เป็นการผ่าตัดที่นิยมทำกันมาที่สุด และสร้างชื่อเสียงให้กับทีมแพทย์ของเราเสมอมา การผ่าตัด สามารถทำได้โดยเทคนิคที่ไม่เจ็บปวด บวมน้อย และปลอดภัย การเสริมจมูกสามารถเสริมได้ด้วยวัสดุ3 ชนิดคือ
1.การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนทางการแพทย์
2.การเสริมจมูกด้วยเกอร์เทค (Gore-Tex)
3.การเสริมจมูกด้วย ไขมัน หรือ กระดูกอ่อนใบหูของตัวเอง
การผ่าตัด เสริมจมูก ดั้งจมูก ด้วยซิลิโคน ?
การผ่าตัดเสริมบริเวณดั้งจมูก แก้ไข คนที่ดั้งจมูกไม่โด่ง และสามารถแก้ไขยกปลายจมูกให้สูงขึ้น สวยขึ้นได้พอสมควร ตามรูปทรงของซิลิโคน
วิธีผ่าตัดเสริมจมูก ?
1.แผลแบบที่อยู่ในรูจมูกส่วนใหญ่ของการทำจมูกทำจากแผลในรูจมูกไม่มีแผลให้เห็นจากด้านนอกแพทย์จะเย็บด้วยไหมละลาย ซึ่งหลุดออกไปเองภายใน 3 สัปดาห์
2.แบบ แผลที่อยู่ด้านนอกจมูก
• เหมาะสำหรับกรณีที่ต้องการแก้ไขปลายจมูก ด้วยการเสริมกระดูกอ่อนจากใบหู
• การแก้ไขจมูกที่ฉีดมาแล้วมีพังผืด รัดแน่นบริเวณปลายและดั้งจมูก
• จมูกที่ถูกแก้ไขมาแล้วหลายครั้งทำให้กระดูกอ่อนผิดรูปไป
• เมื่อแพทย์ได้ตรวจลักษณะจมูกแล้วจะทำการวัด ขนาดความยาวจมูกและ ถามถึงความต้องการว่าต้องการโด่งแค่ไหน ปลายสูงแค่ไหน ในบางกรณีอาจไม่ได้ตามความต้องการทั้งหมด เนื่องจากเนื้อของจมูกไม่สามารถรับกันได้ ทำไปแล้วอาจะมีปัญหาตามมา
• ขณะผ่าตัดจะได้ยาสลบ และยาชาเฉพาะที่ ทำให้ไม่รู้สึกปวดขณะผ่าตัดเลย
• แผลจะเย็บด้วยไหมละลาย ซึ่งจะหลุดออกเองได้เมื่อเวลาผ่านไป 3 สัปดาห์
การดูแลหลังการผ่าตัด ?
• ประคบเย็นทันทีบริเวณหน้าผาก และโหนกแก้ม ห้ามประคบบริเวณสันจมูก วันละ 5 ครั้ง ครั้งละ 15 นาที ใน 3 วันแรก หลังการผ่าตัด
• อาการบวมจะมาไม่มากในวันแรก แต่วันที่2จะบวมกว่าวันแรก วันที่ 3-4 จะบวมกว่าวันที่ 2
• หลังจาก 3-4 วันแผลจะแห้งและยุบบวมลง ดูสวยงามภายใน 1-2 เดือน
• ห้ามแผลโดนน้ำ2วันให้ทำความสะอาดโดยใช้ผ้านุ่มๆเช็ดทำความสะอาด
• หลังจาก 2 วันแล้ว สามารถล้างหน้าได้ตามปกติ แล้วใช้ผ้านุ่มๆซับให้แห้ง ห้ามถูบริเวณแผล
• แกะพลาสเตอร์ออกได้หลังผ่าตัด 2 วัน
• ควรนอนหน้าตรง หัวสูง (หมอนสูงซ้อนกัน2ใบ) เพื่อให้เลือดไหลเวียนสู่หัวใจได้สะดวก จะยุบบวมเร็วขึ้น
• งดใส่แว่นตา 2 อาทิตย์
• หลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนที่จมูก 1 เดือน
• งดอาหารเผ็ด อาหารหมักดอง แอลกอฮอล์ บุหรี่
ชนิดของซิลิโคนจมูก ?
ซิลิโคนที่นำมาเสริมจมูก ต้องเป็นซิลิโคนเฉพาะทางการแพทย์ มีความปลอดภัยไม่ทำอันตรายแก่ร่างกาย ราคาจะสูงซิลิโคนที่ใช้ในอุตสาหกรรม สามารถแบ่งซิลิโคนเป็นหัวข้อได้ดังดังนี้
1.แบบสำเร็จรูป
2.แบบเหลาเอง
แบบสำเร็จรูป
มีข้อดีคือ ได้ทรงแน่นอน โอกาสเอียงน้องและมีแบบนุ่มมากให้เลือกใช้ ส่วนข้อเสียคือ มันเหมือนรองเท้าซินเดอเรล่า คือพอดีกับบางจมูกเท่านั้น เพราะเหลา ปรับทรงให้ต่างไปจากที่ขึ้นรูปมายาก ส่วนแบบเหลามันจะแข็งกว่าแบบสำเร็จรูป มีข้อดีคือสามารถปรับแต่งทรงให้เข้าเหมาะกับคนไข้ คนๆหนึ่งได้มากกว่า ส่วนข้อเสียคือ หมอศัลยกรรมต้องเหลาให้เนียน ไม่งั้นทรงที่ออกมาจะไม่สวย ถูกใจ ทั้ง 2 แบบ มีความปลอดภัยเท่ากัน ทั้ง 2 แบบ ยุบบวมไวหรือช้าพอกัน แต่การทำจมูกต้องใจเย็นๆ ถ้าทำแบบธรรมชาติแรกๆอาจะไม่โด่งมากแต่พอผ่านไป 6 เดือนจะรู้สึกโด่งขึ้นอีกเยอะดังนั้นถ้าดูโด่งชัดแต่แรกนานๆไปจะกลายเป็นแท่งชัดเจน
การเสริมจมูกด้วย Gore-Tex
Gore-Tex เป็นสารสังเคราะห์ กลุ่ม PTFE ที่ปลอดภัยต่อร่างกาย ถูกนำมาใช้ครั้งแรกกับการผ่าตัดหลอดเลือด เนื่องจากสามารถยึดติดแกนกับร่างกาย ไม่สลายไป จนเมื่อสิบกว่าปีมานี้ ได้มีการนำมาใช้ในการเสริมจมูก
ข้อดีของ Gore –Tex
• ติดแน่นกับร่างกาย ทำให้เชื่อว่ามีโอกาสทะลุน้อยกว่า จับดูแล้วเป็นธรรมชาติมากกว่า
ข้อเสียของ Gore –Tex
• มีโอกาสติดเชื้อได้สูงกว่าการใช้ซิลิโคนเสริม
• ติดแน่นกับร่างกายทำให้แก้ไขลำบาก ในกรณีที่ทำแล้วไม่ถูกใจ
• ค่อนข้างจะแข็ง ทำให้อาจต้องเสริมด้วยปลายเนื้อจากใบหูเพื่อให้ปลายดูเป็นธรรมชาติ
• ราคาวัสดุแพงกว่าซิลิโคนมาก
Set A : ซิลิโคนนิ่ม เกรด A
ชนิด A จะทำให้ปลายจมูกงอนขึ้น เน้นตรงปลายให้โค้งมนเฉิดขึ้นตามต้องการ เหมาะกับคนทรงจมูกได้รูปอยู่แล้ว แต่ต้องการปลายที่มากขึ้นครับ จะเป็นปลายเฉี่ยวๆ
ชนิด B เน้นเป็นธรรมชาติ
ชนิด C เน้นปลายมากขึ้น ให้จมูกงอนขึ้นอย่างมาก จะเห็นได้ว่าส่วนหัวจะค่อนของใหญ่เน้นนูนเป็น slope งอนเชิดขึ้น เหมาะกับคนที่ปลายจมูกหนาๆ กลมมน ไม่เป็นปลายหยดน้ำ แล้วอยากที่จะให้มีปลายจมูกที่ดูเข้ารูปมากขึ้น
ชนิด D ลักษณะจะคล้ายชนิด A แต่ปลายจะตวัดงอนขึ้น เหมาะกับคนที่ทรงจมูกดีอยู่แล้ว แต่อยากได้ปลายตวัดขึ้น( ชนิด A จะเฉี่ยว แหลมตรง พุ่งลงล่าง แต่ชนิด D จะตวัดขึ้นเล็กน้อย)
ในปัจจุบันการทำศัลยกรรมเป็นที่นิยมอย่างเปิดกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำศัลยกรรมเสริมจมูก ดังนั้นการดูแลตัวเองหลังการทำศัลยกรรมเสริมจมูกจึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะจะช่วยลดผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาการอักเสบ จมูกเบี้ยว อาการบวม หรือในบางรายอาจจะถึงขั้นจมูกทะลุเลยก็เป็นได้
1.ห้ามแผลโดนน้ำ 7 วัน สิ่งสำคัญที่เน้นย้ำในการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูก คือการเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำ เพราะหากแผลเปียกหรืออับชื้นจะทำให้มีการอักเสบและติดเชื้อได้ง่าย ดังนั้นคนไข้สามารถใช้ผ้าชุบน้ำหรือสำลีเช็ดบริเวณใบหน้าให้สะอาดแทนการล้างหน้าตามปกติ
ส่วนการทำความสะอาดแผลผ่าตัดควรทำหลัง 24 ชั่วโมงขึ้นไป เพื่อให้แน่ใจว่าแผลเริ่มแห้งสนิทแล้ว โดยใช้คอตตอนบัดหรือสำลีพันก้านชุบน้ำเกลือเช็ดรอบๆ หรืออาจใช้สำลีซับเบาๆ บริเวณรอบๆ แผล ที่สำคัญควรทำอย่างเบามือ ห้ามถูอย่างเด็ดขาด
2.ห้ามนอนตะแคง หลังการศัลยกรรมเสริมจมูกในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรก คนไข้จำเป็นจะต้องนอนหงายในแนวราบและยกหัวขึ้นสูงเพื่อช่วยในการไหลเวียนของเลือดซึ่งจะสามารถบรรเทาอาการบวมได้ และที่สำคัญคือ ห้ามนอนตะแคงเด็ดขาด เพื่อป้องกันการเคลื่อนไหว การบิดเอียงของวัสดุที่ใช้เสริมจมูก เช่น ซิลิโคน กระดูกอ่อน เนื้อเยื่อเทียม
คำแนะนำคือ คนไข้สามารถใช้หมอนหรือผ้ารองที่นอนส่วนบนให้สูงขึ้น และใช้หมอนรองคอเอาไว้จากนั้นใช้หมอนอีก 2 ใบวางกั้นซ้ายขวาเพื่อจัดท่าให้นอนหลับได้อย่างสบาย โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเผลอพลิกตัวในขณะหลับนั่นเองค่ะ
3.ห้ามสั่งน้ำมูกแรงๆ ในช่วงแรกหลังการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูก หากคนไข้มีอาการหวัดหรือน้ำมูกไหลจะต้องรับประทานยาแก้แพ้หรือยาลดน้ำมูกทันทีเพื่อป้องกันน้ำมูกไหลมาโดนแผล เพราะเสี่ยงต่อการอักเสบและติดเชื้อได้ ดังนั้นการเตรียมความพร้อมทางร่างกายทั้งก่อนและหลังผ่าตัดศัลยกรรมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน
4.ห้ามแคะ แกะ เกา หรือบิดจมูกเด็ดขาด หลายคนมีความเชื่อว่าซิลิโคนเสริมจมูกที่ดีต้องมีความนิ่มและบิดได้ แต่อย่างไรก็ตามการบิดจมูกก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง แม้ว่าแผลผ่าตัดศัลยกรรมจมูกจะหายดีแล้วก็ตามเพราะอาจทำให้จมูกบิดเอียงได้
นอกจากนี้ในช่วงเวลาหลังผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูกไปจนถึง 3 เดือน คนไข้ต้องระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการกระทบกระแทกจมูก ไม่ว่าจะเป็นการใช้นิ้วมือบีบ ขยี้จมูก ตลอดจนการออกกำลังกายที่เสี่ยงต่อการปะทะอย่างยิ่ง
5.ห้ามเสริมความงามเกี่ยวกับใบหน้าในช่วง 1 เดือนแรก คนไข้จะต้องมีความอดทนต่อความอยากสวยอยากงามทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับใบหน้าเอาไว้ก่อนนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการกดสิว การทำทรีทเม้นท์ หรือแม้กระทั่งการเลเซอร์ผิวหน้าเพราะการใช้เครื่องมือต่างๆ เหล่านี้บนใบหน้าหรือใกล้เคียงกับบริเวณจมูก ในขณะที่แผลอาจยังไม่หายดีอาจจะทำให้เกิดการอักเสบและเกิดผลข้างเคียงอื่นๆ ตามมาได้
ควรอดใจรอเวลาอย่างน้อย 1 เดือนขึ้นไป และแนะนำว่าจะต้องปรึกษาแพทย์ที่ดูแลก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าแผลผ่าตัดเสริมจมูกนั้นหายดีแล้วจริงๆ จึงค่อยมาเสริมสวยจะดีกว่าค่ะ
ไม่ใช่เรื่องยากเลยใช่ไหมค่ะ สำหรับคำแนะนำ 5 ข้อในการปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูก เพียงทำตาม 5 ข้อเพียงเท่านี้ก็จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับการจมูกของคุณ และทำให้คุณมีจมูกที่สวยงามไปตลอดแล้วละค่ะ