บทที่ 4
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสาเหตุของพฤติกรรมที่มีผลต่อการใช้โทรศัพท์มือถือและเพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือของนักศึกษาชาย หญิง
ผู้วิจัยได้กำหนดสัญลักษณ์ที่ใช้ดังนี้
สัญลักษณ์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
n แทน จำนวนคนในกลุ่มตัวอย่าง
แทน ค่าเฉลี่ย
S.D. แทน ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน
t แทน ค่าสถิติที่ใช้ในพิจารณาการแจกแจง
P แทน ความน่าจะเป็นที่สถิติที่ใช้ทดสอบจะตกอยู่บริเวณช่วงปฏิเสธสมมุติฐาน
* แทน มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
** แทน มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
การนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล
ผู้วิจัยดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลและการนำเสนอผล โดยแบ่งออกเป็น 3 ตอน ดังนี้
ตอนที่ 1 การวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามเพศ การศึกษา ชั้นปี โดยการแจกแจงความถี่และหาค่าร้อยละ
ตอนที่ 2 การศึกษาความคิดเห็นของนักศึกษาต่อพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของนักศึกษาโดยรวมและรายข้อ โดยการหาค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Stand Deviation)
ตอนที่ 3 การเปรียบเทียบความคิดเห็นของนักศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนต่อพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ของนักเรียนจำแนกตามเพศ การศึกษา ชั้นปี โดยใช้การทดสอบที
(T-Test)
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
ตอนที่ 1 การวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามเพศ การศึกษา และชั้นปี โดยการแจกแจงความถี่และหาค่าร้อยละดังแสดงในตารางที่ 1
ตารางที่ 1 จำนวนและค่าร้อยละของกลุ่มตัวอย่าง จำแนกตามเพศ และชั้นปี
ตัวแปรที่ศึกษา | จำนวนคน (N=50) | ร้อยละ |
1. เพศ ชาย หญิง | 20 10 | 32.0 68.0 |
รวม | 30 | 100 |
2. ชั้นปี่ที่ 4/2 4/3 | 10 20 | 48.0 52.0 |
รวม | 30 | 100 |
จากตารางที่ 1 ผู้ตอบแบบสอบถามในการวิจัยนี้ส่วนใหญ่เป็นเพศชายจำนวน 20 คน (ร้อยละ 32.0) เพศหญิงจำนวน 10 คน (ร้อยละ68.0) ปีที่4/2 จำนวน 10คน (ร้อยละ 48.0)
ชั้นปีที่ 4/3 จำนวน 20 คน (ร้อยละ 52.0)
ตอนที่ 2 การศึกษาความคิดเห็นของนักศึกษาต่อพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของนักเรียนโดยรวมและรายข้อ โดยการหาค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Stand Deviation) ดังตารางที่ 2
ตารางที่ 2 ค่าเฉลี่ยและค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐานของความคิดเห็นของนักศึกษาชั้นปีที่4 ต่อพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของนักศึกษา
รายการ | X̅ | SD | แปลความ |
ด้านการศึกษา 1. ใช้การค้นคว้าข้อมูล 2. ใช้การบันทึกเสียง(ระหว่างการเรียนการสอน) 3.ใช้แปลคำศัพท์ | 3.48 2.32 2.60 | .99 .33 .18 | ปานกลาง น้อย ปานกลาง |
ด้านสังคม 4. เครือข่ายด้านสังคม( facebook,line,twitter,skype ) 5. ใช้ในการติดต่อสื่อสารในรูปแบบเสียง(โทรออก และรับสาย) 6. ใช้ในการติดต่อสื่อสารในรูปแบบ ข้อความSMSและMMS 7.ใช้ติดตามข่าวสาร(การเมือง,กีฬา,บันเทิง และ การท่องเที่ยว) | 2.92 2.20 2.92 2.72 2.52 | .24 .14 .42 .27 .19 | ปานกลาง น้อย ปานกลาง ปานกลาง ปานกลาง |
รายการ | X̅ | SD | แปลความ |
ด้านธุรกิจ 8. ใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงิน 9. ใช้ในการให้บริการขายสินค้า 10. ใช้ในการซื้อสินค้า | 3.16 2.84 2.56 | .13 .13 .21 | ปานกลาง ปานกลาง ปานกลาง |
ด้านการบันเทิง 11. ใช้ในการดูหนัง 12.ใช้ในการเล่นเกม 13. ใช้ในการฟังเพลง 14. ใช้ในการถ่ายรูป 15. ใช้ในการบริการอินเตอร์เน็ต | 3.56 3.36 3.68 3.48 2.84 | .31 .42 .27 .24 .33 | มาก ปานกลาง มาก ปานกลาง ปานกลาง |
จากตารางที่ 2 พบว่าพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือของนักศึกษา
อยู่ในระดับมาก จำนวน 5 รายการ
ใช้ในการค้นหาข้อมูล (X̅=3.48)
ใช้ในการดูหนัง (X̅=3.56)
ใช้ในการฟังเพลง (X̅=3.68)
ใช้ในการถ่ายรูป (X̅=3.48)
ใช้ในการทำธุระกรรมทางการเงิน (X̅=3.16)
ตอนที่ 3 เปรียบเทียบความแตกต่าง โดยจำแนกตาม เพศ การศึกษา และชั้นปี ดังตารางที่ 3 - 4
ตารางที่ 3 เปรียบเทียบความแตกต่างของนักศึกษาชายและหญิง
ตัวแปร | X̅ | S.D. | T | df | P |
ชาย | 70.83 | 16.81 | 2.215* | 48 | .032 |
หญิง | 60.53 | 16.05 |
จากตารางที่ 3 พบว่าค่าเฉลี่ยพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของนักศึกษาชายและหญิงมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
ตารางที่ 4 เปรียบเทียบความแตกต่างของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ห้อง 2 และห้อง 3
ตัวแปร | X̅ | S.D. | T | df | P |
4/2 | 64.50 | 19.18 | -276 | 48 | .784 |
4/3 | 65.94 | 16.25 |
จากตารางที่ 4 พบว่าค่าเฉลี่ยพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือของนักเรียนห้อง 2 และห้อง 3 มีความแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญ