ท่านจะทราบได้อย่างไรว่า ตัวท่านเองเหมาะสมกับงานอาชีพประเภทไหน ในเมื่ออาชีพต่างๆ ในประเทศไทยนั้น มีมากกว่าสองพันอาชีพ เพื่อช่วยให้ท่านได้ทราบแนวทางในการพิจารณาเลือกอาชีพอย่างถูกต้องเหมาะสมกับตัวท่านเอง ขอให้ท่านอ่านเอกสารนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน และใช้ดุลยพินิจพิจารณาข้อเท็จจริงต่างๆ โดยรอบคอบ อย่าลืมว่า อนาคตของท่านขึ้นอยู่กับการตัดสินใจเลือกอาชีพอย่างถูกต้อง
บางทีกว่าจะรู้ว่าอะไรอาจจะใช้เวลา ถ้าเรารู้ได้เร็วก็จะดีต่อเราซึ่งจะเริ่มต้นได้เร็ว แต่ไม่ว่าช้าหรือเร็ว เมื่อรู้แล้วเริ่มต้นไม่มีคำว่าสาย
จะรู้ได้อย่างไรอาชีพใดเหมาะกับเรา
การเลือกประกอบอาชีพจึงมีความสำคัญต่อเราเป็นอันมาก คนที่เลือกประกอบอาชีพที่เหมาะสมกับตน ย่อมก่อให้เกิดความเพลิดเพลิน และก่อให้เกิดความสุขในการทำงาน และยังมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพมาก ในทางตรงกันข้าม ถ้าบุคคลประกอบอาชีพที่ไม่เหมาะสมกับตนเองแล้ว ก็จะเกิดความเบื่อหน่ายในการทำงาน และเนื่องจากคนเราต้องใช้เวลาในการประกอบอาชีพ ภายหลังจากการศึกษาเป็นเวลาช้านานถึงหนึ่งในสามของชีวิต หรือประมาณ 100,000 ชั่วโมง การที่จะต้องอดทนต่อกิจกรรมที่น่าเบื่อหน่าย เป็นระยะเวลาอันแสนนานเช่นนี้ จึงทำให้ชีวิตของตนไม่มีความสุข การประกอบอาชีพที่ไม่เหมาะสมหรือไม่สอดคล้องกับบุคลิกภาพ ความสนใจและความถนัด นอกจากจะมีโอกาสประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพน้อยแล้ว ยังเป็นการทรมานชีวิตอย่างหนึ่งอีกด้วย
ผลเสียที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ ก่อให้เกิดการสูญเปล่าทั้งเวลาความเจริญก้าวหน้าของบุคคล เศรษฐกิจของครอบครัว และของประเทศชาติเป็นส่วนรวมอีกด้วย การเลือกประกอบอาชีพเป็นกระบวนการที่สลับซับซ้อน ซึ่งบุคคลที่จะตัดสินใจเลือกอาชีพ จะต้องรู้จักตัวเองในด้านความสนใจ ความสามารถ และความถนัดเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นการยากสำหรับปุถุชนทั่วไป นอกจากจะต้องรู้จักตัวเองแล้ว ผู้เลือกอาชีพจะต้องรู้จักโลกของงาน คือ รู้จักอาชีพโดยละเอียดหลายอาชีพจึงมีความจำเป็นต้องจัดบริการแนะแนวอาชีพ เพื่อช่วยเหลือบุคคลให้สามารถเลือกอาชีพที่เหมาะสมกับตนเอง เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพ สามารถทำประโยชน์ให้แก่ตนเองและสังคม คนเรามีความถนัด ความสามารถ และความสนใจในงาน อาชีพแตกต่างกัน ดังนั้น ท่านต้องรู้จักตัวเอง และรู้จักงานอาชีพต่างๆ อย่างกว้างขวาง รวมทั้งรู้จักพิจารณาดูว่า มีงานอะไรบ้างที่ท่านชอบ และสนใจมากที่สุด และงานนั้นๆ เหมาะสมกับอุปนิสัยและบุคลิกลักษณะของท่านหรือไม่ ก่อนก่อนสินใจเลือกอาชีพ มี 2 ประการที่ท่านต้องพิจารณา คือ
ประการที่ 1 ผู้ที่จะตัดสินใจเลือกอาชีพควรรู้จักตัวเองให้ดีเสียก่อน โดยเฉพาะในด้านอุปนิสัย ความรู้ ความถนัด ความสามารถ ความสนใจ บุคลิกลักษณะ สุขภาพ นิสัย ทัศนคติที่เกี่ยวกับอาชีพนั้นๆ และฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัว อย่างเช่น ถ้าเราชอบทดลอง เรียนรู้ อาจจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ ถ้าเราชอบพูด ชอบพบปะผู้คนก็อาจจะเป็นนักพูด พิธีกร นักแสดง ถ้าเราชอบเสียงดนตรี ก็อาจจะเป็นนักดนตรี นักร้อง
ประการที่ 2 ควรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอาชีพต่างๆ ลักษณะของงานอาชีพ สถานที่ที่จะศึกษาเพื่อประกอบอาชีพนั้นๆ ค่าจ้าง สวัสดิการ ความก้าวหน้าและความมั่นคงของงาน ตลอดจนความต้องการของตลาดแรงงาน
ถ้าเราต้องการทำงานแน่นอนก็ควรเรียนสายอาชีพ อาชีวะ เดี๋ยวนี้มีถึงระดับปริญญาตรี เปิดกว้างมากขึ้น
ประการที่ 3 ต้องศึกษาติดตามการเปลี่ยนแปลงของสภาวะเศรษฐกิจสังคมโลก ด้วยการหมั่นอ่านข่าวหนังสือพิมพ์ ค้นหาข้อมูลจากสื่ออินเตอร์เน็ท รายงานการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับแนวโน้มความต้องการแรงงานโดยประเด็นที่ควรสนใจเป็นพิเศษ คือ อาชีพที่จะเกิดขึ้นใหม่ซึ่งมักจะเปลี่ยนแปลงไปตามเศรษฐกิจสังคมของโลกและประเทศ สำหรับประเด็นที่กล่าวถึงกันมากในช่วงทศวรรษนี้เห็นจะได้แก่ การเปิดการค้าเสรี (Free Trade Area) ของกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิค และโดยเฉพาะประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนที่เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ จึงคาดว่าจะส่งผลให้ภาคธุรกิจของไทยมีความต้องการแรงงานเพิ่มขึ้นด้วยและจากการศึกษาวิจัยของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เกี่ยวกับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ (Logistics) ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ทำธุรกิจด้านการขนส่ง การให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับการขนส่ง คลังสินค้า การจัดการสินค้า การขนถ่ายสินค้า รวมถึงการทำพิธีการศุลกากร โดย TDRI คาดว่า ในปี 2548-2552 จำนวนผู้ที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะเข้าสู่ระบบโลจิสติกส์ในปี 2548 มีจำนวน 240,850 คน และเพิ่มขึ้นเป็น 272,329 คน ในปี 2552 และเมื่อจำแนกตามระดับการศึกษาแล้ว พบว่าในระดับอาชีวศึกษาสาขาที่เกี่ยวข้องกับด้านโลจิสติกส์ ได้แก่ ช่างไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ช่างยนต์ สาขาวิชาในระดับปริญญาตรีจะอยู่ในสาขามนุษยศาสตร์ ด้านภาษาประกอบด้วยภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส สังคมศาสตร์ พาณิชยการและกฎหมาย วิทยาศาสตร์ในสาขาคณิตศาสตร์และสถิติ คอมพิวเตอร์ วิศวกรรมศาสตร์สาขาคอมพิวเตอร์ โทรคมนาคม การบินและอากาศยาน เรือ ยานยนต์และขนส่ง สำหรับความรู้ความสามารถและทักษะของบุคลากรที่อุตสาหกรรมโลจิสติกส์มีความต้องการจำแนกตามกิจกรรมหลัก ประกอบด้วย
1. การจัดซื้อและเจรจาต่อรอง ต้องการบุคลากรที่มีระดับความรู้เกี่ยวกับหลักการจัดซื้อและกระบวนการ ระดับทักษะที่ต้องมีคือ การใช้คอมพิวเตอร์ และซอฟท์แวร์ที่เกี่ยวข้อง
2. การจัดการขนส่ง ต้องการบุคลากรที่มีระดับความรู้เกี่ยวกับการจัดตารางเวลาและรูปแบบการขนส่งที่เหมาะสม ความรู้เกี่ยวกับถนนและเส้นทางการขนส่ง การขับรถอย่างปลอดภัย ความรู้เกี่ยวกับสินค้า กฎระเบียบด้านความปลอดภัย กฎหมายการขนย้ายสินค้าและมีทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ ภาษาและการสื่อสาร การจัดการอุปกรณ์และบุคลากร การจัดลำดับความสำคัญของงานให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด การเข้าใจและทำตามคำสั่งได้ รวมทั้งการให้บริการลูกค้า
3. การจัดการด้านส่งออกและนำเข้า ต้องการบุคลากรที่มีความรู้และทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ ภาษาและการสื่อสาร การวิเคราะห์และวางแผนงาน
4. การเคลื่อนย้ายสินค้า การจัดการคลังสินค้าและสินค้าคงคลัง ต้องการบุคลาการที่มีความรู้พื้นฐานในการดูแลระบบสินค้าคงคลังและกระบวนการของสินค้าคงคลัง ความรู้เกี่ยวกับสินค้า กฎหมายและความปลอดภัย ส่วนทักษะที่ต้องมีคือ การใช้คอมพิวเตอร์ ภาษาและการสื่อสาร
5. การตลาดและการให้บริการลูกค้า ต้องการบุคลาการที่มีความรู้เกี่ยวกับโลจิสติกส์และการบริการ ความรู้พื้นฐานด้านบัญชี กฎหมายการค้าการลงทุน และความรู้เกี่ยวกับการประกันสินค้า
6. การจัดการห่วงโซ่อุปทาน ต้องการบุคลากรที่มีความรู้เกี่ยวกับคลังสินค้าและระบบสินค้าคงคลัง กระบวนการและการวางแผนวัตถุดิบ ความรู้เกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทาน เทคโนโลยีและการจัดการการขนส่งและการกระจายสินค้าส่วนทักษะที่บุคลากรจำเป็นต้องมีคือ การวิเคราะห์ห่วงโซ่อุปทาน การแก้ไขปัญหา การติดต่อและการนำเสนอ การประสานงาน ภาษาและการสื่อสาร การใช้กลยุทธ์และการเชื่อมโยงระหว่างองค์กร รวมทั้งการจัดการด้านทุน
ประการที่ 4 ต้องทราบแนวโน้มของเศรษฐกิจและรายได้ของประเทศ ข้อนี้มีหลักการ
ง่ายๆ คือ "การจะเลือกประกอบอาชีพใด ควรดูจากรายได้ของประเทศว่ามาจากภาคเศรษฐกิจหรืออุตสาหกรรมใด การจะเลือกประกอบอาชีพใดให้ดูจากรายได้หรือค่าตอบแทนแรงงานในอาชีพนั้น" แน่นอนว่าทุกคนหวังที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีบ้าน มีรถและมีเงินทองสำหรับใช้สอยในชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้นผู้เข้าสู่ตลาดแรงงานใหม่จึงควรติดตามและสังเกตุอาชีพรอบตัวที่พบเห็นในสังคม มีวิธีการอยู่วิธีการหนึ่ง เรียกว่า "การวิจัยอาชีพ" โดยผู้ที่สนใจที่จะประกอบอาชีพใดให้ทำการวิจัยด้วยการสำรวจอาชีพที่เราสนใจหรืออาชีพที่เราใฝ่ฝันไว้ และสอบถามจาก ผู้รู้ (Key Person) 3 คน คือ นายจ้าง ผู้ประกอบอาชีพนั้นอยู่และหน่วยงานผลิตกำลังคนหรือสถาบันการศึกษา ที่ออกแบบหลักสูตรการศึกษาต่างๆ เพราะกลุ่มบุคคลเหล่านี้จะมีข้อมูลและทราบแนวโน้มสถานการณ์ สภาพการทำงานที่เกี่ยวข้องกับอาชีพที่เราสนใจ เมื่อเราเก็บรวบรวมข้อมุลได้แล้วจึงนำมาสังเคราะห์และสรุปเพื่อเป็นทางเลือกในการตัดสินใจว่าเหมาะสมที่เราจะเรียนต่อในสาขาวิชานั้นๆ หรือไม่
โลกมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ อาจจะมีอาชีพใหม่ๆ เกิดขึ้นมา ซึ่งเราก็ต้องติดตาม