อาวุธอะไรที่ธุรกิจสมัยนี้ต้องมีติดตัว? ไม่ใช่เรื่องแค่เงินทุนหนาๆ หรือ บุคลากรระดับหัวกะทิ เรียงหน้ากระดานเท่านั้น แต่ในยุคนี้ ใครเข้าถึงข้อมูลมากที่สุดและ “สามารถบริหารจัดการข้อมูล” ที่มีอยู่ท่วมท้นอย่างทันสถานการณ์ นำมาเป็นไม้เด็ดสานต่อกลยุทธ์องค์กรได้ ต้องยกนิ้วว่าเด็ดจริง! แม้เป็นองค์กรเล็กที่ไม่มีทุนหนา และไม่มีชื่อเสียงดึงดูดบุคลากรระดับหัวกะทิ เพียงแค่คุณรู้จัก Data Analytics ก็อาจพาธุรกิจไปเคียงบ่ากับองค์กรระดับชั้นนำได้เช่นกัน
1. เพราะข้อมูลคือสินทรัพย์สำคัญ
ข้อมูลหรือ Big Data ที่มีมากจนล้น ทำให้ทุกหน่วยงานต้องบริหารจัดการเก็บเรียงเป็นอย่างดี เพื่อพร้อมนำข้อมูลเหล่านี้ไปประมวลผล วิเคราะห์ เชื่อมโยงเหตุการณ์สำคัญ หรือบริหารจัดการ (Data Analytics) เพื่อแปลงข้อมูลทั้งหมดลงมาสู่ฐานข้อมูลสารสนเทศ โดยผ่านขั้นตอนกรองออกมาเป็นข้อมูลที่พร้อมใช้งาน ไม่ยุ่งเหยิง ยุ่งยาก แต่สร้างให้เกิดผลดีต่อองค์กรให้มากที่สุด
2. Data Analytics เครื่องมือธุรกิจที่ห้ามมองข้าม
สามารถนำข้อมูลอดีต ปัจจุบัน หรือการคาดการณ์อนาคต ที่เลือกหยิบเชื่อมโยงข้อมูลจากทุกห้วงเวลา Data Analytics สามารถนำมาวิเคราะห์ให้สอดคล้องกับการวางแผนการตลาดปัจจุบันได้หลายมุมมองและหลายวิธี เฟ้นออกมาจนกว่าจะได้กลยุทธ์ที่ตรงใจกับลูกค้าให้ได้มากที่สุด หากทำแบบนี้ได้สำเร็จ ย่อมดีกว่าการร่างแผนโดยไม่มีข้อมูลในมือรองรับเลย ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการงมเข็มในมหาสมุทร หรือการเดินเรือโดยไม่มีเป้าหมาย
3. สืบรอยโลกออนไลน์มากขึ้น ทำให้วิเคราะห์ไม่บิดเบี้ยว
สถิติบอกชัดเจนว่ากิจกรรมบนโลกออนไลน์จะทวีคูณมากขึ้นทุกปี การเข้าใจข้อมูลเหล่านั้นต้องอาศัยการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของข้อมูลได้ เพื่อเปรียบเทียบและนำไปสู่การปรับปรุงกระบวนการทางการตลาด หรือเก็บประสบการณ์ของคนซื้อได้ดีขึ้น และนำไปสู่การสร้างประสิทธิผลดีกว่าการใช้ประสบการณ์หรือสัญชาตญาณ ที่สำคัญคือ Data Analytics เป็นตัวช่วยทำนายความต้องการ หรือสร้างโอกาสทางการตลาดในอนาคตได้ด้วย จากการใช้ข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์เหล่านี้
4. วัดผลได้แม่นยำ ขจัดข้อมูลที่ไม่จำเป็นออกไป
การใช้ Data Analytics ทำให้เกิดการวัดผลต่างๆ ได้ดีขึ้น เท่ากับเป็นการช่วยสแกนหรือคัดกรองข้อมูลสำคัญอันไหนที่ควรค่าต่อการเก็บและนำไปใช้ต่อ อันไหนไม่จำเป็นก็นำออกไปได้ ทำให้คัดสรรแต่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จริงๆ ไม่เสียเวลาวุ่นวายเหมือนเดิม
5. ดีต่อใจกับธุรกิจขนาดเล็ก
เพราะสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อแก้ไขปัญหาธุรกิจได้อย่างตรงจุดและว่องไว เชื่อมโยงไปสู่การการบริหารงานส่วนงานต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญสามารถช่วยวัดผลลัพธ์ของธุรกิจและแบรนด์ กำหนดกลยุทธ์ การสื่อสารและทำการตลาดได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงต่อยอดไปสู่การพัฒนาสินค้าและบริการที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เรียกว่า Data Analytics เป็นเครื่องมือที่ทำให้จิ๋วอย่างคุณก็แจ๋วได้เหมือนกัน
6. วัดค่าและใช้ข้อมูลที่แตกต่างกัน
ที่ผ่านมา Data Analytics ใช้ในวงกว้างตั้งแต่เลือกการเชื่อมโยงข้อมูลระดับประเทศ อย่าง การเลือกตั้งสหรัฐก็นำวิธีนี้มาช่วยวิเคราะห์ฐานเสียงและหาการเชื่อมโยงกับกิจกรรมการเลือกตั้งแบบเรียลไทม์ หรือใช้ระดับการทำการตลาดระดับหน่วยงานหรือแบรนด์ร้านอาหารชื่อดังต่างๆ ทำให้ฝ่ายขายและฝ่ายการตลาดเห็นถึงข้อมูลสำคัญที่น่าสนใจ นำไปประเมินอนาคตสินค้าประเภทที่จะนำมาขายต่อไป หรือเห็นความต้องการประเภทที่เจาะลึก เช่น ความต้องการที่ต่างกันของแต่ละสาขา เหล่านี้นำคือการปรับกลยุทธ์นำไปสู่การทำกำไรสูงขึ้น กระทั่งภาคเกษตรกรรม ก็นำมาวิเคราะห์พยากรณ์อากาศที่แม่นยำ (Microclimate Weather) และข้อมูลวางแผนเพาะปลูกพืชได้ดีขึ้นเช่นกัน
“ข้อมูล” ที่ว่าสำคัญแล้ว แต่การบริหารจัดการข้อมูลให้เกิดประโยชน์ย่อมสำคัญกว่า ดังนั้น Data Analytics จึงยืนโดดเด่นเป็นคำตอบในการบริหารจัดการธุรกิจ วางกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในยุคนี้ได้อย่างถูกเผงตรงใจ
ที่มา
//www.marketingoops.com/news/biz-news/data-analytics/
//www.bot.or.th/Thai/BOTMagazine/Pages/256201GlobalTrend.aspx
//work360.in.th/digital-marketing/data-analytics/what-is-data-analytics
//blog.pttexpresso.com/data-analytics-for-business
//www.tpa.or.th/tpanews/upload/mag_content/135/ContentFile2631.pdf
ในยุคที่เทคโนโลยีมีความสำคัญและเติบโตอย่างรวดเร็ว การรับรู้ข่าวสารที่ไวและรวดเร็ว ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน และในปัจจุบันธุรกิจต่างมีการแข่งขันกันด้วยกลยุทธ์ต่างๆ มากมาย การวิเคราะห์ข้อมูลจึงเป็นหัวใจสำคัญในการพยากรณ์ข้อมูลในอนาคต โดยข้อมูลที่นำมาใช้มีทั้งข้อมูลในอดีต ปัจจุบัน มากำหนดกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อสร้างศักยภาพให้กับธุรกิจได้
เรียกได้ว่าทุกวันนี้อยู่ในยุค Data Driven การขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูลนั้นมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งในทุกๆองค์กร Data = ข้อมูล + Driven = ขับเคลื่อน จึงหมายถึง การขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูลหรืออีกนัยหนึ่งก็คือการนำข้อมูลมาใช้สำหรับกระบวนการตัดสินใจต่างๆ ขององค์กรนั้นเอง
ตัวอย่างวิธีการที่ Data Analytics สามารถกำหนดการขับเคลื่อนองค์กร คือการนำข้อมูลมาทำความเข้าใจลูกค้า ในการเรียนรู้พฤติกรรมของผู้บริโภค สามารถนำมาวางแผนเพื่อกำหนดกลยุทธ์จากพฤติกรรมของผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น กล่าวคือข้อมูลจึงเป็นสิ่งที่เป็นทรัพยากรสำคัญในการแข่งขันที่ขาดไม่ได้เลยในยุค Data Driven หากองค์กรใดที่รู้วิธีการใช้ข้อมูลและเอาข้อมูลเชิงลึกไปประยุกต์กับธุรกิจก่อน ย่อมได้เปรียบอย่างมากในการแข่งขัน เพราะทุกวันนี้มีการแข่งขันกันในการตลาดมากขึ้น หากมีข้อมูลลูกค้าสามารถนำมาวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจต่างๆ มาวางแผนการตลาด ออกแบบสินค้าหรือบริการเพื่อตอบโจทย์กับความต้องการของธุรกิจ ทั้งยังสามารถนำไปปรับใช้กับเทคโนโลยีใหม่ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ หรือบริการใหม่ๆ นั้นเอง
ดังนั้นการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกองค์กรได้มองเห็นความสำคัญในยุคสมัยใหม่มากกว่าเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก เพราะการวิเคราะห์ข้อมูลคือการสร้างศักยภาพให้กับธุรกิจได้อย่างชัดเจน
Data Analytics Bootcamp ที่ WeStride เปิดสอนตั้งแต่พื้นฐาน การดึงข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลจากหลักการทางสถิติ ให้ความรู้ที่ได้นำไปใช้ได้จริงผ่านการทำ Project ต่าง ๆ โดยการเรียนที่เน้นนำไปใช้ทำงานจริงได้ พร้อมสร้างทักษะที่เป็นที่ต้องการในปัจจุบัน บวกกับประสบการณ์จริงและการสนับสนุนการหางานเพื่อเริ่มต้นอาชีพที่มั่นคง โดยติวเตอร์ที่ประสบความสำเร็จจากสายงานจากองค์กรชั้นนำ พร้อมดูแลแบบตัวต่อตัว ด้วยหลักสูตรที่ได้รับการสนับสนุนจาก Stanford เพียงไม่กี่เดือน คุณจะได้เป็น Data Analyst (DA) หรือ นักวิเคราะห์ข้อมูล