1. การปรับปรุงรูปแบบการทำงานขององค์การ เทคโนโลยี หลายอย่างได้ถูกนำเข้ามาใช้ภายในองค์การ และส่งผลให้กระบวนการทำงานได้เปลี่ยนรูปแบบไป ตัวอย่างเช่น การนำเอาเทคโนโลยีไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (electronics mail) เข้า มาใช้ภายในองค์การ ทำให้การส่งข่าวสารไม่ต้องใช้พนักงานเดินหนังสืออีก
2. การสนับสนุนการดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ โดย เทคโนโลยีสารสนเทศจะผลิตสารสนเทศที่สำคัญให้แก่ผู้บริหารที่จะใช้เป็นแนวทาง ในการตัดสินใจและการสร้างความได้เปรียบเหนือกว่าคู่แข่งขัน ในอนาคตการแข่งขันในแต่ละอุตสาหกรรมจะมีความรุนแรงมากขึ้น การบริหารงานของผู้บริหารที่อาศัยเพียงประสบการณ์
3. เครื่องมือในการทำงาน เทคโนโลยี ถูกนำเข้ามาใช้ภายในองค์การ เพื่อให้การทำงานคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ เช่น การออกเอกสารต่าง ๆ โดยใช้คอมพิวเตอร์ การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการออกแบบชิ้นส่วนของเครื่องจักร และการควบคุมการผลิต เป็นต้น เราจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีสามารถที่จะนำมาประยุกต์ในหลาย ๆ ด้าน
4. การเพิ่มผลผลิตของงานโดยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือ PC ถูก พัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตลอดจนการใช้งานสะดวกและไม่ซับซ้อนเหมือนอย่างคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ นอกจากนี้ในท้องตลาดยังมีชุดคำสั่งประยุกต์ (application software) อีก มากมายที่สามารถใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิตของงานได้อย่างมาก
5. เทคโนโลยีในการติดต่อสื่อสาร ใน ช่วงแรกของการนำคอมพิวเตอร์มาใช้งานทางธุรกิจคอมพิวเตอร์จะถูกใช้เป็นเพียง อุปกรณ์หลักที่ช่วยในการเก็บและคำนวณข้อมูลต่าง ๆ เท่านั้น ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ได้ถูกพัฒนาให้มีศักยภาพมากขึ้น โดยสามารถที่จะต่อเป็นระบบเครือข่ายเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่าง คอมพิวเตอร์ ปัจจุบันผู้ใช้สามารถติดต่อเพื่อที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารซึ่งกันและกัน
แนว โน้มของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศขององค์การ แสดงให้เราเห็นได้ว่าในอนาคต ผู้ที่จะเป็นนักบริหารและนักวิชาชีพที่ประสบความสำเร็จจะต้องไม่เพียงแค่ รู้จักคอมพิวเตอร์ แต่จะต้องสามารถใช้คอมพิวเตอร์อย่างมีประสิทธิภาพ และรู้จักการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยผู้บริหารในอนาคตจะต้องรู้จักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีกับงานของตน มีความคิดในการที่จะสร้างระบบสารสนเทศที่ตนเองต้องการ เพื่อช่วยในการตัดสินใจในภาวะที่มีการแข่งขันสูง ทำให้การบริหารของตนเองมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จอย่างสูง ขณะที่นักวิชาชีพจะใช้ระบบสารสนเทศในการรวบรวมประมวลผล และจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการค้นหาและตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ผ่านระบบเครือข่ายอย่างถูกต้องและรวดเร็ว แนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาในอนาคต เทคโนโลยีในปัจจุบันมีวิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้มีวัสดุ อุปกรณ์ และเทคนิควิธีการใหม่ๆ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์อย่างไม่มีขีดจำกัดในทุกวงการ เช่นเดียวกับวงการศึกษาที่นำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนและการบริหารจัดการ รวมถึงใช้ในการกำหนดแนวโน้มของการใช้เทคโนโลยีเพื่อความเปลี่ยนแปลงในอนาคตว่า ควรมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างเพื่อให้มีการใช้เทคโนโลยีอย่างได้ผล นักเทคโนโลยีการศึกษาจึงควรทราบถึงพัฒนาการของเทคโนโลยีและแนวโน้มในอนาคตในการเรียนการสอน ดังนี้ – พัฒนาการของเทคโนโลยีและการเรียนการสอน – การบรรจบกันของเทคโนโลยีและสื่อการสอน – ศักยภาพของการสื่อสารในสถาบันการศึกษา – พัฒนาการของอีเลิร์นนิ่ง : Learning Object – Grid Computing – ความเป็นจริงเสมือนและสภาพแวดล้อมเชิงเสมือน – การรู้จำคำพูดและการสื่อสาร – บทสรุป : วงการศึกษาและความเปลี่ยนแปลงในอนาคต – คอมพิวเตอร์ : อุปกรณ์หลักในการเรียนการสอน – ไอซีทีและการบูรณาการการเรียนการสอน – การเรียนในสภาพแวดล้อมการเรียนรู้เชิงเสมือน
– การเปลี่ยนบทบาทของผู้สอนและผู้เรียน
– สถานศึกษาอิเล็กทรอนิกส์
ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีสารสนเทศจะเข้ามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนมากรวมถึงองค์กรต่างๆ การเปลี่ยนแปลงเช่นนี่ย่อมมาจากปัจจัยต่างๆนั้นคือ
- กระแสโลกาภิวัฒน์
- การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี
- เศรษฐกิจระหว่างประเทศที่มีการค้าอย่างเสรี
และปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตเราไปแล้ว เพราะมันช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ และมีแนวโน้มการใช้ในอนาคตจะยิ่งเพิ่มขึ้น มีรูปแบบหลากหลายมากขึ้น โดยเทคโนโลยีสารสนเทศมีองค์ประกอบสำคัญๆ 2 อย่าง คือ
- เทคโนโลยีเพื่อการประมวลผล
- เทคโนโลยีเพื่อเพื่อการเผยแพร่
เทคโนโลยีเพื่อการประมวลผล
คือ ระบบคอมพิวเตอร์ จำพวกคอมพิวเตอร์, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคต่างๆ, โปรแกรมต่างๆ ซึ่งมีองค์ประกอบ 2 อย่าง คือ
- ฮาร์ดแวร์
1.1 แท็บเล็ต ( tablet ) ได้รับความนิยมตั้งแต่ปี 2554 และเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะ iPad ของ Apple และ Kindle ของ Amazon
1.2 สมาร์ทโฟน ( smartphone ) ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและให้มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคอมพิวเตอร์มากที่สุด ( แม้มันจะห่างกันมากก็เถอะ -_- ) โดยที่ได้รับความนิยมมาก เช่น iPhone, Sumsung Galaxy Tab, Nokia เป็นต้น
- ซอฟต์แวร์
2.1 SaaS : Software as a Service เป็นซอฟร์แวร์เพื่อองค์กรธุรกิจ ซึ่งมีลักษณะการใช้ซอฟร์แวร์เหมือนการรับบริการ กล่าวคือ เป็นการใช้งานซอฟร์แวร์ที่สามารถใช้งานได้ตามต้องการผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตด้วยโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ โดยไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และซอฟร์แวร์มาติดตั้งก่อน แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือนหรือรายปี เป็นทางเลือกหนึ่งที่ประหยัดต้นทุนในการใช้งานซอฟร์แวร์ธุรกิจ
2.2 mobile application เป็นซอฟร์แวร์เพื่อผู้บริโภค มีการใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือจำพวกสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต
2.3 cloud computing มีลักษณะรูปการใช้เหมือน SaaS แต่สามรถใช้ได้กับองค์กร และบุคคล
เทคโนโลยีเพื่อการเผยแพร่
คือ ระบบสื่อสารโทรคมนาคม ในอนาคตจะนำระบบนี้มาผสมผสานเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์กลายเป็นเทคโนโลยีคอนเวอร์เจนซ์ ( Convergence ) ปัจจุบันรูปแบบที่นิยมใช้กัน คือ
- เครือข่ายสังคมออนไลน์ ( Social Network Online )
- ธุรกิจออนไลน์แบบโซเซียลคอมเมิร์ส ( Social Commerce )
แนวโน้มเทคโนโลยีสารสนเทศด้านอื่นๆ
- ด้านข้อมูล ต้องสามารถจัดการข้อมูลต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความหยืดหยุ่นในการใช้งานและทำงานกับข้อมูลขนาดใหญ่ได้
- การวิเคราะห์ธุรกิจ เครื่องมืออัจฉริยะสามารถกรั่นกรองวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำไปใช้ในการตัดสินใจได้ของคนในการทำกิจกรรมต่างๆได้
- กรีนไอที เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- มาตรฐานไอทีและการรักษาความปลอดภัย ระบบรักษาความปลอดภัยจะมีความฉลาด เก่ง มากขึ้นและทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้นเพื่อป้องกันกับภัยคุกคามต่างๆที่สามารถพัฒนาได้เองตลอดเวลา
- สมาร์ทซิตี้ เมืองจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านเทคโนโลยีสารเทศต่างๆ
เทคโนโลยีสารสนเทศกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
ด้านสังคม
- ระดับบุคคล ประกอบ 3 สิ่ง คือ – การเป็นผู้รับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
– การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์
– การตัดสินใจที่วางใจได้
1.1 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีจริยธรรม และถูกต้องตามกฎหมายที่ได้กำหนด
1.2 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างสร้างสรรค์ และเป็นมิตรที่ดีกับคนอื่น
1.3 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อก่อให้เกิดความรักสามัคคีในหมู่คณะ
1.4 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสร้างกิจกรรมทางสังคมที่เป็นประโยชน์
1.5 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รักษาสิ่งแวดล้อม และคำนึงถึงการประหยัดพลังงาน
- ระดับองค์กร ดำเนินธุรกิจคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมในชุมชนและสังคม อย่างมีจริยธรรม การดูแลที่ดี ตอบสนองประเด็นทางสังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งผลประโยชน์ให้แก่คน ชุมชน สังคมเพื่อควาสำเร็จขององค์กรอย่างยั่งยืน
ด้านสิ่งแวดล้อม
- เทคโนโลยีกรีนไอที เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เป้าหมาย คือ
1.1 สร้างผลิตภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้
1.2 ลดมลพิษและขยะ
1.3 การผลิตเชื้อเพลิงทดแทน
1.4 การใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะมแก่สภาพแวดล้อม ภูมิศาสตร์
1.5 การผลิตพลังงานทางเลือกใหม่
1.6 สร้างผลิตภัณฑ์ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
ตัวอย่าง เช่น กรีนคอมพิวเตอร์ ทีสามารถลดการสิ้นเปลืองพลังงานน้อยที่สุด
กรีนดาต้าเซ็นเซอร์ ที่สามารถจัดการ สั่งการอุปกรณ์ เครื่องจักรต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพและผล ให้กระทบสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด เป็นต้น
แนวโน้มใน ด้านบวก
-การพัฒนาเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมโยงกันทั่วโลก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ช่องทางการดำเนินธุรกิจ เช่น การทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ดูหนัง ฟังเพลงและเกมส์ออนไลน์
-การพัฒนาให้คอมพิวเตอร์สามารถฟังและตอบเป็นภาษา พูดได้ อ่านตัวอักษรหรือลายมือเขียนได้ การแสดงผลของคอมพิวเตอร์ได้เสมือนจริง เป็นแบบสามมิติ และการรับรู้ด้วยประสาทสัมผัส เสมือนว่าได้อยู่ในที่นั้นจริง
-การพัฒนาระบบสารสนเทศ ฐานข้อมูล ฐานความรู้ เพื่อพัฒนาระบบผู้เชี่ยวชาญและการจัดการความรู้
-การศึกษาตามอัธยาศัยด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-learning) การค้นคว้าหาความรู้ได้ตลอด 24 ชั่วโมงจากห้องสมุดเสมือน (virtual library)
-การพัฒนาเครือข่ายโทร คมนาคม ระบบการสื่อสารผ่านเครือข่ายไร้สาย เครือข่ายดาวเทียม ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ ทำให้สามารถค้นหาตำแหน่งได้อย่างแม่นยำ
-การบริหารจัดการภาครัฐสมัยใหม่ โดยการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและเครือข่ายการสื่อสารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการ ดำเนินการของภาครัฐที่เรียกว่า รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-government)
แนวโน้มใน ด้านลบ
-ความผิดพลาดในการทำงานของระบบ คอมพิวเตอร์ ทั้งส่วนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ที่เกิดขึ้นจากการออกแบบและพัฒนา ทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบและสูญเสียค่าใช้จ่ายในการแก้ปัญหา
-การละเมิดลิขสิทธิ์ของทรัพย์สินทางปัญญา การทำสำเนาและลอกเลียนแบบ
-การก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ การโจรกรรมข้อมูล การล่วงละเมิด การก่อกวนระบบคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีสารสนเทศที่สำคัญในอนาคต มีดังนี้
- คอมพิวเตอร์ ได้มีการพัฒนาหน่วยความจำให้มีประสิทธิภาพสุงขึ้น แต่มีราคาถูกลง ซึ่งช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำงานของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในปัจจุบันตลอดจนการนำชุดคอมพิวเตอร์ชนิดลดคำสั่งมาใช้ในการออกแบบหน่วยประเมินผล ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้เร็วขึ้นโดยใช้คำสั่งพื้นฐานง่ายๆ
- ปัญญาประดิษฐ์ เป็นการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ให้มีความสามารถในการตอบสนองกับความต้องการของมนุษย์ได้ ให้มีพฤติกรรมเลียนแบบมนุษย์ มีความเข้าใจภาษามนุษย์ รับรู้ภาษามนุษย์ได้ เช่น หุ่นยนต์ เป็นต้น
- ระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหาร เป็นการพัฒนาระบบสารสนเทศที่สนับสนุนผู้บริหารในงานระดับวางแผนนโยบายและกลยุทธ์ขององค์กร
- การจดจำเสียงเป็นการพัฒนาเพื่อให้ผู้ใช้มามารถออกคำสั่งและตอบโต้กับคอมพิวเตอร์แทนการกดแป้นพิมพ์
- การแลกเปลี่ยนข้อมูลอิล็กทรอนิกส์ เป็นการส่งข้อมูลจากระบบคอมพิวเตอร์หนึ่งไปสู่ระบบคอมพิวเตอร์อื่นโดยผ่านระบบสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การทำธุรกิจ ค้าขาย ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง
- เส้นใยแก้วนำแสง เป็นตัวกลางที่สามารถส่งข้อมุลข่าสารได้อย่างรวดเร็ว โดยอาศัยการส่งสัญญาณแสงผ่านเส้นใยแก้วนำแสงที่มัดรวมกัน เกิดแนวคิด ทางด่วนข้อมูล ที่เชื่อมโยงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน
- อินเทอร์เน็ต เป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงกันทั่วโลกได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยสมาชิกสามารถติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้
- ระบบเครือข่าย เป็นระบบสื่อสารเครือข่ายที่ใช้ในระยะทางที่กำหนด ส่วนใหญ่จะอยุ่ในอาคารหรือในหน่วยงาน
- การประชุมทางไกล เป็นการผสมผสานกันระหว่าง คอมพิวเตอร์ เครื่องถ่ายโทรทัศน์ และ ระบบสื่อสารโทรคมนาคม ผู้ประชุมไม่จำเป็นอยู่ในห้องประชุม ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางและผู้ที่อยู่ห่างไกลกันมาก
- โทรทัศน์ตามสายและผ่านดาวเทียม เป็นการส่งสัญญาณโทรทัศน์ผ่านสื่อต่างๆไปยังผู้ชม ข้อมูลแพร่ไปได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง
- เทคโนโลยีมัลติมิเดีย เป็นการนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มาประยุกต์ใช้กับคอมพิวเตอรืในการเก็บข้อมูล เช่น รูปภาพ ข้อความ เสียง โดยสามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่
- การใช้คอมพิวเตอร์ในการฝึกอบรม เป็นการนำคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการฝึกอบรมในด้านต่างๆ หรือที่เรียกว่า คอมพิวเตอร์ช่วยสอน เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการเรียนรู้
- การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการออกแบบ ช่วยในการออกแบบผลิตภัณฑ์ รูปแบบหีบห่อ รวมทั้งด้านการออกแบบวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมให้เหมาะกับความต้องการ
- การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการผลิต ช่วยในการผลิตสินค้าในโรงงงานอุตสาหกรรม สามารถตรวจสอบรายละเอียดและข้อผิดพลาดของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ได้มาตรฐาน
- ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ เป็นการนำเอาระบบคอมพิวเตอร์ทางด้าน รูปภาพและข้อมูลทางภูมิศาสตร์ มาจัดทำแผนที่ในบริเวณที่สนใจ เป็นประโยชน์ในการดำเนินกิจการต่างๆ เช่น การวางแผนยุทธศาสตร์ การขนส่ง สำรวจและป้องกันภัยธรรมชาติ การช่วยเหลือและกู้ภัย เป็นต้น
สรุป
จากที่กล่าว ในสังคมสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก คนในสังคมมีการปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง คนทุกระดับอายุ เกือบทุกอาชีพ มีความต้องการสารสนเทศอยู่ตลอดเวลาใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อให้สามารถนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาเป็นเครื่องมือช่วยอำนวยความสะดวกในการ ดำเนินชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาหาความรู้ การประกอบธุรกิจ การบริหารจัดการ การพักผ่อนและบันเทิง รวมทั้งการสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับชีวิตของตนเอง