หน้าแห้งเป็นสิว เป็นอีกหนึ่งปัญหาผิวที่ทำให้เรารู้สึกกังวลและขาดความมั่นใจ โดยเฉพาะสิวอักเสบที่เกิดขึ้นซ้ำๆจนรักษาหายยาก นอกจากปัญหาสิวแล้ว อีกปัญหาที่กวนใจไม่แพ้กันก็คือปัญหาผิวลอกแห้ง และบอบบางจากผลข้างเคียงจากการรักษาสิว
ปัจจุบันการรักษาสิวแบบธรรมชาติทำได้หลายวิธี ซึ่งส่วนใหญ่จะต้องใช้เวลานานและบางครั้งก็ไม่ได้ผล หลายคนจึงเลือกที่จะพึ่งพาวิธีรักษาสิวที่เห็นผลเร็วทันใจ ทั้งการซื้อยารักษาสิวมารับประทาน ใช้ยาฉีดหรือใช้ครีมละลายหัวสิว รวมทั้งการทำเลเซอร์เพื่อรักษาสิวโดยเฉพาะ แม้จะเป็นวิธีรักษาสิวที่เห็นผลเร็ว แต่ก็ส่งผลร้ายต่อสุขภาพผิวโดยตรง เพราะขั้นตอนการรักษาสิวที่กล่าวมามีผลทำให้กลไกการรักษาความชุ่มชื่นในชั้นผิวเปลี่ยนแปลงไป จึงมีการผลัดเซลล์ผิวเร็วเกินไป เกิดปัญหาผิวแห้งลอก มีรอยแดง จนกลายเป็นผิวบอบบาง แพ้ง่าย ไวต่อแสงแดด และอาจมีอาหารแสบคัน ระคายเคืองผิวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การดูแลรักษาสำหรับคนผิวหน้าแห้งและเป็นสิว
การรักษาสิวที่ดีที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงเหล่านั้นคือต้องเลือกครีมบำรุงที่อ่อนโยนไม่ส่งให้เกิดผลข้างเคียงแต่ขณะเดียวต้องช่วยลดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นตอของสิวด้วย ปัจจุบันการรักษาแบบดังกล่าวสามารถทำได้ด้วยการใช้สารในกลุ่ม Hydroxy acid เช่น AHA BHA และ ล่าสุดคือ PHAสารกลุ่ม Hydroxy acid มีคุณสมบัติหลักๆในการรักษาสิวดังต่อไปนี้
- ช่วยซึมซาบเข้าสลายสิ่งอุดตันในร่องรูขุมขนและฆ่าเชื้อสิว P.acnes ได้ถึงต้นตอหัวสิว
- ช่วยขจัดสิวอุดตันและยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย จึงช่วยลดโอกาสการเกิดสิวใหม่อีก
- ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก แต่เป็นการผลัดสิวผิวแบบอ่อนโยนกว่าการักษาสิวทั่วไป เช่น ยากินหรือการทำเลเซอร์สิว ดังนั้นเป็นการผลัดเซลล์ผิวแบบที่จะไม่เกิดอาหารลอกแห้ง
ข้อดีและข้อเสียของการใช้ยารักษาสิว
ข้อดีของการใช้ยารักษาสิว
อาการสิวหายเร็วไวมากขึ้น
ลดการอุดตันของหัวสิว
รักษาสิวได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข้อเสียของการใช้ยารักษาสิว
บางคนเกิดอาการแพ้สิวเพิ่มมากขึ้น
ผิวหนังเกิดปัญหา ผิวลอก ผิวแห้ง
เกิดการระคายเคืองผื่นขึ้นหน้า
การใช้ยารักษาเป็นเาลานานทำให้สิวหายช้าลง
อย่างไรก็ตามในขึ้นตอนการรักษาสิว เราควรรักษาต้นตอของสิวควบคู่กับการบรรเทาความอักเสบด้วยและฟื้นฟูสภาพผิวด้วย เช่นการใช้สาร Licochalcone A สารสกัดจากธรรมชาติที่มีสาร Anti-Inflaming ที่ช่วยในการบรรเทาและฟื้นบำรุงเซลล์ผิวบอบบางจากการอักเสบให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
ปัญหาจากการทายารักษาสิวที่พบได้บ่อย คือ ผิวแห้ง แดง ลอก แสบ คัน ซึ่งบ่งบอกถึง การระคายเคืองทำให้หลายคนไม่สามารถทายาสิวต่อไปได้ การรักษาสิวจึงขาดช่วงและได้ผลไม่ดีเท่าที่ควร …
วิธีการที่แนะนำหากเกิดปัญหาผิวแห้งลอกจากยาสิว คือ
ยารักษาสิว
ควรปรึกษาแพทย์ปรับเปลี่ยนวิธีการหรือตัวยา เช่น
✔️ กลุ่มยาทาวิตามินเอ อาจปรับเป็นรูปแบบที่อ่อนโยนขึ้น เช่น adapalene gel, tazarotene cream
✔️ ลดความเข้มข้นของยา และเริ่มทาปริมาณน้อยก่อน เช่น
ลดจาก 0.1 -> 0.05 -> 0.025% tretinoin หรือ
ลดจาก 5 -> 2.5% benzoyl peroxide
✔️ กลุ่มวิตามินเออาจปรับลดความถี่ของการทายา เช่น ทาวันเว้นวัน เว้นสองวัน หรือสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง นาน 2-4 สัปดาห์แล้วจึงเพิ่มความถี่เท่าที่ผิวรับได้
✔️ กลุ่มวิตามินเอ หรือ BPO, azelaic acid อาจล้างออกเร็วในช่วงเดือนแรก (short contact) แล้วจึงเพิ่มเวลาให้นานขึ้น
✔️ เริ่มทายาเฉพาะจุดก่อน แล้วค่อยปรับเป็นการทาทั่วใบหน้า เว้นรอบตาซอกจมูก
✔️ ไม่ทายาขณะผิวเปียก แนะนำซับหน้าให้แห้งแล้วรอ 20-30 นาที รอผิวแห้งจะช่วยลดการระคายเคืองได้
และวิธีการอื่น ๆ ที่แพทย์จะปรับเปลี่ยนขึ้นกับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล
ยาทาสเตอรอยด์
❌ ไม่แนะนำให้ใช้ยาทากลุ่มสเตอรอยด์เพื่อแก้ปัญหาผิวแดงแสบลอกที่เกิดจากยาสิว
✔️ หากอาการระคายเคืองรุนแรง แนะนำหยุดทายา เน้นทามอยซ์เจอร์ไรเซอร์ที่อ่อนโยนอย่างเดียว และพบแพทย์
สกินแคร์ลดการระคายเคือง
ยาสิวส่วนใหญ่มักมีการระคายเคืองและผิวแห้งได้ ไม่ว่าจะเป็น tretinoin, benzoyl peroxide, adapalene, salicylic acid เป็นต้น
ดังนั้น สกินแคร์บำรุงผิวควรมีเพื่อเสริมการรักษากับยา เป็นสิ่งที่แนะนำควบคู่กัน เพราะเหตุผล คือ
✔️ ช่วยลดผลข้างเคียงจากยาสิว เช่น แสบ แดง แห้งลอก คันยุบยิบ
✔️ ช่วยให้ผิวแข็งแรงทนกับยาสิวได้ดีขึ้น
✔️ ช่วยปรับสมดุลของ moisture (oil) และ hydration (water) ในผิว
สุดท้ายแล้วจะทำให้ประสิทธิภาพการรักษาสิวโดยรวมดีขึ้น และสามารถไปต่อได้ค่ะ
ดังนั้น ถ้าหากใครมีอาการเช่นนี้ ก็อาจจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยฟื้นบำรุงผิว ลดความไวของการกระตุ้นของเส้นประสาทที่ผิว (Calming or soothing ingredient) เช่น SYMSITIVE (PATENTED by Beiersdorf) ซึ่งมี clinical studies ที่เกี่ยวข้อง
**ช่วย desensitized skin receptor TRPV1
**ลด nerve fiber activation ได้ 65%
**บรรเทาอาการแสบ คัน ยุบยิบได้ใน 2 นาที
และหากใครผิวแพ้ง่ายก็ควรเลี่ยงสารที่อาจก่อการแพ้ได้บ่อย เช่น น้ำหอม สารกันเสีย แอลกอฮอล์
นอกจากยาสิวที่ส่งผลต่อกำแพงผิวโดยตรงแล้ว ยังมีข้อมูลการศึกษาพบว่า โครงสร้างผิวคนเอเชีย…
▫️ มีแนวโน้มระคายเคืองจากยาสิวเยอะกว่าชนชาติอื่น
▫️ เส้นประสาทรับความรู้สึก & ตัวรับความร้อน มีความไวมากขึ้น จึงถูกกระตุ้นได้ง่ายกว่ากว่า จะยิ่งทำให้มีอาการไม่สบายผิว และแสบร้อนผิวได้มากขึ้น
PRACTICAL POINT
ยกตัวอย่างส่วนผสมสกินแคร์บำรุงผิวที่ช่วยฟื้นฟูบำรุงผิวแข็งแรง ลดการระคายเคือง และเป็นตัวช่วยยาสิว เช่น
Adjunctive Soothing Care โดยยูเซอรีน ซึ่งมีส่วนผสม คือ
สาร Symsitive มีฤทธิ์ Calming effect โดยไปยับยั้งที่ nerve system มีงานวิจัยว่าช่วยลดอาการคัน ระคาย ยุบยิบ แสบร้อนได้ใน 2 นาที
สาร Licochalcone A ช่วย anti inflammation มีการทดลองพบว่า ช่วยลดรอยแดงจากการอักเสบผิว, หลังเลเซอร์ได้ดีประมาณ 3-7 วัน
สาร Dexpanthenol และ Ceramide ช่วยเสริมสร้างกำแพงผิวให้แข็งแรง ลด TEWL
โดยแนะนำว่า ควรทาสกินแคร์ควบคู่ไปกับการใช้ยารักษาสิว ตั้งแต่เริ่มแรกและทาสม่ำเสมอ จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นผิว ลดการระคายเคือง และป้องกันหน้าแห้งจากยารักษาสิวได้ดี
BOTTOM LINE
หากระคายเคืองจากยาสิวรุนแรงควรต้อง พักการทายาก่อนสักระยะ แต่สุดท้ายแล้วก็ยังคงต้องกลับมาใช้ต่อไปเพราะถือเป็นการรักษาหลักของภาวะสิว ตรงนี้แนะนำปรึกษาแพทย์ผู้รักษาเพื่อทำการปรับเปลี่ยนวิธีการหรือรูปแบบยาให้เหมาะสมกับแต่ละคน
เสริมการรักษาด้วยสกินแคร์บำรุงผิวที่ช่วยลดการระคายเคืองและลดความไวของเส้นประสาทที่ผิวหนัง โดยแนะนำให้ทาสกินแคร์ก่อน แล้วจึงตามด้วยการทายาสิว จะช่วยลดอาการแสบ แดง คัน ลอก ยุบยิบ จากยาสิวได้ดี ลองนำไปปรับใช้กันนะคะ
ด้วยความปรารถนาดี
หมอเจี๊ยบ
——————————————
References
J Dermatolog Treat. 2021 Feb; 32(1): 3-10.
Semin Cutan Med Surg. 2016; 35: 50–56.
J Cutan Aesthet Surg. 2016 Apr-Jun; 9(2): 85-92.
J Clin Aesthet Dermatol. 2014; 7: 36-44.
——————————————
[Disclaimer] สนับสนุนความรู้โดย
EUCERIN ADJUNCTIVE SOOTHING CARE
สกินแคร์นวัตกรรม Barrier repair innovation เพื่อเสริมการรักษาสิว ลดการระคายเคืองจากยาสิว
ACTION:
▫️Symsitive ฤทธิ์ Calming effect โดยไปยับยั้งที่ nerve system มีงานวิจัยว่าช่วยลดอาการคัน ระคาย ยุบยิบ แสบร้อนได้ใน 2 นาที
▫️Licochalcone A ช่วย anti inflammation มีการทดลองพบว่า ช่วยลดรอยแดงจากการอักเสบผิว, หลังเลเซอร์ได้ดีประมาณ 3-7 วัน