Smart watch ต้องเปิดบลูทูธตลอดไหม

หลังจากที่นาฬิกา Smartwatch ได้รับความนิยมกันมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต่างก็มีผู้คนทยอยซื้อกันมาใช้งานทุกวัน แต่เชื่อว่าอาจจะยังมีคนไม่ค่อยคุ้นเคยกับการใช้งานนาฬิกาอัจฉริยะเหล่านี้สักเท่าไหร่ วันนี้ Mercular เลยขออาสาแนะนำ 10 เคล็ด (ไม่) ลับ สำหรับมือใหม่หัดใช้นาฬิกา Smartwatch เรียกได้ว่าอ่านคอนเทนต์นี้จบคุณเป็นมือโปรในสายนาฬิกา Smartwatch อย่างแน่นอน หากพร้อมแล้วเตรียมนาฬิกาบนข้อมือให้พร้อม แล้วเรียนรู้ไปพร้อมกันเลย!

1.เปลี่ยนหน้าจอนาฬิกา Smartwatch

เชื่อว่าหนึ่งในเหตุผลที่หลาย ๆ คนเลือกซื้อนาฬิกา Smartwatch มานั้นอาจเป็นเพราะความสามารถในการปรับเปลี่ยนหน้าจอได้ตามต้องการ ซึ่งการเปลี่ยนหน้าจอสมาร์ทวอทช์นั้นในหลาย ๆ รุ่นอย่าง Apple Watch, Garmin, Huawei, ฯลฯ นั้นคุณสามารถปรับเปลี่ยนหน้าจอได้ด้วยตัวเองโดยการกดค้างที่หน้าจอ ปรับเลื่อนซ้ายเลื่อนขวาเพื่อตั้งค่าภาพหน้าจอที่ต้องการ รวมถึงยังสามารถตั้งค่าวิดเจ็ตต่าง ๆ เพื่อการอ่านค่าได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเต้นของหัวใจ นับก้าว เวลา เป็นต้น นอกจากนั้นใน Apple Watch คุณยังสามารถตั้งค่าหน้าจอได้ผ่านแอปพลิเคชัน Watch บนสมาร์ทโฟนได้ทันที ถือว่าเป็นความสะดวกสบายเป็นที่สุด แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบหน้าจอในคลังที่ทางแบรนด์มีมาให้ คุณสามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้ด้วยตัวเอง ซึ่งขึ้นอยู่กับการรองรับระบบแต่ละแบรนด์ด้วย

2.ค้นหาและติดตั้งแอปพลิเคชันที่ต้องการ

สำหรับใครที่ต้องการใช้งานแอปพลิเคชันเพิ่มเติมที่ไม่ได้ติดตั้งมากับทางแบรนด์ คุณสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้เพิ่มเติมผ่าน Google Play Store หรือ Apple Store ได้ตามต้องการ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับระบบขอนาฬิกา Smartwatch ด้วยเช่นกัน เพราะในบางรุ่นเป็นนาฬิกาอัจฉริยะระบบปิด อาจไม่สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพิ่มเติมได้ ดังนั้นจึงควรศึกษาในตัวอุปกรณ์ให้ถี่ถ้วนเสียก่อนจึงค่อยเลือกซื้อ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบ

3.ตั้งแอปพลิเคชันที่ใช้งานบ่อยบนหน้าจอ

เนื่องจากตัวเรือนหน้าปัดนาฬิกา Smartwatch นั้นมีขนาดเล็ก เพราะฉะนั้นคุณจึงควรตั้งค่าแอปพลิเคชันที่ใช้งานบ่อยไว้บนหน้าจอหลัก เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น โดยคุณสามารถตั้งค่าได้ด้วยตัวเองด้วยวิธีการกดปุ่มเม็ดมะยมข้างตัวเรือน จากนั้นให้นำนิ้วกดค้างที่ไอคอนแล้วลากไปยังที่ต้องการปักหมุด เพียงเท่านี้แอปพลิเคชันที่คุณใช้งานบ่อยก็จะอยู่บนหน้าบนสุดของรายการเรียบร้อย

4.เปลี่ยนภาษาให้คีย์บอร์ด

ใครที่ได้นาฬิกา Smartwatch มาไว้ในครอบครองเรียบร้อยแล้วแต่ไม่ถนัดใช้ที่ตัวเรือนเซ็ตมาให้ คุณสามารถเพิ่มภาษาหรือการป้อนข้อมูลได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทย, ภาษาจีน, ภาษาเกาหลี เป็นต้น นอกจากนั้นคุณยังสามารถตั้งค่าการเขียนข้อความด้วยลายมือได้อีกด้วย (ในบางรุ่น) เรียกได้ว่าช่วยอำนวยความสะดวกในการพิมพ์ตอบข้อความ รวมถึงบันทึกข้อความได้เป็นอย่างดี

5.ควบคุมการใช้งานด้วย Voice Assistance

บอกเลยว่าฟีเจอร์ล้ำ ๆ ไม่ได้มีแค่ในหนังเท่านั้น เพราะในนาฬิกา Smartwatch รุ่นปัจจุบันสามารถสั่งการทำงานผ่านคำสั่งเสียงได้อย่างอัจฉริยะ โดยใช้คำสั่งเริ่มต้นว่า ‘OK Google’ ในอุปกรณ์ที่รองรับคำสั่งเสียงระบบ Google Assistant และ ‘Hello Siri’ ใน Apple Watch คุณสามารถสั่งให้โทรเข้า โทรออก เปิดแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้ตามต้องการ นอกจากนั้นหาบ้านของคุณมีอุปกรณ์ Smart Home ที่รองรับคำสั่งเสียงล่ะก็ คุณยังสามารถสั่งการทำงานเปิด-ปิดของอุปกรณ์เหล่านั้นได้อีกด้วย บอกเลยว่าล้ำสุดยอด!

6.ใช้งาน Google Pay บนนาฬิกา Smartwatch

คงจะดีหากคุณสามารถใช้จ่ายแบบ Cashless ผ่านนาฬิกา Smartwatch ได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งปัจจุบันทำได้แล้ว! เพียงคุณดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Google Pay ลงบนสมาร์ทโฟน หลังจากนั้นให้เพิ่มการ์ดที่คุณต้องการลงไป หลังจากนั้นเมื่อเสร็จสิ้นการเพิ่มแล้ว ให้คุณเพิ่มแอปพลิเคชันไปบนสมาร์ทวอทช์ เพื่อใช้งาน Google Pay ในการใช้จ่ายตามร้านค้าต่าง ๆ ได้ตามต้องการ

7.ปิดการแจ้งเตือนแอปพลิเคชันที่ไม่ต้องการ

ใครที่เริ่มเอะใจว่าทำไมแบตเตอรีนาฬิกา Smartwatch ถึงหมดไวกว่าที่คิด อาจเกิดจากการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันที่เราไม่ต้องการ เพราะฉะนั้นการปิดการแจ้งเตือนข้อความจากแอปพลิเคชันที่เราไม่ต้องการนั้น จะช่วยประหยัดแบตเตอรีของเราได้มากทีเดียว ซึ่งวิธีการปิดง่าย ๆ คือ ไปที่การตั้งค่า > การแจ้งเตือน > เลือกเปิด/ปิดการแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันที่คุณต้องการ เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย

8.ตั้งค่าการประหยัดพลังงานให้นาฬิกา Smartwatch

นอกจากการปิดการแจ้งเตือนแอปพลิเคชันที่ไม่ต้องการจะช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรีได้แล้ว ในตัวนาฬิกาเองก็มีโหมดประหยัดพลังงานให้คุณได้เปิดเช่นกัน นอกจากนั้นคุณยังสามารถประหยัดพลังงานด้วยวิธีการอื่น ๆ ได้ด้วย เช่น ปิดการตั้งหน้าจอแบบ Always-on, ลดความสว่างของแสงหน้าจอ, ปรับเปลี่ยนหน้าจอเป็นรูปแบบที่ใช้แสงสีให้น้อยลง เพียงเท่านี้ก็ถือเป็นการช่วยเซฟแบตเตอรีนาฬิกา Smartwatch ของคุณได้มากเลยล่ะ

9.ฟังเพลงแบบ Offline

ใครที่ชื่นชอบการฟังเพลงเชื่อว่าคงประทับใจฟีเจอร์นี้ไม่น้อย เพราะในบางรุ่นของนาฬิกา Smartwatch คุณสามารถควบคุมแอปพลิเคชันการฟังเพลงได้บนตัวเรือนเลย ไม่ว่าจะ play, pause, หรือ skip ก็สามารถทำได้ทันที และที่พิเศษไปกว่าในบางรุ่นคุณสามารถดาวน์โหลดเพลงเพื่อฟังแบบ Offline พร้อม หูฟัง True Wireless ได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นฟังขณะเดินทาง ฟังขณะออกกำลังกาย เป็นต้น ซึ่งเป็นการฟังแบบไม่ใช้อินเทอร์เน็ต เรียกได้ว่าตอบโจทย์การใช้งานขั้นสุด

10.ตั้งค่าการแจ้งเตือนเรื่องสุขภาพ

นาฬิกา Smartwatch หลายต่อหลายรุ่นมีการตรวจจับค่าสุขภาพที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเต้นของหัวใจ, ค่าออกซิเจนในเลือด, ค่าความเครียด, การหายใจ, คุณภาพการนอน, ฯลฯ ซึ่งคุณสามารถตั้งค่าให้มีการแจ้งเตือนเมื่อพบความผิดปกติในค่าสุขภาพเหล่านี้ได้ ทำให้คุณสามารถตามทันความผิดปกติในร่างกายได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ระหว่างวัน ในนาฬิกา Smartwatch บางรุ่นยังสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนให้ดื่มน้ำ, ล้างมือ, ลุกขึ้นยืน หรือเดินได้ด้วย เรียกได้ว่าอุปกรณ์ Wearable ในปัจจุบันนี้นั้นใส่ใจเรื่องสุขภาพของทุกเพศทุกวัยอย่างครอบคลุม

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 10 เคล็ด (ไม่) ลับที่หากคุณมีนาฬิกา Smartwatch อยู่ในมือคุณก็สามารถตั้งค่าการใช้งานให้กลายเป็นมือโปรได้อย่างง่ายดาย ถือเป็นแกดเจ็ตที่ตอบโจทย์การใช้งานของคนยุคใหม่เป็นที่สุด แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อนาฬิกา Smartwatch รุ่นไหนให้ตอบโจทย์การใช้งานล่ะก็ Mercular เรารวมคอนเทนต์นาฬิกาอัจฉริยะราคาไม่เกิน 10,000 บาทในปี 2022 ไว้ ที่นี่ คุณสามารถเลือกเก็บโค้ดส่วนลดที่หลากหลายพร้อมช้อปได้ทันทีได้ที่ Mercular.com บอกเลยมีแต่คุ้มกับคุ้ม!

สินค้าที่เกี่ยวกับบทความนี้

เปิดบลูทูธเปลืองแบตมากไหม

การเปิดใช้งาน Bluetooth ไว้ตลอดเวลานั้นเปลืองแบตเตอรี่อยู่พอสมควร แต่ในช่วงที่ Wireless กำลังได้รับความนิยมนี้ก็ดูเหมือนจะทำได้ยากอยู่สักหน่อย เพราะอุปกรณ์รอบตัวก็ดูเหมือนจะใช้งานร่วมกับ Bluetooth กันเป็นส่วนมาก ไม่ว่าจะเป็น Smart Band หรือหูฟังแบบ Wireless ซึ่งหากต้องการที่จะประหยัดแบตเตอรี่ก็อาจลดการใช้งานอุปกรณ์ที่ ...

ไอโฟนต้องเปิดบลูทูธไว้ตลอดไหม

ᴍɪɴʜᴏ ʕ·ᴥ·ʔ @BrightMinho. แน่นอนว่า เราต้องเปิด Wifi และ Bluetooth ไว้ตลอดด้วยครับ เพื่อให้มันใช้ฟีเจอร์นี้ได้เต็มประสิทธิภาพ การเปิด Bluetooth, Wifi ตลอดเวลาไม่ได้ทำให้เปลืองแบตอะไรมากเลยครับ เปิดไว้เลย ไม่ต้องปิด 6:49 AM · Dec 12, 2020·Twitter for iPhone.

แอปเปิ้ลวอชต้องเปิด wifi ไหม

หากต้องการเพลิดเพลินไปกับคุณสมบัติทั้งหมดบน Apple Watch คุณต้องเปิด Wi-Fi และบลูทูธบน iPhone ที่จับคู่ไว้แล้ว เปิดศูนย์คควบคุมบน iPhone จากนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าเปิด Wi-Fi และบลูทูธ อยู่

สมาร์ทวอทช์ต้องชาร์จกี่ชั่วโมง

ชาร์จไฟให้เพียงพอ : สาย Usb รองรับการเสียบกับอะแดปเตอร์สมาร์ทโฟน หรือ จะเสียบเข้าช่อง Usb คอมพิวเตอร์ ชาร์จอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

flow chart แสดงขั้นตอนการปฏิบัติงาน lmyour แปลภาษา กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่เรือ การเขียน flowchart โปรแกรม ตัวรับสัญญาณ wifi โน๊ตบุ๊คหาย ตัวอย่าง flowchart ขั้นตอนการทํางาน ผู้แต่งกาพย์เห่ชมไม้ ภูมิปัญญาหมายถึง มีสัญญาณ wifi แต่เชื่อมต่อไม่ได้ เชื่อมต่อแล้ว ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ /roblox promo code redeem 3 พระจอม มีที่ไหนบ้าง AKI PLUS รีวิว APC UPS APC UPS คือ Adobe Audition Adobe Bridge Anapril 5 mg Aqua City Odaiba Arcade Stick BMW F10 jerk Bahasa Thailand Benz C63 ราคา Bootstrap 4 Bootstrap 4 คือ Bootstrap 5 Brackets Brother Scanner Brother iPrint&Scan Brother utilities Burnt HD C63s AMG CSS เว้น ช่องว่าง CUPPA COFFEE สุราษฎร์ธานี Cathy Doll หาซื้อได้ที่ไหน Clock Humidity HTC-1 ColdFusion Constitutional isomer Cuppa Cottage เจ้าของ Cuppa Cottage เมนู Cuppa Cottage เวียงสระ DMC DRx จ่ายปันผลยังไง Detroit Metal City Div class คือ Drastic Vita