การ เรียกใช้ แถบ Layer สามารถ ทำได้ ด้วย วิธี ใด

Digitiv ให้บริการดิจิทั หลากหลายประเภท“ บริษัท ที่ไม่เหมือนใครซึ่งสร้างความไว้วางใจแคมเปญมหัศจรรย์โซเชียลและสื่อเพื่อตอบสนองแบรนด์ที่กำลังมองหาพันธมิตรในระยะยาว

หากคุณเพิ่งเริ่มต้นใช้ Photoshop สำหรับงานดีไซน์หรือการถ่ายภาพของคุณ ในบางครั้งคุณคงจำเป็นต้องใช้งานเลเยอร์ เลเยอร์เป็นพื้นฐานของ Photoshop โดยส่งเสริมความสามารถทั้งหมดของแอปในการสร้างไฟล์ งานดีไซน์ หรือรูปภาพที่คุณสามารถอัปเดตหรือแก้ไขได้อย่างง่ายดาย

คุณลักษณะพื้นฐานต่อไปนี้จะช่วยให้คุณก้าวผ่านระดับเริ่มต้นได้ เลเยอร์นั้นประกอบไปด้วยฟังก์ชันที่ซับซ้อนมากกว่านี้ แต่การรู้องค์ประกอบหลักเหล่านี้จะช่วยให้คุณทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้นในอนาคต

พื้นฐาน

การแสดงหน้าต่างเลเยอร์

เมื่อเปิดภาพใน Photoshop ให้เลือก Window > Layers เพื่อเปิดหน้าต่างเลเยอร์ การดำเนินการนี้จะแสดงเลเยอร์ของภาพ และรวมไปถึงเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการทำงานกับมัน

เลเยอร์พื้นหลัง

เลเยอร์พื้นหลังเป็นพื้นฐานของภาพใหม่ มันจะถูกล็อกเอาไว้ ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่สามารถแก้ไข ย้าย หรือเปลี่ยนลำดับกับเลเยอร์อื่นๆ ได้ เว้นแต่คุณจะปลดล็อกมัน หากคุณเลือกที่จะปลดล็อก มันจะกลายไปเป็นเลเยอร์มาตรฐาน ซึ่งจะเปิดใช้งานฟังก์ชันการแก้ไขต่อไปนี้ทั้งหมด

เลเยอร์พื้นหลังนั้นจะถูกล็อกโดยอัตโนมัติ คุณจะต้องปลดล็อกเพื่อทำการปรับเปลี่ยน

เพื่อทำให้เลเยอร์พื้นหลังเป็นเลเยอร์ปกติ ให้คลิกที่ไอคอนล็อกของเลเยอร์ในหน้าต่างเลเยอร์ หรือคุณสามารถดับเบิลคลิกเลเยอร์เพื่อแสดงตัวเลือกเพิ่มเติมได้ การดำเนินการนี้จะสร้างกล่องโต้ตอบเดียวกันกับการสร้างเลเยอร์ใหม่ ที่ซึ่งคุณสามารถตั้งค่าความทึบและกำหนดโหมดการเบลนด์ได้

การคลิกสองครั้งที่เลเยอร์พื้นหลังจะเปิดกล่องโต้ตอบเดียวกันกับการสร้างเลเยอร์ใหม่

การล็อกและปลดล็อกเลเยอร์

ฟังก์ชันสำคัญของเลเยอร์คือความสามารถในการล็อกและปลดล็อก สิ่งนี้จะช่วยให้คุณควบคุมพวกมันได้มากขึ้น โดยช่วยป้องกันการขยับหรือการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่นเดียวกับเลเยอร์พื้นหลัง การปลดเลเยอร์นั้นทำได้ง่ายดาย เพียงแค่คลิกที่ไอคอนล็อกในหน้าต่างเลเยอร์

การคลิกที่ไอคอนล็อกในเลเยอร์ของจะปลดล็อกพวกมันอย่างรวดเร็ว

วงกลมสีแดงด้านบนเป็นปุ่มสลับการล็อก/ปลดล็อกที่เรียบง่าย เมื่อคุณต้องการล็อกหลายเลเยอร์ ให้กด Option แล้วคลิกเพื่อเลือกแต่ละเลเยอร์ หรือกด Shift แล้วคลิกเพื่อเลือกเลเยอร์ในลำดับแบบเป็นชุด

จากนั้นคลิกที่ไอคอน Lock All ในเซกชัน Lock: ของหน้าต่างเลเยอร์ ตอนนี้แต่ละเลเยอร์จะแสดงไอคอนล็อก และเพื่อปลดล็อกเลเยอร์เหล่านี้ เพียงแค่คลิกที่มันเท่านั้น คุณสามารถปลดล็อกหลายเลเยอร์ได้พร้อมกันโดยเลือกพวกมันและกดไอคอน Lock All ในเซกชัน Lock:

การตั้งชื่อเลเยอร์

การตั้งชื่อเลเยอร์จะช่วยให้คุณและคนอื่นๆ เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในไฟล์ดังกล่าว แม้ว่าคุณจะทำงานคนเดียว (ซึ่งไม่เสมอไป) จงสร้างนิสัยในการตั้งชื่อเลเยอร์ เพื่อตั้งชื่อเลเยอร์ ให้ดับเบิลคลิกที่ชื่อในหน้าต่างเลเยอร์และพิมพ์

การเพิ่มเลเยอร์ใหม่

เพื่อเพิ่มเลเยอร์ใหม่ที่ว่างเปล่า ให้คลิก New Layer ที่ด้านล่างของพาเลท Layers หรือเลือก Layer > New > Layer และคลิก OK ในกรณีใดกรณีหนึ่ง เลเยอร์ใหม่จะปรากฏขึ้นเหนือเลเยอร์ที่เลือกไว้ในปัจจุบันในพาเลท Layers

การคัดลอกเลเยอร์

มีเหตุผลหลายประการในการคัดลอกเลเยอร์ เพื่อเพิ่มความเข้มหรือความหนาของเลเยอร์ คุณสามารถทำสำเนาและวางมันซ้อนกันได้ จากนั้นให้ใช้เบลนด์โหมด Multiply เพื่อทดลองเอฟเฟกต์ก่อนที่จะใช้งานมัน ให้คุณทำสำเนาและทดลองเล่นกับมัน หากคุณไม่ชอบผลลัพธ์ ให้ลบสำเนาทิ้งไป

ทางเลือกในการสร้างสำเนาของเลเยอร์:

  • ลากและวางเลเยอร์ไปยังไอคอน New Layer ที่ส่วนท้ายของพาเลท Layers
  • คลิกขวาที่เลเยอร์ เลือก Duplicate Layer และคลิก OK
  • กดปุ่ม Option ค้างไว้แล้วลากเลเยอร์ภายในหน้าต่าง Layers ไปยังตำแหน่งในลำดับการซ้อนกันที่คุณต้องการ

การลบเลเยอร์

เพื่อลบเลเยอร์ ให้ใช้หนึ่งในทางเลือกเหล่านี้:

  • ลากและวางมันลงบนไอคอนถังขยะที่ด้านล่างของหน้าต่าง
  • คลิกขวาที่เลเยอร์แล้วเลือก Delete Layer
  • เลือกเลเยอร์แล้วกดปุ่ม Delete บนคีย์บอร์ด

จำไว้ว่า: การลบนั้นเป็นแบบถาวร เว้นแต่ว่าคุณจะสามารถ Undo ได้ แต่อาจจะเกิดปัญหาขึ้นเมื่อคุณทำงานกับกระบวนการที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน ให้ลบเนื้อหาก็ต่อเมื่อคุณมั่นใจแล้วเท่านั้น

การย้ายเลเยอร์

การย้ายเลเยอร์เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เราใช้พวกมันตั้งแต่แรก โดยเปลี่ยนลำดับเพื่อวางวัตถุในระดับความลึกที่แตกต่างกันในพื้นที่ของภาพ หรือใช้ลำดับพร้อมกับความโปร่งใสเพื่อสร้างความลึกในตัวของมันเอง คุณสามารถย้ายเลเยอร์ได้โดยการลากพวกมันในหน้าต่าง Layers ไปยังตำแหน่งอื่นในลำดับ โปรดทราบว่าคุณจะไม่เห็นเนื้อหาของเลเยอร์ที่อยู่ใต้เลเยอร์แบบเต็มหน้าจอ

การรวมเลเยอร์

วิธีการจัดกลุ่มเลเยอร์

การจัดกลุ่มเลเยอร์จะนำพวกมันไปไว้ในโฟลเดอร์ที่คุณสามารถจัดการแบบเป็นกลุ่มได้ ย้ายมันไปรอบๆ ตามลำดับเลเยอร์และใช้มาสก์กับทั้งกลุ่ม การดำเนินการนี้มีประโยชน์มากเมื่อต้องจัดการกับชิ้นส่วนมากมายที่คุณต้องการรวมพวกมันเข้าด้วยกัน

การจัดกลุ่มเลเยอร์สามารถช่วยให้คุณทำงานกับโปรเจกต์ที่ซับซ้อนได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น

หากต้องการจัดกลุ่ม 2 เลเยอร์ขึ้นไป ให้เลือกพวกมันในหน้าต่าง Layers แล้วกด Command + G บนแป้นพิมพ์ – หรือคลิกเมนูรูปสามขีดซ้อนกันในหน้าต่าง Layers แล้วเลือก New Group from Layers คุณสามารถใช้วิธีนี้เพื่อเริ่มกลุ่มใหม่จากขึ้นมาความว่างเปล่า แล้วเพิ่มมันลงไปในภายหลัง จากนั้นให้ตั้งชื่อแบบเดียวกันกับที่คุณตั้งชื่อเลเยอร์โดยดับเบิลคลิกที่ชื่อในหน้าต่าง Layers

ตั้งชื่อกลุ่มเพื่อจัดระเบียบพวกมัน

วิธีผสานรวมเลเยอร์

การผสานรวมเลเยอร์หรือรวมพวกมันเข้าด้วยกันจะมีประโยชน์เมื่อคุณต้องการรวมเลเยอร์อย่างน้อยสองเลเยอร์เข้าด้วยกันอย่างถาวร เมื่อคุณผสานรวมเลเยอร์ มาสก์หรือคุณลักษณะของแต่ละเลเยอร์จะกลายเป็นแบบถาวร หากคุณต้องการรักษาคุณลักษณะเฉพาะของเลเยอร์เดี่ยวเอาไว้ ให้ใช้การจัดกลุ่มแทน

มีวิธีในการผสานรวมเลเยอร์อยู่หลายวิธี หากต้องการผสานรวมเลเยอร์เดี่ยวเข้ากับอีกเลเยอร์ ให้เลือกและคลิก Layer ในเมนูหลัก จากนั้นค้นหา Merge section หรือคลิกเมนูรูปสามขีดซ้อนกันในหน้าต่าง Layers โดย Merge Down จะรวมเลเยอร์ที่เลือกไว้เข้ากับเลเยอร์ที่อยู่ด้านล่างของมันในลำดับ

เพื่อผสานรวมหลายเลเยอร์ ให้เลือกพวกมันโดยการกดปุ่ม Option ค้างไว้แล้วคลิกเลเยอร์ที่คุณต้องการในหน้าต่าง Layers ตอนนี้ Merge Down ในเมนูจะเปลี่ยนไปเป็น Merge Layers การเลือกคำสั่งนี้จะรวมเลเยอร์ที่เลือกไว้และวางพวกมันไว้ที่ตำแหน่งสูงสุดของเลเยอร์ที่เลือกไว้ในลำดับทั้งหมด ดังนั้นเลเยอร์ที่อยู่ระหว่างสองเลเยอร์ที่คุณต้องการผสานรวมสามารถย้ายไปอยู่ด้านบนหรือด้านล่างเลเยอร์ใหม่ได้ แต่ไม่สามารถอยู่ระหว่างเลเยอร์ใหม่ได้

การรวมเลเยอร์เข้าด้วยกันจะรวมแต่ละคุณลักษณะของพวกมันไปยังเลเยอร์เดี่ยว

Merge Visible การผสานรวมเลเยอร์ที่เปิดการมองเห็น และ Flatten Image การรวมเลเยอร์ทั้งหมดแล้วลบเลเยอร์ที่ปิดการมองเห็น เป็นสองตัวเลือก “หลัก” สองตัว คุณควรใช้คำสั่งเหล่านี้ก็ต่อเมื่อคุณแน่ใจแล้วว่าคุณต้องการที่จะสูญเสียเลเยอร์เดี่ยวของคุณทั้งหมด

การมองเห็นและลำดับของเลเยอร์

การมองเห็นเลเยอร์

มีสองสามวิธีในการเปลี่ยนการมองเห็นของเลเยอร์ใน Photoshop: การเปลี่ยนแปลงความทึบและการลงสี และการเปิด/ปิดการมองเห็น

การควบคุม Opacity จะกำหนดว่าเลเยอร์ที่อยู่ด้านล่างจะแสดงให้เห็นมามากน้อยเท่าใด หากไม่มีเลเยอร์อยู่ด้านล่าง มันจะเปลี่ยนแปลงความโปร่งใส คุณสามารถคลิกที่คำว่า Opacity ได้โดยตรงและลากตัวเลื่อนไปมาเพื่อดูเอฟเฟกต์ในภาพของคุณ หรือคุณสามารถเลือกเปอร์เซ็นต์ในฟิลด์ที่อยู่ติดกันได้ (สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างความทึบและการลงสี ให้ดูบทความนี้)

หากต้องการสลับการมองเห็นโดยรวมของเลเยอร์ ไม่ว่าการตั้งค่าความทึบจะเป็นอย่างไรก็ตาม ให้คลิกที่ไอคอนลูกตาสำหรับเลเยอร์ซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายของชื่อ ลูกตาบนเลเยอร์ = สามารถมองเห็นได้ และเป็นไปในทางกลับกัน

ลำดับการซ้อนเลเยอร์

ลำดับของเลเยอร์ในพาเลท Layers จะส่งผลต่อสิ่งที่คุณเห็นในภาพ เนื้อหาในเลเยอร์ใดๆ จะปรากฏเหนือเนื้อหาในเลเยอร์ใดๆ ที่อยู่ด้านล่างในพาเลท Layers

เพื่อวางดอกไม้ลงบนพื้นหน้าในภาพด้านล่าง เราวางพวกมันไว้บนเลเยอร์เหนือพื้นหลังหรือเลเยอร์พื้นฐาน

เลเยอร์ใดๆ ที่คุณวางไว้เหนืออีกเลเยอร์หนึ่งจะเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะมองเห็นภาพต้นฉบับมากน้อยเท่าใด

การลงสีเลเยอร์

การลงสีเลเยอร์นั้นมีประโยชน์เมื่อคุณกำลังจัดการกับวัตถุที่มีความโปร่งใส หรือเมื่อคุณต้องการพื้นหลังที่เรียบ เพื่อลงสีเลเยอร์ ให้เลือกเลเยอร์ที่ว่างเปล่าหรือสร้างเลเยอร์ใหม่

เพื่อเลือกสี ให้คลิกที่สวอตช์สีที่ด้านล่างของหน้าต่าง Tools เพื่อเปิดตัวเลือกสี เพื่อเลือกสีขาวดำ ให้กดปุ่ม D บนคีย์บอร์ด การดำเนินการนี้จะทำให้สีดำเป็นสีพื้นหน้าและสีขาวเป็นสีพื้นหลัง

กด Option ค้างไว้แล้วกด Delete เพื่อลงสีเลเยอร์ด้วยสีพื้นหน้า กด Command ค้างไว้แล้วกด Delete เพื่อลงสีเลเยอร์ด้วยสีพื้นหลัง

การบันทึกไฟล์พร้อมด้วยเลเยอร์

ถึงแม้ว่าเราอาจกำลังสร้างภาพเพื่อใช้งานบนเว็บหรือในงานพิมพ์ แต่เรายังคงต้องการรักษาความสามารถในการแก้ไขเลเยอร์ของเราเอาไว้ หลังจากบันทึกภาพสำหรับใช้งานในสภาพแวดล้อมอื่น เช่น .JPG หรือ .PNG เพื่อรักษาความโปร่งใส ให้บันทึกไฟล์เลเยอร์ของคุณเป็นไฟล์ Photoshop หรือไฟล์ .PSD

ด้วยวิธีนี้ คุณจะรักษาคุณลักษณะทั้งหมดของเลเยอร์ส่วนตัวของคุณเอาไว้ ซึ่งได้แก่ เอฟเฟกต์ ความโปร่งใส โหมดการเบลนด์ การมองเห็น เป็นต้น ไฟล์ Photoshop เป็นรูปแบบไฟล์ที่ดีที่สุดในการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงเลเยอร์ต่อไป

ข้อใดเป็นประโยชน์ของเลเยอร์ (Layer)

Layer เป็นเครื่องมือที่สำคัญอย่างหนึ่ง เช่นในโปรแกรม Dreamweaver ที่เหมาะในการใช้จัดหน้าเว็บเพจ เนื่องจากมีความสะดวกในการเคลื่อนย้ายหรือจัดหน้าเว็บได้ตามความต้องการ ทั้งนี้เพราะ Layer เปรียบเสมือนแผ่นใสที่สามารถนำองค์ประกอบต่าง ๆ มาวางไว้ภายใน และซ้อนกันหลายชั้นได้ ทั้งนี้เพราะเว็บเพจบางเว็บที่มีความสวยงามมากก็มักมี ...

Layers สามารถทําอะไรได้บ้าง

รู้จักกับเลเยอร์ เลเยอร์เปรียบเสมือนแผ่นพลาสติกใสที่ประกอบด้วยข้อความหรือรูปภาพ ที่นำมาว่างเรียงซ้อนกันจนกลายเป็นชิ้นเดียว โดยภาพในเลเยอร์บนจะบังเลเยอร์ที่อยู่ด้านล่าง การใช้เลเยอร์ช่วยให้เราสามารถแก้ไขภาพแต่ละส่วนได้ง่ายและเป็นอิสระขึ้น โดยไม่ต้องแก้ไขทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถสลับลำดับการซ่อนและแสดงเลเยอร์ได้

Layer มีความสําคัญอย่างไร

เลเยอร์ (Layer) หมายถึง ชั้น โดยในการจัดภาพที่เรียงทับซ้อนกัน การทำงานของเลเยอร์มีลักษระคล้ายกับการนำแผ่นภาพมาทับซ้อนกันเป็นชั้น ๆโดยแผ่นภาพแต่ละแผ่นเปรียบเสมือนเลเยอร์แต่ละเลเยอร์ ซึ่งเราสามารถทำการซ่อน แสดงผลได้ จากรูปตัวอย่างจะเห็นว่า ในขณะที่เราทำงานในโปรแกรม Photoshop กับรูปภาพ ในส่วนของเลเยอร์ จะแสดงให้เห็นว่ามี ...

คำสั่ง Layer ใช้ทำอะไร

เลเยอร์ Layer เป็นการซ้อนภาพเหมือนกับนำแผ่นใสที่มีภาพซ้อนทับกันเป็นชั้น ๆ ซึ่งบริเวณของแผ่นใสที่ไม่มีรูปก็จะสามารถมองเห็นทะลุถึงแผ่นใสชั้นล่างได้ และเมื่อนำทุกแผ่นใสมาวางซ้อนทับกัน จะทำให้เกิดเป็นรูปภาพที่สมบูรณ์ การใช้งานเลเยอร์จะช่วยให้เราจัดวางวัตถุ หรือชิ้นงานที่สร้างจากโปรแกรมได้ง่าย เนื่องจากแต่ละเลเยอร์ทำงานเป็น ...

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

flow chart แสดงขั้นตอนการปฏิบัติงาน lmyour แปลภาษา กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน กาพย์เห่เรือ การเขียน flowchart โปรแกรม ตัวรับสัญญาณ wifi โน๊ตบุ๊คหาย ตัวอย่าง flowchart ขั้นตอนการทํางาน ผู้แต่งกาพย์เห่ชมไม้ ภูมิปัญญาหมายถึง มีสัญญาณ wifi แต่เชื่อมต่อไม่ได้ เชื่อมต่อแล้ว ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ /roblox promo code redeem 3 พระจอม มีที่ไหนบ้าง AKI PLUS รีวิว APC UPS APC UPS คือ Adobe Audition Adobe Bridge Anapril 5 mg Aqua City Odaiba Arcade Stick BMW F10 jerk Bahasa Thailand Benz C63 ราคา Bootstrap 4 Bootstrap 4 คือ Bootstrap 5 Brackets Brother Scanner Brother iPrint&Scan Brother utilities Burnt HD C63s AMG CSS เว้น ช่องว่าง CUPPA COFFEE สุราษฎร์ธานี Cathy Doll หาซื้อได้ที่ไหน Clock Humidity HTC-1 ColdFusion Constitutional isomer Cuppa Cottage เจ้าของ Cuppa Cottage เมนู Cuppa Cottage เวียงสระ DMC DRx จ่ายปันผลยังไง Detroit Metal City Div class คือ Drastic Vita