ผมสีบลอนด์ หรือ ผมทอง เป็นสีที่สาวไทยนิยมทำกันมากขึ้น เพราะเป็นโทนที่ช่วยให้ใบหน้าดูสว่าง และสามารถเปลี่ยนบุคลิกของสาวๆ ไปได้แบบพลิกโฉมเลยทีเดียว ในปัจจุบันก็มีเฉดสีที่หลากหลาย และเทคนิคการทำผมให้เราเลือกสนุกกันได้มากขึ้น สาวๆ คนไหนอยากจะลองเปลี่ยนบุคลิกตัวเอง รับรองว่าถ้าเลือกทำผมโทนสีบลอนด์ทองแล้ว จะต้องเด่นสะดุดตาขึ้นมาทีเดียวค่ะ
แต่ปัญหาใหญ่ก็คือ หลายคนอยากลองย้อมผมบลอนด์ แต่ยังไม่มีไอเดียว่าควรจะเริ่มต้นยังไง หรือผมบลอนด์เฉดสีไหนที่เหมาะกับเรา เพราะผมบลอนด์ หากเลือกไม่ถูก จากเด่นก็กลายเป็นด้อยไปได้เช่นกันค่ะ
ก่อนที่คุณจะตัดสินใจทำผมสีบลอนด์ All Things Hair ได้นำเอาเกร็ดความรู้และคำแนะนำจากอลงกรณ์ อนิลหงษ์ แฮร์สไตลิสต์ ของร้าน Cabin 139 มาฝากกัน รวมถึงการบำรุง และดูแลเส้นผมหลังการทำสี เพราะสุขภาพผมของเราจะถูกทำลายลงไปมากจากสารเคมีในน้ำยาทำสีผม เพื่อให้คุณได้ทั้งสีผมที่สวยถูกใจ และสุขภาพผมที่ดีไปพร้อมๆ กัน
เรื่องน่ารู้ ก่อนตัดสินใจทำ ผมทอง หรือผมสีบลอนด์
1. ผมบลอนด์เข้ากับเราหรือไม่?
ก่อนอื่นต้องแน่ใจว่าอยากจะย้อมผมบลอนด์จริงๆ และควรดูว่าเข้ากับบุคลิกของเราหรือใช่สไตล์ของเราหรือเปล่า เพราะถ้าย้อมมาแล้วเกิดไม่มั่นใจขึ้นมา ก็ต้องมาแก้ไขแล้วย้อมผมเป็นสีเข้มตามเดิม แต่สภาพเส้นผมอาจจะไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะผ่านการทำเคมีจะทำให้ผมอ่อนแอลง และอาจมีปัญหาแห้งเสียชี้ฟูได้ ทางที่ดีลองนึกภาพตัวเองทำผมทองง่ายๆ ด้วยการใช้แอพพลิเคชั่นเปลี่ยนสีผมก่อนก็ได้ ถ้าดูแล้วว่าสวยถูกใจและเข้ากับตัวเราจริงๆ ก็ลุยต่อเลยค่ะ
2. ข้อดีของการย้อมผมสีบลอนด์
ข้อดีของการย้อมผมสีบลอนด์มีหลายอย่าง ทั้งทำให้เราดูทันสมัย ดูสวยแซ่บอินเทรนด์มากขึ้น และยังช่วยทำให้ใบหน้าและผิวพรรณดูสว่างมีออร่ามากขึ้น และก็ยังมีหลายโทนให้เลือกทำ ทั้งบลอนด์เข้ม บลอนด์อ่อน หรือจะเดอร์ตี้บลอนด์แบบสาวฝรั่ง นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นอีกมากมายที่ทำได้กับผมบลอนด์ อาทิ ออมเบร บาลายาจ หรือจะเล่นกับสีสันต่างๆ ก็สวยมากๆ
3. ย้อมผมสีบลอนด์ต้องขยันแต่งหน้า
ถ้าตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำก็ลุยต่อเลย แต่เราแนะนำว่าเมื่อทำผมบลอนด์แล้ว ควรจะแต่งหน้าเสริมด้วย โดยเฉพาะเวลาออกนอกบ้าน เพราะสำหรับสาวเอเชียอย่างเราๆ ถ้าทำผมบลอนด์แล้วไม่แต่งหน้า อาจทำให้ใบหน้าดูจืดดูโล่งกว่าผมสีเข้ม แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลใจมากนัก เพราะไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าชนิดจัดเต็ม แค่เขียนคิ้ว ทาลิป และปัดแก้มนิดๆ พอให้หน้ามีสีสัน เท่านี้ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องหน้าจืดแล้วค่ะ
4. เลือกผมสีบลอนด์ให้เหมาะกับสีผิว
สีผมที่ทำจะมีผลต่อสีผิว ซึ่งผมสีบลอนด์ในปัจจุบันก็มีหลายเฉดให้เลือกมากขึ้น เช่น บลอนด์ทอง บลอนด์เทา สตรอเบอร์รี บลอนด์ ดังนั้นเราควรเลือกเฉดสีผมบลอนด์ให้เข้ากับโทนสีผิวของเราด้วย
สำหรับสาวผิวขาวอมชมพู เฉดสีบลอนด์ที่เหมาะ คือ สีบลอนด์ทองประกายหม่น หรือ สีน้ำตาลทอง เพราะจะทำให้ผิวไม่ดูซีดจางจนเกินไป สำหรับสาวผิวขาวอมเหลือง สีที่เหมาะคือ สีน้ำตาลบลอนด์ทอง น้ำตาลประกายส้ม บลอนด์ประกายส้ม ส่วนสาวผิวแทน น้ำผึ้ง หรือคล้ำนั้น เหมาะกับสีผมบลอนด์ที่ออกโทนน้ำตาลตั้งแต่เข้มจนถึงน้ำตาลอ่อน จะช่วยขับให้ผิวและใบหน้าดูเด่น และเซ็กซี่ขึ้นด้วยค่ะ
สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เลือกผมสีบลอนด์แบบโดนๆ ให้เข้ากับโทนสีผิวของคุณ
5. ควรปรึกษาช่างผมก่อนทำสีจริง
หากทำสีผมมาแล้ว อาจจะไม่ได้สีบลอนด์ตามต้องการ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับพื้นสีผมธรรมชาติของเราว่า สีเข้ม หรือ อ่อน รวมถึงลักษณะเส้นผมของเราด้วยด้วย หากไม่มั่นใจ แนะนำว่าให้ปรึกษาช่างทำสีผม จะแนะนำเฉดสี หรือ มีวิธีการย้อมสีผมให้ใกล้เคียงกับที่เราต้องการมากที่สุดค่ะ
6. ผมบลอนด์ที่สีอ่อนหรือสว่างมากๆ อาจทำไม่ได้ภายในครั้งเดียว
เฉดสีผมบลอนด์ที่ต้องการนั้น อาจจะไม่ได้ทำได้ในครั้งเดียว สำหรับสาวไทยอย่างเรา ที่ผมสีพื้นเดิมมีสีเข้ม การทำสีบลอนด์ที่มีสีอ่อน อาจทำให้สีผมติดยากกว่าสาวตะวันตก ซึ่งมีผมสีอ่อนเป็นพื้น และบางครั้ง หากคุณเลือกทำผมสีบลอนด์โทนอ่อน หรือสว่างมาก คุณอาจต้องฟอกผมก่อน หรือ ต้องย้อมผมมากกว่า 1 ครั้ง เพื่อให้ได้สีตามต้องการ หรืออาจต้องผ่านการสระผมสัก 2-3 ครั้ง เพื่อให้สีหลุดออกไปบางส่วน จึงจะได้เฉดสีตามที่ต้องการ
7. ย้อมผมสีบลอนด์ต้องใช้เวลา
หากใครไม่เคยทำสีผมมาก่อน อาจไม่รู้ว่า การจะย้อมผมเพื่อให้ได้เฉดสีบลอนด์ตามที่ต้องการนั้น มีหลายขั้นตอน และต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรทีเดียว บางครั้งต้องกัดสีผมก่อนที่จะลงสี หรือมีการเคลือบผม เพื่อให้เส้นผมดูเงาสลวย ดังนั้น หากจะเข้าร้านทำผม ควรเผื่อเวลาไว้อย่างน้อยสักครึ่งวัน ก็จะดีค่ะ
8. ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ
คุณภาพของน้ำยาทำสีผม ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะในการทำสีผมทุกครั้ง เส้นผมเราจะถูกทำร้ายอย่างแน่นอน รวมถึงหนังศีรษะ ที่อาจเกิดการแพ้สารเคมีได้ ดังนั้น ควรศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ต่างๆ ก่อนการไปใช้บริการที่ร้านทำผม หรือซื้อผลิตภัณฑ์มาทำเอง
ถ้าไม่แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ร้านทำผมที่เราต้องการไปใช้บริการนั้น มีคุณภาพเป็นอย่างไร หรือจะก่อให้เกิดอาการแพ้หรือไม่ โดยเราอาจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และนำน้ำยาทำสีผมไปให้ที่ร้านทำให้ แต่ถ้ามั่นใจได้ การใช้ผลิตภัณฑ์ของทางร้าน ก็จะทำให้ช่างทำผมมีทางเลือก ในการเลือกใช้สี หรือผสมสีใหม่ที่เข้ากับเรามากขึ้นก็ได้
9. อย่าลืมเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ดูแลผม เป็นสูตรดูแลผมทำสีโดยเฉพาะ
หลังจากย้อมผมสีบลอนด์มาแล้ว ก็ควรเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ดูแลผมด้วย โดยเฉพาะแชมพู และครีมนวดผม ควรจะเปลี่ยนเป็นแชมพูที่ผลิตขึ้นสำหรับผมทำสี และ แชมพูที่ช่วยฟื้นบำรุงผมแห้งเสีย อย่างเช่น เทรซาเม่ แชมพู คัลเลอร์ เรเดียนซ์ แอนด์ รีแพร์ สูตรสำหรับผมกัดสี หรือทำผมสีอ่อน โดยเฉพาะ
เนื่องจากในช่วงที่ทำสีผมนั้น ผมเราย่อมถูกทำให้อ่อนแอลงจากสารเคมีที่ย้อม การบำรุงผมให้กลับมาแข็งแรง นอกจากจะทำให้ผมกลับมาดูดีแล้ว เนื้อแชมพูสีม่วงยังช่วยรักษาเม็ดสีให้ยังคงสวยสดชัดได้ยาวนาน แนะนำให้ใช้ร่วมกับ ครีมบำรุงผมสูตรเดียวกัน เพื่อประสิทธิภาพในการดูแลผมอย่างเต็มที่ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง ทดสอบการใช้แชมพูม่วง และการเลือกแชมพูสำหรับผมทำสีได้ที่นี่
10. ควรบำรุงผมอย่างต่อเนื่อง
หลังทำสี ควรบำรุงผมอย่างต่อเนื่อง เช่น การอบไอน้ำ หรือทำทรีตเมนต์ เพราะหลังทำสีผมของเราจะแห้งเสียกว่าปกติ การให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพผมอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งที่ควรทำ ยิ่งคุณวางแผนที่จะทำผมสีบลอนด์ในระยะยาว (หรือทำสีเป็นประจำ) แนะนำว่าคุณควรทำทรีตเมนต์ ด้วยการใช้มาส์กบำรุงผมอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง หรือ 2 ครั้ง หากผมแห้งเสียมาก และหนังศีรษะของคุณไม่มันง่าย
นอกจากนัั้น อย่าลืมใส่ใจบำรุงปลายผมเป็นพิเศษด้วย โดยเฉพาะสาวๆ ผมยาว เพราะปลายผมเป็นส่วนที่จะแห้ง ขาด และแตกปลายได้ง่ายกว่าส่วนอื่นๆ เราขอแนะนำ โดฟ อินเทนซ์ รีแพร์ ทรีทเม้นท์ มาสก์ ซึ่งจะช่วยฟื้นบำรุงผมเสียอย่างล้ำลึกจากภายใน และเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง ผมคุณจะค่อยๆ ฟื้นฟูและสวยสุขภาพดีขึ้น โดยหลังสระผม ให้ชโลมผลิตภัณฑ์ลงบนเส้นผมที่เปียกจากกึ่งกลางจรดปลายผม ทิ้งไว้ 3-5 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด
11. ต้องรู้จักปกป้องเส้นผมจากความร้อน
เพราะความร้อนมีส่วนทำให้สีผมซีด หรือเฟดลงได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน โดยเฉพาะการใช้อุปกรณ์ความร้อนในการทำให้ผมแห้งหรือจัดแต่งทรง ทั้งไดร์เป่าผม เครื่องหนีบหรือม้วนผม ดังนั้น เมื่อจะต้องใช้อุปกรณ์เหล่านี้ ก็ควรใช้เซรั่ม วิตามินบำรุงผม หรือ สเปรย์ฉีดผมกันความร้อน ลูบไล้ หรือฉีดลงบนเส้นผมก่อนทุกครั้ง แม้แต่ในวันที่ต้องออกแดดจัดนานๆ เช่น ไปทะเล ก็ควรใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก่อนออกจากบ้านเช่นกัน
Editor’s pick: ขอแนะนำ เทรซาเม่ แฟลตไอรอน สมูทติ้ง สเปรย์ เคราติน สมูท สเปรย์จัดแต่งทรงผมสูตรที่ช่วยปกป้องผมจากความร้อนของไดร์เป่าผม แกนม้วนผม และเครื่องหนีบผมพร้อมช่วยให้ผมอยู่ทรงยาวนาน และดูเงางาม สามารถใช้ได้ทั้งก่อนเป่าผมเพื่อกันความร้อน หรือก่อนใช้เครื่องหนีบผม หรือแกนม้วนผม
12. ผมงอกใหม่ อาจต้องเติมโคนบ่อยๆ
ในการทำผมสีอ่อนนั้น เราต้องไม่ลืมคิดด้วยนะคะว่า เราเข้าร้านทำผมบ่อยไหม หรือ อยากเติมโคนบ่อยแค่ไหน เพราะผมโทนสีบลอนด์ จะค่อนข้างตัดกับผมสีเข้มของสาวไทยอย่างเรา เมื่อผมที่งอกขึ้นมาใหม่ บริเวณโคนจะเป็นสีเข้ม ซึ่งบางคนก็อาจจะไม่ชอบหรือดูแล้วไม่สวยงามแบบที่ตั้งใจ ดังนั้น สำหรับบางคนที่ไม่ค่อยมีเวลาเข้าร้านทำผม หรือไม่ได้ทำสีผมเองเป็นประจำ ข้อนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ควรนำมาคิดเช่นกันค่ะ
อย่างไรก็ตาม หลังๆ เทรนด์ที่เรียกว่า Shadow Root หรือการทำให้สีผมบริเวณโคนผม หรือเหลือพื้นที่บริเวณโคนผมให้เป็นสีเข้มตัดกับผมส่วนที่เหลือก็ได้รับความนิยมมากเช่นกัน รวมทั้ง มีเทคนิคในการทำสีช่วย เช่น ทำไฮไลต์ทั้งศีรษะ หรือ เทคนิคบาลายาจ ดิพดาย หรือออมเบร เพื่อให้ผมบลอนด์ที่ทำมาและผมที่งอกใหม่ดูกลมกลืนไปด้วยกัน จะได้ไม่ต้องเติมโคนบ่อยก็ได้เช่นกันค่ะ
เมื่อรู้เรื่องการเตรียมตัว และรับมือกับปัญหาผมแห้งเสียที่อาจเกิดขึ้นได้แบบนี้แล้ว คงทำให้สาวๆ All Things Hair มั่นใจในการเลือกทำผมสีบลอนด์ และสนุกสนานกับการทำสีผมได้หลากหลายสไตล์มากขึ้นค่ะ