ้านคุณอยู่ในที่ที่กำลังก่อสร้างถนนอยู่ อาจจะต้องล้างกันสองเดือนครั้งเลยทีเดียว
ซึ่งสองลักษณะนี้เป็นสองสิ่งหลักที่มีผล แต่ก็ยังมีปัจจัยเล็กน้อยอีกมากมาย ซึ่งทาง DAS Inter Group จะนำข้อมูลที่มีประโยชน์ให้คุณได้ติดตามกันค่ะ
บทความที่แล้วนั้น ได้นำเสนอ วิธีการ ล้างแอร์ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องใช้น้ำ ไปแล้ว ซึ่งเป็นการล้างคอยล์เย็น หรือตัวเครื่องปรับอากาศในห้อง ซึ่งในคราวนี้ จะพูดถึง การล้างคอยล์ร้อน ที่ใครๆก็ไม่กล้าล้าง เพราะกลัวอันตราย และกลัวจะไปทำให้อุปกรณ์ภายในเสียหาย แต่ไม่ต้องกลัว เพราะเรามีภาพประกอบ
เหมือนเดิม ขอบคุณข้อมูลดีๆจา Pantip.com พร้อมรูปภาพประกอบทั้งหมดเป็นอย่างสูง
เริ่มล้างคอยล์ร้อนกันเลยดีกว่า
- ไขควง 4 แฉก 1 ตัว
- ถุงพลาสติกใบใหญ่ สำหรับคลุมแผงวงจรไฟฟ้า 1 ใบ
1. ยกเบรคเกอร์ตัดไฟเข้าแอร์ก่อน
2. เอาไขควงถอดน็อตฝาครอบคอล์ยร้อน 3 ตัวดังรูป น็อตอีก 2 ตัว จะอยู่ที่อีก 2 ด้านที่เหลือ
3. เปิดฝาครอบคอล์ยร้อนออก จะเจอไส้ในอย่างนี้ จะเห็นท่อ PVC สีเทาที่ต่อน้ำทิ้งแอร์มาหยดใส่คอล์นร้อน
4. เริ่มทำการล้างคอยล์ร้อนตามรูปด้านล่างได้เลย
กะละมังใต้คอล์ยร้อนนั่น ไว้รองน้ำทิ้งจากแอร์ที่หลังจาก
หยดใส่แผงระบายความร้อนแล้วจะตกลงไปที่กาละมัง
สภาพแผงระบายความร้อนอีกด้านหนึง
ด้านในแผงระบายความร้อน ก่อนล้าง
แสดงแผงวงจรสำคัญของระบบ Inverter ที่แปลงไฟกระแสสลับ
เป็นไฟตรง แผงนี้ต้องกันไม่ให้โดนน้ำ ต้องป้องกันน้ำกระเด็นใส่
ที่เห็นเป็นครีบๆนั่นเป็นแผงระบายความร้อนของวงจรแปลงไฟสลับ
เป็นไฟตรง อย่าให้น้ำโดนจะดีมาก
เอาถุงพลาสติกคลุมซะ
ฉีดจากด้านในไปด้านนอก ไม่ต้องใช้น้ำที่แรงมากนัก
ปรับน้ำให้เป็นเส็นๆแรงๆ ฉีดให้ทั่วๆ
ฉีดแผงด้านนอก เวลาฉีดให้พยายาม ฉีดในแนวดิ่ง
เอียงนิดๆเพื่อให้น้ำชะล้างฝุ่นจากบนลงล่าง
ฝุ่นจะไม่เข้าไปด้านในของแผง
ฉีดจากบนลงล่าง เฉียงๆ
ได้แผงระบายความร้อนเอี่ยมๆแบบนี้ จะได้ระบายความร้อนออกได้ดี
แอร์เย็นๆ กินไฟน้อย สะอาดเอี่ยม
5. เสร็จแล้วก็ ใส่ฝาครอบคืน ขันน็อต 3 ตัวเข้าที่ ไปยกเบรคเกอร์ต่อไฟเข้าแอร์ แล้วเปิดลองได้เลย รับรองแอร์เย็นเร็ว ประหยัดไฟแน่
ทั้งหมดนี้ 10 นาทีไม่เกิน คุณผู้หญิงก็ทำได้ ล้างบ่อยๆยิ่งดีแอร์จะไม่กินไฟ
เชียงใหม่แอร์แคร์เอ็นจิเนียริ่ง
จำหน่าย ติดตั้ง รับเหมา วางระบบ เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น จำหน่ายอะไหล่แอร์ราคาส่งทั่วประเทศ พร้อมบริการหลังการขายครบครัน