เรียนปรึกษาท่านอาจารย์ครับ ผมในนามบริษัท B จำกัด ได้รับหนังสือจาก สนง.สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง ส่งคำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน โดยสิ่งที่ส่งมาด้วยด้วยนั้น เป็นคำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน สนง.สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กทม. จำนวน 1 ชุด โดยหนังสือฉบับดังกล่าว สนง.สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ขอส่งคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานตามคำร้องของ น.ส. A (นามสมมุติ) ซึ่งร้องว่านายจ้าง ไม่จ่ายค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าชดเชย
โดยในรายละเอียดฉบับดังกล่าว มี 2 ประเด็น คือ ประเด็นที่ 1 ลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าหรือไม่ และเป็นจำนวนเท่าใด (ในเอกสารสรุปว่า การที่นายจ้างได้สั่งพักงานลูกจ้าง ตั้งแต่วันที่ xxx จนถึงวันที่ xxx โดยไม่ได้จ่ายค่าจ้างในช่วงเวลาดังกล่าว ย่อมเป็นการเลิกจ้างแล้ว ตามมาตรา 118 วรรคสอง แห่งพระราชบัญติดังกล่าว กรณีนี้ จึงต้องนับวันนที่ xxx เป็นวันที่เลิกจ้าง เมื่อนายจ้างไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า ตามที่กฏหมายกำหนดตามมาตรา 17/1 แห่งพระราชบัญติที่อ้างแล้ว ลูกจ้างจึงมีสิทธิได้รับค่าจ้างแทนการบอกกว่าล่วงหน้า ตั้งแต่วันที่ xxx ถึงวันที่ xxx เป็นเงิน 25,000 บาท)
ประเด็นที่ 2 ลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าชดเชยหรือไม่ และ เป็นจำนวนเงินเท่าใด (ในเอกสารสรุปว่า เมื่อนายจ้างเลิกจ้างลูกจ้าง โดยไม่มีเหตุหนึ่งเหตุใดที่จะไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยแก่ลูกจ้าง ตามมาตรา 118 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พศ 2541 แล้ว ลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าชดเชยสำหรับการทำงานตั้งแต่วันที่ xxx ถึงวันที่ xxx เป็นเงิน 50,000 บาท ตามมาตรา 118 (2) แห่งพระราชบัญบัญติดังกล่าว) *** อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 124 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พศ 2541 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญบัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 2) พศ 2551 พนักงานตรวจแรงงานจึงมีคำสั่งให้บริษัท B จำกัด โดยกรรมการผู้มีอำนาจ จ่ายค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าชดเชย ให้แก่ลูกจ้างผู้ร้อง เป็นเงิน 75,000 บาท ทั้งนี้ ให้นำจำนวนเงินดั่งกล่าวไปจ่าย ณ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ภายในสามสิบวันหรือวันที่ทราบหรือถือว่าได้ทราบคำสั่งนี้*** ดั่งนั้น จึงขอเรียนปรึกษากับทางอาจารย์ครับ ว่าบริษัท B จำกัด จำเป็นที่จะต้องจ่ายใช่หรือไม่ และ ถือเป็นที่สิ้นสุดในทางกฏหมายหรือไม่ครับ หากยังอ้างอิงกับข้อกฏหมายใดครับ ขอบคุณครับ
บทลงโทษที่ยอดฮิตที่นายจ้างมักจะลงโทษลูกจ้างนอกเหนือไปจากการเลิกจ้าง คือ การหักค่าจ้าง และ การพักงาน การหักค่าจ้างเราเคยพูดกันไปแล้วว่าทำได้หรือไม่เพียงใด (สามารถหาอ่านได้จากบทความเดิมได้เลยครับ) แต่สำหรับการพักงานนายจ้างหลายคนก็ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วตามกฎหมายสามารถพักงานของลูกจ้างได้หรือไม่แค่ไหนเพียงใด วันนี้สำนัหงานฯ เราจะมาดูข้อกฎหมายกันครับ
การพักงานมี 2 กรณี คือ การพักงานระหว่างสอบสวน กับ การลงโทษโดยการพักงาน
การพักงานในระหว่างสอบสวนความผิดลูกจ้างมีกำหนดไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ในมาตรา 116 และ มาตรา 117 โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้
- ลูกจ้างนั้นได้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด (วินัยในการทำงานตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน)
- นายจ้างประสงค์ทำการสอบสวนลูกจ้างและประสงค์พักงานลูกจ้างนั้น
- มีข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานหรือข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างระบุว่านายจ้างมีอำนาจสั่งพักงานลูกจ้างได้
- นายจ้างได้มีคำสั่งพักงานเป็นหนังสือระบุความผิดและกำหนดระยะเวลาพักงานซึ่งต้องไม่เกิน 7 วัน และ
- นายจ้างได้แจ้งให้ลูกจ้างทราบก่อนการพักงานนั้นแล้ว
- นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างในระหว่างพักงานไม่น้อยกว่า 50% ของค่าจ้างปกติ
ส่วนการลงโทษลูกจ้างด้วยการพักงานนั้น ไม่ต้องจ่ายค่าจ้าง แต่ก็ต้องมีหลักเกณฑ์เช่นเดียวกันกับหลักเกณฑ์การพักงานในระหว่างสอบสวน คือ ต้องมีข้อบังคับกำหนดโทษพักงานไว้ด้วย , ต้องกำหนดระยะเวลาการพักงาน และ ต้องแจ้งให้ลูกจ้างทราบล่วงหน้าก่อนการลงโทษ
ท่านที่สนใจสามารถศึกษาแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4721/2541 “เมื่อไม่มีระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานว่า จำเลยไม่ต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างในระหว่างพักงานลูกจ้างเมื่อผลการสอบสวนปรากฏว่าลูกจ้างไม่มีความผิด ดังนั้น การที่โจทก์ได้ส่งมอบงานในหน้าที่ก่อนที่จำเลยมีคำสั่งพักงานโจทก์การพักงานโจทก์จึงไม่ใช่สืบเนื่องมาจากความผิดของโจทก์ จำเลยจึงต้องจ่ายค่าจ้างระหว่างพักงานโจทก์
โจทก์ขอลาออกโดยแจ้งล่วงหน้าตามระเบียบแล้ว จำเลยไม่อนุญาตให้โจทก์ลาออก แต่กลับสั่งพักงานโจทก์ โจทก์จึงยังไม่พ้นจากการเป็นลูกจ้างของจำเลยและโจทก์ยังมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของจำเลยอยู่ ไม่ว่าในระหว่างที่จำเลยพักงานโจทก์ จำเลยได้จ่ายงานให้โจทก์ทำหรือไม่ ส่วนจำเลยก็ยังมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าจ้างให้โจทก์ จำเลยจะอ้างว่าโจทก์ไม่ได้ทำงานให้จำเลย จำเลยจึงไม่ต้องจ่ายค่าจ้างตอบแทนการทำงานให้โจทก์หาได้ไม่ เพราะโจทก์ไม่ได้ขอพักงานเอง”
และ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9330/2542 “ลูกจ้างฟ้องว่า นายจ้างสั่งพักงานลูกจ้างเป็นเวลา 5 วัน โดยลูกจ้างไม่ได้กระทำความผิด ขอให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างระหว่างพักงาน ในชั้นพิจารณาลูกจ้างรับข้อเท็จจริงว่าได้กระทำความผิดจริงตามคำให้การต่อสู้คดีของนายจ้าง ดังนี้ นายจ้างย่อมมีอำนาจลงโทษลูกจ้างด้วยการพักงานได้ เมื่อการพักงานตามฟ้องเป็นการพักงานเนื่องจากการลงโทษทางวินัยแก่ลูกจ้างเพราะลูกจ้างกระทำความผิด มิใช่กรณีที่นายจ้างสั่งพักงานระหว่างทำการสอบสวนลูกจ้างซึ่งถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามมาตรา 116 และ 117 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541ศาลแรงงานจึงพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าจ้างระหว่างพักงานแก่ลูกจ้างตามบทกฎหมายข้างต้นไม่ได้”
หากท่านผู้อ่านได้อ่านบทความนี้แล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์ ช่วยกดแชร์ส่งต่อเป็นกำลังใจให้สำนักงานฯและผู้เขียนด้วยนะครับ+++++
โดยทนายนำชัย พรมทา
โทร. 086-331-4759
ติดตามข่าวสารของเราทาง Facebook : สำนักกฎหมายนำชัย พรมทา
เว็บไซต์ : //numchailawyer.com
อ่านบทความทั้งหมด : //bit.ly/2XVVfKQ
โทรปรึกษา ฟรี!
086-331-4759 | 086-847-2297 | 083-568-1148
E-mail : numchailaw.office@gmail.com
Line Official : @numchailawyers
สำนักกฎหมายนำชัยพรมทา, กฎหมาย, นำชัยพรมทา, บทความกฎหมาย, คลังความรู้กฎหมาย, ปรึกษากฎหมายฟรี, ปรึกษาด้านกฎหมาย, จ้างทนายความ