แนวโน้มอุตสาหกรรมอุปกรณ์ไฟฟ้า 2565


การตลาด - ส่องปี 2565 ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านไม่รวมกลุ่มภาพและเสียงคาดโต 4% ตามจีดีพีประเทศ หรือมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 86,000 ล้านบาท จะดีกว่านี้หรือแย่ลงกว่าเดิมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่การแข่งขันด้านราคา โปรโมชัน ลดแลก แจก แถม จะหายไป เหตุต้นทุนพุ่งจนเกินต้าน เน้นแข่งเรื่องฟังก์ชันและสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า หรือมุ่งเคลียร์สต๊อกรุ่นเก่า ออกรุ่นใหม่ให้น้อยลง โดยมีเครื่องปรับอากาศยังเป็นพระเอกโกยรายได้ที่คาดว่าจะคึกคักที่สุด รวมถึงเครื่องซักผ้ายังเป็นตัวชูโรงที่คาดว่าจะแข่งขันรุนแรงไม่แพ้กัน

ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าปี 2564 ยังคงมีการเติบโตเล็กน้อยที่ 0.3% เนื่องจากเศรษฐกิจหรือจีดีพีของประเทศไทยมีการขยายตัวต่ำ โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์จีดีพีปี 2564 อยู่ที่ 0.7% เท่านั้น จากผลกระทบวิกฤตโควิด-19 ที่ระบาดต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ปีแล้ว

 
นายจาง เจิ้งฮุ้ย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า หากมองเฉพาะตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน หรือ กลุ่ม HA ไม่รวมกลุ่มภาพและเสียงหรือ AV แล้ว ตลาด HA ในปี 2564 คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าที่ 84,000 ล้านบาท ซึ่งในปี 2565 นี้มองว่าตลาด HA น่าจะกลับมาโตได้ถึง 4% ตามจีดีพีของประเทศไทย หรือมีมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 86,000 ล้านบาทได้

“ในปี 2565 เชื่อว่าตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าจะกลับมาโตได้ 3-4% จากกำลังซื้อที่เริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะจากภาคท่องเที่ยวถึงแม้ว่าจะต้องใช้เวลาสักหน่อย รวมถึงการส่งออกที่ไม่ติดขัด การจ้างงานที่เริ่มคืนกลับมา แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูภาพรวมสถานการณ์ของโควิด-19 ด้วย และคงจะต้องเฝ้าระวังดูสถานการณ์กันแบบรายไตรมาสกันไป”

สำหรับทิศทางของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านประจำปี 2565 ที่จะมาถึงนั้น มองว่าเป็นโอกาสของทุกกลุ่มสินค้าที่จะกลับมาโตทั้งหมด แต่ที่เด่นชัดที่สุดน่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้บริโภคจะเลือกซื้อสินค้าในช่วงเวลาไหนเท่านั้นเอง ส่วนสถานการณ์การแข่งขันของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านในปี 2565 มั่นใจว่าจะมีการแข่งขันทางด้านราคาลดน้อยลง หรือทำโปรโมชัน ลด แลก แจก แถม กันน้อยลง เพราะต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นทางด้านของซัปพลายเชน วัตถุดิบ และโดยเฉพาะค่าขนส่งที่ปรับตัวสูงขึ้น จึงมองว่าในปี 2565 การแข่งขันของแต่ละแบรนด์จะมุ่งไปในเรื่องของการเพิ่มแวลู แอด หรือการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า ยกระดับราคาสินค้าให้สูงขึ้นเป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย ทำให้บริษัทต้องดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง และมีความยืดหยุ่น เพิ่มความคล่องตัวมากขึ้น เพื่อให้สามารถปรับตัว พลิกแพลงกลยุทธ์การทำตลาดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ส่วนช่องทางการจำหน่ายต้องบุกหนักออนไลน์หรือ e-commerce มากขึ้น


“ไฮเออร์ต้องเป็นองค์กรที่พร้อมปรับตัวรับทุกการเปลี่ยนแปลง ปรับแผนการตลาด ร่วมมือกับดีลเลอร์ พันธมิตรช่องทางต่างๆ เพื่อจำหน่ายสินค้าให้ได้เหมือนกับสถานการณ์ปกติ ผลักดันการเติบโต สานเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว โดยปี 2565 มุ่งสู่ยอดขาย 10,564 ล้านบาท จากปี 2564 ที่คาดว่าจะปิดยอดขายที่ 7,921 ล้านบาท เติบโต 29%” นายจาง เจิ้งฮุ้ย กล่าว

ด้านนายธเนศร์ บินอาซัน รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า ในปี 2565 บริษัทพร้อมใช้งบตลาด 850 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% เทียบกับปี 2564 โดยจะเน้นออกสินค้าใหม่รวมกว่า 40-50 SKU ภายใต้แผนการทำตลาดที่จะมุ่งนำเสนอสินค้าใหม่ เพิ่มไลน์สินค้ากลุ่ม Smart Home และสินค้ารุ่นไฮเอนด์ที่มีเทคโนโลยีทันสมัย ตอบโจทย์ Smart Life และ Self-Care ทำให้ผู้บริโภคสะดวกสบายมากขึ้น เช่น อีโคซิสเต็มของ Smart Home รองรับฟังก์ชันการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant และ Alexa เป็นต้น

ทั้งนี้ ในปี 2565 ยังเป็นปีแห่งการพลิกโฉมแบรนด์ให้เป็นระดับพรีเมียมและลักชัวรีมากขึ้น ทั้งหมดเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายวงกว้าง จากเจเนอเรชันเอ็กซ์ และเจเนอเรชันวาย ขยายไปสู่คนรุ่นใหม่ และกลุ่มเจเนอเรชันซีนั่นเอง


จากภาวะต้นทุนพุ่งสูงนี่เอง Beko ถือเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอีกแบรนด์ที่ขอมองเกมปี 2565 กันใหม่ เชื่อผู้บริโภคยังเงินฝืดตึง เน้นเคลียร์สต๊อก ออกสินค้าใหม่ลดลง โดยนายพรชัย ตระกูลเตชะเดช ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและผลิตภัณฑ์ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท เบโค (ไทย) จำกัด หรือ Beko ได้กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย ซึ่งส่งผลต่อสภาพเศรษฐกิจตลอดปี 2564 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ในปี 2565 นี้ทางบริษัทวางกลยุทธ์ทางธุรกิจไว้ว่าจะไม่เน้นออกสินค้าใหม่ เพราะมองว่าเป็นภาวะที่ผู้บริโภคมีอำนาจในการซื้อลดน้อยลง บวกกับสถานการณ์ของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเองก็มีต้นทุนสินค้าที่เพิ่มขึ้น 20-25%

ดังนั้น แผนการดำเนินงานในปีนี้จะเน้นเคลียร์สินค้าเก่ามากกว่าส่งสินค้าใหม่ลงตลาด เพราะสินค้าใหม่จะต้องทำโปรโมชันการขาย ในช่วงแรกอาจจะไม่คุ้ม ที่สำคัญจะเน้นช่องทางออนไลน์มากขึ้น จากปัจจุบันยอดขายออนไลน์มีสัดส่วนไม่ถึง 3% ของยอดขายรวม เชื่อว่าในปี 2565 ยอดขายออนไลน์จะเติบโตขึ้น 5 เท่า

อย่างไรก็ตาม Beko ได้มีการปรับแผนการดำเนินงานมาตั้งแต่ในไตรมาสสี่ปี 2564 ที่ผ่านมา โดยจะเน้นช่องทางขาย เพิ่มชอป รวมถึงออนไลน์ ภายใต้แผนการทำตลาดที่จะเน้นกลยุทธ์การเข้าถึงผู้บริโภคครอบคลุมทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านห้างสรรพสินค้าและดีลเลอร์ทั่วประเทศไทย และ Beko Online Official Store กับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำ Lazada และ Shopee สอดรับกับเทรนด์ผู้บริโภคปัจจุบันที่หันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตโควิด-19


นอกจากนี้ Beko ยังตอบรับเทรนด์สินค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน ภายใต้การขับเคลื่อนยอดขายผ่านเครื่องซักผ้า/เครื่องอบผ้า จบปี 2564 ประเมินว่า Beko จะมียอดขายรวมเติบโตขึ้น 35%

สำหรับ Beko เป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอันดับ 1 จากฝั่งยุโรป ซึ่งในปี 2563 ที่ผ่านมา 85% ของยอดขายสินค้ากลุ่มพรีเมียมของ Beko ขับเคลื่อนด้วยสินค้าฮีโร่ 3 ชนิด ได้แก่ ตู้เย็น 40% เครื่องซักผ้า 30% และเครื่องปรับอากาศ 15% และมีทิศทางที่จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ Beko พร้อมเปิดตัวเครื่องซักผ้าฝาหน้ารุ่นใหม่ Beko AquaTechTM ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในกลุ่มคนเมือง ตอกย้ำวิสัยทัศน์ของ Beko ‘Live Like a Pro’ ที่มุ่งยกระดับสุขภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืนให้แก่คนไทย ด้วยกลยุทธ์แบรนด์สู่การเป็นโซลูชันเพื่อสุขภาพชีวิตที่ดีกว่า

“จากการที่บริษัทได้เห็นถึงเทรนด์พฤติกรรมของผู้บริโภคไทยที่มีความหลากหลายและเห็นถึงศักยภาพของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ Beko สามารถเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเข้ามาเติมเต็มความต้องการ และมอบความสุขให้แก่ผู้บริโภค พร้อมตอบโจทย์การยกระดับสุขภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืนของคนไทยตามวิสัยทัศน์ของแบรนด์ ซึ่งบริษัทตั้งใจที่จะส่งมอบสินค้าและบริการเพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืนยิ่งขึ้นต่อไป” นายพรชัยกล่าว


นายหลี่ เจิง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สกายเวิร์ท (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โทรทัศน์ แบรนด์ “SKYWORTH” (สกายเวิร์ท) เปิดเผยว่า ในปี 2565 สกายเวิร์ทวางแผนงานที่จะแตกไลน์ธุรกิจ ขยายไลน์สินค้าผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าไปยังกลุ่มอื่นๆ อีกหลายกลุ่มภายใต้แบรนด์ “SKYWORTH” เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยเพิ่มขึ้นอีกด้วย หลังจากที่ทำตลาดทีวีและได้รับความสำเร็จมาก่อนแล้ว เพราะไทยเป็นตลาดที่น่าสนใจและมีศักยภาพมาก

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

flow chart แสดงขั้นตอนการปฏิบัติงาน lmyour แปลภาษา กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่เรือ การเขียน flowchart โปรแกรม ตัวรับสัญญาณ wifi โน๊ตบุ๊คหาย ตัวอย่าง flowchart ขั้นตอนการทํางาน ผู้แต่งกาพย์เห่ชมไม้ ภูมิปัญญาหมายถึง มีสัญญาณ wifi แต่เชื่อมต่อไม่ได้ เชื่อมต่อแล้ว ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ /roblox promo code redeem 3 พระจอม มีที่ไหนบ้าง AKI PLUS รีวิว APC UPS APC UPS คือ Adobe Audition Adobe Bridge Anapril 5 mg Aqua City Odaiba Arcade Stick BMW F10 jerk Bahasa Thailand Benz C63 ราคา Bootstrap 4 Bootstrap 4 คือ Bootstrap 5 Brackets Brother Scanner Brother iPrint&Scan Brother utilities Burnt HD C63s AMG CSS เว้น ช่องว่าง CUPPA COFFEE สุราษฎร์ธานี Cathy Doll หาซื้อได้ที่ไหน Clock Humidity HTC-1 ColdFusion Constitutional isomer Cuppa Cottage เจ้าของ Cuppa Cottage เมนู Cuppa Cottage เวียงสระ DMC DRx จ่ายปันผลยังไง Detroit Metal City Div class คือ Drastic Vita