ระบบเกียร์ต้องใช้ของเหลวในการหล่อลื่น หากไม่มีการเปลี่ยนถ่ายตามระยะ อาจส่งผลโดยตรงต่อสมรรถนะในการขับขี่
ผู้ใช้รถยนต์หลายคนยังมีความเชื่อแบบผิดๆ ว่า การที่รถยนต์สามารถขับใช้งานได้อยู่ทุกวันนั้น แสดงว่ารถยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มีความจำเป็นตรวจเช็คหรือบำรุงรักษาใดๆ แม้ว่าจะถึงเวลาตามที่คู่มือรถกำหนดหรือทางศูนย์บริการได้แจ้งไว้ โดยเฉพาะกับของเหลวต่างๆ ที่อยู่ในระบบซึ่งมีชิ้นส่วนที่ต้องเคลื่อนไหว
หนึ่งในนั้นคือ ‘ระบบเกียร์’ ซึ่งต้องใช้ของเหลวอย่าง ‘น้ำมันเกียร์’ ทำหน้าที่หล่อลื่น ระบายความร้อน และลดแรงเสียดสีระหว่างชิ้นส่วนต่างๆ หากไม่มีการเปลี่ยนถ่ายตามระยะ อาจส่งผลโดยตรงต่อสมรรถนะในการขับขี่ เนื่องจากคุณสมบัติเฉพาะตัวของน้ำมันเกียร์นั้นเสื่อมสภาพลง หากฝืนใช้โดยไม่เปลี่ยนถ่าย ก็เสี่ยงทำให้ชิ้นส่วนภายในเกิดการชำรุดเสียหาย ถึงขั้นต้องซ่อมแซมกันชุดใหญ่เลยทีเดียว
อาการที่บ่งบอกว่าน้ำมันเกียร์เริ่มเสื่อมสภาพ
1.เข้าเกียร์ในตำแหน่ง D หรือ R แล้วรถออกตัวยาก
2.มีอาการกระตุกเมื่อเข้าเกียร์ D หรือ R
3.จังหวะการเปลี่ยนเกียร์สะดุด บางครั้งก็มีอาการวืด
4.เปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ยากขึ้น
5.มีกลิ่นไหม้
6.มีเสียงดังในจังหวะขับขี่หรือเมื่อต้องเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์
เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์
โดยปกติทั่วไปไม่ว่าจะเป็นเกียร์อัตโนมัติหรือเกียร์ธรรมดา จะมีรอบการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุกๆ 40,000 กม. หรือ 2 ปี อย่างไรก็ดีหากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นก่อนถึงระยะ โดยเฉพาะคนที่ใช้งานรถอย่างสมบุกสมบัน เช่นใช้งานในเมืองที่การจราจรติดขัดมากๆ มีการเปลี่ยนเกียร์ไปมาบ่อยๆ และมีความร้อนในน้ำมันเกียร์มาก ก็สามารถนำรถเข้าตรวจเช็คอาการได้ทันที หรือเป็นไปได้ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ที่ 25,000-30,000 กิโลเมตร หรือ 1 ปี
โดยในรอบการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุกครั้งจะมีการจดบันทึกวันที่ เดือน ปี และเลขกิโลเมตรไว้ทุกครั้ง เพื่อใช้คำนวณกำหนดการเปลี่ยนถ่าย นอกจากนี้ยังสามารถสังเกตได้เองจากอาการต่างๆ ของเครื่องยนต์ หรือดูได้จากคู่มือประจำรถรุ่นนั้นๆ ซึ่งจะมีกำหนดระยะการเปลี่ยนถ่ายไว้อย่างชัดเจน
เพื่อให้รถคู่ใจของคุณมีอายุการใช้งานที่ยาวนานไม่พังไวก่อนกำหนด ควรหมั่นสังเกตว่ามีอาการผิดปกติเกิดขึ้นเหมือนที่ยกตัวอย่างมาหรือไม่ ที่สำคัญอย่าลืมนำรถเข้าตรวจเช็ค เพื่อเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามระยะที่กำหนด
���ʴդ�Ѻ ö Toyota Altis MC �� 2010 ���ҨФú 250,000 ��. ���������¹����ѹ�������ͺ��������͵����� 120,000 ��.
����ͧ�ͧ����ͧ��������͡�з������ 1000��.. ����ͧ�դ�ⴹ��ҹ��͡�ѹ�Ҥҹ���ѹ����� ��¹֡��������ö����ͧ�����������¹����ѹ������ҹҹ����
�������Դ�ҡ���çö�Ҵٹ���ѹ���������������������մ����� ����ҷ���ҹ����ѹ�����ѹ�͡��������繵�ͧ����¹����ѹ�����
���¤���ʧ�����µԴ���价���ٹ�� toyota �Ѻ cockpit �͡��Ҥ������¹�ء 40,000 ��. (��������Ҥ��駡�����¹��� 120,000 �����ٹ�� toyota �鹻���ѵ����)
�ѧ�������令鹤�����ö�Ҵ� 㹤������������¹�ء 80,000 ��. 㹡óշ��Դ��ѧ�Һ�÷ء ���͢Ѻö���ǵԴ��͡ѹ�ҹ�
�֧��ǹ��Ǽ��������Ѻö����������� ����Թ 120 ��/�� �����ҡ�������㹹���Ѻ�����ػ����ѹ��������ѹ���繵�ͧ����¹���
���������Ѻ ����¹����ѹ������Ҥ���ҹ�������ᾧ���
1.�ٹ�� toyota �Դ 2,300�ҷ �Դ�繤���ç 5xx ���������繤�ҹ���ѹ �������¹�ػ�ó� 2-3 ���ҧ�Ӫ�������� ���������������¹�١�ҧ�����ѡ���ҧ ���ǡ����ҧ���
ระบบเกียร์ โดยเฉพาะเกียร์ออโต้นั้น บางทีผู้ใช้งานขับขี่อยู่อาจจะไม่รู้ว่าในการขับรถ เหยียบคันเร่งหรือผ่อนเกียร์นั้น ระบบเกียร์ก็จะปรับเปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะสมกับความเร็วที่ต้องการโดยอัตโนมัติ ซึ่งการปรับเปลี่ยนเกียร์อยู่ตลอดเวลานั้นอาจมีแรงเสียดทานเกิดขึ้นอยู่ภายใน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีน้ำมันหล่อลื่นเพื่อลดแรงเสียดทานในการเปลี่ยนเกียร์ ซึ่งก็คือน้ำมันเกียร์นั่นเอง และถ้าหากอยากรู้ว่า ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เมื่อไหร่ หรืออาการแบบไหนที่ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ได้แล้ว เรามาดูกัน
อาการเหล่านี้บ่งบอกว่าควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ได้แล้ว
ลองสังเกตความผิดปกติในระหว่างการขับขี่รถยนต์ ว่ามีอาการต่อไปนี้หรือไม่ ซึ่งถ้าหากมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง ให้สันนิษฐานว่าอาจเกิดความผิดปกติในระบบเกียร์ หรือน้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพ ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ หรือหากเปลี่ยนแล้วยังไม่หายก็ควรให้ช่างตรวจเช็ค
- เข้าเกียร์ในตำแหน่ง D หรือ R แล้วรถออกตัวยาก
- มีอาการกระตุกเมื่อเข้าเกียร์ D หรือ R
- จังหวะการเปลี่ยนเกียร์สะดุด บางครั้งก็มีอาการวืด
- เปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ยากขึ้น
- มีกลิ่นไหม้
- มีเสียงดังในจังหวะขับขี่หรือเมื่อต้องเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์
เช็ครอบเปลี่ยนถ่ายเอาไว้ว่า ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เมื่อไหร่
สำหรับรถที่มีอาการปกติดีอาจคิดว่าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ก็ได้ แต่ทางที่ดีควรเปลี่ยนตามระยะที่กำหนด ซึ่งจริงๆ แล้วระยะการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ไม่ได้กำหนดเป็นตัวเลขที่แน่นอนตายตัว แต่ระยะเปลี่ยนที่ส่วนใหญ่มักใช้กันก็คือ เปลี่ยนทุกๆ 40,000 กม. หรือทุก 2 ปี ลองดูว่าแบบไหนถึงก่อนกันก็เปลี่ยนก่อน เช่น รถวิ่งบ่อยวิ่งตลอดเวลา แป๊บๆ ก็ถึง 40,000 กม. ก็ควรเปลี่ยนได้แล้ว แต่ถ้ารถที่นานๆ เอาออกมาขับที สองปีแล้วยังไม่ถึงสี่หมื่นกิโล ก็ควรได้เวลาเปลี่ยนน้ำมันเกียร์แล้วเช่นกัน
ซึ่งถ้าหากเรากลัวว่าจะจำไม่ได้ ก็ให้จดบันทึกเลขไมล์และวันที่เอาไว้สำหรับเปลี่ยนในครั้งต่อไป หรือจะบันทึกไว้ในแอพเพื่อเตือนความจำก็ได้เช่นกัน เพื่อที่จะไม่ลืมเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ เพราะถ้าหากปล่อยให้นานเข้าน้ำมันเกียร์อาจไม่สะอาดและเสื่อมสภาพ แล้วจะส่งผลให้ระบบเกียร์มีปัญหาได้ ดังนั้นนอกจากเรื่องระยะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ ก็ควรหมั่นสังเกตอาการรถว่าเข้าข่ายมีปัญหาที่ระบบเกียร์หรือเปล่า จะได้แก้ไขได้ทันท่วงที และมีรถใช้คู่กับเราไปนานๆ