ขุนแผนรับอาสาสมเด็จพระพันวษา ออกรบกับเมืองเชียงใหม่ และออกรบครั้งอื่นๆ ถือได้ว่าขุนแผนมีความกตัญญูรู้คุณแผ่นดิน เมื่อครั้งที่ขุนแผนไปขออาศัยพระพิจิตรอยู่ก็ได้สำนึกถึงความผิดของตัวเองเกรงว่าพระพิจิตรจะมีภัย จึงขอให้พระพิจิตรส่งตนและนางวันทองกลับกรุงอยุธยา ดังบทกลอนที่ว่า “พลายแก้วรับสั่งบังคมทูล ขอเดชะนเรนทร์สูรโปรดเกศาชีวิตอยู่ใต้บาทา ขออาสาพระองค์ผู้ทรงชัย ตีทัพเชียงอินทร์แลเชียงทอง ให้สมพระทัยปองให้จงได้ถ้าข้าพระพุทธเจ้ามิบรรลัย ก็มิได้ย่อท้อต่อณรงค์ ฯ” (สำนักพิมพ์ศิลปาบรรณาคาร, ๒๕๑๓: ๑๘๐)
“ครานั้นขุนแผนแสนสนิท พระพิจิตรจงรักบำรุงสงวนอยู่เรือนที่หลังใหม่ข้างในจวน มาได้ถ้วนเดือนหนึ่งรำพึงคิด
พระพิจิตรบุษบาให้อาศัย รักใคร่เราเหมือนบุตรสุจริตแต่นานไปที่ไหนความจะมิด ด้วยพระองค์ทรงฤทธิ์ยังโกรธา
สั่งกำชับกรมการด่านคอย อายัดซ่องใหญ่น้อยไว้แน่นหนาใครจับได้ให้ส่งไปพารา ด้วยโทษฆ่าคนตายเสียหลายพัน
จะร้อนถึงพระพิจิตรผู้บิดา ที่เมตตาเลี้ยงดูให้อยู่นั่นสักหน่อยก็จะพลอยเป็นโทษทัณฑ์ ที่พูดนั้นว่าจะบอกไปขอไว้”
(สำนักพิมพ์ศิลปาบรรณาคาร, ๒๕๑๓: ๔๗๑)
2. มีความรับผิดชอบ
ต่อการกระทำของตน รักลูก เมีย ขุนแผนเป็นคนรักลูกรักเมีย ทั้งยังมีความรับผิดชอบ ถึงแม้ขุนแผนจะมีภรรยามีหลาย
คนแต่ก็ดูแล และรับผิดชอบภรรยาทุกคนไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ดังเช่น ที่ขุนแผนทำกับนางแก้วกิริยา ที่ได้นางเป็นเมียและให้เงินนาง ไถ่ตัวเองออกมาจากขุนช้าง หรือแม้ยามที่นางลาวทองป่วย ขุนแผนก็สู้อุตส่าฝากเวรไว้กับขุนช้างและมาดูแลนางลาวทองเป็นเหตุให้ขุนช้างได้ข้ออ้าง ใส่ร้ายขุนแผนจนเข้าคุก “ขุนแผนรับขวัญอย่าพรั่นจิต พี่หาลืมคิดความหลังไม่แสนสงสารสุดสวาทขาดใจ นับแต่วันนี้ไปจนวันตาย มิวันหนึ่งวันใดคงถึงห้อง ประสมสองเกษมสุขให้โศกหายชื่นจิตเจ้าจงคิดเพทุบาย ถ่ายถอนตัวเสียให้เป็นไท ว่าพลางทางถอดซึ่งแหวนเพชร ประคองเช็ดน้ำตาอย่าร้องไห้ ชมแหวนแทนพลางระหว่างใจ สอดใส่นิ้วน้อยให้นางดู” (สำนักพิมพ์ศิลปาบรรณาคาร, ๒๕๑๓: ๓๗๗)
3. เฉลียวฉลาด เก่งกล้าสามารถ
ขุนแผนเป็นคนมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ครั้งที่พลายแก้วได้บวชเรียนก็มีความฉลาดหลักแหลม แถมมีความขยันหมั่นเพียร บวชเรียนไม่เท่าไหร่ก็ท่องจำได้ขึ้นใจ “ครานั้นจึงโฉมเจ้าเณรแก้ว บวชแล้วร่ำเรียนด้วยเพียรหมั่น ปัญญาไวว่องคล่องแคล่วครัน เรียกสิ่งใดได้นั่นไม่ช้าทีจนอาจารย์ขยาดฉลาดเฉลียว เถรเณรออกเกรียวอยู่ที่นี่ จะเปรียบเณรแก้วได้นั้นไม่มี บวชยังไม่ถึงปีก็เจนใจ หนังสือสิ้นกระแสทั้งแปลอรรถ จนสมภารเจ้าวัดไม่บอกได้ลูบหลังลูบหน้าแล้วว่าไป สิ้นไส้กูแล้วเณรแก้วอา”
(สำนักพิมพ์ศิลปาบรรณาคาร, ๒๕๑๓: ๔๘)
ด้านเสีย
1. เจ้าชู้
ขุนแผนขึ้นชื่อว่าเป็นชายเจ้าชู้ อาจเป็นเพราะขุนแผนเป็นหนุ่มรูปงาม จึงมีความมั่นใจในตัวเอง และขุนแผนเป็นคนมีเสน่ห์ ทำให้บรรดาหญิงสาวพากันหลงใหล อีกทั้งขุนแผนเป็นผู้ชายทีมีลูกอ้อน ไม่ว่าสาวใดได้ยินคำหวานก็พากันหลงรัก แม้กระทั่งนางสายทองพี่เลี้ยงนางพิม และด้วยนิสัยเจ้าชู้ของขุนแผนทำให้ต้องเสียนางพิมไป ด้วยการที่ขุนแผนไปรบและได้นางลาวทองกลับมากรุงศรีฯ ทำให้นางพิมตัดสินใจ ที่จะอยู่กินกับขุนช้างอย่างเต็มใจ“ครานั้นจึงโฉมเจ้าพลายแก้ว เห็นพิมหลับแล้วให้ป่วนปั่น คิดถึงสายทองปองผูกพัน หมายมั่นที่จะมอบซึ่งไมตรี” (สำนักพิมพ์ศิลปาบรรณาคาร, ๒๕๑๓: ๑๓๘)
2.อารมณ์รุนแรง
ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง ด้วยความที่เป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรง ทำให้ขุนแผนทำอะไรไปโดยไม่มีการยับยั้งชั่งใจ ก่อให้เกิดความเสียหายต่างๆ ทั้งที่ยามปกติขุนแผนจะเป็นคนฉลาดมีเหตุผล แต่พอโกรธขึ้นมากลับกลายเป็นคน ที่ไร้สติ ทำอะไรก็เอาแต่ความสาแก่ใจ ความพึงพอใจของตัวเองเพียงเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมาในภายภาคหน้า สังเกตจาก การที่ขุนแผนนำคนล้อมเรือนขุนช้าง เพื่อที่จะฆ่าขุนช้าง หรือ ตอนที่ขุนแผนฟันม่านฝีมือของนางวันทองขาดจนหมดสิ้น เพื่อระบายความแค้นของตนเอง แม้กระทั่งนำเชือกผูกขุนช้างและนางวันทองไว้ด้วยกันเพื่อความสาแก่ใจก็ตาม“จึงเอาเชือกด้ายที่สายม่าน ถึงงดไว้ไม่ผลาญให้เป็นผีจะทำให้สมหน้าอีกาลี เชือกเส้นนี้แลจะเล่นมึงถีบเข้าให้ชิดติดกัน เชือกกระสันพันเข้าให้นอนขึง ผูกเป็นเปลาะชะเนาะตรึง ปลายเชือกโยนถึงบนหลังคา” (สำนักพิมพ์ศิลปาบรรณาคาร, ๒๕๑๓: ๒๙๕)