การ บริหาร คน ที่ ดี

องค์กรจะก้าวหน้าและไปได้ดี หัวใจสำคัญนอกเหนือไปจากประสิทธิภาพในการทำงานแล้ว ก็คือความสามารถในการบริหารคนในองค์กร เพื่อให้ความสัมพันธ์ของพนักงานทุกฝ่ายเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่ติดขัด เพราะเมื่อองค์กรสามารถทำให้การสื่อสารระหว่างกันเกิดขึ้นได้อย่างเข้าใจ ไม่ว่าจะกี่ปัญหาก็สามารถผ่านไปได้อย่างง่าย ๆ

วิธีที่ง่ายที่สุดที่สามารถเริ่มได้เลยก็คือการเปลี่ยนทัศนคติของตัวเอง และในฐานะที่เป็นผู้นำองค์กร จะมีวิธีเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงทัศนคติในการบริหารลูกน้องได้อย่างไร ? 

วันนี้ HR NOTE ขอแนะเทคนิคจากบางส่วนของหนังสือ วิชาธุรกิจที่ชีวิตจริงเป็นคนสอน โดยคุณ ธรรศภาคย์ เลิศเศวตพงศ์ มาสรุปให้อ่านกัน

Contents

    1) Hire The Best

    เริ่มต้นที่การจ้างงาน ควรจะเลือกจ้างคนที่ดีที่สุดเท่าที่หาได้ทุกครั้งในทุกตำแหน่งงาน ไม่ควรเลือกจ้างใครก็ได้เพื่อให้มาทำงานที่ไม่มีใครอยากทำด้วยค่าแรงที่น้อยที่สุดหรือจ้างตามอัตราตลาด เพราะคนที่เก่งย่อมไม่อยู่นิ่งและมองหาโอกาสเสมอ ซึ่งค่าตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อหรือได้มากกว่านั้น ย่อมได้ผลงานที่ออกมาดีกว่า โดยให้มองพนักงานว่าเป็นเครื่องมือในการช่วยหารายได้เข้าองค์กร ไม่ใช่ภาระขององค์กร เพราะการจ้างคนคือการหาคนมาทำงานให้เรา เพราะฉะนั้นจงมอบอำนาจในการตัดสินใจให้เขาเยอะ ๆ ผลที่ได้คือผลงานที่ออกมาอย่างรวดเร็วและความเก่งที่ซ่อนอยู่ซึ่งคุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนด้วย

    สูตรในการจ้างงาน ทำน้อยให้ได้มาก 20:20:20

    • ให้เงินเดือนพื้นฐานสูงกว่าอัตราตลาด 20%
    • ให้พนักงานมีเวลาการทำงานน้อยกว่าปกติ 20%
    • ให้พนักงานมีผลงานหรือ Output ดีกว่ามาตรฐาน 20%

    คุณกำลังมองหาพนักงานที่ใช่อยู่หรือเปล่า?

    SourcedOut แพลตฟอร์มดิจิทัลที่เชื่อมบริษัทกับนักสรรหามืออาชีพโดยตรง

    ช่วยลดต้นทุนในการสรรหากว่า 30% – 50% เมื่อเทียบกับบริษัทจัดหางานทั่วไป

    ไม่มีการจ้างงานเพิ่ม ไม่มีค่าธรรมเนียม และไม่มีความเสี่ยง!

    คลิกด้านล่างเพื่อประกาศหางานกับ SourcedOut ได้เลย!

    2) Start From The Ground

    ลองคิดว่าตัวเองเป็นลุกน้องดูบ้าง และลองทำในส่วนที่ลูกน้องทำ เพราะการสอนงานด้วยการทำให้ดูนั้นมีพลังมากกว่าการสอนด้วยปาก และถ้าสามารถทำได้ ลูกน้องจะเกิดความ trust รู้สึกศรัทธาและให้คุณหมดทั้งใจ การลงไปทำงานจริงยังช่วยทำให้มองเห็นภาพรวมของทั้งหมด มองเห็นต้นตอและเข้าใจปัญหาได้ดีที่สุดอีกด้วย

    3) เป็นคนฉายไฟ

    หน้าที่ของคนเป็นหัวหน้าคือหาเวทีให้ลูกน้องได้แสดงออก ช่วยฉายไฟเวลาที่ลูกน้องกำลังแสดงอย่างโดดเด่น ช่วยหลบไฟเวลาที่แสดงผิดพลาด ซึ่งหลบไฟในที่นี้ หมายถึง การช่วยออกโรงปกป้องไม่ให้ลูกน้องโดนต่อว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นการช่วยกันปิดบังความผิด และที่สำคัญคือให้พื้นที่ตัวสำรองลงสนามบ้าง

    เพราะในทุก ๆ ทีมเวิร์คจะมีคนเด่นและคนรองเสมอ การเปิดโอกาสให้ตัวสำรองได้แสดงฝีมือบ้าง จะทำให้หัวหน้าเห็นความสำคัญของทีมโดยทั่วถึงกัน และเป็นการพัฒนาความสามารถของตัวสำรองด้วย

    สิ่งสำคัญคือยึดติดในหน้าที่ไม่ใช่ตัวบุคคล และสร้างวัฒนธรรมและความเชื่อเดียวให้ทีมรู้ว่าทุกคนสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องอาศัยหัวหน้าคนนี้คนเดียว ความเชื่อนี้จะเป็นแรงผลักดันให้ทุกคนพัฒนาตัวเองและเอาตัวรอด กล้าตัดสินใจด้วยตัวเองเมื่อปัญหามาถึง

    4) Review and Revert

    ให้ Feedback งานอย่างรวดเร็วเวลาลูกน้องทำงานมาให้ว่าต้องแก้อะไรบ้าง ซึ่งถือเป็นการปรับสไตล์ในการทำงานและเรียนรู้ร่วมกัน และลองชมให้บ่อย และบ่นให้น้อยลงเพราะคำชมเป็นสิ่งสร้างพลังบวกให้ทุกคนในทีมและควรเป็นคำชมแบบเต็มใจ ให้ทั้งทีมรับรู้เพื่อสร้างความรู้สึกบวกร่วมกัน ส่วนเวลาที่จะบ่นหรือดุนั้นควรทำตามลำพัง ที่สำคัญคือเมื่อดุแล้วต้องทำให้ดีกว่าลูกน้องด้วย

    เจ้านายและลูกน้องควรมีวิธีการเสนอแนะ (Feedback) แก่กันอย่างไร

    5) ใช้ Post-it สั่งงาน ดีกว่าใช้ E-mail

    การสั่งงานด้วย Post-It ไปแปะที่โต๊ะทำงานด้วยลายมือตัวเองนั้นได้ผลกว่าการสั่งงานด้วย E-mail หลายเท่า เพราะมันแสดงให้เห็นว่างานนั้นเป็นงานที่สำคัญที่คุณถึงกับต้องเขียนด้วยลายมือตัวเองและเดินมาถึงโต๊ะลูกน้องเพื่อสั่งงาน ลูกน้องจะมีความรู้สึกอยากทำงานนั้นก่อนเป็นอันดับแรกเพราะเป็น Assignment ที่โดดเด่นและแตกต่างจากงานที่ได้รับมอบหมายอื่น ๆ

    6) ให้คนในทีมได้ทำในสิ่งที่ถนัด

    คำกล่าวของไอน์สไตน์ที่ว่า “ถ้าคุณวัดความสามารถของปลาโดยใช้มันปีนต้นไม้ มันคงใช้เวลาทั้งชีวิต” ในฐานะหัวหน้า คุณต้องรู้จุดอ่อนจุดแข็งและธรรมชาติของทุกคนในทีม และให้ทุกคนได้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ส่วนที่เหลือคือให้เขาตัดสินใจเอาเองว่าจะออกแบบชีวิต และรูปแบบการทำงานอย่างไร เพื่อให้ทีมของคุณมีส่วนผสมที่ลงตัว และมีความหลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น มีตำแหน่งนักคิด นักทำ นักเจรจา นักนำเสนอ รวมไปถึงนักระแวดระวัง เป็นส่วนผสมที่ทำให้เกิด Synergy ในทีม

    7) ให้อิสระในวิธีการคิดและการทำงาน

    ในยุคสมัยใหม่ คนรุ่นใหม่มีสไตล์การทำงานที่ต่างจากคนรุ่นเก่าค่อนข้างมาก ค่อนข้างมีความคิดแบบ Ownership และไม่ยึดติดคุณค่าของตัวเองกับระบบเดิมๆแบบ Hierarchy อีกต่อไป ดังนั้นเจ้านายยุคใหม่ต้องเข้าใจและตามให้ทัน ต้องปล่อยให้เขามีอิสระในการคิด และมีสิทธิ์ในการออกแบบชีวิตของตัวเอง รวมไปการรับผิดชอบตัวเองในการพัฒนาความสามารถอยู่เสมอ

     

    8) กินข้าวร่วมกัน

    วางเรื่องงานไว้ที่ทำงานและลองออกไปหาอะไรกินด้วยกันอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่ออยู่ในบทบาทที่ต่างออกไปบ้าง เพื่อซักถามสารทุกข์สุขดิบและชีวิตส่วนตัวกันบ้าง สิ่งนี้ช่วยให้ทราบถึงสถานการณ์ชีวิตของแต่ละคน เพราะแต่ละสถานการณ์ย่อมส่งผลต่อการทำงานในช่วงนั้น ๆ ของแต่ละคนอย่างปฏิเสธไม่ได้ คนเป็นเจ้านายจำเป็นต้องรู้ความเป็นไปของชีวิตลูกน้องในระดับพื้นฐาน

    การบริหารคนก็เป็นเหมือนการบริหารชีวิตและความก้าวหน้าของคนคนหนึ่ง ซึ่งในฐานะหัวหน้างานถือเป็นหน้าที่ของคุณที่ต้องบริหารคนในองค์กรทุกคนไปพร้อมกัน ซึ่งทั้ง 8 ข้อนี้เป็นเพียงเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำได้ง่าย แต่เกิดผลอย่างมากมายมหาศาล

    กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

    Toplist

    โพสต์ล่าสุด

    แท็ก

    flow chart แสดงขั้นตอนการปฏิบัติงาน lmyour แปลภาษา กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่เรือ การเขียน flowchart โปรแกรม ตัวรับสัญญาณ wifi โน๊ตบุ๊คหาย ตัวอย่าง flowchart ขั้นตอนการทํางาน ผู้แต่งกาพย์เห่ชมไม้ ภูมิปัญญาหมายถึง มีสัญญาณ wifi แต่เชื่อมต่อไม่ได้ เชื่อมต่อแล้ว ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ /roblox promo code redeem 3 พระจอม มีที่ไหนบ้าง AKI PLUS รีวิว APC UPS APC UPS คือ Adobe Audition Adobe Bridge Anapril 5 mg Aqua City Odaiba Arcade Stick BMW F10 jerk Bahasa Thailand Benz C63 ราคา Bootstrap 4 Bootstrap 4 คือ Bootstrap 5 Brackets Brother Scanner Brother iPrint&Scan Brother utilities Burnt HD C63s AMG CSS เว้น ช่องว่าง CUPPA COFFEE สุราษฎร์ธานี Cathy Doll หาซื้อได้ที่ไหน Clock Humidity HTC-1 ColdFusion Constitutional isomer Cuppa Cottage เจ้าของ Cuppa Cottage เมนู Cuppa Cottage เวียงสระ DMC DRx จ่ายปันผลยังไง Detroit Metal City Div class คือ Drastic Vita