หลังจากที่ร่อนใบสมัครไปหลายสิบใบ ในที่สุดบัณฑิตใหม่อย่างคุณก็มีข่าวดีเสียที
และตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการทำงานวันแรก คุณรู้หรือยังว่าควรเตรียมตัวอย่างไร 7
วิธีต่อไปนี้จะช่วยให้การทำงานวันแรกเป็นไปอย่างราบรื่น
1. ทบทวนข้อมูลบริษัท
การเตรียมความพร้อมที่ดีประการแรกคือ การทบทวนข้อมูลบริษัท (ซึ่งคุณคงทราบดีอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนไปสัมภาษณ์งาน) ด้วยการเข้าไปดูเว็บไซต์ของบริษัทอีกครั้ง จากนั้นทบทวนข้อมูลเพิ่มเติมที่คุณได้รับในวันสัมภาษณ์ ตลอดจนรายละเอียดงานที่คุณต้องรับผิดชอบและทักษะที่คุณต้องใช้ หากคุณมีเวลามากพอในการเตรียมความพร้อม คุณอาจจำเป็นต้องรื้อฟื้นทักษะบางอย่างที่จำเป็นขึ้นมาอีกครั้ง
2. พักผ่อนให้เพียงพอ
คงไม่มีใครอยากเริ่มงานวันแรกด้วยความเหนื่อยล้า ดังนั้นคุณควรนอนหลับให้เต็มอิ่ม หากคุณรู้สึกไม่สดใสในตอนเช้า การดื่มน้ำสัก 1 แก้วจะช่วยทำให้คุณสดชื่น ตื่นตัว และพร้อมรับมือกับงานต่างๆ ในที่ทำงานใหม่ได้ดี
3. แต่งกายไปทำงานให้เหมาะสม
คุณควรเตรียมเครื่องแต่งกายให้พร้อมตั้งแต่ก่อนเข้านอน และต้องมั่นใจว่าถูกต้องตามระเบียบของบริษัททุกประการ ไม่ดีเลยหากคุณมัวแต่วุ่นวายอยู่กับการเลือกเครื่องแต่งกายในตอนเช้า นอกจากจะทำให้คุณเกิดความเครียดแล้ว บางทีคุณอาจจะไปทำงานสายเพราะมัวแต่เลือกชุดก็ได้
4. ศึกษาเส้นทาง
คุณต้องทราบก่อนว่า ที่ทำงานคุณอยู่ที่ไหน คุณจะเดินทางไปอย่างไร และใช้เวลานานเพียงใดในการเดินทาง เพื่อที่จะได้วางแผนการเดินทางให้ไปถึงที่หมายตรงเวลา หากต้องเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วน อย่าลืมเผื่อเวลาสำหรับรถติดด้วย
5. สร้างความประทับใจเมื่อแรกพบ
จงสุภาพและเป็นมิตรกับทุกๆ คนในที่ทำงาน ควรสบตากับผู้อื่นในขณะแนะนำตัว และคุณอาจจำเป็นต้องจดรายชื่อของเพื่อนร่วมงานเพื่อให้คุณสามารถทักทายเขาได้อย่างถูกต้องเมื่อเดินสวนกัน
6. มีความยืดหยุ่น
ในวันแรกของการทำงาน เพื่อนร่วมงานของคุณอาจจะชักชวนคุณให้ไปรับประทานอาหารกลางวันด้วยกัน เพื่อเป็นการต้อนรับน้องใหม่ ดังนั้นคุณควรทำตัวให้ว่างไว้ อย่าเพิ่งมีนัดกับใคร หรือมีธุระที่ไหน แต่ถ้าหากเหตุการณ์ไม่เป็นไปดังคาด คุณก็ควรเตรียมหาสถานที่รับประทานอาหารใกล้ๆ ไว้ด้วย
7. กล้าที่จะถาม
เพื่อนร่วมงานของคุณย่อมทราบดีอยู่แล้วว่า คุณยังใหม่กับงาน และอาจต้องการความช่วยเหลือ ดังนั้นอย่ากลัวที่จะถาม และเมื่อคุณได้รับคำแนะนำต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ คุณควรจดเอาไว้ด้วย เช่น งานที่เป็นกิจวัตร และรหัสในการเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ จำไว้ว่า การที่คุณทำให้คนอื่นมองคุณว่า เป็นคนที่ยอมรับความช่วยเหลือ ย่อมดีกว่าการเป็นคนที่รู้ดีทุกอย่าง และปฏิเสธความช่วยเหลือจากผู้อื่น
ที่มา : www.expresspersonnel.com
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ทักษะในห้องเรียนก็ช่วยให้มือใหม่หางานได้
เคล็ดลับพนักงานใหม่ เริ่มงานอย่างมั่นใจ
กว่าจะฝ่าฟันมาจนได้งานทำได้ คงจะเหนื่อยกันพอดู บางรายอาจต้องวิ่งหากันไปหลายที่ กว่าจะลงเอยได้ที่นี้ เมื่อได้งานกันแล้ว สิ่งที่ทำให้กังวลใจก็คงเป็นเรื่องสถานที่ทำงานใหม่กระมัง เราคงอดใจไม่ได้ที่จะคิดว่า เจ้านายจะเป็นคนอย่างไร เพื่อนร่วมงานจะดีหรือไม่ จะเข้ากับเพื่อนๆ ได้หรือป่าว แล้วโต๊ะทำงานของเราจะน่าพอใจแค่ไหน เรื่องที่จะคิดเรียกได้ว่ามีร้อยแปดพันเรื่องเลยทีเดียว
“การทำงานวันแรก มีความสำคัญทั้งต่อตัวผู้ทำงานและต่อองค์กร” ถ้าหากวันแรกได้พบเจอสิ่งที่ดี ๆ หรือเรื่องที่น่าประทับใจ คงทำให้มีกำลังใจในการทำงาน แต่ถ้าดันไปพบเจอการไม่ต้อนรับ ทั้งเรื่องคนหรือสถานที่ ก็ทำให้หดหู่พาลไม่อยากทำงานได้เหมือนกัน
“เตรียมตัวทำงาน” สำหรับผู้ที่เป็นพนักงานใหม่เอี่ยม คงจะต้องเตรียมทั้งตัว และทั้งใจในการที่จะพบสิ่งใหม่ๆ โดยมีขั้นตอนง่ายๆ ที่อยากแนะนำ ดังนี้
- ตระเตรียมเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายไปทำงาน แน่ล่ะว่า แต่ละคนนั้นมีสไตล์การแต่งตัวที่ไม่เหมือนกัน ผู้หญิงบางคนชอบกระโปรงยาว แล้วแบบไหนล่ะจึงจะดีกว่ากันๆ เรื่องนี้ก็คงจะขึ้นอยู่กับที่ทำงาน และลักษณะงานที่คุณจะไปทำ หากเป็นโรงเรียนก็ต้องใส่ชุดที่ดูเรียบร้อย อาจจะเป็นกระโปรงที่ไม่สั้นจนเกินไป แต่หากเป็นงานประชาสัมพันธ์ ก็ต้องแต่งตัวให้เตะตาเข้าไว้บ้าง ถ้าจะให้ดีอาจไปด้อมๆ มองๆ ดูสักนิดว่า ที่ทำงานของเรานั้นเขาแต่ง ตัวกันอย่างไร เราจะสามารถเลือกการแต่งกายได้ถูก และเหมาะสมยิ่งขึ้น ในระยะแรกนั้นต้องแต่งตัวตามทิศทางลมกันก่อน แล้วต่อไปจึงค่อยๆ ปรับเอาสไตล์ของตนเองมาผสมผสานกับวัฒนธรรมเรื่องการแต่งตัวของบริษัทเราก็ได้ เพราะอย่าลืมว่า อิมเพรสชั่น (impression) ของเจ้านาย และเพื่อนร่วมงานที่พบในครั้งแรกนั้นมีความสำคัญมากทีเดียว ถ้าเด่นจนเกินไป อาจถูกเขม่นเอา แต่หากเหมาะสมดี ก็อาจเป็นที่ชื่นชอบไปเลยก็ได้
- เรียนรู้งานที่จะทำ ควรจะต้องรีบเรียนรู้ว่า เมื่อตนมาอยู่ในตำแหน่งนี้ มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง บริษัทหลายๆ แห่งจะมี Job description แจกให้แก่พนักงานใหม่ ซึ่งข้อมูลตรงนั้นจะช่วยได้มาก แต่ถ้าหากไม่มีก็คงต้องถามไถ่ หัวหน้าละครับว่า จะต้องทำอะไรบ้าง หัวหน้ามีความคาดหวังต่อผม (ดิฉัน) อย่างไรบ้าง อย่างนี้จะทำให้ง่ายต่อการนำไปปฏิบัติ และเมื่อทราบแล้ว ทำความเข้าใจให้ดีอย่างละเอียด ถี่ถ้วน แล้วจดบันทึกเอาไว้เพื่อใช้เตือนความจำ
- รู้สไตล์การทำงาน เรื่องนี้คล้ายๆ กับเรื่องการแต่งตัว มักเป็นเรื่องวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของบริษัท บางที่อาจทำงานอย่างรวดเร็ว สั่งปุ๊บได้ปั๊บทันใจ แต่ในบางแห่งเอาแบบช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม (มักเป็นระบบราชการ) บางที่ก็ชอบพิธีรีตอง จะส่งจดหมายภายในกันเอง ต้องร่างตามแบบฟอร์มเสียทุกเรื่องทุกครั้งไป แต่บางแห่งก็กันเอง คือสามารถเขียนเป็นข้อความสั้นๆ ส่งได้เลย รู้อย่างนี้ก็ต้องปรับตัวให้เข้ากันได้ด้วย
- สร้างสัมพันธภาพ การทำงานนั้น มักจะต้องประสานกับผู้อื่นจึงจะทำได้สำเร็จ หรือมีความสะดวกราบรื่นขึ้นเพราะฉะนั้น สัมพันธ์ภาพที่ดี ไม่ว่าจะเป็นในแง่เพื่อนร่วมงาน หรือเพื่อนสนิทก็จะทำให้งานมีประสิทธิภาพอย่างที่เราต้องการ ในที่ทำงานเราจำเป็นต้องหมั่นสร้างสัมพันธภาพเอาไว้ ใช้หลักง่ายๆ ว่า “ยิ้มแย้มแจ่มใส โอภาปราศรัย มีน้ำใจและไมตรี” คือ ต้องรู้จักยิ้มแย้มแสดงความมีมิตรจิตกับเพื่อนร่วมงาน มีการแนะนำตัวให้เขารู้จัก พูดคุยสร้างความสนิทสนม มีเรื่องใดที่สามารถช่วยเหลือได้ก็ควรทำทันที สิ่งเหล่านี้จะทำให้ตัวเรา และผู้ร่วมงานของเรา มีความรู้สึกที่ดีต่อกัน จึงทำงานได้อย่างมีความสุข สบายใจ
- จดบันทึกการทำงานของคุณ เพื่อเป็นข้อมูลว่า ตัวคุณได้มีผลงานอะไรบ้าง งานแต่ละชิ้นสำเร็จลุล่วงดีหรือไม่ มีข้อผิดพลาด และวิธีแก้ไขในครั้งต่อไปอย่างไร ความก้าวหน้าของฝีมือมีเพิ่มขึ้นอย่างไร เป็นต้น วิธีการนี้ สามารถใช้เป็นข้อมูลป้อนกลับ (Feed Back) เพื่อตรวจดูการทำงานของท่านเองว่าเป็นอย่างไรบ้าง สามารถทำงานบรรลุจุดประสงค์ตามที่มุ่งหวังไว้ได้มากแค่ไหน? และข้อมูลนี้ยังสามารถส่งให้หัวหน้า เพื่อเป็นการตรวจเช็ค
และแสดงผลงานของท่านให้หัวหน้าเห็นอย่างชัดเจน ดีไม่ดี ท่านอาจได้รับผลดีตอบแทน เช่น ได้เลื่อนขั้น ขึ้นเงินเดือน
เพราะบันทึกนี้ก็เป็นได้
- ทำให้ดีที่สุด ทำให้เต็มความสามารถ อย่าเก็บ (ดอง) งานไว้นาน หรือทำเพื่อให้ผ่านพันไปในวันๆ หนึ่ง และต้องหัดเปิดใจกว้างยินดีรับคำแนะนำหรือคำตำหนิจากหัวหน้า หรือเพื่อนร่วมงานที่หวังดี อาจจะต้องปรับปรุงการทำงานบ้างโดยมุ่งหวังให้งานของเรานั้นสอดคล้อง และดำเนินตามนโยบายของบริษัท เชื่อได้ว่า หากตั้งใจทำงานเต็มที่ และหมั่นพัฒนาการทำงานแล้ว ย่อมประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
ที่มา : www.2poto.com
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เปิดใจเพื่อเรียนรู้สู่ความสำเร็จในการทำงาน
กระจกส่องตนเอง เรียนรู้การพัฒนาตนเองแบบง่ายๆ