มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้พัฒนาระบบการทำงานและกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง สร้างความแข็งแกร่งด้วยการยกระดับคุณภาพของเครื่องจักร พัฒนาเทคโนโลยีการผลิต ตลอดจนฝึกฝนทักษะ ฝีมือของทีมงานอย่างเข้มข้น เพื่อรองรับการเพิ่มปริมาณการผลิต และการส่งออกไปยังนานาประเทศทั่วโลก โรงงานประกอบรถยนต์ทั้งสามแห่งของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มีความสามารถในการผลิตรวมกันถึง 420,000 คันต่อปี แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ที่นอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่น
ปัจจัยเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของนโยบายส่งเสริมการลงทุน ในกิจการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล ที่สนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวขึ้นสู่การเป็นฐานการผลิตรถยนต์นั่งที่มีมาตรฐานระดับโลกอย่างแท้จริง บริษัทฯ ได้มีการจัดทำระเบียบการจัดการระบบสารสนเทศและนโยบายความปลอดภัยด้าน IT ขึ้นใหม่ ภายใต้นโยบายและข้อบังคับเหล่านี้ บริษัทฯ ได้ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัย เช่น การติดตั้งไฟร์วอลล์, ฮาร์ดแวร์คู่แฝดที่ทำงานร่วมกัน, ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส, ซอฟต์แวร์แพทช์,สิ่งอำนวยความสะดวกในการสำรองข้อมูล, การอนุญาตการเข้าถึงระบบที่สำคัญ เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทฯยังสร้างความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาความปลอดภัยด้าน IT ให้กับพนักงานผ่านการให้การศึกษาและการฝึกอบรม และทำการประเมินความเสี่ยงและตรวจสอบเป็นประจำ จะเห็นได้ว่า เฉพาะส่วนของโรงงานประกอบรถยนต์ก็จะประกอบด้วยคนจำนวนมากประมาณถึงสองหมื่นคน แต่ถ้าจะนับรวมหมดทั้งอุตสาหกรรม คือ ส่วนของโรงงานผลิตชิ้นส่วนส่วนของการจัดจำหน่ายและบริการด้วย ก็จะมีจำนวนแรงงานมากกว่าแสนคนขึ้นไป จึงอาจจะกล่าวได้ว่า อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์เป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาประเทศไทยเพราะนอกจากจะสร้างงานจำนวนมากให้แก่ประเทศแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการปรับพื้นฐานโครงสร้างเศรษฐกิจทางด้านอุตสาหกรรมให้มั่นคงด้วย จึงสมควรอย่างยิ่งที่เราจะต้องให้ความสนใจ และร่วมแรงร่วมใจกันพัฒนาให้ป็นอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยตลอดไปหลายปีมาแล้ว ที่ประเทศไทยมีการผลิตรถยนต์ภายในประเทศ จึงเกิดระบบอุตสาหกรรมมากมาย ที่เกี่ยวข้องกับการผลิต ทั้งการตัดเลเซอร์ การผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ การออกแบบ การวิจัยอะไหล่รถยนต์ กระบวนการผลิตรถยนต์ เป็นกระบวนการที่เปิดเผยต่อสาธารณะ เป็นขั้นตอนมาตรฐานของแทบจะทุกโรงงานการผลิต
1. การหลอมเหล็กหล่อชิ้นส่วนเครื่องยนต์ (Foundry)
เหล็กที่ใช้ผลิตเป็นส่วนประกอบของรถยนต์นั้นถูกหลอมขึ้นในอุณหภูมิที่สูง แล้วนำไปหล่อให้เป็นรูปร่างโดยเทใส่แม่พิมพ์ (Mold) ตามที่ต้องการ โดยตามปกติแล้วสำหรับการหล่อชิ้นส่วนของเครื่องยนต์นั้นต้องจำเป็นต้องใช้ความความรวดเร็วและความแม่นยำในกระบวนการผลิต
2. การสร้างเครื่องยนต์ และระบบขับเคลื่อน (Powertrain)
ในการสร้างเครื่องยนต์ และระบบขับเคลื่อนนั้น มีกระบวนการคือ นำชิ้นส่วนต่างๆ มากลึง เจียร์ แล้วประกอบรวมเข้าด้วยกันเป็นสายพานขับเคลื่อนและเกียร์ในเครื่องยนต์
3. การปั๊มชิ้นส่วนตัวถัง และแชสซี (Press)
กระบวนการการปั๊มชิ้นส่วนตัวถังและแชสซีนี้ จะนำเอาเหล็กแผ่นไปเข้าในกระบวนการปั๊มให้ได้รูปร่างของชิ้นส่วนตัวถัง และแชสซีตามที่ต้องการเป็นลำดับต่อเนื่องกันไป
4. การประกอบโครงของรถยนต์ (Body-in-White)
ในกระบวนการประกอบโครงของรถยนต์นั้น ส่วนมากจะใช้วิธีการเชื่อมเป็นหลักในการประกอบ อีกทั้งยังเป็นกระบวนการที่ใช้โรบอท (Robot) ในการผลิต โดยใช้วิธีการผลิตผ่านสายพาน และมีกระบวนการย่อยหลายขั้นตอน ซึ่งชิ้นส่วนแต่ละชิ้น ได้แก่ ตัวถัง และแชสซี จะถูกนำมาประกอบเข้าด้วยกันจนกลายเป็นโครงรถยนต์ที่มีความสมบูรณ์
5. การพ่นสีรถยนต์ (Paint)
การพ่นสีรถยนต์นั้น เริ่มแรกจะใช้วิธีการนำโครงของรถยนต์มาพ่นสีรองพื้นแล้วพ่นตามด้วยสีของรถยนต์ที่ผู้ผลิตต้องการ หลังจากนั้นจึงนำไปผ่านกระบวนการอบแห้ง เพื่อพร้อมสำหรับการนำมาประกอบเป็นรถยนต์ที่สมบูรณ์
6. Tier One เทียร์วัน
เทียร์วัน คือ บุคคลผู้ที่ทำการผลิตอะไหล่รถยนต์ส่งให้กับผู้ประกอบการหรือบริษัทผลิตรถยนต์โดยตรง ซึ่งอะไหล่ที่เทียร์วันผลิตส่งขาย มีทั้งประเภทที่ใช้ภายในรถยนต์และประเภทที่ใช้ภายนอกรถยนต์ ตัวอย่างเช่น กันชน ไฟหน้า ล้อแม็กซ์ กระจกรถ แผงคอนโซล ยาง เครื่องเสียง หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
7. การประกอบรถยนต์ (Final Assembly)
สำหรับกระบวนการประกอบรถยนต์นั้น เป็นกระบวนการในการสร้างรถยนต์อย่างสมบูรณ์โดยการนำชิ้นส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกันของรถยนต์มาประกอบเข้าด้วยกัน ตัวอย่างเช่น หม้อน้ำ ล้อรถ และระบบไฟเข้าด้วยกัน
8. กระบวนการตรวจสอบคุณภาพของรถยนต์ (Final Inspection)
หนึ่งในกระบวนการที่สำคัญสำหรับการผลิตรถยนต์ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ผู้ผลิตให้ความสำคัญอย่างมาก คือกระบวนการตรวจสอบคุณภาพ โดยชิ้นส่วนของรถยนต์ทุกชิ้น จะถูกทดลอง วัดขนาด และตรวจสอบประสิทธิภาพก่อนจะถูกส่งไปสู่ดีลเลอร์ขายรถยนต์ (Dealer) ทำให้ดีลเลอร์ขายรถยนต์จะได้รับผลิตภัณฑ์รถยนต์ที่มีคุณภาพและเชื่อถือได้จากผู้ผลิต
อุตสาหกรรมยานยนต์
เริ่มต้นตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ ๕ มาแล้วที่ประเทศไทยได้เริ่มนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศมาใช้เป็นพาหนะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถยนต์นำเข้าจากทวีปยุโรปโดยใช้วิธีการบรรทุกแล้วขนส่งผ่านเรือเดินสมุทร หลังจากนั้นประมาณปี พ.ศ. ๒๕๐๕ ประเทศไทยได้เริ่มมีการผลิตรถยนต์ขึ้นเอง ซึ่งต่อมาอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์มีความก้าวหน้าและมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องจนทำให้ประเทศไทยสามารถผลิตเพื่อการส่งออกได้ ในปัจจุบันกระบวนการผลิตรถยนต์จะสามารถแบ่งแยกส่วนประกอบออกเป็นส่วนต่างๆ ได้ดังนี้
- ตัวถัง ทำหน้าที่สำหรับป้องกัน ห่อหุ้มบุคคลและทรัพย์สินต่างๆภายในตัวรถยนต์จากสิ่งรบกวนภายนอกที่สามารถสร้างความเสียหายได้ มากกว่านั้นยังสามารถบ่งบอกรสนิยมและเสริมสร้างความภูมิใจให้แก่ผู้เป็นเจ้าของได้เช่นกัน ได้แก่ ประตู หัวเก๋ง โครงหลังคา ฝากระโปรง กันชน กระบะ และฝาท้าย เป็นต้น
- แชสซีส์และช่วงล่าง ทำหน้าที่สำคัญสำหรับการรองรับชิ้นส่วนทั้งหมดของรถยนต์ที่ถูกประกอบขึ้น สามารถช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากการขับขี่ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ ผู้โดยสาร และทรัพย์สินต่างๆ ภายใน ตัวอย่างเช่น สปริงแชสซีส์ แหนบ โช้กอัพ คันบังคับ ปีกนก คันเร่ง และเบรก เป็นต้น
- เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง ตัวอย่างเช่น เพลากลาง เครื่องยนต์ เฟืองท้าย เพลาขับ ล้อ ทำหน้าที่สำหรับการแปลงพลังงานเชื้อเพลิงแล้วถ่ายทอดไปยังเครื่องยนต์ให้สามารถขับเคลื่อนได้ ตัวอย่างเช่น แปลงน้ำมันไปเป็นพลังงานกล
- อุปกรณ์ไฟฟ้า ทำหน้าที่สำหรับเชื่อมโยงการระบบการทำงานต่างๆภายในรถยนต์ทั้งหมดเพื่อแจกจ่ายพลังงานไฟฟ้าโดยการเลือกใช้จะขึ้นอยู่กับจุดประสงค์และความต้องการของผู้ขับขี่ ตัวอย่างเช่น ไดสตาร์ต ไดชาร์จ ระบบสายไฟฟ้า ไฟหน้า ไฟเบรก ไฟหลัง ไฟเลี้ยว แบตเตอรี่เป็นต้น
- อุปกรณ์ภายใน ทำหน้าที่สำหรับเป็นตัวช่วยในการรักษาความปลอดภัย และยังสามารถเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสารรวมทั้งผู้ขับขี่ได้ ตัวอย่างเช่น เบาะนั่ง พรมหลังคา แผงประตู เข็มขัดนิรภัย หน้าปิด พรมพื้นรถ แอร์ และวิทยุ เป็นต้น
เทียร์วัน (Tier One)
เทียร์วัน (Tier One) หรือสามารถเรียกได้อีกชื่อหนึ่งว่า เฟิร์สเทียร์ (First tier) คือ ผู้ที่ทำการผลิตอะไหล่ ชิ้นส่วน ส่วนประกอบต่างๆ ของรถยนต์ ส่งต่อไปให้แก่ผู้ประกอบรถยนต์หลักหรือบริษัทที่ทำการผลิตรถยนต์โดยตรง มีทั้งประเภทที่ใช้ภายในรถยนต์และประเภทที่ใช้ภายนอกรถยนต์ กันชน ไฟหน้า ล้อแม็กซ์ กระจกรถ แผงคอนโซล ยาง เครื่องเสียง หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะมี เทียร์วันที่ทำหน้าที่ผลิตส่วนประกอบต่างๆ ให้กับบริษัทรถยนต์โดยตรงแล้วยังมี เทียร์ทู และเทียร์ทรี ที่ทำหน้าที่ส่งชิ้นส่วนย่อยต่างๆ ให้แก่เทียร์วันอีกด้วย สามารถเรียกกลุ่มดังกล่าวโดยรวมได้ว่า กลุ่มโอโตพาร์ท (Auto-Part)
กระบวนการผลิต Tier One
สำหรับกระบวนการผลิตของเทียร์วัน และเทียร์อื่นๆ ที่สามารถเรียยกได้ว่า กลุ่มโอโตพาร์ท (Auto-Part) นั้นจะใช้กรรมวิธีการผลิตที่หลากหลาย ทั้งวิธีการปั๊ม ฉีด ดัด และประกอบโดยเครื่องจักรหรือบุคลากร ซึ่งวิธีการดังกล่าวจะเน้นการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่สามารถส่งเสริมให้เกิดกระบวนการผลิตที่ได้คุณภาพ ตรงต่อเวลา และมีประสิทธิภาพสูงสุด
การประกอบรถยนต์ Final Assembly
กระบวนการการประกอบรถยนต์ เป็นการนำชิ้นส่วนต่างๆ ทั้งหมดของรถยนต์มาประกอบเข้าด้วยกันให้ได้ตัวรถยนต์ที่สมบูรณ์และสามารถใช้งานได้ โดยการนำกระบวนการที่เป็นลำดับขั้นตอนมาใช้ เริ่มต้นตั้งแต่ หม้อน้ำ ล้อรถ เพลา รวมไปถึงระบบไฟ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพมากที่สุดในกระบวนการประกอบรถยนต์ จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องอาศัยการควบคุมและตรวจสอบให้กระบวนการดังกล่าวสามารถดำเนินไปได้อย่างแม่นยำในทุกสภาวะและทุกสภาพแวดล้อม เพื่อป้องกันและลดการเกิดความผิดพลาดที่สามารถส่งผลต่อกระทบต่อผู้ขับขี่หรือผู้ใช้งานได้