มาตรฐานสายไฟฟ้า มอก 11-2553

        ทุกผลิตภัณฑ์ของเราผลิตภายใต้มาตรฐานสายไฟใหม่ มอก. 11-2553 ที่ได้รับการพัฒนาให้ตอบสนองต่อการใช้งานที่หลากหลาย มาตรฐานความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น มีมาตรการทางวิศวกรรมอันทันสมัยและดำเนินการตามเงื่อนไขข้อกำหนดใหม่

สายไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ส่งพลังงานไฟฟ้าจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งโดยกระแสไฟฟ้าจะ เป็นตัวนำพลังงานไฟฟ้าผ่านไปตามสายไฟจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า สายไฟทำด้วยสารที่ยอมให้กระแสไฟฟ้าผ่านได้ เรียกว่าตัวนำไฟฟ้า และตัวนำไฟฟ้าที่ใช้ทำสายไฟเป็นโลหะที่ยอมให้กระแสไฟฟ้าผ่านได้ดี ลวดตัวนำแต่ละชนิดยอมให้กระแสไฟฟ้าผ่านได้ต่างกัน ตัวนำไฟฟ้าที่ยอมให้กระแสไฟฟ้าผ่านได้มากเรียกว่ามีความนำไฟฟ้ามากหรือมีความต้านทานไฟฟ้าน้อย ลวดตัวนำจะมีความต้านทานไฟฟ้าอยู่ด้วย โดยลวดตัวนำที่มีความต้านทานไฟฟ้ามากจะยอม ให้กระแสไฟฟ้าผ่านได้น้อย

 

ประเภทของสายไฟฟ้า

สายไฟฟ้าแบ่งออกเป็น 2 จำพวกคือสายไฟแรงดันต่ำ และ สายไฟแรงดันสูง

สายไฟฟ้าแรงดันต่ำ (Low Voltage Power cable)

เป็นสายไฟที่ใช้กับแรงดันไม่เกิน 750 V. เป็นสายหุ้มฉนวน ทำด้วยทองแดงหรืออะลูมิเนียม โดยทั่วไปเป็นสายทองแดงสายขนาดเล็กจะเป็นตัวนำเดี่ยว แต่สายขนาดใหญ่เป็นตัวนำตีเกลียว วัสดุฉนวนที่ใช้กับสายแรงดันต่ำคือ Polyvinyl Chloride (PVC) และ Cross-Linked Polyethylene (XLPE)

 สาย IEC-01

สายไฟฟ้าตาม มอก.11-2553 ที่ในท้องตลาดนิยมเรียกว่า ทีเอชดับเบิลยู (THW) เป็นสาย ไฟฟ้าชนิดทนแรงดัน 750 V เป็นสายเดี่ยว นิยมใช้กันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะใน โรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากใช้ในวงจรไฟฟ้า 3 phase ได้ ปกติจะเดินร้อยในท่อร้อยสาย ชื่อ THW เป็นชื่อตามมาตรฐานอเมริกัน ซึ่งเป็นสายชนิดทนแรงดัน 600 V อุณหภูมิใช้งานที่ 75 องศาเซลเซียส แต่ในประเทศไทยนิยม เรียกสายที่ผลิตตาม มอก. 11 -2531 ว่า สาย THW เนื่องจากมีโครงสร้างคล้ายกันและรู้กันทั่วไปในท้องตลาด

 การใช้งาน

เดินลอย ต้องยึดด้วยวัสดุฉนวน (insulator)

เดินในช่องเดินสาย ในสถานที่แห้ง

ห้ามเดินฝังดินโดยตรง ห้ามใส่ท่อฝังดิน

ห้ามเดินในรางเดินสาย

  

สาย VAF

สายไฟตาม มอก.11-2531 ที่ตามท้องตลาดเรียกว่า สายชนิด วีเอเอฟ (VAF) เป็นสายที่นิยมใช้กันมากตามบ้านในประเทศไทย เป็นสายชนิด ทนแรงดัน 300 V มีทั้งชนิดที่เป็นสายเดี่ยว สายคู่ และที่มีสายดินอยู่ด้วย มีชนิด 2 แกน หรือ 3 แกน เป็นสายแบน ตัวนำนอกจากจะมีฉนวนหุ้ม แล้วยังมีเปลือกหุ้มอีกชั้นหนึ่ง สายคู่จะนิยมรัดด้วยเข็มขัดรัดสาย(Clip) ใช้ในบ้านอยู่อาศัยทั่วไป สายชนิดนี้ห้ามใช้ในวงจร 3 phase ที่มีแรงดัน 380 V (ในระบบ 3 phase แต่แยกไปใช้งานเป็นแบบ 1 phase แรงดัน 220 V. จะใช้ได้)

การใช้งาน

เดินเกาะผนัง

เดินในช่องเดินสาย ในสถานที่แห้ง

ห้ามเดินฝังดินโดยตรง ห้ามใส่ท่อฝังดิน

ห้ามเดินในท่อร้อยสาย

 

สาย VCT

เป็น สายชนิดทนแรงดัน 300 โวลต์มีทั้งชนิดเป็นสายเดี่ยวสายคู่และที่มีสายดินอยู่ด้วย ถ้าเป็นสายเดี่ยวจะเป็นสายกลมและถ้าเป็นชนิด 2 แกนหรือ 3 แกนจะเป็นสายแบน ตัวนำนอกจากจะมีฉนวนหุ้มแล้วยังมีเปลือกหุ้มอีกชั้นหนึ่งสายคู่จะนิยมเดิน ตามฝาผนังด้วยเข็มขัดรัดสาย (Clip) หรือเดินในช่องเดินสาย แต่ห้ามเดินฝังดินโดยตรง การจะเดินสายประเภทนี้ใต้ดินจะต้องเดินในท่อฝังดินที่มีการป้องกันน้ำซึม เข้าท่อ ใช้ในบ้านอยู่อาศัยทั่วไปสายชนิดนี้ห้ามใช้ในวงจร 3 เฟสที่มีแรงดัน 380 โวลต์เช่นกัน (ในระบบ3เฟสแต่แยกไปใช้งานเป็นแบบ1 เฟสแรงดัน 220 โวลต์จะใช้ได้)

 

การใช้งาน

ใช้งานทั่วไป ต่อเข้ากับอุปกรณ์ไฟฟ้าเช่นสว่านไฟฟ้า หรือเดินสายเข้าเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่เคลื่อนที่ได้

สาย NYY

สายไฟฟ้าตาม มอก.11-2531 ตามท้องตลาดนิยมเรียกว่าสายชนิด เอ็นวายวาย (NYY) มีทั้งชนิดแกนเดียว และหลายแกนสายหลายแกน ก็จะเป็นสายชนิดกลมเช่นกัน สายชนิดนี้ทนแรงดันที่ 750 V. นิยมใช้อย่างกว้างขวางเช่นกัน เนื่องจากว่ามี ความทนต่อสภาพแวดล้อม เพราะมีเปลือกหุ้มอีกชั้นหนึ่ง บางทีเรียกว่าเป็นสายฉนวน 3 ชั้น ความจริงแล้วสายชนิดนี้มีฉนวนชั้นเดียว อีกสองชั้นที่เหลือเป็นเปลือกเปลือกชั้นในทำหน้าที่เป็นแบบ (Form) ให้สายแต่ละแกนที่ตีเกลียวเข้าด้วยกันมีลักษณะกลม แล้วจึงมีเปลือกนอกหุ้ม อีกชั้นหนึ่งทำหน้าที่ป้องกันความเสียหายทางกายภาพ

มาตรฐานสายไฟใหม่ มอก.11-2553 ที่ประกาศเป็นมาตรฐานบังคับตามพระราชกฤษฎีกา ที่กำหนด
ให้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสายไฟฟ้าหุ้มฉนวนพอลิไวนิลคลอไรด์ แรงดันไฟฟ้าที่กำหนดไม่เกิน
450/750 โวลต์ ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน มอก.11-2553 (ซึ่งของเดิม เป็น มอก.11-2531) ซึ่งมีการ
เปลี่ยนแปลงพอจะสรุปได้ดังนี้
             1.        มาตรฐาน มอก.11-2553 นี้ส่วนใหญ่อ้างอิงมาตรฐานสายไฟมาจาก IEC Standards 60227 การ
                         แบ่งชนิดของสายไฟฟ้าจะแบ่งตามมาตรฐาน IEC เป็นรหัสตัวเลข 2 ตัว แต่เนื่องจากป้องกันความ
                         สับสน ผู้ผลิตจะระบุชื่อเดิมไว้ให้เช่น60227 IEC 01 (THW)
             2.        สีของฉนวนสายไฟจะกำหนดใหม่โดยเรียงจาก เฟสA, B, C, N, G ดังนี้น้ำตาล ดำ เทา ฟ้า เขียว
                         แถบเหลือง ตามมาตรฐาน IEC จากมาตรฐานเดิมที่เป็น ดำ แดง นํ้าเงิน ขาว(เทา) เขียว การใช้
                         งานจะต้องเพิ่มความระมัดระวังโดยเฉพาะโครงการที่มีระยะเวลายาว หรืองานต่อเติมซ่อมแซมที่
                         จำ เป็นต้องใช้สายทั้ง2มาตรฐานในงานเดียวกันเช่นสายVAFที่เดิมใช้สีเทาเป็นสายนิวทรัลแต่ต่อ
                         ไปนี้สายเส้นสีเทาจะเป็นสายเฟสที่มีไฟแล้ว ดังนั้นการทำ เครื่องหมายจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง
             3.        กำหนดแรงดันใช้งาน 2ค่าU๐/Uไม่เกิน450/750โวลต์มีผลทำ ให้สายไฟฟ้าบางชนิดเช่นสายVAF
                         ที่ตามมาตรฐานเดิมไม่สามารถนำมาใช้กับระบบ3 เฟส4สาย230/400 โวลต์ได้แต่มอก.11-2553
                         ให้ใช้ได้
             4.        อุณหภูมิที่ใช้งาน กำหนดไว้2 ค่าคือ70 และ90 องศาเซลเซียส ขณะที่มาตรฐานเดิมกำหนดไว้70
                         องศาเซลเซียสค่าเดียว
             จากการเปลี่ยนแปลงข้างต้น วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ได้
ปรับปรุงมาตรฐานการติดตั้งให้สอดคล้องกับสายไฟฟ้ามาตรฐานใหม่โดย ซึ่งมีข้อแตกต่างจากมาตรฐาน
เดิมพอสมควร ดังนั้น การคำนวนหาขนาดสายไฟฟ้าเพื่อนำ ไปใช้งานควรจะพิจารณาตามขั้นตอนดัง
ต่อไปนี้
             1.        คำนวนโหลดหาค่ากระแสที่ใช้งาน และกำหนดขนาดเครื่องป้องกัน
             2.        พิจารณาชนิดของสายไฟฟ้าจำนวนตัวนำกระแส2เส้นหรือ3เส้น(1เฟสหรือ3เฟส)ลักษณะของ
                         สายไฟเป็นแบบแกนเดียวหรือหลายแกน ล้วนแต่มีผลต่อการเลือกใช้ตารางกระแสไฟฟ้าทั้งสิ้น
             3. พิจารณาวิธีการติดตั้งซึ่งแบ่งเป็น7 กลุ่ม(มาตรฐานเดิมมี5 กลุ่ม) ที่น่าสังเกตุคือ การเดินสายร้อย
                         ท่อภายในฝ้าเพดานหรือผนังทนความร้อน มีค่ากระแสแตกต่างจากการเดินสายร้อยท่อลอยหรือ
                         ฝังในคอนกรีต ตัวอย่างเช่น ถ้าโหลด3 เฟส คำนวนหาขนาดเครื่องป้องกันได้100 แอมแปร์กรณี
                         ที่เลือกใช้สายไฟฟ้า60227IEC01(THW) เดินสายร้อยท่อลอยเกาะผนังหรือเพดาน จะต้องใช้สาย
                         ขนาด50 ตร.มม. แต่ถ้าเป็นการเดินสายร้อยท่อภายในฝ้าเพดาน จะต้องใช้สายขนาด70 ตร.มม.
             4.        พิจารณาตัวคูณปรับค่า เนื่องจากอุณหภูมิโดยรอบ ซึ่งกำหนดที่40 องศาเซลเซียสในกรณีทั่วๆ ไป
                         และ 30 องศาเซลเซียสในกรณีฝังดิน
             5.        พิจารณาตัวคูณปรับค่า เนื่องจากกลุ่มวงจรในกรณีที่มีตัวนำกระแสมากกว่า1 วงจร โดยพิจารณา
                         วงจร1 เฟส2สายนับเป็น1 วงจร วงจร3 เฟส3สายหรือ4สายนับเป็น1 วงจร ในกรณีนี้ส่วนใหญ่
                         จะใช้ในการเดินสายในรางเคเบิล (cable tray) ที่มีการปรับปรุงแก้ไข ที่สำคัญคือ ไม่อนุญาตให้
                         ใช้สายไม่มีเปลือกติดตั้งในรางเคเบิล และในมาตรฐานเดิมกำหนดให้สายในรางเคเบิลจะต้องไม่
                         เล็กกว่า 50 ตร.มม. มาตรฐานใหม่ยอมให้ถึงสายขนาด25 ตร.มม.
             6.        ขนาดกระแสจากการปรับค่าในขัอ 4 และข้อ 5
             7.        หาขนาดสายไฟฟ้าจากตารางที่ถูกเลือกในข้อ 3
มาตรฐานใหม่นี้ในระยะแรกยังไม่มีความคุ้นเคยอาจสับสนอยู่บ้าง คงต้องค่อยๆ พิจารณาตามลำดับ
ไปก่อน หลังจากนั้นคงคุ้นเคยเหมือนมาตรฐานเดิม ในส่วนรายละเอียดสามารถอ่านเพิ่มเติมได้จาก
มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าฉบับปรับปรุงใหม่ของ วสท.

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

flow chart แสดงขั้นตอนการปฏิบัติงาน lmyour แปลภาษา กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่เรือ การเขียน flowchart โปรแกรม ตัวรับสัญญาณ wifi โน๊ตบุ๊คหาย ตัวอย่าง flowchart ขั้นตอนการทํางาน ผู้แต่งกาพย์เห่ชมไม้ ภูมิปัญญาหมายถึง มีสัญญาณ wifi แต่เชื่อมต่อไม่ได้ เชื่อมต่อแล้ว ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ /roblox promo code redeem 3 พระจอม มีที่ไหนบ้าง AKI PLUS รีวิว APC UPS APC UPS คือ Adobe Audition Adobe Bridge Anapril 5 mg Aqua City Odaiba Arcade Stick BMW F10 jerk Bahasa Thailand Benz C63 ราคา Bootstrap 4 Bootstrap 4 คือ Bootstrap 5 Brackets Brother Scanner Brother iPrint&Scan Brother utilities Burnt HD C63s AMG CSS เว้น ช่องว่าง CUPPA COFFEE สุราษฎร์ธานี Cathy Doll หาซื้อได้ที่ไหน Clock Humidity HTC-1 ColdFusion Constitutional isomer Cuppa Cottage เจ้าของ Cuppa Cottage เมนู Cuppa Cottage เวียงสระ DMC DRx จ่ายปันผลยังไง Detroit Metal City Div class คือ Drastic Vita