การพิจารณาว่าเครื่องมือใดมีความเชื่อมั่นสูงต่ำเพียงใด สามารถพิจารณาได้จากค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของความเชื่อมั่น (Reliability Coefficient) ซึ่ง วิธีการหาความเชื่อมั่นที่สำคัญและใช้กันแพร่หลายมีอยู่หลายวิธี เช่น
1. วิธีการสอบซ้ำ (Test – Retest Method) เป็นการหาความเชื่อมั่นของเครื่องมือวัดในความหมายของความคงที่แน่นอนของคะแนนที่ได้จากการทดสอบซ้ำกัน 2 ครั้ง โดยใช้เวลาห่างกันพอสมควร (1 – 2 สัปดาห์ ) แล้วนำค่าการวัด 2 ครั้งที่ได้มาหาความสัมพันธ์กัน ค่าที่ได้เรียกว่า ค่าสัมประสิทธิ์ของความคงที่ (Coefficient of Stability) สูตรที่ใช้คำนวณหาค่าความเชื่อมั่นกรณีนี้ คือ สูตรการหาสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สันที่กล่าวมาข้างต้น
ตัวอย่าง เอาแบบทดสอบวิชาการวัดและประเมินผลการศึกษาไปสอบกลุ่มตัวอย่าง 7 คน เว้นระยะไป 3 วัน นำไปสอบกับนักศึกษาทั้ง 7 คน อีกครั้งหนึ่ง ปรากฏผลดังตาราง
คนที่
1
2
3
4
5
6
7
สอบครั้งแรก
10
11
15
8
7
4
6
สอบครั้งที่ 2
11
11
14
7
8
5
6
จงหาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบวิชาการวัดและประเมินผลการศึกษา
วิธีทำ จากสูตร
แสดงว่าข้อสอบวิชาการวัดและประเมินผลการศึกษามีความเชื่อมั่น .97
2. วิธีแบบคู่ขนาน (Paralled Form Method) เป็นการหาค่าความเชื่อมั่นของเครื่องมือโดยนำเครื่องมือสองชุดที่มีเนื้อหาเดียวกัน รูปแบบของข้อคำถาม (Style) แบบเดียวกัน ค่าเฉลี่ยและค่าความแปรปรวนเท่ากัน สอบวัดกับกลุ่มบุคคลเดียวกันในเวลาเดียวกัน แล้วนำผลการวัดของทั้งสองกลุ่มมาหาความสัมพันธ์กับค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ที่ได้ คือ สัมประสิทธิ์ของความเท่าเทียมกัน (Coefficient of Equivalence) สูตรที่ใช้ในการคำนวณหาค่าความเชื่อมั่นในวิธีนี้ คือ สูตรการหาสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน
3. วิธีแบบแบ่งครึ่งฉบับ (Split – Half Method) เป็นการหาค่าความเชื่อมั่นของเครื่องมือ โดยนำเครื่องมือชุดเดียวกันไปสอบกับบุคคลกลุ่มเดียวกัน นำผลการวัดที่ได้มาแบ่งครึ่งหรือแบ่งเป็นสองส่วน แล้วหาความสัมพันธ์กันโดยใช้สูตรของเพียร์สัน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ที่ได้ จะเป็นค่าความเชื่อมั่นของเครื่องมือครึ่งฉบับ ทำการปรับขยายให้เป็นค่าความเชื่อมั่นของเครื่องมือเต็มฉบับ โดยใช้สูตรของ สเปียร์แมนบราวน์ (Spearman – Brown) ซึ่งมีสูตรดังนี้
เมื่อกำหนดให้ rtt แทน ความเชื่อมั่นของเครื่องมือทั้งฉบับ
r1/2 แทน ความเชื่อมั่นของเครื่องมือครึ่งฉบับ
ซึ่งในทางปฏิบัติสามารถใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางคอมพิวเตอร์ช่วยในการคำนวณได้
4. วิธีแบบคูเดอร์ – ริชาดสัน (Kuder – Richardson) การหาค่าความเชื่อมั่น โดยวิธีของ คูเดอร์ – ริชาดสัน นี้ มีข้อตกลงอยู่ว่า เครื่องมือจะต้องมีคะแนนแบ่งออกเป็นสองประเภท (Dichotomous) เช่น แบบถูก – ผิด ใช่ – ไม่ใช่ หรือ แบบเลือกตอบ โดยทำถูกได้ 1 คะแนน ทำผิดได้ 0 คะแนน การตรวจคะแนนนอกเหนือจากนี้ จะใช้วิธีการนี้หาค่าความเชื่อมั่นไม่ได้ และวิธีนี้จะมีสูตรที่ใช้ในการหาค่าความเชื่อมั่นอยู่ 2 สูตร คือ สูตร KR.-20 และ KR.-21 ซึ่งสามารถใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางคอมพิวเตอร์ช่วยในการคำนวณได้
5. วิธีหาสัมประสิทธิ์แอลฟา ( a - Coefficient) การหาค่าความเชื่อมั่นโดยใช้สูตรนี้ ครอนบัค ได้ดัดแปลงมาจากสูตร KR. – 20 เมื่อปี ค. ศ. 1951 เพื่อใช้หาค่าความเชื่อมั่นกับเครื่องมือที่ไม่ได้ตรวจให้คะแนน 1 กับ 0 ได้ เพราะสูตรสัมประสิทธิ์แอลฟานี้ เครื่องมือไม่จำเป็นจะต้องตรวจให้คะแนนเป็น 1 กับ 0 เสมอไป จะตรวจให้คะแนนลักษณะใดก็ได้ เช่น ทำถูก 5, 6, 10 หรือในลักษณะแบบสอบถามที่ให้คะแนนแต่ละข้อเป็น 5, 4, 3, 2, 1 หรือ 3, 2, 1 ก็ได้ ซึ่งในทางปฏิบัติสามารถใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางคอมพิวเตอร์ช่วยในการคำนวณได้