องค์ประกอบ ของ Digital Business

Digital Business Model โมเดลการทำธุรกิจในยุคดิจิทัล!

276

SHARES

ShareTweet

เมื่อต้องเผชิญกับ Digital Disruption ควบคู่กับการพัฒนาของเทคโนโลยีที่ทำให้ธุรกิจดำเนินการต่างไปจากเดิม จึงทำให้เกิดโมเดลที่เรียกว่า Digital Business Model คือการเพิ่มมูลค่าของธุรกิจโดยการใช้ดิจิทัลเข้ามาเสริมเพื่อรับมือกับคู่แข่งที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน

จะเห็นได้ว่าธุรกิจปัจจุบันนี้จะทำควบคู่กับแพลตฟอร์มออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้าผ่านโซเชียลมีเดียหรือการใช้ E-Commerce เป็นตัวช่วยในการขายที่ทำให้สะดวกสบายมากขึ้นสำหรับลูกค้า และยังสามารถ Record data โดยการจดจำพฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อนำไปคาดการณ์ยอดขายในอนาคต​ (Sales forecast) อีกทั้งยังพัฒนาแพลตฟอร์มให้ใช้งานง่าย เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อีกด้วย

Digital Business Model แบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้

1. Freemium
การที่แพลตฟอร์มเปิดให้ใช้บริการโดยมีเงื่อนไขบางประการ อย่างเช่น มีข้อจำกัดในการใช้ฟังก์ชันในแอปพลิเคชัน โดยสามารถซื้อบริการเสริมหากต้องการใช้ฟังก์ชันนั้น ๆ ตัวอย่างเช่น Youtube โดยปกติแล้วผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มได้ฟรี แต่หากต้องการข้ามโฆษณาก็สามารถจ่ายเพิ่มเพื่ออัพเกรดเป็นพรีเมียมได้เช่นกัน

2. Subscription
ระบบสมัครสมาชิกที่มาแทนการซื้อขาย นั่นหมายความว่าหากเราต้องการเข้าถึงแพลตฟอร์มนั้น ๆ จะต้องสมัครสมาชิกเสียก่อน ตัวอย่างเช่น Netflix บริการสตรีมมิ่งที่นำเสนอความบันเทิง หากต้องการเข้าถึงแพลตฟอร์มนี้จะต้องสมัครสมาชิกก่อน โดยมีการคิดค่าบริการตามแพ็คเกจ

3. Peer-To-Peer, two-sided marketplace
แพลตฟอร์มที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อผู้ขายและผู้ซื้อโดยมีตัวกลางเป็นสินค้าหรือการบริการไม่ว่าจะเป็นการเช่าหรือซื้อก็ตาม ตัวอย่างเช่น Airbnb แพลตฟอร์มที่ให้บริการเช่าสถานที่โดยไม่มีสถานที่เป็นของตัวเองเลยเพราะเป็นตัวกลางที่ให้ผู้ให้เช่ามาลงสถานที่และเปิดบริการให้ผู้เช่ามาเลือกจองสถานที่นั่นเอง

4. E-Commerce
ผู้ให้บริการที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการขายสินค้าเสมือนกับการขายสินค้าผ่านคนกลางทั่วไปที่ย้ายมาวางไว้บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Lazada, Shopee, Amazon นั่นเอง

5. On-demand
เป็นการบริการที่นำระบบเข้ามาใช้เพื่อประหยัดเวลามากขึ้นและสามารถใช้บริการได้เมื่อต้องการ ตัวอย่างเช่น Netflix บริการเช่าหนังที่สามารถเข้าชมเมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการ หรือ Grab Food ที่ให้บริการสั่งอาหารมาส่งตามสถานที่เพื่อประหยัดเวลาในการไปต่อคิวซื้อเอง

6. Ad-Supported
เว็บไซต์ที่ให้เข้าถึงได้ฟรีไม่ว่าจะเป็น content, article โดยบริษัทเหล่านี้จะอยู่ได้ด้วยการขายโฆษณา ตัวอย่างเช่น Google ที่สามารถใช้เสิร์ชหาข้อมูลฟรี แต่หากสังเกตดี ๆ จะเห็นได้ว่ามีโฆษณาแฝงอยู่ในหน้าเว็บไซต์นั้น นั่นจึงเป็นแหล่งที่มารายได้ของ Google นั่นเอง

7. Open Source
โมเดลนี้ทำให้สามารถเข้าถึงซอฟต์แวร์ได้ฟรี และสามารถเข้ามาแก้ไข ดัดแปลงได้ ตัวอย่างเช่น Red Hat เปิดให้บริการซอฟต์แวร์ที่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้ามาแก้ไข หรือเผยแพร่ต่อได้ และใช้ได้ฟรี โดยมีรายได้จากค่าสมัครสมาชิก (Premium Subscription) และการฝึกอบรม

ในทางกลับกันหากทุกแพลตฟอร์มใช้โมเดลเดียวกันจะทำให้คู่แข่งในตลาดยิ่งสูงขึ้น ทั้งนี้แบรนด์จึงต้องสร้างเอกลักษณ์และมีจุดยืนที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการบริการที่ดีกว่าเพื่อสร้าง Customer Experience หรือการสร้าง Customer Relationship ในระยะยาวนั่นเอง

ที่มา
//innolytics-innovation.com/digital-business-model/
//www.kreezalid.com/blog/78489-peer-to-peer-marketplace
//fourweekmba.com/digital-business-models/



#digitalmarketingdigital marketing

Digital Business ไม่ใช่เรื่องของเทคโนโลยีแต่เป็นการสร้างโมเดลธุรกิจบนพื้นฐานของการเชื่อมโยงโลกดิจิตอลกับโลกจริงเข้าด้วยกัน

Digital business จะเริ่มต้นจากการเชื่อมโยงองค์ประกอบต่างๆภายในธุรกิจเข้าด้วยกันไม่ว่าจะเป็นลูกค้า พาร์ตเนอร์ ซัพพลายเออร์ สินค้าและบริการ หรือแม้แต่อุปกรณ์ต่างๆ การเชื่อมโยงก่อให้เกิดการหลอมรวมระหว่างโลกดิจิตอลและโลกความเป็นจริง (digital-physical convergence) เข้าด้วยกันโดยไม่มีการแบ่งแยก

ผลผลิตจากการที่ทุกสิ่งทุกอย่างถูกเชื่อมโยงเข้าหากันคือ “ข้อมูล” ซึ่งนำไปใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้ารวมถึงนำไปใช้พัฒนาระบบอัจฉริยะอย่างปัญญาประดิษฐ์และนำไปสู่การมอบคุณค่าและประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้าผ่านการปฏิสัมพันธ์ด้วยรูปแบบต่างๆ

เทคโนโลยีดิจิตอลเป็นตัวผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใน 3 องค์ประกอบของ digital business คือ

  1. Integration — การเชื่อมโยง
  2. Intelligence — ข้อมูลและการประมวลผล
  3. Interaction — วิธีการปฏิสัมพันธ์

ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเข้าไปผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคและส่งผลต่อโมเดลธุรกิจในอนาคต โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

Integration — การเชื่อมโยง

ปัจจัยสำคัญของการทำ digital business คือการเชื่อมโยงทุกสิ่งทุกอย่างเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้คน สิ่งของ หรือธุรกิจ เกิดเครือข่ายผู้บริโภค เครือข่ายพาร์ตเนอร์ ธุรกิจสามารถสื่อสารไปยังผู้บริโภคได้โดยตรง ผู้บริโภคให้ feedback เกี่ยวกับสินค้าบน social media เครือข่ายอุปกรณ์ที่ส่งสัญญาณไปยังผู้บริโภคหรือธุรกิจ การใช้ระบบร่วมกันระหว่างบริษัทและพาร์ตเนอร์ ทำให้ทุกฝ่ายได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรวดเร็ว เป็นต้น

การเชื่อมโยงไม่ใช่เรื่องของเทคโนโลยี ไม่ใช่เรื่องของการสร้างโครงสร้างพื้นฐานหรือการลงทุนด้านระบบไอทีที่ทันสมัย สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงเครื่องมือเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเท่านั้น

บางครั้งการเชื่อมโยงมักถูกใช้ในบริบทของดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง เช่น การทำโฆษณาบน search engine ของ Google การสร้างแอพพลิเคชั่นบนมือถือ การทำโปรโมทและโฆษณาบน Facebook หรือ การทำ Line@

สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงช่องทางการติดต่อกับลูกค้าเท่านั้น

การคำนึงถึงช่องทางดิจิตอลเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคที่อยู่กับหน้าจอมือถือมากกว่าหน้าจอทีวีเป็นแค่เพียงการเปลี่ยนช่องทางการแสดงผลโฆษณาเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้เวลาอยู่กับสมาร์ทโฟนหลายๆชั่วโมงต่อวัน

ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกเชื่อมโยงอย่างมีประสิทธิภาพนั้นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเพิ่มเติมคือให้ทุกคนมีส่วนร่วม (engagement) ในโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่สร้างขึ้น

หลายองค์กรสร้างแอพพลิเคชั่นบนมือถือแต่ไม่มีคนโหลดมาใช้งาน สร้างแฟนเพจบน Facebook แต่ไม่มีการสร้างคอนเทนท์ที่ดี ช่องทางเหล่านี้จึงไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจได้

ดังนั้น ธุรกิจจำเป็นต้องตั้งเป้าหมาย วัตถุประสงค์ในการทำ digital business ว่าต้องการให้ใครหรือสิ่งไหนเข้ามาอยู่ในระบบบ้าง วัตถุประสงค์ของแต่ละธุรกิจจะแตกต่างกันไปตามแต่รูปแบบธุรกิจ ธรรมชาติของสินค้าและบริการ และเป้าหมายในการส่งมอบคุณค่า

Intelligence — ข้อมูลและการประมวลผล

Intelligence หรือ ระบบอัจฉริยะพัฒนาขึ้นมาจากองค์ประกอบ 2 ส่วน คือ ข้อมูลกับการประมวลผล

ข้อมูล (data)

การเชื่อมโยงบนโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีดิจิตอลทำให้เกิด “ข้อมูล” ซึ่งเป็นคุณค่าที่ธุรกิจแบบดั้งเดิมไม่มี ธุรกิจจะได้รับข้อมูลในทุกๆกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นคำติชม ข้อมูลลูกค้า ข้อมูลการซื้อขาย และข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งแตกต่างจากการปฏิสัมพันธ์ในอดีตที่เกิดขึ้นและจบไป โดยที่ธุรกิจไม่สามารถคาดการณ์รายได้ ออกโปรโมชั่นที่สอดคล้องกับลูกค้าแต่ละราย หรือ ปรับปรุงคุณภาพสินค้าและบริการได้อย่างในปัจจุบัน

ข้อมูลในโลกดิจิตอลมีปริมาณมหาศาล เทคโนโลยีหลักที่อยู่เบื้องหลังในการเก็บข้อมูลเหล่านี้ คือ พัฒนาการของเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายความเร็วสูงและระบบคลาวด์ เทคโนโลยีสื่อสารไร้สายความเร็วสูงไม่ว่าจะเป็น 4G ที่เราใช้งานอยู่ หรือ 5G เทคโนโลยีสื่อสารความเร็วสูงในอนาคตอันใกล้ ช่วยให้ผู้บริโภครับชมคอนเทนท์หรือใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆได้อย่างรวดเร็วบนสมาร์ทโฟนและธุรกิจสามารถนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆแก่ผู้บริโภคได้

ในขณะที่ระบบคลาวด์จะทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลจากที่ไหน เวลาไหนก็ได้ โดยที่ข้อมูลปริมาณมหาศาลจะถูกจัดเก็บอย่างมีประสิทธิภาพบนโครงสร้างพื้นฐานที่กระจายอยู่ทั่วโลก โดยระบบคลาวด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ Amazon Web Services (AWS) ซึ่งมีส่วนแบ่งถึง 40% ในตลาดโลก

ข้อมูลถือว่าเป็นปัจจัยด้านกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับองค์กรระดับโลกไม่ว่าจะเป็น Google, Facebook หรือ Alibaba หรือองค์กรในประเทศไทยหลายแห่งก็ได้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลมากขึ้น

การประมวลผล (processing)

ข้อมูลปริมาณมหาศาลที่ถูกจัดเก็บนั้นจะไม่มีประโยชน์เลยหากไม่ได้นำข้อมูลเหล่านั้นมาประมวลผลเพื่อหาเบาะแสในการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆให้แก่ลูกค้า

นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลหรือ data scientist อาชีพใหม่ของทศวรรษนี้จึงเป็นที่ต้องการของตลาดเพราะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการนำข้อมูลปริมาณมากที่อยู่กระจัดกระจายมาหารูปแบบเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้า แนวโน้มของตลาดและปัจจัยอื่นๆเพื่อให้ฝ่ายการตลาดและผู้บริหารได้นำข้อมูลไปใช้ในการวางกลยุทธ์และพัฒนาแผนการตลาดต่อไป

ในขณะเดียวกันเทคโนโลยีก็กำลังก้าวข้ามความต้องการใช้มนุษย์ในการวิเคราะห์ข้อมูล โดยเทคโนโลยี machine learning และ deep learning ที่กำลังเป็นที่จับตามองกำลังถูกพัฒนาอย่างรวดเร็วและเป็นองค์ประกอบในการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ หรือ artificial intelligence (AI) ซึ่งมีความสามารถในการเรียนรู้ วิเคราะห์ ประมวลผลและตอบสนองความต้องการของมนุษย์ในด้านต่างๆในอนาคต

Interaction: การปฏิสัมพันธ์

เมื่อการเชื่อมโยงและการประมวลผลที่เกิดขึ้นบนโครงสร้างพื้นฐานได้มีการออกแบบอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว สิ่งที่ธุรกิจต้องคำนึงถึงต่อไปคือรูปแบบในการปฏิสัมพันธ์เพื่อเชื่อมต่อประสบการณ์ดิจิตอลไปยังลูกค้า โดยสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับความต้องการของธุรกิจ เช่น

  • จักรกล การใช้งานหุ่นยนต์ในโรงงานอุตสาหกรรมผ่านการประมวลข้อมูลเซ็นเซอร์จากอุปกรณ์ IoT ที่ติดตั้งตามจุดต่างๆ หรือรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ใช้ความสามารถของเซ็นเซอร์รอบคันรถในการเคลื่อนที่ หลบหลีก และจอดรถ
  • ข้อความ ระบบแชทบอต (Chatbot) ที่เชื่อมต่อกับฐานข้อมูลของบริษัทซึ่งช่วยตอบคำถามลูกค้าแทนคอลเซ็นเตอร์ หรือการนำเสนอโปรโมชั่นต่างๆของบัตรเครดิตโดยใช้ข้อมูลพฤติกรรมการใช้จ่ายของลูกค้า
  • เสียง การใช้เสียงในการออกคำสั่งอย่าง Siri บน iPhone หรือลำโพงอัจฉริยะ Amazon Echo ที่ใช้ความสามารถปัญญาประดิษฐ์ Amazon Alexa เชื่อมต่อบริการต่างๆทำให้เราสามารถสั่งงานหรือสั่งซื้อสินค้าด้วยเสียงได้
  • AR (Augmented Reality) เทคโนโลยีที่ผสมผสานระหว่างโลกจริงกับโลกเสมือน (virtual) เข้าด้วยกันซึ่งจะทำให้มองเห็นวัตถุ 3 มิติลอยอยู่เหนือพื้นผิวจริง ตัวอย่างที่หลายๆคนคุ้นเคยคือ Pokemon Go เกมที่สร้างกระแสของ AR ขึ้นมา ผู้ใช้จะมองเห็นตัว Pokemon ในสถานที่ต่างๆรอบตัว เช่น สวนสาธารณะ ภายในบ้าน หรือบนถนน ผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่งสร้างประสบการณ์การเล่นเกมแบบใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

เทคโนโลยีได้มีวิวัฒนาการขึ้นมาหลายอย่างจากทั่วทุกมุมโลกในปัจจุบัน แต่การแข่งขันยังคงอยู่ในขอบเขตของ 3 องค์ประกอบนี้ โดยเริ่มจาก integration ที่ความก้าวหน้าของอินเตอร์เน็ตและเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายทำให้เกิดการเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกันและเกิดบริษัทระดับโลกอย่าง Google และ Facebook ขึ้นมา

จากนั้นการแข่งขันได้เริ่มเปลี่ยนมาถึงจุดที่ทุกคนได้ตระหนักถึงภัยคุกคามจากความก้าวหน้าของระบบ intelligence ปัญญาประดิษฐ์ซึ่งกำลังเข้ามาทดแทนความสามารถต่างๆของมนุษย์

ในขณะเดียวกัน interaction ก็กำลังแข่งขันกันอย่างมาก สมาร์ทโฟนที่เป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อประสบการณ์ดิจิตอลมาเป็นเวลานานกำลังถูกสั่นคลอนด้วยหลากหลายเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของมนุษย์และเป็นธรรมชาติมากกว่า อย่าง เทคโนโลยี AR ที่คาดว่าจะเข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตผู้คนอีกครั้งแทนที่สมาร์ทโฟน ซึ่งแน่นอนว่าสภาวะการแข่งขันรวมถึงตำแหน่งผู้นำในตลาดอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งในอนาคต

สุดท้ายสิ่งที่ธุรกิจต้องคำนึงถึงมากที่สุดคือ customer experience หรือประสบการณ์ของลูกค้าซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

บางธุรกิจอาจจะไม่เหมาะสมที่จะเปลี่ยนตนเองไปอยู่บนโลกออนไลน์ 100% เหมือนอย่าง Facebook หรือ Google เพราะด้วยธรรมชาติของธุรกิจเอง ความสามารถในการแข่งขัน เงินทุน ฯลฯ การคำนึงถึงการส่งมอบประสบการณ์ของลูกค้าที่ดีและแตกต่างโดยใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม จึงเป็นสิ่งที่องค์กรควรจะคำนึงถึงเป็นอันดับแรก

องค์ประกอบของธุรกิจดิจิทัลมีอะไรบ้าง *

องค์ประกอบของนวัตกรรมธุรกิจดิจิทัล จะต้องมีองค์ประกอบอย่างน้อย 4 ประการ คือ 1. มีความใหม่ 2. มีองค์ความรู้หรือความคิดเปลี่ยนแปลง นวัตกรรม 3. มีประโยชน์ต่อชุมชนหรือสังคมโดยทั่วไป และ 4. มีโอกาสในการพัฒนาต่อได้ผู้ค้นคิดนวัตกรรม

หัวใจสําคัญของ Digital Business มีอะไรบ้าง

SMACI หัวใจสำคัญของ Digital Business.
Social – ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่เก็บโปรไฟล์ของลูกค้า.
Mobile – ช่องทางการติดต่อสื่อสารและเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน.
Analytics – วิเคราะห์ความต้องการและค้นหาความสัมพันธ์ต่างๆ จากฐานข้อมูลโปรไฟล์ลูกค้า.

ธุรกิจดิจิทัล (Digital Business) คืออะไร

ธุรกิจดิจิทัล (Digital business) เป็นธุรกิจที่มุ่งด าเนินการบนระบบดิจิทัลที่มีทรัพยากรทาง กายภาพที่น้อย และยังมุ่งเน้นที่มีความสร้างสรรค์ที่น าเสนอสินค้าหรือบริการในรูปแบบ และบน แพลตฟอร์มที่ตรงใจ หรือความต้องการของลูกค้า และดึงดูดลูกค้าและผู้ให้บริการเข้ามาได้มาก ธุรกิจดิจิทัลมีหลายรูปแบบ หลายประเภทของธุรกิจ มีลักษณะ ...

องค์ประกอบของธุรกิจดิจิทัลประเภทสื่อที่เราเป็นเจ้าของคือข้อใด

Owned Media หรือ สื่อที่แบรนด์เป็นเจ้าของ คือ สื่อที่หน่วยงานธุรกิจสร้างขึ้นเพื่อใช้เผยแพร่เนื้อหาผ่านช่องทางของตัวเอง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเผยแพร่เนื้อหา อาทิ เว็บไซต์ธุรกิจ, บัญชีโซเชียลมีเดีย, สิ่งพิมพ์ดิจิทัล, อีเมล์ รวมทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ การใช้สื่อ Owned Media จึงเป็นเหมือนสินทรัพย์ทางการตลาดที่แบรนด์เป็น ...

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

flow chart แสดงขั้นตอนการปฏิบัติงาน lmyour แปลภาษา กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่เรือ การเขียน flowchart โปรแกรม ตัวรับสัญญาณ wifi โน๊ตบุ๊คหาย ตัวอย่าง flowchart ขั้นตอนการทํางาน ผู้แต่งกาพย์เห่ชมไม้ ภูมิปัญญาหมายถึง มีสัญญาณ wifi แต่เชื่อมต่อไม่ได้ เชื่อมต่อแล้ว ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ /roblox promo code redeem 3 พระจอม มีที่ไหนบ้าง AKI PLUS รีวิว APC UPS APC UPS คือ Adobe Audition Adobe Bridge Anapril 5 mg Aqua City Odaiba Arcade Stick BMW F10 jerk Bahasa Thailand Benz C63 ราคา Bootstrap 4 Bootstrap 4 คือ Bootstrap 5 Brackets Brother Scanner Brother iPrint&Scan Brother utilities Burnt HD C63s AMG CSS เว้น ช่องว่าง CUPPA COFFEE สุราษฎร์ธานี Cathy Doll หาซื้อได้ที่ไหน Clock Humidity HTC-1 ColdFusion Constitutional isomer Cuppa Cottage เจ้าของ Cuppa Cottage เมนู Cuppa Cottage เวียงสระ DMC DRx จ่ายปันผลยังไง Detroit Metal City Div class คือ Drastic Vita