ทํางานไปเรียนไป เหนื่อยไหม

จบ ปวส. เรียนสองปีต่อเนื่อง หรือ เรียนเสาร์อาทิตย์ แล้วทำงาน ดีครับ ปรึกฯหน่อย

(1/6) > >>

Mayjung007:
ผมใกล้จบ ปวส 2 แล้วคับ เรียนสายคอมพิวเตอร์ธุรกิจมา

ตามหัวข้อเลยคับ ผมยังไม่ได้เกณฑ์ทหาร มิได้เรียน รด. สามารถผ่อนผันได้ ถ้าจบแล้วทำงานเลย อาจจะต้องไปเกณฑ์ทหารก่อน 6เดือน อีก 6เดือน บวช เวลาที่เหลือก็ลงทำงาน

คิดว่า ยังไงก็ขอวุฒิปริญญาตรีไว้ก่อน แต่ ผมอยากรู้ว่า เรียนมหาลัยเต็มๆ กับ เรียนเสาร์อาทิตย์ แตกต่างกันยังไง

เราจะได้อะไรกลับมาบ้าง ในการเรียนมหาลัยเต็มๆ (ขอจากประสบการ์ณเลยอ่าคับ ผมก็เข้าใจว่ามันขึ้นอยู่กับตัวเราเอง เรื่องนี้ผมก็ศึกษาหาความรู้ให้กับตัวผมอย่างเต็มที่)

อีกอยากหนึ่งคือ ได้วุฒิบัตร และใบเกรดเฉลี่ย แต่ผมอยากทราบความแตกต่างคับในมุมมองของพี่ๆแต่ละคน

*แม่ผมพูดไว้ว่า คนที่เรียนจบปวสแล้วไปทำงาน ไป เรียนไป นะครับ ก็จะได้ประสบการ์ณ ผ่านไป สองปีก็จบ ป ตรี ทั้งๆที่ยังทำงาน
แต่คนที่เพิ่งจบป ตรี ของมหาลัยแบบเต็มๆ จะยังไม่มีประสบการ์ณและเงินเดือนก็น้อยกว่าคนที่ทำมาแล้ว จริงมั้ยครับ

วอนพี่ๆ ช่วยแนะนำน้องหน่อยคับ  กำลังคิด อยากได้หลายๆแง่มุม

ฟาร์มเฮ้า:
เรียนสองปีต่อเนื่องวันปกติ ได้ความรู้แน่นกว่าเรียน เสาร์ อาทิตย์ครับ

ส่วนจบมา เรียนเสาร์อาทิตย์ ทำงานไปด้วย จะมีประสบการณ์มากกว่า ณ เวลาที่จบ ก็อาจจะเงินเดือนเยอะกว่า แต่พอผ่านไป 1-2 ปี คนที่มีความรู้แน่นกว่า ย่อมได้ดีกว่าแน่นอนครับ

แต่มันก็ขึ้นอยู่กับความขยันเราด้วย เพราะเห็นบางคนเรียนเสาร์อาทิตย์ แต่เก่งกว่าเด็กภาคปกติอีก

ถ้าไม่มีปัญหาการเงิน เรียนภาคปกติเถิดครับ

SekRanger:
เรียนปริญญาตรีครับ

อย่างไรขอให้ได้ปริญญาตรีสักใบนะครับ มาตรฐานบริษัทมันต้องการแบบนี้ เผื่อวันใดวันนึงอยากทำงานบริษัทขึ้นมาจะได้ไม่โดนกดเงินเดือน

จะเรียนไปทำงานไปก็ได้ครับ

คุณคิดว่า จบปวส แล้วก็ประสบการณ์ 2 ปี กับเรียนให้จบต่อเนื่อง ป.ตรี 2 ปี คิดว่าอันไหนจะได้เงินเดือนมากกว่ากันครับ

สมัยผมนะ จบ ปวส เงินเดือน Start ที่ 8000 ประสบการณ์ 2 ปี สมมติบริษัทขึ้นเงินเดือนให้ปีละ 20% (แบบเยอะเวอร์เลยครับ) เงินเดือนจะ = 11520
จบป.ตรี เงินเดือน Start ที่ 12000

การเรียนไม่สำคัญเท่ากับประสบการณ์ อันนี้ยอมรับ แต่คุณต้องดูด้วย ที่นี่ประเทศไทย จะมีสักกี่บริษัท/กี่คนที่สนประสบการณ์มากกว่าวุฒิ

แป้งฝุ่น~Richy~:
เรียน ปวสแล้วมาทำงานก่อนแล้ว มาเรียน ปริญญาตรีต่อ เสาร์ อาิทิตย์ก็ได้คะจบแล้วเอาวุฒิมาปรับเงินเดือนก็ได้นะคะ จะดีตรงเวลาไปสมัครงานเราจะมีประสบการ์ณซึ่งตรงนี้ดีกว่าแน่ๆคะดีกว่าเด็กที่จบตรีใหม่แต่ยังไม่มีประสบการ์ณคะ ยังไงก็ลองคิดดูนะ

bot2o:
ทำงานแล้วเรียน เสาร์-อาทิตย์ ก้อได้ เอาแบบ จบง่ายๆ

ผมนะเรียน ปวช ปวส แล้วไปต่อ วิศวะ กว่าจะจบก้อ 25 จบมาตกงานอีก คิดแล้วเสียดายเวลา

มีข้อแนะนำเพิ่มเติมนะ ถ้าจะให้ดี ต้อง สอบ certificate ของพวก microsoft msce mcsd หรือ cert ของ java
หรือ oracle นะ

ถ้ามี ก้อจะให้เราได้งานดีๆ แล้วไปหาประสบการณ์ จากงานพวกนั้นได้เลย ไม่ต้องไปทำงานง่ายๆ มาก่อน
รอโปรโมท

ไม่ก้อเลิกคิดที่จะทำงานสะ แล้วหัดเขียนโปรแกรม ปั้ม เวป ปั้ม blog ให้มันเยอะๆ ดูสิ อันไหน มันจะรวยกว่ากัน

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

ปัจจุบันนี้เด็กๆ หลายคนที่เริ่มโตขึ้นก็อยากที่จะมีงานทำเพื่อที่จะนำเงินมาใช้ส่วนตัวได้โดยไม่ต้องขอผู้ปกครองตลอด ไม่ว่าการศึกษาจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดแต่ว่าการศึกษานั้นก็สอนให้เราหารายได้พิเศษเพื่อจะใช้จ่ายในการศึกษาด้วยเหมือนกัน เขาไม่ว่าเราจะอยู่ในโรงเรียนหรือชีวิตประจำวันก็จำเป็นต้องใช้เงินเหมือนกันและการทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยเป็นวิธีที่ดีมาก

ถ้าคุณทำได้ถือว่าคุณเป็นคนที่มีตารางเวลาที่เหมาะสมซึ่งหลายคนประสบความสำเร็จในด้านการเรียนและทำงานไปด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกและน่าอายเลย เพราะถือว่าคุณเป็นคนขยันคนหนึ่ง การศึกษาก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุดเหมือนกันสำหรับเด็กๆ แต่ก็ไม่ใช่สำคัญมากขนาดนั้นปัจจุบันถึงวัยรุ่นมีความใส่ใจในเรื่องการศึกษามากขึ้นหรือการหารายได้พิเศษเพื่อใช้จ่ายในระหว่างการศึกษายิ่งถ้าคุณเป็นนักศึกษาคุณก็อาจจะอยากที่ หาเลี้ยงตัวเอง เมื่อคืนหารายได้พิเศษเพื่อใช้จ่ายในการศึกษาหรือชีวิตประจำวันหลายคนจึงหันมาทำงานเพื่อหารายได้ระหว่างเรียนด้วย ดังนั้นให้เรามาดูวิธีง่ายและเทคนิคง่ายๆที่จะช่วยให้คุณประสบผลสำเร็จทั้งในการเรียนและการทำงานด้วย

มีเทคนิคง่ายๆ อะไรบ้างที่สามารถช่วยให้เราทำงานด้วยแล้วเรียนไปด้วย?

ลองคิดดูสิว่าในประเทศไทยส่วนใหญ่การทำงานและเรียนไปด้วยอาจจะไม่ค่อยได้รับความสนใจมากเท่าไหร่เพราะผู้ปกครองพ่อแม่ส่วนใหญ่เขาก็ส่งเสริมให้ลูกหลานเรียนเต็มที่ แต่มีบางครอบครัวที่พวกเขาก็เลือกไม่ได้จึงต้องทำงานไปด้วยเพื่อที่จะส่งตัวเองเรียนหนังสือ แต่ในต่างประเทศการทำงานระหว่างเรียนดูเป็นเรื่องธรรมดามากเพราะคนส่วนใหญ่ก็ทำกัน แต่วัยรุ่นไทยอาจมองว่าการทำงานเป็นเรื่องที่น่าเบื่อแล้วต้องมารับผิดชอบหลายๆ อย่างซึ่งจริงๆ แล้วมันก็มีข้อดีอยู่มากเหมือนกันในการทำงานและเรียนไปด้วย

มีเทคนิคอยู่ประมาณ 9 ข้อด้วยกันที่จะช่วยให้เราประสบผลสำเร็จในการเรียนด้วยทำงานไปด้วย

1. การจัดตารางเวลาของคุณ

เรื่องนี้ถือว่าสำคัญมากที่สุดเพราะถ้าคุณไม่มีตารางเวลาที่แน่นอน หรือไม่ได้ทำตารางเวลาเลย การทำงานและเรียนไปด้วยของคุณจะไม่ประสบผลสำเร็จเลย คุณจำเป็นต้องจัดตารางเวลาชีวิตของคนให้มีความสมดุลกันไม่ว่าจะเรื่องการเรียนและการทำงานของคุณให้มีประสิทธิภาพเหมือนๆกัน ซึ่งยากมากถ้าคุณจะทำสองอย่างไปพร้อมๆกันดังนั้นคุณควรที่จะเริ่มจากการคิดว่าสิ่งใดสำคัญกว่าเช่นในตอนนี้คุณคิดว่าเรื่องไหนสำคัญที่สุด แน่นอนถ้าเรื่องการเรียนเป็นอันดับแรก คุณก็จะต้องพยายามที่จะทำงานเสริมเฉพาะเวลาที่คุณหยุดงานหรือช่วงหลังเลิกเรียนเท่านั้นโดยที่จะไม่ทำให้การเรียนของคุณเสียหายหรือยืดหยุ่นเวลาไว้สำหรับการทำการบ้านด้วย

2. การทำงานเฉพาะวันหยุด

คุณไม่สามารถเรียนไปทำงานไปคุณไม่สามารถเรียนไปทำงานไปในวันเวลาเดียวกันได้ถ้าคุณอยาก ตัดสินใจทำงานควรทำงานเฉพาะวันหยุดเสาร์อาทิตย์ หรือวันที่เป็นวันหยุดของโรงเรียนเพื่อจะได้ทำงานเต็มที่มากกว่าเวลาหลังเลิกเรียน และคุณอาจจะเลือกเป็นงาน Part Time ที่เหมาะกับเวลาของคุณแน่นอนปัจจุบันมีหลายอาชีพที่รับสมัครง่ายๆโดยไม่ต้องมีวุฒิการศึกษาที่สูง เช่นการสมัครเป็นพนักงานเสิร์ฟ พนักงานชักล้าง พนักงานแคชเชียร์ พนักงานขายสินค้าต่างๆ

3. การทำงานหลังเลิกเรียน

ข้อนี้อาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับหลายๆคนแต่หลายคนก็ทำได้ ในการทำงานหลังเลิกเรียนปกติแล้วคุณจะต้องคิดถึงตารางเวลาอย่างที่บอกไปในข้อ 1 ว่าคุณใช้เวลาการเรียนเท่าไหร่ และคุณสามารถทำงานได้กี่ชั่วโมงหลังจากเลิกเรียน อาจจะไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อนเท่าไหร่ถ้าคุณเลิกทำงานในเวลาหลังเลิกเรียน งั้นขอให้ ลองคิดดูว่าคุณมีความสามารถทำได้มากแค่ไหนก่อนที่จะตัดสินใจทำงานหลังเลิกเรียนหรือคุณอาจทำงานเฉพาะวันหยุดเหมือนที่บอกในข้อ 2 ก็ได้

4. การทำงาน เลือกสถานที่ใกล้ๆสถาบันศึกษาหรือหอพัก

การเลือกสถานที่ในการทำงานใกล้ๆเป็นตัวเลือกที่ดีมากเพราะสะดวกต่อการเดินทางและสามารถทำได้ทันทีหลังจากที่คุณกลับจากโรงเรียนหรือสามารถทำได้ทันทีที่คุณมีวันหยุดไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเรียกรถไปทำงานหรือขี่รถไปทำงานไกลมากเกินไป แถมยังสะดวกและปลอดภัยอีกด้วย น่าจะช่วยคนเก็บแรงอีกนิดเพื่อจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

5. การเลือกงานที่กำหนดเวลา

เพราะงานที่กำหนดเวลาไว้อย่างชัดเจนว่าเข้างานเมื่อไหร่เลิกงานเมื่อไหร่นั้นเป็นสิ่งที่มีค่ามากเพราะคุณสามารถจัดตารางเวลาให้ตรงกับการเรียนของคุณได้อย่างสะดวกมากขึ้น มันจะช่วยได้มากเลยถ้าทำขั้นตอนหรือเลือกงานในขั้นตอนนี้ได้ถ้ายิ่งมีงานไหนที่ตรงกับเป้าหมายของคุณก็จะง่ายมากขึ้นกับตัวคุณ

6. การเป็นคนสะสมประสบการณ์ที่คุณทำงาน

ถ้าคุณอยากที่จะทำงาน คุณคงอยาก ทำงานให้เต็มที่หลังจากที่คุณเรียนจบแล้วดังนั้นถ้าคุณมีประสบการณ์ก่อนที่คุณจะเรียนจบแล้วพ่อเป็นตัวอย่างที่ดีมากเพราะไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการฝึกงานให้ว่างจนเกินไปหรือแก้ไขปัญหาสถานการณ์ได้ยากแต่ถ้าคุณมีประสบการณ์การทำงานมาก่อนครับว่างๆขึ้นที่คุณจะเป็นคนที่อดทนสูงแก้ไขสถานการณ์ได้ดีและสามารถเข้ากับผู้คนได้ง่ายขึ้น

7. การเป็นคนมีความตั้งใจทำงาน

แน่นอนถ้าคุณเป็นคนที่มีความตั้งใจในการทำงานไม่ค่อยเบี้ยวหรือมาสายนับว่าเป็นประโยชน์ที่มาก เพราะถ้าคนมีความตั้งใจมันจะทำให้คนประสบผลสำเร็จทั้งการงานและการเรียน ถ้าคุณมีเป้าหมายที่ดีแบบนี้มันจะทำให้คุณทำงานได้ง่ายขึ้นและแก้ไขจุดบกพร่องของตัวเองในการทำงานได้ดีขึ้น เพราะคุณก็อยากจะตั้งใจทำให้มันดีขึ้นกว่าเดิม

8. การเป็นคนรู้จักออมเงิน

การเป็นคนรู้จักอดออมตั้งแต่ยังเรียนอยู่ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากคุณอาจจะ เปิดบัญชีธนาคารเพื่อนำเงินที่คุณได้ ไปฝากไว้ในแต่ละเดือนคุณอาจจะลองทำบัญชีไว้ที่บ้านว่า มีอะไรรับรายจ่ายอะไรบ้างแล้วมีเก็บเดือนหนึ่งเท่าไหร่อย่าใช้เงินมากจนเกินไป ถึงขั้นที่ไม่มีเก็บเลย ถ้าคุณรู้จักอดออมตั้งแต่เล็ก โตขึ้นคุณก็จะเป็นคนที่ภูมิใจในตัวเองและสามารถซื้อสิ่งของที่คุณอยากได้โดยภูมิใจว่านี่มาจากตัวคุณเองและต้องระวังอย่างมากโดยการไม่ใช้เงินเหล่านี้ในการเล่นการพนันเพราะมันเป็นสิ่งที่เสี่ยงและไม่ดีเลย

9. ทำงานแล้วไม่ควรทิ้งการเรียน

อย่างที่บอกไปคุณต้องมีความสมดุลในการเรียนและการทำงาน ถ้าคุณทำงานมากจนเกินไป คุณอาจจะเสียการเรียนได้ดังนั้นควรต้องให้ความสำคัญกับการเรียนอย่าทำให้มันลดน้อยลงรู้ตัวทันทีเลยว่า เมื่อไหร่ที่คุณเริ่มแขวงให้ปรับตัวทันทีเพราะปัจจุบันนี้การเรียนก็ส่งผลต่ออนาคตจริงๆในเมื่อเรียนจบ การเรียนสูงในปัจจุบันเป็นสิ่งที่หลายคนทำกันมากมายแต่คุณอาจจะลองคิดดูว่าถ้าคุณเสียเงินกับสิ่งเหล่านี้ไปมากคุณจะได้อะไรกลับมาบ้างหรือเสียงมากเกินไปไหมที่คนจะเรียนสูงเพื่อที่อยากทำงานดีๆอันที่จริงถ้าคุณไม่ได้เรียนสูงคุณก็สามารถหางานดีๆทำได้

มีข้อดีอะไรบ้างถ้าคุณทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย?

มันจะช่วยฝึกทักษะของเราให้เป็นคนที่รับสถานการณ์ได้เร็วมากขึ้น มันจะเตรียมพร้อมคุณ ในหลายๆด้านถ้าคุณทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย มันคล้ายๆกับว่าคุณกำลังเป็นเด็กฝึกงาน ที่สำคัญคุณจะได้ประสบการณ์ใหม่ๆหลายอย่าง แล้วคุณจะรู้ว่ามันสนุกมากแค่ไหนที่ทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วยไม่ว่าจะเป็นการเรียนในการพูดคุยกับลูกค้าจราจาต่อรองหรือการให้บริการต่างๆ จะทำให้คุณรู้สึกว่าเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แถมยังฝึกระเบียบวินัยของคุณอีกด้วย  เพราะการจัดเตรียมหรือจัดการตัวเองให้รักษาความสมดุลในชีวิตเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการทำงานในวัยเรียนเพราะจะช่วยคุณพัฒนาทักษะในการจัดการตัวเองได้เป็นอย่างดี

และอีกอย่างหนึ่งคือคุณจะเห็นค่าการทำงานและการหาเงินของคนมากขึ้น คุณจะรู้ว่าเงินแต่ละบาทหายากแค่ไหนคนจะเห็นคุณค่าของเงินไม่ว่าคุณจะซื้อจะใช้ยังไง คุณจะรู้สึกอยู่เสมอว่าสิ่งนั้นจำเป็นไหม ดังนั้นถ้าเราฝึกฝนตัวเองที่จะรับผิดชอบทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วยจะส่งผลให้เราเห็นคุณค่ามากขึ้นและคิดถึงคุณค่าของเงินโดยที่ไม่ใช้เงินแบบประมาท คิดถึงอนาคตมากขึ้นโดยการเก็บออม

ข้อเสียอะไรบ้างถ้าคุณทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย?

ข้อเสียของการทำงานด้วยแล้วเรียนไปด้วยนั้นก็คืออาจจะทำให้คุณเครียดมากเกินไปหรือทำให้คนรู้สึกเหนื่อยเกินไป อาจจะเป็นคนที่แบ่งเวลาไม่ค่อยถูกว่าอะไรสำคัญกว่าคนต้องเพิ่มความรับผิดชอบของคุณมากขึ้นกว่าเดิมอีกเพราะว่าจากเดิมที่คุณแค่เรียนและเอาใจใส่การเรียนอย่างเดียว ถ้าคุณรู้สึกหนักมากพออยู่แล้วยิ่งถ้าคุณมาทำงานอีกคุณจะรู้สึกรับไม่ไหว  อย่างน้อยให้คุณลองตรวจสอบตัวเองว่าคุณมีความสามารถที่จะทำได้ไหม และครอบครัวของคุณมี ความจำเป็นในเรื่องการเงินมากน้อยแค่ไหนถ้าไม่จำเป็นอะไรมากคงดีกว่าถ้าคุณจะเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง

สรุป: การทำงานไปด้วยแล้วเรียนไปด้วยจะประสบผลสำเร็จ

นี่ก็คือข้อมูลทั้งหมดและเทคนิคต่างๆของการเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยมันจะประสบผลสำเร็จอย่างแน่นอนและควรจะภูมิใจกับสิ่งที่ควรทำถ้าคุณลองทำตามขั้นตอนและเทคนิคต่างๆที่บอกไปก่อนหน้านี้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างที่บอกไปคือการจับเวลาให้สมดุลเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยากมากและหลายคนไม่ค่อยประสบผลสำเร็จเท่าไหร่แต่ก็มีอีกหลายคนที่พวกเขาประสบผลสำเร็จจริงๆในการจัดตารางเวลาให้ดี คุณควรจะเข้าใจว่าเวลาเป็นสิ่งที่มีค่ามากถ้าคุณคิดให้รอบคอบว่าทุกนาทีมีค่าคุณจะรู้ว่าจะใช้มันอย่างไร ให้เกิดผลมากที่สุดเท่าที่จะดีได้