ในเชิงเศรษฐศาสตร์ปริมาณเงิน (Money Supply หรือ Money Stock) หมายถึง เป็นปริมาณของเงินหรือสินทรัพย์อื่นที่ใกล้เคียงกับเงินที่หมุนเวียนอยู่ในในระบบเศรษฐกิจ ประกอบด้วยธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ที่อยู่ในมือประชาชน และรวมถึงเงินฝากกระแสรายวัน ซึ่งเป็นเงินฝากเผื่อเรียกที่ประชาชนฝากไว้ที่ระบบธนาคาร อาทิ ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ
ปริมาณเงินจะจำแนกประเภทตามขนาด ดังนี้
ปริมาณเงินในความหมายแคบ (Narrow)
- M1 = ธนบัตร + เหรียญกษาปณ์ + เงินฝากกระแสรายวัน
ปริมาณเงินในความหมายกว้าง (Broad Money)
- M2 = M1 + เงินฝากออมทรัพย์ + เงินฝากประจำของประชาชน
- M3 = M2 + เงินฝากประจำในสถาบันการเงินทุกประเภท + เงินฝากที่เป็นเงินตราต่างประเทศ + ตั๋วสัญญาใช้เงินของบริษัทเงินทุน และ บริษัทหลักทรัพย์
ปัจจุบัน นิยามของปริมาณเงินซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยมีการเผยแพร่อยู่ จะเหลือเพียง ปริมาณเงินในความหมายแคบ (Narrow) และในความหมายกว้าง (Board Money) โดยในอดีตจะมีการเผยแพร่ในลักษณะ M1 + M2 + M3
แม้ธนาคารกลางจะมีการพูดถึงปริมาณเงินในระบบไม่บ่อยนัก แต่การทำความรู้จักกับชื่อเรียกปริมาณเงินในนิยามต่างๆ จะทำให้เราทราบแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของเงินในระบบอย่างเข้าใจ เพื่อเตรียมรับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ปริมาณเงิน M1 หรือปริมาณเงินตามความหมายแคบ (Narrow Money) หมายถึงปริมาณเงินที่หมุนเวียนในมือประชาชน ประกอบด้วยธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ในมือประชาชนและเงินฝากเผื่อเรียกของประชาชนที่ระบบธนาคารปริมาณเงิน M2 หรือปริมาณเงินตามความหมายกว้าง(Broad Money) หมายถึง ปริมาณเงินที่หมุนเวียนในมือประชาชน นอกจากประกอบด้วยธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ในมือประชาชนและเงินฝากเผื่อเรียกแล้ว
ยังรวมเงินฝากประจำและออมทรัพย์ที่ระบบธนาคารอีกด้วย(รายละเอียดปริมาณเงิน M1 และ M2 ดูได้จากตารางที่ 2 ในรายงานเศรษฐกิจรายเดือนของธนาคารแห่งประเทศไทย)ปริมาณเงิน M2a หมายถึง ปริมาณเงินที่อยู่ในมือประชาชน(Broad Money M2a)ความหมายกว้างขึ้นโดยรวมปริมาณเงิน M2 และตั๋วสัญญาใช้เงินหรือนัยหนึ่งคือ เงินที่บริษัทเงินทุนฯ รับฝากจากประชาชน (รายละเอียดปริมาณเงิน M2a ดูได้จากบทความเรื่อง "ปริมาณเงิน M2a" ในรายงานเศรษฐกิจรายเดือน ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2542 ของธนาคารแห่งประเทศไทย)ปริมาณเงิน M3 หรือ
ปริมาณเงินตามความหมายที่กว้างที่สุด (Broad Money M3) คือปริมาณเงินที่หมุนเวียนในมือประชาชนในรูปของเงินสด เงินฝากทุกประเภทของสถาบันการเงินที่รับฝากจากประชาชน ซึ่งรวมถึงเงินฝากในรูปของตั๋วสัญญาใช้เงินของบริษัทเงินทุน
www.dmr.go.th/board/data/0474.html - 20k
เงินลงทุน หมายถึง หลักทรัพย์หรือตราสารทางการเงินที่อยู่ในความครอบครองของบริษัทที่นับรวมเป็นสินทรัพย์สภาพคล่องในหัวข้อเงินลงทุนได้ ทั้งนี้ รวมถึงการมีฐานะอนุพันธ์ทางการเงิน เช่น ออปชัน (options) ฟอร์เวิร์ด (forwards)
ฟิวเจอร์ (futures) หรือสวอป (swaps) เป็นต้น (ไม่รวมตั๋วสัญญาใช้เงินและ ตั๋วแลกเงินที่ออกโดยสถาบันการเงิน และหลักทรัพย์ซื้อโดยมีสัญญาจะขายคืน ซึ่งได้รายงานไว้แล้วในข้อ 2 และข้อ 3 ของส่วนที่ 1
ตามลำดับ)
//www.bus.ubu.ac.th/El/GE_chatdudee/data140947/%E0%A7%D4%B9.ppt#257,2
ปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจเงินจะทำหน้าที่สำคัญในการดำเนินกิจการต่างๆทางด้านเศรษฐกิจได้ดีหรือไม่จะขึ้นอยู่กับ ค่าของเงิน คือค่าของเงินต้องอยู่ในลักษณะที่คงทีถ้าค่าของเงินเปลี่ยนไปรวดเร็วจะส่งผลให้ประชากรขาดความเชื่อถือในตัวเงิน
เงินก็จะไม่สามารถทำหน้าที่ของเงินต่อระบบเศรษฐกิจได้ดีรัฐบาลจึงจำเป็นต้องรักษาเสถียรภาพของเงินตรา โดย ปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจจะถูกกำหนดจากนโยบายของรัฐบาลผ่านการใช้นโยบาลการเงิน โดยในกรณีปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจมีมากหรือน้อยเกินไป ธนาคารกลางหรือธนาคารแห่งประเทศไทย
สามารถจะควบคุมปริมาณให้เหมาะสมได้โดยใช้มาตรการทางการเงินเพื่อไม่ให้ขาดหรือเกินกำลังผลิตในระบบเศรษฐกิจ
//learners.in.th/blog/ST-Economics/10919
ทุนสำรองเงินตรา คือ สินทรัพย์ที่ใช้หนุนหลังธนบัตรออกใช้ ซึ่งจะต้องมีมูลค่าเท่ากับธนบัตรออกใช้ 100 % ตามหลักการที่ว่า มูลค่าของธนบัตรออกใช้จะต้องเท่ากับมูลค่าของ สินทรัพย์ทุนสำรองเงิน ตราเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่า
ธนบัตรได้รับการประ กัน ราคาให้มีค่าตามที่ระบุไว้บนหน้าธนบัตรนั้นสินทรัพย์ที่ประกอบขึ้น เป็นทุนสำรองเงินตรา ได้แก่1. ทองคำ 2. เงินตราต่างประเทศอันเป็นเงินตราที่พึงเปลี่ยนได้ หรือเงินตราต่างประเทศอื่นใดที่กำหนดโดยกฎกระทรวง ทั้งนี้ ต้องเป็นรูปเงินฝากในธนาคารนอกราชอาณาจักร หรือในสถาบันการ เงินระหว่างประเทศ 3. หลักทรัพย์ต่างประเทศที่จะมีการชำระหนี้เป็นเงินตราต่างประเทศที่ระบุไว้ใน (2) 4. ทองคำ สินทรัพย์ต่างประเทศและสิทธิพิเศษถอนเงิน ทั้งนี้ที่นำ ส่งสมทบกองทุนการเงิน 5. ใบสำคัญสิทธิซื้อส่วนสำรอง 6.
ใบสำคัญสิทธิ พิเศษถอนเงิน 7. หลักทรัพย์รัฐบาลไทยที่จะมีการชำระหนี้ เป็นเงินตรา ต่างประเทศที่ระบุไวในข้อ 2 หรือเป็นบาท 8. ตั๋วเงินในประเทศที่ธนาคาร แห่งประเทศไทยพึงซื้อหรือรับช่วงซื้อลดได้ แต่ต้องมีค่ารวมกันไม่เกิน ร้อยละยี่สิบของจำนวนธนบัตรออกใช้
//www.geocities.com/oraans/dic1.html
ฐานเงิน ประกอบด้วยธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ที่หมุนเวียนอยู่ในมือ ประชาชน
และในมือธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งเงินฝากสถาบันการเงินท ี่ฝากไว้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งในทางเศรษฐศาสตร์ฐาน เงินจะ สามารถสร้างปริมาณเงินหมุนเวียนได้จำนวนกี่เท่าขึ้นกับขนาดของ ตัวทวีฐานเงิน ในปัจจุบันฐานเงินเพิ่มขึ้น 1 บาท สามารถสร้างปริมาณ เงิน M1 ได้ประมาณ 0.9 เท่า สร้างปริมาณเงิน M2 ได้ประมาณ 10 เท่า ปริมาณเงิน M2a ได้ 11 เท่าและปริมาณเงิน M3 ได้ประมาณ 12 เท่า
www.geocities.com/oraans/dic1.html - 6k