ผู้พิการและผู้ป่วยติดเตียงจะสมัครบัตรคนจนได้อย่างไร
ผู้พิการและผู้ป่วยติดเตียงอาจจะไม่สะดวกหากต้องสมัครบัตรคนจนด้วยตัวเอง ดังนั้น วิธีที่ช่วยให้คนเหล่านี้ได้สมัครบัตรคนจนและได้รับเงินบัตรคนจนคือการมอบอำนาจให้คนที่ไว้ใจได้มาทำบัตรคนจนให้แทน ซึ่งเอกสารที่ต้องใช้สำหรับสมัครบัตรคนจนในเคสนี้ ได้แก่ แบบฟอร์มลงทะเบียน สำเนาบัตรประชาชนของผู้ลงทะเบียน หนังสือมอบอำนาจ บัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ และสำเนาบัตรผู้พิการหรือใบรับรองแพทย์ (หากมี) อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าคนกลุ่มนี้คงไม่สะดวกที่จะต้องสมัครบัตรคนจนออนไลน์ อนึ่ง ถ้าถามว่าบัตรคนจนได้เดือนละเท่าไหร่ ก็ตอบได้ว่าได้ตั้งแต่หลักพันบาทขึ้นไป แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้สมัครบัตรคนจนแต่ละคนด้วย หากเป็นคนพิการก็จะได้รับเบี้ยคนพิการเพิ่มเติมอีก 200 บาท และถ้าใครที่สงสัยว่าสมัครบัตรคนจนรอบใหม่วันไหน แน่นอนว่าบัตรคนจนล่าสุดรอบใหม่นี้มีให้สมัครหลายวันด้วยกัน ถ้าเป็นบัตรคนจนเดือนนี้ก็มีตั้งแต่ช่วงต้นเดือน กลางเดือน และปลายเดือน
สมัครบัตรคนจนต้องมีคุณสมบัติตามเงื่อนไขอย่างไร
การที่ใครสักคนจะสมัครบัตรคนจนหรือทำบัตรคนจนได้จะต้องมีคุณสมบัติคือเป็นบุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป และต้องไม่เป็นภิกษุสามเณร ผู้ต้องขัง และข้าราชการ นอกจากนี้ ผู้ที่มีสิทธิ์สมัครบัตรคนจนได้ต้องเป็นผู้ที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 1 แสนบาท และหากมีทรัพย์สินทางการเงินอย่างเช่นเงินฝาก พันธบัตร และสลากออมทรัพย์ก็ต้องมีมูลค่ารวมกันไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปีเช่นเดียวกัน ดังนั้น ท่านคงจะได้รับคำตอบแล้วว่าในโครงการบัตรคนจนล่าสุดนี้นั้นใครสมัครได้บ้าง ส่วนคนที่สนใจสมัครบัตรคนจนรอบใหม่ที่ว่านี้สามารถเลือกทำบัตรคนจนได้ผ่าน 2 ช่องทาง ช่องทางแรกคือช่องทางออนไลน์อย่างเว็บไซต์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ส่วนช่องทางต่อมาคือหน่วยงานที่รับรองอย่างเช่นกรมการคลังจังหวัด และธนาคารของรัฐ เป็นต้น
สมัครบัตรคนจนวันนี้ ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง?
จะสมัครบัตรคนจนวันนี้ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นเป็น เป็นบุคคลสัญชาติไทย และมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 1 แสนบาท
ใครบ้างที่ไม่สามารถสมัครบัตรคนจนได้?
บุคคลดังต่อไปนี้ไม่สามารถสมัครบัตรคนจน ได้แก่ ภิกษุ-สามเณร, ผู้มีคดี และข้าราชการ
เอกสารในการสมัครบัตรคนจนมีอะไรบ้าง?
เอกสารหลักๆ ในการสมัครบัตรคนจน คือ สำเนาบัตรประชาชน, แบบฟอร์มลงทะเบียน, หนังสือมอบอำนาจ (กรณีมาทำให้) และใบรับรองแพทย์
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เผยว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 ก.ย. - 31 ต.ค. 2565 มีจำนวนประชาชนที่สนใจเข้าร่วมลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 (โครงการฯ) ทั้งสิ้น 22,295,183 ราย โดยเป็นการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์จำนวน 9,660,640 ราย และลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนจำนวน 12,634,543 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 18 พ.ย. 2565 เวลา 23.00 น.)
ทั้งนี้ จำนวนผู้ลงทะเบียนข้างต้นเป็นเพียงจำนวนผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ เท่านั้น โดยการเป็นผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติตามโครงการฯ อีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ การลงทะเบียนตามโครงการฯ เป็นการลงทะเบียนรายบุคคล (ผู้ลงทะเบียน) แต่การตรวจสอบจะตรวจสอบทั้งรายบุคคลและสมาชิกในครอบครัว โดยขั้นตอนแรกจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ (เกณฑ์บุคคล)
หากผู้ลงทะเบียนผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์บุคคล โดยมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของเกณฑ์ครอบครัว (ในกรณีที่มีคู่สมรสหรือบุตร) ซึ่งหากพบว่าผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์ครอบครัวจะถือว่าผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านคุณสมบัติและผู้ลงทะเบียนจะไม่ได้รับสิทธิตามโครงการฯ
ขณะที่ โครงการฯ ได้ปิดระบบในการรับแก้ไขข้อมูลของผู้ลงทะเบียนที่มีสถานะการลงทะเบียนที่พบข้อความ "สถานะการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์" ณ หน่วยงานรับลงทะเบียน เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2565 ที่ผ่านมาแล้ว โดยกระทรวงการคลังจะประกาศผลสถานะการลงทะเบียนครั้งสุดท้ายในวันศุกร์ที่ 25 พ.ย. 2565
สำหรับการประกาศผล "สถานะการลงทะเบียน" ของโครงการฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 11 พ.ย. 2565 เป็นการประกาศผลข้อมูลผู้ที่ลงทะเบียนในระหว่างวันที่ 5 ก.ย. - 3 พ.ย. 2565 ซึ่งผู้ที่ลงทะเบียนที่กระทรวงการคลังได้รับข้อมูลการลงทะเบียนครบถ้วนแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 20,947,834 ราย โดยเป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในปัจจุบัน จำนวน 11,254,886 ราย (คิดเป็นร้อยละ 54 ของผู้ที่ลงทะเบียนที่ข้อมูลครบถ้วนแล้ว) และเป็นผู้ไม่เคยรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 9,692,948 ราย (คิดเป็นร้อยละ 46 ของผู้ที่ลงทะเบียนที่ข้อมูลครบถ้วนแล้ว)
เมื่อส่งตรวจสอบข้อมูลกับกรมการปกครองแล้ว พบว่า มีผู้ผ่านการตรวจสอบข้อมูลกับกรมการปกครอง จำนวนทั้งสิ้น 19,481,835 ราย (คิดเป็นร้อยละ 93 ของผู้ที่ลงทะเบียนที่ข้อมูลครบถ้วนแล้ว) โดยมีสถานะแสดงข้อความว่า "สถานะการลงทะเบียนสมบูรณ์" สำหรับผู้ลงทะเบียนที่มีสถานะแสดงข้อความว่า "สถานะการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์" เนื่องจากข้อมูลของผู้ลงทะเบียนไม่ตรงตามฐานข้อมูลของกรมการปกครองมีจำนวนทั้งสิ้น 1,465,999 ราย (คิดเป็นร้อยละ 7 ของผู้ที่ลงทะเบียนที่ข้อมูลครบถ้วนแล้ว)
อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทะเบียนที่มี "สถานะการลงทะเบียนสมบูรณ์" ขอให้รอผลการตรวจสอบคุณสมบัติอีกครั้ง ซึ่งจะมีการประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนในช่วงเดือน ม.ค. 2566 สำหรับการประกาศผลสถานะการลงทะเบียนครั้งสุดท้ายในวันศุกร์ที่ 25 พ.ย. 2565 ผู้ลงทะเบียนสามารถตรวจสถานะการลงทะเบียนของตัวเองได้ผ่านเว็บไซต์ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ //welfare.mof.go.th